ตอนที่5 ในโรงแรมสองต่อสอง

1655 Words
นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา วันอังคาร ศาสตราจารย์ดอกเตอร์วิลเลี่ยม คาร์เตอร์กระดกแชมเปญถี่เสียจนเริ่มมีอาการมึนเมาทั้งๆที่ปกติเขาค่อนข้างจำกัดลิมิตของตนเอง นางแบบผู้เลอโฉมบนรันเวย์ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากชายหนุ่มได้ เพราะภาพริมฝีปากแสนเย้ายวนของเด็กสาวที่ชื่ออลิชามันตราตรึงอยู่ในภาพความทรงจำของเขาไม่ยอมหายไป เสียงปรบมือผสมกับเสียงฮือฮาดังขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อชุดฟินาเล่บนแคทวอล์ควันนี้ช่างเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจและงดงามดั่งผีเสื้อเริงราตรี “วิลคะ คุณเห็นคุณอลิชา วอล์กเกอร์บนรันเวย์หรือเปล่าคะ ลูกสาวเกรทแบรนด์มาเดินปิดเวทีแบบนี้เหมือนมีการบอกอะไรเป็นนัยสำคัญบางอย่าง” โดโรธีแม้จะชื่นชมในความงดงามของอลิชาก็อดสงสัยไม่ได้ เพราะโดยปกติแล้วอลิชาเป็นคนไม่ชอบออกสื่อหรือสถานที่ที่มีคนเยอะๆ “คุณจะหมายถึงเด็กนั่นจะขึ้นมาบริหารแทนพ่อแม่เขาอย่างนั้นหรือ” วิลเลี่ยมมองไปยังอลิชาที่เฉิดฉายบนรันเวย์อย่างพออกพอใจ “มีความเป็นไปได้สูงนะคะ เพราะเธอก็เติบโตเป็นสาวเต็มตัวแล้วแถมสวยมากอีกต่างหาก” โดโรธียังคงพูดจาชื่นชมอลิชาโดยที่ไม่ได้สังเกตสายตาที่วิลเลี่ยมมองไปยังอลิชาเช่นกัน “แค่เรียนหนังสือยังเหมือนจะไม่รอด แล้วจะประสาอะไรหากมาทำงานใหญ่โตแบบนี้” วิเลี่ยมพึมพำ ผู้คนมากมายและเสียงค่อนข้างดังทำให้โดโรธีไม่ได้ยินสิ่งที่วิลเลี่ยมพูด “งานจบแล้วมีแพลนไปไหนหรือเปล่าคะ ถ้าคุณว่างไปดื่มกับฉันต่อนะคะ” โดโรธียื่นมือมาเกาะแขนชายหนุ่มรูปงามไว้ “เอ่อ…พอดีมีคุยธุระต่อกับคุณพ่อนิดหน่อยครับ ผมว่าเป็นวันหลังดีกว่า” วิลเลี่ยมลุกขึ้นพร้อมทั้งขยับเนกไทของตนให้เข้าที่ เขาเดินออกไปยังลานจอดรถและขับมุ่งตรงไปยังร้านอาหารที่นัดหมายกับผู้เป็นบิดาไว้ ร้านอาหารหรูหราบรรยากาศค่อนข้างออกไปทางคู่รักพากันมาเดทเช่นนี้ ยิ่งทำให้วิลเลี่ยมรู้สึกอยากจะเมาเสียจนไม่รับรู้อะไรเลยด้วยซ้ำ คุณอเล็กซานเดอร์ผู้เป็นบิดาและเคธีซึ่งเป็นภรรยาใหม่หรือมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของตนมารออยู่ที่ร้านอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “กว่าแกจะยอมมาเจอฉันได้นี่มันช่างยากเย็นเสียจริง” ผู้เป็นบิดาเอ่ยทัก “มีธุระอะไรก็รีบพูดมาเถอะครับ ผมมีสอนพรุ่งนี้” วิลเลี่ยมพูดขณะที่สายตาจับจ้องไปยังแชมเปญที่เขาสั่งมา เขาไม่ยอมสบตาบิดาหรือแม้แต่แม่เลี้ยงเพราะต้อการปกปิดความเกลียดชัง “เลิกไปสอนหนังสือบ้าๆของแกได้แล้ว สิ่งที่แกควรจะทำนับจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไปคือไปหาฉันที่บริษัทและก็เริ่มบริหารงานต่อจากฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันสร้างมาก็เพื่อตัวแกทั้งนั้น” คุณอเล็กซานเดอร์พยายามพูดเสียงเรียบเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาการทะเลาะกันเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา “พ่อก็ให้เมียใหม่พ่อทำไปสิครับ เธออุตส่าห์ข้ามศพแม่ผมมาเพื่อทุกอย่างของพ่อเลยนะ” วิลเลี่ยมพูดจบฝ่ามือหนาของชายสูงวัยก็ทุบลงบนโต๊ะอาหารจนเกิดเสียงดัง อลิชาซึ่งนั่งอยู่โต๊ะถัดไปก็อดที่จะมองมาไม่ได้ คุณอเล็กซานเดอร์ก็ลุกจากเก้าอี้พร้อมทั้งดึงแขนเคธีภรรยาให้ลุกขึ้น “แล้วแกจะเสียใจกับสิ่งที่แกกำลังทำอยู่ อย่ามาเรียกร้องหาเงินทองภายหลังในเมื่อฉันเสนอให้แล้วแกไม่ยอมรับเอง” คุณอเล็กซานเดอร์ดึงแขนเคธีและเดินออกจากร้านอาหารไป ด้านอลิชาที่กำลังทานข้าวอยู่กับเพื่อนสนิทสามคนได้ขอปลีกตัวออกจากเพื่อนเพื่อเดินมาหาศาสตราจารย์หนุ่ม เธอลืมเรื่องที่เขาจูบเธอไปชั่วขณะหลังจากเห็นสถานการณ์ตรึงเครียดของครอบครัวนี้ “เอ่อ ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ” อลิชาเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่มรูปงามที่สภาพของเขาตอนนี้ไม่บอกก็รู้ว่าเมาขนาดไหน วิเลี่ยมยังคงกระดกแชมเปญอยู่ขณะที่ผายมือให้เธอนั่งลง แม้ในใจลึกๆจะค่อนข้างตกใจที่ได้เจอเธอที่นี่ “โลกแคบดีนะ” อลิชาอึ้งไปเล็กน้อยกับคำทักทาย “นั่นสิ ความจริงแล้วคืนนี้คุณควรกำลังนั่งทำแผนการสอนที่น่าเบื่อในห้องสมุดไม่ใช่หรือคะ” เธอค่อนขอดเขา “พรุ่งนี้จะไปเรียนหรือเปล่า หรือจะเลิกเรียนแล้วมาบริหารธุรกิจแทนพ่อแม่” วิลเลี่ยมคิดๆแล้วสถานะของตนกับอลิชาก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก “จะบ้าหรือคะ ฉันเพิ่งอายุสิบแปดยังไม่อยากปวดกับเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ” เธอพูดตรงไปตรงมา “ผมนี่สิอายุสามสิบห้าแต่รู้สึกว่าชีวิตยังไม่มีอะไรที่ลงรอยหรือถูกต้องเลย หึหึ” วิลเลี่ยมกระดกแชมเปญอีกรอบ “ทำไมต้องดื่มหนักคะ” เธอสังเกตุเห็นว่าเขาเมาเพราะเขาไม่ได้ไว้ท่าทางเท่าตอนที่อยู่มหาวิทยาลัย “แค่อยากดื่ม” เขาตอบสั้นๆ “แล้วพรุ่งนี้จะไปสอนมั้ยคะ” “แล้วคุณจะไปเรียนหรือเปล่า” เขาถามกลับทันควัน “ไปสิคะ วันนี้ก็ขาดเรียนไปแล้ว” เธอทำหน้าเซ็งแม้ความจริงแล้วเหตุผลที่เธอไม่ยอมเข้าเรียนวันนี้ก็เพราะเธอโดนเขาจูบเมื่อวานต่างหาก หากแต่ตอนนี้กลับกล้าสู้หน้าเขา “แล้วคุณจะกลับตอนไหน” วิลเลี่ยมกระดกแชมเปญอีกครั้ง “ฉันว่าคุณเลิกดื่มเถอะนะคะ เมาหนักมากแล้วเนี่ย เดี๋ยวฉันให้คนของคุณพ่อไปส่ง” เธอลุกจากเก้าอี้เพื่อจะเดินไปหาบอดี้การ์ดทว่ากลับถูกมือหนาดึงข้อมือเล็กไว้ “ไม่ต้อง ผมมีเรื่องอยากจะขอคุณสักอย่าง” เขาสบตาเธอเหม่อลอยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์ “ขออะไรคะ” อลิชาขมวดคิ้ว เธอสะบัดมือออก “กลับพร้อมกันคืนนี้ได้หรือเปล่า ผมไม่อยากอยู่คนเดียว” เสียงเรียบนั้นแสดงออกถึงความโดดเดี่ยวอย่างชัดเจนแม้ว่าเขาจะพูดออกมาตอนเมาก็เถอะ “คือ…เอ่อ…” เธอไม่รู้หรอกว่าเขากำลังจะสื่อถึงอะไร เธอรู้เพียงว่าเธอทิ้งเขาไว้คนเดียวไม่ได้ “ผมจะโทรขออนุญาตพ่อคุณเอง เราจะกลับแมสซาชูเซตส์คืนนี้” วิลเลี่ยมล้วงมือถือสมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อโทรหาปีเตอร์ “อย่านะ คุณเมาขนาดนี้คุณพ่อไม่มีทางอนุญาตแน่” เธอรีบคว้ามือถือจากมือของเขามากดวาง “เวลาผมคุยผมไม่เมาหรอกน่า” เขาเอ็ดเธอ “ฉันไม่อยากเสี่ยง ความจริงมันไม่ใช่ธุระอะไรของฉันที่ต้องมานั่งคุยกับคนเมาไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ” เธอกอดอกมองเขาด้วยแววตาผิดหวัง “งั้นก็กลับไป” เขาไล่เธอ “กล้าดียังไงมาไล่ฉัน เอาเป็นว่าฉันจะถามคุณทีหลังก็แล้วกันว่าอะไรที่ทำให้คุณเมาหัวราน้ำขนาดนี้ แต่ตอนนี้ดึกมากแล้วเดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณเอง บอกมาว่าคุณพักที่ไหน” “ไม่มี ผมไม่อยากกลับบ้าน” อลิชาประเมินสถานการณ์ได้คร่าวๆว่าศาสตราจารย์หนุ่มอาจมีปัญหากับคนในครอบครัว “เฮ้อออ…” เธอถอนหายใจยาว “คุณกลับไปเถอะ ปล่อยผมไว้ที่นี่คนเดียวดีกว่า” เขาพูดน้ำเสียงประชด “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันหาโรงแรมให้คุณเองค่ะ” อลิชาเดินกลับไปหาเพื่อนที่โต๊ะอาหารเพื่อเป็นการบอกว่าเธอติดธุระด่วนก่อนจะเดินกลับมาหาวิลเลี่ยมที่โต๊ะ เธอดึงแขนเขาให้ลุกขึ้นแกมบังคับ ศาสตราจารย์หนุ่มยังคงเดินไหวอยู่อลิชาจึงให้บอดี้การ์ดของเธอขับรถของเขาเพื่อไปส่งที่โรงแรมในขณะที่เธอนั่งไปกับเขาอีกคันหนึ่ง “คุณคงมีการ์ดตามไปด้วยทุกที่ทุกเวลาสินะ” วิลเลี่ยมเอนหลังลงบนเบาะเพราะความเมา “ใช่ค่ะ และตอนนี้พวกเขาก็อาจจะโทรรายงานคุณพ่อเรียบร้อยแล้วด้วย คุณจะต้องโดนเล่นงานแน่ๆ” เธอขู่ไม่จริงจังนัก “หึหึ แล้คุณจะมาสนใจผมทำไม” เขาหันมาหาเธอ “ก็…ก็เพราะคุณเป็นอาจารย์ที่ไม่ได้เรื่องของฉันไงคะ ฉันเลยจำเป็นต้องช่วย” รถยนต์คันหรูสองคันวิ่งเข้ามาจอดในโรงแรมหรู อลิชาจำเป็นต้องประคองศาสตราจารย์หนุ่มเพื่อขึ้นไปยังห้องพัก “คืนนี้คุณค้างที่นี่ได้หรือเปล่า” วิลเลี่ยมพูดขณะที่เธอประคองเขานั่งลงบนเตียง “ทำไมถึงอยากให้ค้างคะ คุณไม่ค่อยชอบหน้าฉันด้วยซ้ำ” เธอยืนมองดูสภาพเขาตอนนี้แย่เสียยิ่งกว่าอะไร “แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าการที่ผู้หญิงกับผู้ชายเข้าโรงแรมกันสองต่อสองมันหมายความว่าอย่างไร” เขาย้อนถาม “ฉันแค่มีน้ำใจกับคุณเท่านั้นเองค่ะ เดี๋ยวฉันจะสั่งเครื่องดื่มอะไรสักอย่างที่ทำให้คุณสร่างเมามาให้ คุณจะได้รู้สึกดีคุณ ฉันกลับล่ะ” เธอไม่รู้หรอกว่าคำถามของเขาหมายถึงอะไร “เดี๋ยว!” มือหนาดึงร่างบางเข้ามาใกล้จนเธอเสียหลักเซล้มลงบนตักเขา ปลายจมูกโด่งทั้งสองชนกันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD