แพรหวานค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมองไปโดยรอบก่อนจะเห็นโน๊ตที่วางอยู่พร้อมกับกล่องสีแดงกำมะหยี่บนเตียงข้างเธอ หญิงสาวลุกขึ้นนั่งหยิบกระดาษโน๊ตมาอ่านก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
'พี่โอนเงินให้แล้วนะคะหกแสนหนูเอาไปใช้ก่อนถ้าขาดเหลืออะไรบอกพี่ได้เสมอ กล่องนี้มีสร้อยอยู่พี่ให้แพรนะของขวัญแทนใจของพี่เอง คืนนี้พี่กลับบ้านนะพ่อเรียกคุยธุระยังไงพรุ่งนี้เจอกันนะคะ'
"ขอบคุณนะคะพี่ฟ่า"
แพรหวานยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะรีบลุกขึ้นไปแต่งตัวเพราะต้องรีบเอาเงินไปรักษาแม่ ท่านจำเป็นต้องผ่าตัดและเธอเองไม่สามารถเสียใครไปได้อีกแล้วทั้งชีวิตของเธอเหลือแค่แม่คนเดียวไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรเธอยอมได้ทุกอย่าง
เธอออกจากคอนโดของชายหนุ่มเดินทางไปที่โรงพยาบาลก่อนจะตรงไปหาพยาบาลที่ดูแลชั้นที่แม่ของเธออยู่
"หนูพร้อมผ่าตัดแม่แล้วค่ะ เอกสารอยู่ไหนคะ"
"ได้ค่ะรอสักครู่นะคะ"
แพรหวานถือปากการอเซ็นเอกสารและเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยหญิงสาวก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งอกที่สามารถหาเงินมาผ่าตัดแม่ได้แล้ว ตอนนี้คุณหมอกำลังเตรียมการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนและเธอเองก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอลุ้นอย่างมีความหวัง หญิงสาวกดส่งข้อความไปหาชายคนรักเพื่อบอกเขาว่าเธอกลับมาแล้วจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
'แพรกลับบ้านแล้วนะคะ'
'อ่าว... หนูไม่ค้างคอนโดพี่คะพรุ่งนี้เช้าพี่รีบตื่นไปหาเลย'
'เอาไว้นัดเจอกันอีกก็ได้ค่ะแพรไม่ไปไหนหรอก'
'สัญญาแล้วนะ'
'สัญญาค่ะ'
เธอยิ้มออกมาคนเดียวเหมือนคนบ้าในความโชคร้ายเธอก็มีความโชคดีอยู่ที่มีเขาอยู่ข้างกายและคอยช่วยเหลือมาตลอด
"แพรรักพี่ฟีฟ่านะคะและจะรักคนเดียวด้วย"
เธอมองโทรศัพท์ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย มันเป็นช่วงเวลาที่บีบหัวใจเธอเหลือเกินเพราะต้องนั่งอยู่หน้าห้องผ่าตัดรอคอยอย่างมีความหวังว่าท่านจะหายดีและกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
วันต่อมา...
ฟีฟ่ามารับแพรหวานที่มหาวิทยาลัยและคืนนี้เขาจะพาหญิงสาวไปค้างด้วยที่คอนโด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นไปได้ดีและยิ่งพัฒนาความสัมพันธ์กันแบบลึกซึ้งแล้วด้วยเขายิ่งติดหนึบหญิงสาวไม่ยอมห่าง
ทั้งสองคนสวมกอดกันอยู่บนเตียงนุ่มนวลชายหนุ่มหลงเธอจนหัวปักหัวปำไม่เคยมองใครมีแค่เธอคนเดียวมาตลอดถึงแม้เธอจะไม่ยอมให้มีอะไรด้วยแต่เขาก็อดทนไม่วอกแวก และจนมาถึงตอนนี้มันคุ้มค่ามากเพราะสิ่งที่เขารอคอยมันดีที่สุดสำหรับเขา
"พี่โอนเงินให้เพิ่มอีกสองแสนนะเผื่อหนูจะใช้อะไร"
"เอามาอีกทำไมคะแพรใช้แค่นั้นแหละพอแล้ว"
"พี่ไม่อยากให้แพรทำงานมันเหนื่อย พี่เลี้ยงหนูได้สบายมากไม่ต้องคิดอยากทำงานเลย ตัวเล็กนิดเดียวจะกินเก่งขนาดไหนเชียวจริงมั้ย"
เธอมองชายหนุ่มอย่างซาบซึ้งใจที่เขารักและดีกับเธอมากขนาดนี้ เงินที่เขาให้มากใช้ผ่าตัดแม่ไปแค่สองแสนเองเหลืออีกตั้งเยอะและตอนนี้ให้เพิ่มมาอีกมันเยอะมากจนเธอไม่รู้จะตอบแทนเขายังไงแล้ว
"แพรรักพี่ฟีฟ่านะคะรักมากที่สุดเลย"
"พี่ก็รักแพรค่ะ"
ฟีฟ่าโน้มใบหน้าเข้าไปคลอเคลียก่อนจะจูบหญิงสาวอย่างอ่อนโยน เธอผละออกเมื่อเสียงโทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้น
'โรงพยาบาล'
"แพรคุยโทรศัพท์แป๊บนึงนะคะ"
"ตามสบายค่ะ"
เขายิ้มออกมาก่อนจะปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระ แพรหวานรีบวิ่งออกไปข้างนอกคุยโทรศัพท์อย่างรีบร้อนเพราะไม่รู้ว่าที่ทางโรงพยาบาลโทรมามีอะไรเร่งด่วนรึเปล่า
"สวัสดีค่ะ"
(คุณแพรหวานเชิญที่โรงพยาบาลหน่อยค่ะ คุณหมออยากคุยด้วย)
"ได้สิคะตอนนี้เหรอคะ"
(ใช่ค่ะ)
"ได้ค่ะงั้นเดี๋ยวออกไปนะคะ"
เธอกดวางสายก่อนจะกำโทรศัพท์แน่นด้วยความกังวล เธอรีบเดินกลับมาหาชายหนุ่มก่อนจะสวมกอดเขาเหมือนกลัวว่าชายหนุ่มจะหายไปไหน
"พี่ฟีฟ่า"
"เป็นอะไรคะแพรมีอะไรรึเปล่า"
"แม่ตามกลับบ้านแล้วค่ะแพรต้องกลับแล้ว"
ชายหนุ่มทำหน้าเสียดายเป็นอย่างมากคิดว่าเธอจะค้างกับเขาที่นี่ซะอีก แต่ไม่เป็นไรแค่เธอมีเวลามาหาเขาบ้างแค่นี้ก็ดีมากแล้ว
"นึกว่าจะค้างกับพี่ซะอีกแต่ไม่เป็นไรค่ะไว้ค่อยค้างก็ได้เนาะ"
"ค่ะ งั้นแพรกลับก่อนนะคะพี่ไม่ต้องไปส่งนะ"
"แต่ว่า..."
"แพรรักพี่นะคะเจอกันค่ะ"
เขาถอนหายใจออกมามองตามหญิงสาวไปอย่างไม่รู้จะทำยังไง เราสองคนรู้จักกันมาหลายปีแต่เขาเองไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเธอเท่าไหร่ แพรหวานเป็นคนเงียบไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังซึ่งเขาก็ไม่เคยเซ้าซี้จึงเกิดคำถามมากมายเต็มไปหมด
และเมื่อหญิงสาวเดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลเธอก็เดินเข้าไปหาคุณหมอด้วยความเร่งรีบ คุณแม่ของเธอในตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงโดยมีคุณหมอและพยาบาลกำลังตรวจร่างกายอยู่
"คุณหมอแม่แพรเป็นยังไงบ้างคะ"
"ผู้ป่วยเซลล์สมองได้รับความเสียหายอย่างหนักเนื่องจากอุบัติเหตุทำให้เลือดที่ไหลออกมาไปกดทับเนื้อเยื่อสมองและขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมองทำให้เราต้องรีบผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ตอนนี้สมองได้รับความเสียหายพอสมควรหลังจากนี้ต้องรักษาตัวทำกายภาพบำบัดและการฝึกพูดเพื่อช่วยฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อ"
"คุณหมอหมายความว่ายังไงคะ... นี่คุณแม่ของฉันเดินไม่ได้เหรอคะ"
แพรหวานเอามือปิดปากตัวเองไว้อย่างช็อคสุดขีดเพราะไม่คิดว่าการที่ท่านแค่ลื่นล้มมันจะส่งผลให้เป็นหนักมากขนาดนี้
"มันต้องใช้เวลาหน่อยครับ บางรายทำกายภาพบ่อยๆก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติได้แต่คุณแพรหวานทำใจไว้ล่วงหน้าหน่อยนะครับกรณีของคุณแม่สมองค่อนข้างเสียหายหนักและได้รับการรักษาช้าไป"
เธอหันไปมองคุณแม่ตัวเองก่อนจะร้องไห้ออกมา นี่มันเป็นความโชคร้ายอะไรของครอบครัวเธอถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ และหลังจากวันนั้นเธอก็ทำเรื่องดรอปเรียนจากมหาวิทยาลัยและไม่ติดต่อใครอีกรวมถึงผู้ชายที่เธอรัักมากที่สุดด้วยเพราะตอนนี้เธอมีแม่ที่ป่วยเป็นอัมพาตและไม่รู้ว่าจะหายเป็นปกติรึเปล่า เธอไม่อยากให้เขาลำบากใจและเขาควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้ไม่ใช่มาอดทนอยู่ลำบากกับเธอ ตอนนี้เธอเสียโอกาสในการเรียนจนจบเพราะต้องออกมาดูแลแม่ขาดการติดต่อกับทุกคนยกเว้นเพียงคนเดียวที่เธอยังติดต่อคือหมูหวานเพื่อสนิทคนเดียวของเธอ
ใช้เวลาในการดูแลแม่อยู่ประมาณสองเดือนและท้ายที่สุดท่านก็ไปสบายเพราะในระหว่างที่รักษาตัวท่านมีภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง ท่านจากไปอย่างสงบและด้วยความที่เธอทำใจมาพักใหญ่จึงสามารถทำใจได้บ้างแล้ว
"หลับให้สบายนะคะแม่ ฮึก! ไม่ต้องห่วงหนูนะหนูดูแลตัวเองได้"
ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลเธอก็กลับมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดกับท่านสองคน และตอนนี้แม่จากไปแล้วเธอก็เหลือตัวคนเดียวไม่มีใคร เหลือก็แค่คุณป้าพี่สาวของแม่ที่ท่านก็มาเยี่ยมเยียนช่วยดูแลบ้างตามกำลังที่มี
"แพรกลับไปเรียนเถอะเพื่ออนาคตของหนู"
"ค่ะป้า"
เธอตัดสินใจว่าจะกลับไปเรียนต่อหลังจากที่กลับมาทำหน้าที่ลูกที่ดีอย่างถึงที่สุดแล้ว หญิงสาวขยับถอยหลังเพียงนิดเดียวก่อนจะเอามือปิดปากตัวเองไว้เมื่อรู้สึกหน้ามืดอยากจะอาเจียนพะอืดพะอมแปลกๆ
"เป็นอะไรรึเปล่าลูก"
"มะ..ไม่เป็นไรค่ะป้า หนูกลับก่อนนะคะ"
"จ้ะไปพักผ่อนนะที่เหลือป้าจัดการเอง"
เธอเดินทางกลับไปที่บ้านก็รู้สึกไม่สบายและสภาพร่างกายอ่อนแรงอยากนอนตลอด หญิงสาวตัดสินใจไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายเพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร และผลที่ออกมาทำให้เธอช็อกยิ่งกว่าคือ...
'คุณแพรหวานตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ'
เธอกลับมาที่บ้านด้วยความรู้สึกสับสนและสิ้นหวังทุกอย่าง ตอนแรกจะกลับไปเรียนและมีอนาคตที่ดีแต่ตอนนี้เธอกำลังท้องทำให้ทุกอย่างมืดมนไปหมด
"พี่ฟีฟ่า..."
เธอลบช่องทางการติดต่อจากเขาทุกอย่างจึงเลือกที่จะโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสนิทเพื่อให้เธอขอเบอร์ติดต่อชายหนุ่มให้ใหม่ ยังไงเด็กคนนี้ก็เป็นลูกของเขาและเขาต้องรับรู้ในสิ่งที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดและเธอก็ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อคำตอบที่ได้รับกลับมาคือ...
'พี่ฟีฟ่ามีแฟนใหม่แล้วแก... เด็กในคณะเราเอง'
'งั้นเหรอ... อืม ช่างมันเถอะขอบใจนะ'
'แล้วแกจะกลับมาเรียนต่อมั้ย'
'คงไม่แล้วล่ะ ฉันจะหาที่เรียนใหม่เรียนแถวนี้แหละ'