หัวใจไม่รักดี
ภายใหห้องนอนที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยหรู หญิงสาวร่างอรชร นั่งน้ำตานองอาบแก้มสองข้าง เมื่อจีน่าได้ยินผู้ใหญ่คุยกันในช่วงเช้า เรื่องแต่งงานระหว่างพี่สาวของเธอกับปฐพี ชายหนุ่มที่มีไร่อยู่ติดกัน
ความทรงจำในวัยเด็กทำให้จีน่าประทับใจในตัวปฐพีไม่รู้ลืม เพราะเขาเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ จากการที่หญิงสาวถูกงูมีพิษกัดที่ข้อเท้า ขณะที่วิ่งเล่นกันในไร่ตอนนั้นจีน่าอายุประมาณเก้าขวบเห็นจะได้ ซึ่งปฐพีเป็นคนปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วให้เธอขี่หลังวิ่งมาหาผู้ใหญ่เพื่อนำส่งโรงพยาบาล แถมเขายังบอกชนิดของงูที่ฉกเธอได้อย่างแม่นยำอีกด้วย สมกับที่เป็นเจ้าของไร่ชาวายุ
หญิงสาวยังคงนั่งเหม่อน้ำตาไหลรินออกมาไม่หยุด เธอกับพี่สาวมีนิสัยที่แตกต่างกันมากจีน่าชอบใช้ชีวิตติดดิน ส่วนเดียร์น่าพี่สาวของเธอที่มีอายุห่างกันแค่สองปี รายนั้นใช้ชีวิตยังกับเจ้าหญิง ไม่ยอมคนเอาแต่ใจตัวเอง เพราะถูกบิดามารดาตามใจมาตั้งแต่เด็ก
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น ทำให้จีหน้ารีบปาดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วทำสีหน้าให้เป็นปกติ
“แม่เรียกตั้งนาน ทำอะไรอยู่จ๊ะจีน่า” น้ำเสียงของคาร่าที่มีใบหน้าฝรั่งจ๋า แต่นางกลับพูดไทยได้คล่องปร๋อ เพราะมาอยู่ที่เมืองไทยเกือบสามสิบปีแล้ว
“มีอะไรหรือเปล่าคะแม่” หญิงสาวเอ่ยถามหญิงวัยกลางคนออกไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อมารดาเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“ช่วยเอาปิ่นโตเมนูโปรดของคุณดิน ไปส่งให้เขาที่ไร่ชาหน่อยสิลูก” คำบอกของมารดาทำให้จีน่าแอบถอนใจออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจจนเนื้อเต้น แต่ทว่าในตอนนี้สถานะของชายหนุ่มกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นพี่เขย ถ้าวันนั้นมาถึงเธอคงหมดหวังที่จะสานสัมพันธ์กับเขา แม้ว่าจีน่าจะรู้อยู่แก่ใจ ผู้ชายอย่างปฐพีไม่มีทางหันมาสนใจผู้หญิงคนไหน นอกจากช้องนางอดีตคนรักของเขาที่อยู่ๆ ก็หายไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับมา จนทำให้ปฐพีกลายเป็นผู้ชายบ้างานไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย
“แม่ค่ะ คือว่า...” จีน่ากำลังคิดหาทางปฏิเสธ แต่เธอกลับนึกหาข้ออ้างขึ้นมาแย้งมารดาไม่ได้
“อย่าอ้ำอึ้ง รีบไปรีบกลับเดี๋ยวจะค่ำมืดเสียก่อน”
“ก็ได้ค่ะแม่” หญิงสาวที่มีลุคแก่นแก้วแตกต่างจากพี่สาวของเธอ ยอมตกปากรับคำไปส่งปิ่นโตให้กับปฐพีตามคำบอกของมารดา
เมื่อลูกสาวคนเล็กปั่นจักรยานคู่ใจของเธอออกไปจากไร่ ทำให้หญิงวัยกลางคนเดินเข้าไปหาผู้เป็นสามีที่กำลังนั่งอยู่ในสวนหลังบ้าน ซึ่งปัจจุบันสรวิชบิดาของหญิงสาวมีไร่ชาเป็นของตัวเอง เมื่อเขาได้ภรรยาอย่างคาร่าที่สวยและรวยมาก
“คุณหมอกับคุณฝนก็กลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว คุณกำลังคิดอะไรอยู่คะ” คาร่ารู้ดีว่าสามีของเธอจำใจต้องตกปากรับคำตอบตกลงผู้มีพระคุณกลับไป เพราะเขาไม่รู้จะปฏิเสธนายแพทย์จิรายุกับฝนสุดายังไง เมื่อคนทั้งคู่มีบุญคุณกับครอบครัวของเขามาก่อน
“เดียร์น่าจะว่ายังไง ลูกคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมคาร่า” ใบหน้าของสรวิชแฝงไปด้วยความเป็นกังวล เมื่อเขาตกอยู่ในที่นั่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทั้งที่ควรถามความสมัครใจของลูกสาวคนโตก่อน
“อย่าคิดมากสิคะ เดียร์น่าเองก็น่าจะเข้าใจในเหตุผลที่จะต้องแต่งงานกับคุณดิน” คาร่าพูดปลอบสามีออกไป ทั้งที่เธอก็รู้อยู่แก่ใจ คนอย่างเดียร์น่าถ้าลองไม่ชอบอะไร เธอจะไม่มีทางฝืนใจทำเด็ดขาด
“ช้องนางหายไปไหน ถ้าเธอยังอยู่ป่านนี้คุณดินคงแต่งงานมีลูกกับเธอไปแล้ว ทั้งที่วันแต่งก็ถูกกำหนดอีกแค่ไม่กี่วัน ก่อนที่ช้องนางจะหายไป” ที่สำคัญบางคนลือว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพราะมีคนแอบเห็นเธอบนเที่ยวบินกับผู้ชายหน้าตาดี ซึ่งเป็นหนุ่มลูกครึ่ง แต่ไม่มีใครรู้ว่าชายคนนั้นเป็นใครแม้แต่บิดามารดาของเธอ จึงทำให้ปฐพีเกลียดผู้หญิงทุกคนเข้าไส้ สร้างความทุกข์ใจให้กับบิดามารดาของเขาเป็นอย่างมาก
“ยังไงเราก็ตอบตกลงไปแล้วนี่ อย่างน้อยคุณดินก็ไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ แค่มีใบหน้าและแววตาที่เย็นชา ไม่สุงสิงกับใคร บ้างานจนหนวดเครารุงรังไม่ยอมโกนออก ผมเผ้าก็ดูยาวตัดบ้างไม่ตัดบ้าง ถ้าเขาดูแลตัวเองดีๆ หล่อยิ่งกว่าดาราหนังอีกนะ คุณว่าไหม” สองสามีภรรยายังคงคุยถึงเรื่องปฐพีไม่หยุด ขณะที่ลูกสาวคนเล็กกำลังปั่นจักรยานไปที่ไร่วายุ พร้อมกับใบหน้าที่ไม่ค่อยสดชื่น เพราะหัวใจของเธอเพิ่งได้รับความบอบช้ำ ไม่ต่างจากคนอกหัก เมื่อคนที่เธอหลงรักเขากำลังจะแต่งงานเป็นมั่นเป็นเหมาะ
“ป้าจ๋า คุณดินอยู่ไหมคะ” หญิงสาวจอดรถได้รีบหิ้วปิ่นโต เดินเข้าไปหาหญิงสูงวัย ที่กำลังนั่งร้อยพวงมาลัย เพื่อนำไปบูชาในวันพระใหญ่ “วันนี้คุณดินคงค้างที่บ้านท้ายไร่ หนูจีมีอะไรหรือเปล่า นั่นหิ้วปิ่นโตมาด้วย แสดงว่าคุณคาร่าให้เอาของโปรดมาให้คุณดินใช่ไหมคะ”แม่จันดาที่เคยช่วยงานบ้านในไร่ ตั้งแต่สมัยปู่ย่าของจีน่ายังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่คนทั้งสองป่วยและเสียชีวิตลงไป แม่จันดาก็ยังคงทำงานเป็นแม่บ้านคอยดูแลอาหารการกิน และงานทุกอย่างภายในบ้าน โดยมีตองนวลเป็นลูกมือ คอยทำตามคำสั่งของหญิงสูงวัย
“แม่ให้เอาแกงคั่วหมู แล้วก็แกงยอดมะพร้าวอ่อนใส่ไก่มาให้คุณดินจ้าป้า” จีน่าพูดพร้อมกับวางปิ่นโตลงบนโต๊ะ
“แต้ป้าว่า หนูจีคงต้องเอาไปให้คุณดินเองแล้วแหละ ตองนวลก็กลับบ้านไปแล้ว ส่วนคนงานผู้ชายก็คงกลับที่พักกันหมดแล้ว”
“ป้าจ๋า เอาไว้อุ่นพรุ่งนี้ก็ได้มั้ง จีไม่อยากไปเจอคุณดินของป้า ผู้ชายอะไร เย็นชาสมกับที่เป็นเจ้าของไร่ชาจริงๆ” หญิงสาวพูดพร้อมกับทำหน้างอ แต้ป้าจันดากลับชอบมองเวลาที่จีน่าทำกิริยาแบบนี้ เพราะผู้หญิงหลายคนมีแต่อยากจะเข้าใกล้ปฐพี มีเพียงจีน่าที่ทำท่าทางหมางเมิน นางจะรู้หรือเปล่าว่าหญิงสาวกำลังพยายามห้ามใจ เพราะไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่ากำลังจะเป็นพี่เขยของเธอ
“แกงยอดมะพร้าวอ่อนเก็บไว้ค้างอื่นก็ไม่อร่อยสิ ถ้าหนูจีไม่ไป เดี๋ยวป้าจะเดินไปเองก็ได้ แค่ไม่กี่กิโลเอง” หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับวางพวงมาลัยที่ร้อยยังไม่เสร็จลงที่โต๊ะ
“ไม่ต้องหรอกค่ะป้า เดี๋ยวจีจะปั่นจักรยานเอาไปให้คุณดินเอง กว่าป้าจะเดินไปกลับคงตกดึกพอดี” จีน่ารีบขันอาสาอย่างไม่มีทางเลี่ยง เพราะหญิงสาวทนไม่ได้ ที่จะให้ป้าจันดาเป็นคนเดินถือปิ่นโตไปส่งให้ปฐพีที่ท้ายไร่
“รีบไปรีบกลับนะหนูจี เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน จักรยานมีไฟหรือเปล่า” คราวนี้น้ำเสียงของหญิงสูงวัยได้เอ่ยถามจีน่าออกมาด้วยความห่วงใย เพราะนางเองก็รู้ว่าทางไปท้ายไร่บางจุดยังไม่มีไฟ ตอนกลับอาจจะมือสลัวทำให้จีน่าปั่นจักรยานลงข้างทางได้
“มีจ้าป้า จีไปก่อนนะเดี๋ยวมืด”
“ไม่ต้องซิ่งนะหนูจี ถนนหนทางยิ่งไม่ค่อยดีอยู่ด้วย”
“จ้าป้า” หญิงสาวตอบกลับพร้อมทั้งรีบปั่นจักรยานไปที่ท้ายไร่ แม้ว่าจีน่าจะไม่อยากไป แต่จะให้คนแก่มาเป็นภาระต่อจากเธอไม่ได้ จึงทำให้จีน่าตัดสินใจ เอาปิ่นโตไปส่งให้ปฐพีด้วยตัวเอง