เพราะรัก 4

2107 Words
Because of love เพราะรัก 4 “กลับไปทานต่อสิ” ฉันบอกเซ็น แต่เขายังไม่ตอบแต่ทั้งจานช้อนตะเกียบแก้วน้ำของเขาถูกยกมาวางที่ตรงหน้าเขาโดยมีเพื่อนๆของเขาและเพื่อนของฉันคอยช่วยอย่างรู้งาน ในนั้นมันร้อนเหรอทำไมเขาถึงย้ายออกมานั่งตรงนี้ “พูดมาก” “อ้าว!?” “รีบทานมันเย็นหมดแล้วยัยหมู” ดูเถอะ ดูเขาว่าให้ฉัน! “ไม่หมู!” “เออแปลก พอไปอยู่ด้วยกันล่ะทะเลาะกัน ทีอยู่ห่างล่ะชะเง้อหน้ามองเขา จะทำอะไรก็เลือกสักอย่าง” เท็นส่ายหน้าไปมาอย่างระอา ส่วนพริกไทยก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปอะไรสักอย่างส่วนหลิวก็ลอบมองฉันกับเซ็นขำๆ น้องๆของเซ็นก็มองมาทางเราก็ทำหน้าเขินบ้างยิ้มบ้างแต่คนที่รู้สึกว่าจะไม่พอใจคงมีเพียงคนเดียวนั่นแหละ “เอาเห็ดเข็มทอดอีกไหม” เซ็นถามมือก็คีบหมูมาใส่จานให้ “หือ? ไม่ๆไม่แล้วจะกินหมู” “กินเพื่อนตัวเองอ่ะนะ” “เซ็น เราจะโกรธแล้วนะ” ฉันว่างอนๆ แต่คนตัวโตที่นั่งคีบหมูมาให้กลับหัวเราะแทนเสียอย่างนั้น “โกรธอะไรเราล่ะ?” เซ็นยังลอยหน้าลอยตาถาม ด้วยความหมั่นไส้ฉันเลยตีที่ต้นขาเขาแรงๆไปก่อนจะนั่งเงียบไม่ยอมคุยกับเขา และหันไปคุยกับเพชรที่นั่งอยู่ข้างๆแทน “โกรธอะไรกันอีก” เพชรถามอย่างไม่เข้าใจ “เปล่านี่” “มันดูวิธีกดบัตรคอนให้เธอทุกครั้งที่ว่างเลยนะ มันกลัวกดไม่ได้แล้วเธอจะโกรธมัน” จริงเหรอ รู้สึกผิดจังที่ทำให้เขาลำบากขนาดนี้ “คุยอะไรกัน ทำไมต้องยื่นหน้าไปชิดขนาดนั้น” เฮ้อ เซ็นนี่ยังไงกันฉันยังไม่ทันจะได้คุยกับเพชรเลยนะทำไมต้องมาทำเสียงดุใส่แบบนั้นด้วย “พี่เซ็นคะ หนูอยากเข้าห้องน้ำพี่ไปเป็น...” “ให้น้องรหัสเราพาไปแล้วกัน มันดูไม่ดีถ้าไปกับพี่” “ค่ะ” น้องคนนั้นรับคำอย่างไม่พอใจ กระทั่งเธอเดินออกไปผักบุ้งถึงได้เอ่ยปากพูด “เขาชอบแกนะเซ็น” “รู้ แต่จะให้ทำยังไงล่ะนั่นน้องรหัสเรา ไม่ต้องคิดมากนะมันไม่มีอะไร” ประโยคสุดท้ายเซ็นมองหน้าฉันอย่างจริงจัง ส่วนฉันก็จ้องเขากลับ อะไรบางอย่างทำให้ฉันแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาตั้งใจจะบอกฉันและเผลอพยักหน้ารับ “เสร็จแล้วจะไปไหนไหม จะได้กลับพร้อมกัน” “เรากลับกับบุ้งได้” ฉันปฏิเสธเสียงเบา กลัวว่าเขาจะโกรธเหมือนเมื่อเช้า “ไม่ค่ะ! ไม่ให้กลับด้วยกลับไปพร้อมเซ็นนั่นแหละ” “อ้าว?” ไหงมาทิ้งกับแบบนี้ล่ะ “ไม่ต้องมาอ้าว จะไปหาผู้ต่อ” “จำไว้เลยนะ จำไว้เลย” ฉันมองบุ้งงอนๆแต่รายนั้นแค่หัวเราะสะใจ ไม่รู้สะใจที่ทำฉันเคืองได้หรือสะใจที่เห็นใบหน้าบึ้งตึงไม่พอใจของน้องรหัสเซ็นที่เดินกลับมาแล้วได้ยินพอดี “กลับด้วยกันนี่แหละ จะแวะไหนค่อยบอกแต่ขอไปส่งน้องก่อนนะ” “อือ ขอกลับด้วยแล้วกันนะ” “ได้ แล้วอยากแวะไหนก่อนกลับ” ปากขยับถามมือก็คีบเนื้อหมูมาใส่ปากให้เรียกว่ายัดจะง่ายกว่านะถ้าจะทำแบบนี้น่ะ “อิ่มอ่า อร่อยสุดๆไปเลย” เพื่อนฉันต่างเอนหลังพิงเก้าอี้มือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นรอส่วนฉันก็เริ่มอิ่มแล้วและตอนนี้กำลังทานของหวานอยู่ เซ็นกลับไปนั่งที่เดิมได้สักพักแล้วส่วนฉันก็ไม่ได้อะไรกับเขาต่อส่วนมากจะหันไปคุยกับเพื่อนตัวเองเสียมากกว่า “กลับกันเถอะ” “ปะๆ” เพื่อนเริ่มทยอยเดินออกจากร้านหลังจากที่จ่ายเงินเสร็จ ฉันเดินตามเซ็นไปที่รถไม่รู้คนตัวสูงคุยอะไรกับน้องของเขาบ้างแต่เขาก็ยังชะลอเท้ารอฉันกระทั่งเราเดินอยู่ข้างกัน เจ้าของร่างสูงยังคุยกับน้องเขาทั้งชายและหญิงที่มีกันอยู่ทั้งหมดห้าคนชายสามหญิงสอง เซ็นยกมือขึ้นบังเม็ดฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาให้ “รีบเดินฝนเริ่มตกแล้ว” เซ็นดึงมือให้เดินเร็วขึ้นกระทั่งมาถึงรถเขาก็ปลดล็อครถแล้วเปิดประตูรถด้านหน้าคู่คนขับให้ฉันเข้าไปนั่ง ส่วนน้องๆของเขาก็รีบขึ้นบนรถเพราะฝนเริ่มเทลงมาถี่ๆ เซ็นเปียกนิดหน่อยแต่ก็ยังไม่วายหันมาเช็คว่าฉันเปียกมากหรือเปล่า แต่อยากจะถามนะว่าฉันจะเปียกได้ยังไงในเมื่อเขาผลักให้ฉันขึ้นรถมาก่อนที่ฝนจะตก “เดี๋ยวพี่จะไปส่งที่หอนะ” “ครับ//ค่า” “เฮีย” “ว่า?” เสียงน้องผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านหลังเอ่ยเรียกเซ็น ห้าคนนั่งด้านหลังได้นี่สุดยอดมากเลยนะดีที่น้องตัวเล็กๆกันอีกอย่างเซ็นใช้ฟอร์จูนเนอร์เลยกว้างพอให้น้องได้นั่งกัน “เฮียกับพี่ต้นเป็นแฟนกันปะ?” หือ? ต้นไหน หมายถึงฉันหรือเปล่าหรือว่าไม่ใช่ ฉันหันไปมองเซ็นแต่เขาก็แค่ทำหน้านิ่งๆใส่ฉัน “คิดว่าไงล่ะ” “โห เฮียตอบน้องหน่อยดิ ผมนี่อยากรู้ใจจะขาด” น้องคนที่อยากรู้ยังรั้นที่จะถามต่ออยากอย่างรู้ “หึหึ ไม่บอก อ้าว ถึงแล้วพูดมากลงคนแรกเลย” “เฮียใจร้ายว่ะ ขอบคุณนะเฮียที่พาไปเลี้ยง” “อือ รีบเข้าหอฝนมันตก” “ครับสวัสดีครับเฮีย สวัสดีครับซ้อต้น” เดี๋ยว!! ฉันสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินน้องเรียกแบบนั้น มาเรียกฉันซ้อได้ยังไงฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเฮียพวกเขานะ “ที่เหลือลงจุดเดียวกันใช่ไหม” “ค่า/ไม่” “หือ? ยังไงจะลงไหนบ้างพี่จะได้จอดถูก” “ลงที่เดียวกันหมดนั่นแหละพี่ พี่จะได้กลับไปพักมันดึกแล้ว” “ก็ได้ ต้นง่วงเหรอ?” ท้ายประโยคเซ็นถามเสียงนุ่ม มือก็เอื้อมมาลูบผมฉันเบาๆแอบเนียนทาบหลังมือลงบนหน้าผากฉันด้วย “อื้อ อิ่มอ่ะ” “สมควรแล้วเหอะ นอนไปเถอะรถคงติดตอนกลับบ้านอ่ะ” “งั้นเรานอนนะ” “ครับ” ฉันขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะหลับตา นี่แหละวิถีคนอ้วนกินแล้วนอนอีกหน่อยก็จะกลายเป็นหมูอย่างสมบูรณ์แบบ แต่พอจะนอนจริงๆกลับนอนไม่หลับก็นะมันแปลกที่นี่ เซ็นชะลอรถและจอดที่หน้าหอพักแห่งหนึ่ง “ขอบคุณนะคะพี่เซ็น ฝากสวัสดีซ้อด้วยนะคะ” “ได้ๆ รีบเข้าหอล่ะฝนมันตก” “ค่า//ครับ” “หนูขอติดรถไปลงหน้าม.ได้ไหมคะ หนูนัดเพื่อนไว้” “ได้สิ ต้นถ้าไม่นอนก็นั่งดีๆเดี๋ยวก็เวียนหัว” อ้าว ดุเฉยเลย ฉันยอมขยับตัวนั่งดีๆอย่างที่คนปกติจะนั่งนั่นแหละ เรานั่งเงียบกันทั้งสามคนฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ อากาศในรถก็เย็นเสื้อนิสิตที่สวมอยู่ทั้งบางและเปียกนิดๆด้วย “หนาวเหรอ? เอาเสื้อไปคลุมไว้ก่อน” เสื้อแขนยาวสีดำของเซ็นปลิวมาคลุมทั้งศีรษะฉัน “ให้ดีๆไม่เป็นหรือไง” “งอนอีก” เซ็นยังหัวเราะได้ แต่ดูฝืนๆยังไงชอบกล “พี่เซ็นเป็นหนูไม่ได้เหรอ? เป็นหนูได้ไหมที่นั่งอยู่ข้างๆพี่” “พี่เคยบอกไปแล้วไงว่าพี่คิดกับเราแค่น้อง อย่าทำให้พี่อึดอัดไปมากกว่านี้เลยนะ” เอ่อ ฉันควรแกล้งหลับไหมทำไมประโยคสนทนาของสองพี่น้องสายรหัสถึงได้ดูเคร่งเครียดกันมากขนาดนี้อีกอย่างฉันยังเป็นคนนอกด้วย “พี่เซ็น...” “พอเถอะ ถ้ายังเป็นแบบนี้อีกแค่คำว่าพี่น้องสายรหัสมันก็จะไม่เหลือ อย่าทำให้พวกพี่ลำบากใจ” “...” “ถึงแล้วลงไปเถอะ” “พี่เซ็น...” “ถ้าคิดมากกว่าพี่น้อง เราก็ไม่ต้องติดต่อกันอีกลงไปเถอะแฟนพี่ง่วงแล้ว” เขามีนัดกับแฟนต่อหรอกเหรอ แล้วแบบนี้แฟนเขาจะไม่ว่าเหรอที่ฉันกลับกับเขาแบบนี้ ฉันควรจะบอกเขาไหมว่าฉันกลับเองได้ให้เขารีบกลับไปหาแฟนเขา “พี่ต้นมีอะไรดี ทำไมต้องเป็นพี่ต้น” “เขาดีกว่าเราทุกอย่าง” เกิดความเงียบหลังจากประโยคนั้นของเซ็นสิ้นเสียงไป เสียงสะอื้นฮักของคนที่นั่งอยู่ด้านหลังทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีไปด้วยเลย แต่จะว่าไปต้นอีกแล้ว แฟนเขาชื่อต้นเหรอบังเอิญแฮะที่ชื่อแฟนเขาเหมือนกันชื่อฉันเลย “จอดป้ายนรถเมล์ข้างหน้าก็ได้ เรากลับเองได้” เมื่อน้องคนนั้นวิ่งลงจากรถไปเซ็นก็ค่อยๆเคลื่อนรถอย่างไม่เร่งรีบแต่มันเงียบจนน่าอึกอัดฉันเลยตัดสินใจเอ่ยประโยคนั้นออกไปแต่ก็มิวายที่จะโดนดุกลับมา “นั่งดีๆกระโปรงมันสั้น” เขาตีมึนดุมา แต่เมื่อกี้เขาได้ยินฉันหรือเปล่านะ “เราบอกว่าให้นายจอดป้ายรถเมล์ข้างหน้าได้ยินหรือเปล่า” “ได้ยิน” ได้ยินแล้วทำไม ทำไมขับเลยป้ายล่ะ!! “เลย เลยป้ายแล้วอ่ะเซ็น!” “ก็กลับด้วยกันนี่แหละ” “แต่...” “ถ้าพูดอีกจะดุแล้วนะ” “แล้วก่อนหน้านี้ไม่ได้ดุหรือไงเล่า” ฉันบ่นงึมงำอย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดเสียงดังเพราะกลัวว่าเขาจะดุตามที่พูด ตลอดทางที่รถติดเราทั้งสองไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนักแต่มันก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอย่างตอนแรก “อยากเปิดเพลงไหม” “เปิดได้เหรอ” ฉันถามกล้าๆกลัวๆ “ได้” ฉันหยิบโทรศัพท์ตัวเองแล้วต่อเข้ากับรถยนต์เพลงที่คุ้นเคยดังขึ้นเบาๆ เขาอนุญาติให้ฉันเปิดเพลงเองนะถือซะว่าปั่นวิวในยูทูปไปในตัว ระหว่างที่รถติดไฟแดงเกือบสามร้อยวิเซ็นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นไม่รู้ว่าเขาทำอะไรอยู่กันแน่ ส่วนฉันก็นั่งฟังเพลงของกัซเซเว่นอย่างสบายอารมณ์ “ผังยังไม่ออกอีกเหรอเนี่ย ไม่รอให้ถึงวันกดเลยล่ะแล้วค่อยออกน่ะ” พูดออกมาอย่างหงุดหงิดผู้จัดงานเป็นแบบนี้ตลอดเลย การ์ดก็แย่ถ้าไม่ใช่น้องนะจ้างให้ก็ไม่ไปหรอก เฮอะ! พูดแล้วหงุดหงิด แต่คนหัวร้อนใช่ว่ามีแค่ฉันนะคนอื่นๆคงรู้สึกไม่ต่างกัน “หัวร้อนแล้วๆ” เซ็นแซ็วขำๆมือหนายกขึ้นลูบผมฉันเพื่อให้คลายความหัวร้อน และมันก็ได้ผลซะด้วยเมื่อฉันเปลี่ยนจากหัวร้อนเป็นตกใจและใจเต้นแรงๆแทน “เซ็น” “หือ?” “แฟนนายชื่ออะไรเหรอ” ฉันถามอย่างอยากรู้ อย่าเรียกว่าเสือกนะขอใช้คำว่าใส่ใจจะน่าฟังมากกว่า “ไม่มีหรอก” “หือ? ไม่มีได้ไงก็น้องนายบอกว่าแฟนนายชื่อต้น...” ชื่อเหมือนฉันด้วย “เอาน่า ก็ถ้าน้องมันบอกว่าเธอเป็นแฟนเราก็เออออตามไปหน่อยแล้วกัน” “ได้ไงล่ะ ถ้าแฟนนายมาได้ยิน...” “ยังไม่มีแฟนแต่น้องและคนที่เข้ามาจีบเข้าใจว่าเธอคือแฟนเรา” “ฮะ?” เซ็นไม่ตอบอะไรกลับมาอีกและเอาแต่เงียบ แต่มุมปากยกยิ้มกรุ้มกริ่มยังไงชอบกล “ถึงแล้วรีบอาบน้ำนอน พรุ่งนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ” เซ็นจอดรถและปุบปับเก็บของไม่รอให้ฉันได้ถามอะไรต่อ ฉันที่ลงรถหลังเขาพอปิดประตูก็วิ่งตามไปหวังจะถามแต่ในเมื่อเขาไม่อยากตอบฉันถามไปก็ได้เพียงแค่ความเงียบกลับคืนมา กระทั่งเรามาถึงหน้าห้องเซ็นทำท่าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่กระทั่งเขาเอ่ยขึ้นมาเร็วๆพร้อมกับใบหูแดงๆนั่นเขาไม่รอฟังกระทั่งคำตอบเมื่อเอ่ยจบร่างสูงก็รีบเข้าห้องทันทีราวกับกลัวว่าฉันจะถามอะไรออกไปให้เขาเขินมากกว่าเดิม “ถ้าไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด...” “...” “งั้นเรา...” “...” “เป็นแฟนกันนะ...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD