อยากจูบมั้ยคะ

1219 Words
ตอนที่ 7 “เอ่อ...แล้วพี่มาทำอะไรที่ระยองเหรอคะ” “พี่มาออกแบบรีสอร์ตใหม่ให้กับบริษัทของนายทุนครับ” “โห!....พี่จบวิศวะมาเหรอคะ เก่งจัง” “ครับ แล้วระตีล่ะ” “ระตีจบมนุษยศาสตร์ เอกอิ้งค่ะ อันที่จริงคุณพ่ออยากให้ระตีเรียนเศรษฐศาสตร์” “อืม...แล้วทำไมคุณพ่อถึงยอมระตีละครับ” “เราทำข้อตกลงกันบางอย่างค่ะ” เขาเห็นเป็นเรื่องส่วนตัวเกินไปจึงไม่ถามต่อ และชวนเธอคุยเรื่องอื่นแทน เพราะประโยคนั้นเขาสังเกตเห็นเธอ มีใบหน้าที่เศร้าลงไปเล็กน้อย “อืม..ครับ ระตีทานบางสิครับ พี่แกะกุ้งให้ระตีตั้งหลายตัวแล้ว แต่ระตียังไม่ทานเลยสักตัว” “ค่ะ..งั้นระตีจะกินแล้วนะคะ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าระตีน่ะกินจุ!!!” เธอหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหยิบกุ้งเผาที่เขาแกะให้เรียบร้อยจิ้มน้ำจิ้มซีฟุู๊ดแล้วทานอย่างเอร็ดอร่อย คู่หมั้นเธอก็ยังไม่เคยบริการเธอถึงขนาดนี้ เธอรู้สึกว่าอยู่กับเขาเธอได้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ถ้าเป็นคู่หมั้นเธอ ป่านนี้ก็คงต้องออกปากห้ามไปแล้วว่ากินเยอะเดี๋ยวจะอ้วนเอา! จนเธอติดนิสัยเวลาไปไหนกับเขา เธอก็จะไม่กล้ากินเยอะ! “หลังทานอาหารเสร็จ พี่ขอเลี้ยงเหล้าระตีได้มั้ย” เขาเอ่ยขึ้นเพราะยังอยากอยู่ต่อกับเธอ หญิงสาวไม่ตอบ ทำให้คนถามต้องถามอีกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงกับการที่ จู่ ๆ เขาก็ชวนเธอไปดื่มแบบนี้ “ทำไมครับ ระตีไม่ดื่มเหรอ” “พี่เห็นระตี เป็นผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ ถึงได้ชวนไปดื่ม” หญิงสาวถามเขา “อืม!..พี่ขอโทษครับ ถ้าหากทำให้ระตีโกรธ อันที่จริงก็ไม่เชิงว่าจะชวนไปดื่มหรอกครับ เพียงแค่พี่อยากอยู่ต่อกับระตีเฉย ๆ ” “อืม!..ถ้าไม่เกิน 4 ทุ่ม ก็ได้ค่ะ” “ระตีมีนัดเหรอครับ” น่านนัทธีร์เอ่ยถาม “ไม่มีหรอกค่ะ เพียงแต่ระตีไม่ชอบนอนดึก เฉย ๆ ” “งั้นกิจกรรมยามว่างระตีชอบทำอะไรเหรอครับ พี่จะได้ชวนถูก” “ไม่ตายตัวค่ะ แต่ระตีจะไปดื่มกับพี่ก็ได้” “อื้ม!..วิเศษเลย...ขอบคุณนะครับ” เขายิ้มกว้างขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี เมื่อชวนเธอสำเร็จ รัตติกาลคุยกับเขาอย่างเป็นกันเอง หลังจากทานอาหารเสร็จ น่านนัทธีร์ก็พารัตติกาลไปนั่งดื่มต่อที่ ฟูบาร์ของโรงแรม เสียงเพลงที่เล่นกันสด ๆ เรียกบรรดานักท่องทั้งไทยและเทศได้เป็นอย่างดี หญิงสาวร่างบางในชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวกระโปรงสั้นเหนือเข่าผิวขาวเนียนสะอาดตา เดินเข้ามาในผับกับผู้ชายคนหนึ่งที่เธอก็คุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่าง หญิงสาวข้างกายของเขาดึงดูดสายตาบรรดาหนุ่ม ๆ ได้เป็นอย่างดี เขาเป็นคู่หมั้นของเธอและเขาก็มากับผู้หญิงคนนั้น คนที่เขาอ้างว่าเป็นลูกค้า ตอนนี้เธอเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นชัดเจน เธอไม่ใช่ลูกค้าอย่างที่เขาอ้างเลยแม้แต่หน่อย อันที่จริงบอกเธอตรง ๆ ก็ได้ และก่อนที่เขาจะเห็นเธอ รัตติกาลก็รีบดึงใบหน้าอันหล่อเหล่าของน่านนัทธีร์เข้ามาจูบอย่างหน้าตาเฉย เพื่อให้ศีรษะของเขาบังใบหน้าของเธอเอาไว้ ฉับพลันหัวใจที่มันตายด้านไปก็กลับมามีน้ำหล่อเลี้ยงขึ้นมาอีกครั้ง น่านนัทธีร์ไม่รอช้ารีบประกบริมฝีปากอวบอิ่มนั้นทันที ตั้งแต่เกิดมาเขาก็ไม่เคยถูกชะตากับใครมากขนาดนี้มาก่อน จนได้มาพบกับรัตติกาล พอติณณภพพาผู้หญิงคนนั้นเดินผ่านไป เธอก็รีบผลักเขาออก แต่น่านนัทธีร์นั้นก็ไม่ยอมขยับ เธอทั้งทุบทั้งตี แต่เขากลับไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย แถมยังบดริมฝีปากอวบอิ่มของเธอแรงขึ้นกว่าเดิม จนพอใจแล้วเขาถึงยอมปล่อย ก่อนจะเอ่ยถามถึงสาเหตุที่เธอกระทำกับเขา “ระตีมาจูบพี่ก่อน แล้วพอพี่จูบระตีบ้าง ระตีต่อต้านพี่ทำไมครับ” “ระตีแค่อยากจูบพี่ แต่พี่กับดันลิ้นเข้ามา” เธอต่อว่าเขากลับ “พี่ขอโทษ!..ก็พี่ไม่รู้นี่น่า” “งั้นพี่ขอจูบระตีอีกหน่อยได้มั้ย” “แค่จูบนะคะ ห้ามสอดลิ้น” “ครับ” รัตติกาลไม่กล้าลืมตามองได้แต่หลับตาปี๋ กัดฟันไว้แน่น ไม่ให้เขาเอาลิ้นเข้ามา จนเธอแทบหายใจไม่ออกและประท้วงเขาด้วยการทุบไปที่อกแกร่งสองสามที เขาจึงปล่อยเธออีกครั้ง “หื่อ!!.. เอาจริง ๆ พี่เนี่ยก็หื่นเหมือนกันนะคะ” “พี่จะหื่นเฉพาะคนสวย ๆ เท่านั้นแหละครับ” “ถามจริงพี่มีแฟนมั้ยคะ” “เคยมีครับ แต่เลิกกันนานแล้ว” “โอเคค่ะ ระตีถามแค่นี้แหละ ไม่อยากมีโจทก์เยอะ” เธอไม่อยากถามถึงเรื่องส่วนตัวของเขามากนัก เพราะกลัวว่าตัวเองก็จะต้องเล่าเรื่องส่วนตัวของเธอให้เขาฟังเช่นกัน น่านนัทธีร์เลื่อนมือมากอดเอวบางเอาไว้แล้วลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง ทำให้รัตติกาลสะดุ้งสุดตัว ก่อนที่น่านนัทธีร์จะล้วงมือเข้าไปในชุดเดรสของเธออย่างถือวิสาสะ “อย่ารุ่มร่ามกับระตีสิคะ” รัตติกาลพยายามผลักร่างสูงแต่ก็ไม่สำเร็จมือหนาลูบไล้แผ่นหลังเรียบเนียน ก่อนที่ริมฝีปากจะบดเคล้าคลึงริมฝีปากอวบอิ่มนั้นอีกครั้ง เขาล้วงไปทางด้านหลังก่อนจะปลดตะขอเสื้อชั้นในของเธอออก น่านนัทธีร์ลูบไล้ไปเรื่อย ๆ ร่างเธอสั่นสะท้านเมื่อมือหนาเลื่อนต่ำลงไปถึงสะโพก แล้วหญิงสาวก็ร้องครางออกมา “พอเถอะค่ะพี่..เดี๋ยวใครมาเห็น” “ตรงนี้มุมมืดครับ ไม่มีใครเห็นหรอก” “ไม่ค่ะ..พี่!!! ระตีให้พี่แค่จูบเองนะ แต่พี่เล่นปลดตะขอเสื้อใน” หญิงสาวต่อว่าเป็นชุด “พี่ขอโทษครับ พอดีพี่ห้ามใจเอาไว้ไม่อยู่ อย่าโกรธพี่เลยนะ” เขาง้อเธอ และจังหวะนั้นก็มีเพลงช้าบรรเลงพอดี น่านนัทธีร์จึงง้อเธอด้วยการชวนไปเต้นรำ พอมาถึงที่ฟอร์เต้นรำเขาก็โอบเอวคอดกิ่วของเธอเอาไว้ ทั้งคู่เต้นด้วยกันไปสักพัก รัตติกาลก็จำซบที่ไหล่กว้างของชายหนุ่มเพราะกลัวใครบางคนจะเห็น “พี่รีบพาระตีกลับเถอะค่ะ” เธอใจคอไม่ค่อยดีเมื่อเห็นคู่หมั้นหนุ่ม “ทำไมเหรอ ระตีเจอใครในนี้งั้นเหรอ ถ้าให้พี่เดานะ พี่ว่าผู้ชายที่นั่งโต๊ะอยู่ฝากนู้น” “พี่ธีร์รีบพาระตีกลับเถอะค่ะ ระตีไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” “งั้นระตีดื่มไวน์ให้แก้วนี้ให้หมดก่อน แล้วก็ไปเต้นรำกับพี่อีกสักเพลงสองเพลง พี่รับรองว่าเค้าไม่เห็นระตีแน่นอน” น่านนัทธีร์เอ่ยขึ้นเมื่อปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD