ดวงจันทร์ที่เอื้อมไม่ถึง

1005 Words
ใบหน้าหล่ออมยิ้มราวพบเรื่องถูกใจ รู้ว่าแม่ต้องการสะใภ้ แต่เขาจะไม่จนมุม “ไม่ยอมดอกครับ นอกจากว่าผมจะถูกใจหล่อน และหล่อนก็ถูกใจผมด้วย แต่ผมเห็นด้วยนะครับหากคุณป้าจะนัดแนะคุณหนูให้มาพบกับผมในงานฤดูหนาว เพราะไม่ว่าผมจะพึงใจหล่อนหรือว่าหล่อนพึงใจผม ก็จะไม่เป็นข้อครหาทางฝ่ายหญิง ลางทีทั้งผมและหล่อนอาจพบคนที่ถูกใจในงานก็ย่อมได้” แม่ส้มจีนหันไปยิ้มให้คุณหญิงชบา เพราะเรื่องราวมีเค้าว่าจะไปได้ดี แต่ก็ยังแยบถาม “แล้วมีคุณหนูเรือนไหนที่คุณพระนายถูกใจไหมล่ะจ๊ะ ป้าจะได้ไปลองเทียบเคียงดู” “คุณป้าคงจะเหนื่อยทีเดียวครับ เพราะผมถูกใจทุกคนที่เข้าใกล้ ถ้าเรียกยืนเรียงแถวได้คงยาวขนาบทางรถไฟตั้งแต่พระนครยันแปดริ้วโน่นล่ะครับ” คนหนุ่มพูดไปยิ้มไป เพราะใจประหวัดไปถึงเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นแล้ว ทว่าคนสูงวัยได้แต่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก คุณหญิงชบาและแม่ส้มจีนมองตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ขอตัวเข้าไปในบ้าน เพื่อผู้ใหญ่จะได้พูดคุยธุระกันได้ตามสบาย “เป็นอย่างนี้แหละค่ะคุณพี่ แล้วจะไม่ให้ฉันห่วงได้อย่างไรกัน พ่อทองเจ้าชู้เหลือเกิน” คุณหญิงชบาพูดเสียงเนือยพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ “แต่ฉันไม่คิดอย่างคุณหญิงนะคะ” “อ้าว... ทำไมเล่าคะคุณพี่ แล้วคุณพี่คิดอย่างไร” “ก็คราแรกที่ได้ฟังคุณหญิงเล่ากับกิตติศัพท์ที่ฉันได้รู้มาบ้าง ฉันก็ว่าคุณพระนายทองคงจะเจ้าชู้ประตูดินจริงอย่างที่คนเขาร่ำลือ แต่พอมาเจอตัว ฉันว่าไม่นะคะ” “ไม่อย่างไรคะคุณพี่” “ก็แหม... คุณหญิงคะ ผู้ชายเจ้าชู้ที่ไหนเล่าคะ จะออกตัวว่าเจ้าชู้ แบบคุณพระนายเนี่ยไม่เรียกว่าเจ้าชู้ดอกค่ะ ต้องเรียกว่ายังไม่เจอคนที่ใช่มากกว่า” “คนที่ใช่...” “ค่ะ คนที่ใช่ คนที่อยากให้เป็นแม่ของลูก ดูไปแล้วคุณพระนายก็ถอดแบบท่านเจ้าคุณมาไม่ผิดเพี้ยนเลยนะคะ ผู้ชายแบบนี้ คุณหญิงน่าจะทราบว่ารักลูกรักเมียแค่ไหน” คุณหญิงชบาสีหน้าดีขึ้นเมื่อนึกถึงท่านเจ้าคุณผู้เป็นสามีเมื่อครั้งแรกที่พบหน้า ในยามนั้นหล่อนไม่ปลงรักด้วยโดยง่าย เพราะท่านเองก็มีกิตติศัพท์เรื่องเจ้าชู้ไม่เบา แต่เมื่อพานพบกันหลายครั้ง คุณหญิงจึงรู้ว่าไม่ใช่ เป็นตามคำที่แม่ส้มจีนพูดทุกอย่าง ‘แค่ยังไม่พบคนที่ใช่’ ท่านเจ้าคุณครานั้นด้วยรูปหล่ออัธยาศัยดีจึงทำให้ดูเป็นชายเจ้าชู้ประตูดินไปเสีย “แต่ฉันก็ยังไม่วางใจดอกค่ะคุณพี่ จนกว่าพ่อทองจะพบคนที่ใช่ คุณพี่ช่วยฉันด้วยนะคะ พ่อทองเปิดช่องให้แล้ว จะต้องมีคุณหนูสักเรือนสิคะที่พ่อทองจะปลงใจ” “อย่างนั้นสัปดาห์หน้าฉันจะมาแจ้งข่าวนะคะ วันพรุ่งต้องไปแปดริ้ว กว่าจะกลับก็อีกหลายวัน” “ฝากความคิดถึงถึงแม่สายพิณด้วยนะคะ ลูกๆ คงโตกันหมดแล้ว” “ลูกชายทั้งสี่คนน่ะโตเอาการเอางานแยกโรงสีจากเถ้าแก่ไปหมดแล้วค่ะ จะเหลือก็แค่แม่คนเล็กที่โตแต่ตัว” “แม่สายพิณมีลูกสาวด้วยหรือคะ ฉันคิดว่ามีแค่ลูกชายสี่คนเสียอีก” “มีค่ะ ลูกหลง ห่างจากลูกชายคนเล็กเป็นสิบปี เถ้าแก่ก็เลยทั้งรักทั้งหลง และที่ฉันต้องลงไปแปดริ้ว ก็เพราะแม่สายพิณส่งโทรเลขให้ลงไปรับลูกสาวหล่อนมาอยู่ด้วย” “ด่วนถึงขนาดต้องส่งโทรเลขเชียวหรือคะ” “ด่วนสิคะ กระโดกกระเดกเป็นม้าดีดกะโหลก แม่สายพิณทานไม่ไหวแล้วค่ะ เถ้าแก่ลิ้มก็ตามใจลูกสาวเหลือเกิน นี่เกริ่นไว้จะให้นำไปฝากรับใช้เจ้านาย แต่ในยามนี้จะมีวังไหนที่รับนางข้าหลวงเล่าคะ ฉันก็ได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้ คงต้องพามาอยู่ด้วยกันก่อน แล้วค่อยคิดอ่านอีกทีน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าแม่ลูกจันทร์จะฤทธิ์มากเพียงไหน” “ชื่อลูกจันทร์หรือคะ ชื่อไพเราะนัก” “ชื่อไพเราะ หน้าตาก็จิ้มลิ้มพริ้มเพราค่ะ แถมยังเก่งงานค้าตามเถ้าแก่ แต่แม่สายพิณไม่ชอบดอกนะคะ กิริยากระโดกกระเดกเกินงามไปมากเยี่ยงนี้ คงหาคนดีๆ มาแต่งด้วยยาก” โรงสีข้าวเถ้าแก่ลิ้ม “อัดเช้ย!” เสียงจามหลายครั้งทำให้ดวงตาคมเข้มยาวรีตวัดมองคนร่างเล็กที่ยืนแจกไม้ติ้วให้จับกังแบกข้าวสารขึ้นเรือ ก่อนจะก้มหน้าจัดการกับบัญชีขายข้าวประจำเดือนต่อ ทว่าเสียงจามก็ดังต่อเนื่องจน ‘เก้า’ อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองอีกครั้ง ดวงตาคมเข้มมีแววอ่อนแสงยามลอบมอง ‘คุณหนูลูกจันทร์’ หญิงสาวผู้เปรียบดั่งดวงจันทร์ที่เขาไม่มีวันเอื้อมถึง ทำได้แต่แอบมองยามคุณหนูเผลอไผลหรือในยามที่ไม่มีใครสังเกตเท่านั้น ใบหน้าจิ้มลิ้มเปลี่ยนเป็นหน้ามุ่ย พลางขยี้นิ้วที่ปลายจมูกก่อนจะจามติดๆ อีกหลายครั้ง แต่ดวงตากลมโตสุกสกาวดุจดาวบนฟ้าก็ยังคงมองคนงานแบกข้าวสารเดินขึ้นกระดานที่ไม้พาดลงเรือ เพื่อไม่ให้พลาดหากจะมีใครสักคนที่ลืมมารับไม้ติ้ว เพราะหากเป็นเช่นนั้นจับกังคนนั้นก็จะได้ค่าแรงไม่คุ้มกับหยาดเหงื่อที่สูญเสียไป เพราะถูกสอนให้มีความเป็นธรรมและซื่อสัตย์ต่ออาชีพที่ทำ คุณหนูจึงต้องถี่ถ้วนในการตรวจตรา ทั้งเพื่อกิจการและเพื่อคนงาน ด้วยหากคนงานกินไม่อิ่มอยู่ไม่สุข กิจการงานโรงสีก็คงกินอิ่มและสุขยาก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD