Chapter​ 7 ลมพัดหวน​

1788 Words
Chapter​ 7 ลมพัดหวน​ ในห้องนอนที่มีเพียงแสงไฟสลัวสาดส่อง​ เสียงครางกระเส่าเงียบไปแล้ว​ มีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอจากร่างที่ผล็อยหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย​ ร่างนั้นหลับสนิทดำดิ่งลึกสู่ห้วงฝัน​ หลังจากได้เสพสุขกับกายสาวจนเต็มอิ่ม หากแต่ปานตะวันไม่อาจข่มตาหลับ เหลือบมองคนข้างกาย​ หล่อนค่อย​ ๆ​ ยกแขนที่พาดกอดเกี่ยวร่างของตนเอาไว้ออกไป​ ยันกายลุกนั่งอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้การขยับของตนต้องปลุกเขาขึ้นมา​ หล่อนพาร่างลงจากเตียงอย่างเงียบเชียบ​ หยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปแอบเปิดในห้องน้ำ...ความมีอิทธิพลของเขาทำให้หล่อนกลัว​ ผู้ชายคนนี้ทำอะไรก็ได้หากระแคะระคายว่าหล่อนกำลังทำตัวนอกใจไปหาใครอีกคน หยาดน้ำตาหยดลงหน้าจอเมื่อเลื่อนไปเจอข่าวว่าภีมพลกำลังจะแต่งงาน​ ความเจ็บปวดกินลึกราวถูกมีด แหลมคมตวัดลงบนใจที่ยังเก็บเขาไว้จนเต็มพื้นที่ในหัวใจ...ไม่เคยมีสักวันที่จะไม่คิดถึงคะนึงหา​ คิดถึงเขา​ คิดถึงลูก คิดถึงคืนวันเก่า​ ๆ​ หากแต่เพราะความจำเป็นบางอย่างทำให้ต้องจากมา หล่อนไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจเช่นนี้...ระหว่างความรักกับความกตัญญู​ มันช่างเป็นทางเลือกที่ปวดหัวใจเหลือเกิน "พี่เหนือลืมเอิงได้จริง​ ๆ​ เหรอคะ​ ฮือ​ ๆ" หล่อนตีอกชกตัวฟูมฟายท่ามกลางความเงียบงัน​ เสียงสะอื้นดังแผ่วอยู่ในห้องน้ำที่ปิดประตูมิดชิด​ หล่อนไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร​ เหตุใดจึงทำให้เขารักและลืมหล่อนได้ลง​ เขาคงรักผู้หญิงคนนั้นมาก​ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมทิ้งความโสดแต่งงาน​ การร่วมชีวิตกับใครสักคนนั้นไม่ง่าย​ และใจเขาได้เลือกแล้ว​ เลือกคนที่จะมาเป็นแม่ของลูกแทนที่เธอ เหมือนความหวงจะแทรกซึมลึก เขาเป็นพ่อของลูก ใครก็ไม่มีสิทธิ์ได้ไปยืนตรงนั้น ตำแหน่งที่หล่อนเป็นคนเลือกที่จะทิ้งมา ความคิดถึงคือแรงขับ​ที่ทำให้ต้องออกอุบาย​ จะ โกหกคนข้างกายอย่างไร​ อยากหาทางแอบไปหาภีมพลเหลือเกิน​ หล่อนคิดถึงลูกที่ทิ้งมาตั้งแต่ตัวยังแดง​ ๆ​ วันนี้รู้สึกผิดจนกินน้ำตาต่างข้าวทุกคืนวัน​ อยากกอดอยากหอมใจจะขาด...ทรมานเหลือเกินกับการเฝ้ามองดูเขาเติบโตผ่านโลกออนไลน์​ ภาพถ่ายที่ภีมพลลงไว้​ หล่อนเข้ามาเปิดดูทุกวัน...เขาเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงลูกของหล่อนมาเป็นอย่างดี คือกำลังใจเพียงหนึ่งเดียวที่ช่วยต่อลมหายใจ​ ให้ผ่านคืนวันแสนโหดร้ายมาได้​ ผ่านความทรมานกับการต้องอยู่กินกับคนที่ไม่ได้รัก เขาได้ตัวหล่อนมาเพราะอำนาจเงิน ยามที่เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วค่อย ๆ ล้มตัวลงนอน หล่อนตัดสินใจแล้ว จะต้องหาทางไปพบหน้าลูกให้ได้ แม้ไปแล้วจะเสี่ยงต่อการถูกขับไล่ไส่ส่งกลับมาก็ตามที "บ้าไปแล้วไอ้เหนือ​ ทำไมมึงไม่จำ​ ไม่ดูเคสกูเป็นตัว อย่าง​ คิดอะไรอยู่วะ" จอมทัพโวยวายออกมาคัดค้านหัวชนฝา​ จากการที่ได้รู้ว่าเพื่อนจะแต่งงาน​ และเพื่อนเล่าทุกอย่างให้เขาฟังแล้ว​ ว่าปานตะวันกลับมา...และความสัมพันธ์ก็เกิดขึ้น​ จนเป็นสาเหตุให้ถูกจับแต่งงาน มีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่ได้บอก​ เหตุใดจึงยอมแต่งงาน​ ก็เพราะความแค้นสุมใจ​ เขารอวันเอาคืน "กูก็แค่​ อยากให้ลูกมีแม่...ก็เท่านั้น" จอมทัพถอนหายใจเฮือกใหญ่ ​ เขากำลังคิดว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ปานตะวัน​ แล้วเพื่อนเขาจะรับผิดชอบอย่างไร "ในเมื่อเธอบอกว่าเธอไม่ใช่เอิง บางทีเธออาจจะไม่ใช่จริง​ ๆ​ ก็ได้นะไอ้เหนือ" "ไม่ใช่แล้วไง เพราะถึงอย่างไรกูก็ทำลงไปแล้ว ไม่ดีเหรอวะ​ ก็เหมือนกับความรับผิดชอบ​ ทำแล้วก็ต้องยอมรับ" "สรุปมึงอยากแต่งงานกับใครกันแน่​ เอิงหรือเอย" จอมทัพเริ่มสับสน​ เพื่อนเขาจะแต่งงานกับเมียเก่า​ โดยที่ทางบ้านไม่มีใครรู้ว่าหล่อนคือใคร​ โดยทุกคนเข้าใจว่าหล่อนคือจันทร์เจ้าเอย​ คือผู้หญิงที่ไม่เคยเกี่ยวพันอะไรกันกับภีมพลมาก่อน...เรื่องราวชุลมุนอลหม่าน​ เขากลัวว่าสักวันมันจะมัดคอเพื่อนของเขาเสียเอง หากแต่คนมั่นใจก็ยังยืนยันหัวชนฝา​ เชื่อในความคิดของตัว "เอิงกับเอยก็คือคนเดียวกันนั่นแหละ​ ไม่มีจันทร์เจ้าเอยในโลกนี้​ มีแต่คนที่ชื่อปานตะวัน!" "แล้วทำไมไม่บอกพ่อนายไปว่าเธอเป็นใคร" "ก็เพราะท่านเกลียดเธอ​ ถ้าบอกไปการแต่งงานจะไม่มีวันเกิดขึ้น" จอมทัพลอบผ่อนลมหายใจ...เขารู้แล้ว...แท้จริงเพื่อนยังลืมแม่ของลูกไม่ลง "ที่จริงมึงยังรักเธอ...ไม่อย่างนั้น...ความสัมพันธ์จะไม่มีวันเกิดขึ้น​ อย่าหลอกตัวเองเลยเพื่อน​ ยอมรับมาเถอะว่าอยากคืนดีกับเขา" ภีมพลนิ่งเงียบ...ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา​ เขามั่นใจ​ว่าลืมหล่อนไปจากใจได้แล้ว​ ที่แต่งงานไม่ได้อยากได้หล่อนคืนมา​ มันก็แค่การสนองความคลั่งแค้น​ เขาบอกตัวเองแบบนั้น​ เรื่องระหว่างเขากับปานตะวัน​ จะไม่มีวันลมพัดหวนแน่นอน กลิ่นหอม​ ๆ​ โชยมายามพาตัวเองเข้ามาในบ้าน...ภีมพลเดินไปตามกลิ่นนั้น​ เขากำลังคิดว่าวันนี้ยุพินทำอะไรกิน​ มันเป็นกลิ่นอาหารที่เขาโปรดปราน​ และหล่อนช่างรู้ใจ​ จนต้องเข้าไปดูให้เห็นกับตา "ป้าพิน..." ".....!" ชายหนุ่มต้องชะงัก​ เมื่อในครัวไม่มียุพิน​ แต่กลับเป็นคนที่ใจชิงชัง "เอิงทำกับข้าวไว้รอพี่เหนือค่ะ​ ไปอาบน้ำสิคะ​ ​เดี๋ยว จะได้ลงมาทานข้าว" 'เอิง...เหรอ' เขาเอียงหน้ามอง​อย่างแปลกใจ...วันนี้หล่อนมาแปลก​ หล่อนทำดีกับเขาราวกับเตรียมตัวทำหน้าที่เมียที่ดี​ ท่าทีแปลกไปไม่พอ​ ยังแทนตัวเองว่าเป็นปานตะวันแบบเต็มปาก​ มันทำให้เขากระตุกยิ้มเยาะ​ เมื่อสุดท้ายหล่อนก็เผยตัวตนออกมา "เมื่อกี้เธอหลุดปากแทนตัวเองว่าเอิง...หึ...เธอยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าเธอเป็นใคร" จันทร์เจ้าเอยมองสบตากับแววตาเข้มที่จับจ้อง หล่อนใช้ยิ้มหวานเข้าสู้ สูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึก เพราะในเมื่อคิดจะเล่มเกมกับเขาแล้วก็ต้องไปให้สุดทาง เป้าหมายคือหล่อนต้องชนะเท่านั้น คนพ่ายแพ้คือเขาที่ต้องเป็นฝ่ายเจ็บปวดจากการกระทำของตัวเอง หล่อนตีหน้าเศร้า ค่อย ๆ เดินมาประจันหน้ากับคนที่ยืนขวางทางออกเอาไว้ รีดน้ำตาให้รินไหล ทำในสิ่งที่ภีมพลไม่คาดฝัน ด้วยการโผเข้ากอดเขาเอาไว้จนแน่น ใบหน้าสวยแนบกับแผงอกกว้าง สะอื้นสารภาพออกมา "เอิงผิดไปแล้วค่ะ เอิงขอโทษ ถ้าพี่เหนือจะไม่ใจร้าย เกินไป ให้อภัยเอิงด้วยนะคะ ฮือ ๆ" "....." เขาไปไม่เป็นเมื่อหล่อนมาเหนือเมฆ หยาดน้ำตาและแววตาออดอ้อนเกือบทำให้เขาใจอ่อน เขาชะงักสองแขนที่กำลังจะโอบกอดตอบเพราะความลืมตัว...เสียงกระซิบสั่ง อย่าใจอ่อนกับคนที่เคยทำให้เจ็บเจียนตายเป็นอันขาด ร่างที่สั่นตามแรงสะอื้นถูกผลักออกจากตัวราวรังเกียจ ส่งผ่านความเกลียดชังทางแววตาที่จับจ้องมองหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา "หยุด! อย่าทำแบบนี้ เพราะมันจะไม่ได้ผลอีกต่อไป" หล่อนยังคงสะอื้น มองเขาอย่างขอความเมตตา "เอิงต้องทำยังไงคะพี่เหนือถึงจะหายโกรธ ให้โอกาสเอิงได้แก้ตัว" แววตาเข้มหรี่มอง...ไม่มีคำพูดใด ๆ เล็ดลอดออกมาจากปากของเขาอีก ชายหนุ่มหันหลังหนีก่อนที่จะใจอ่อนไปกับหล่อน เดินกลับไปทางเก่า ทิ้งจันทร์เจ้าเอยให้ยืนคว้างอยู่เพียงลำพัง ตลอดทางเดินที่พาไปสู่ตัวลิฟต์ ใจเขาฟุ้งซ่านสับสน หนัก...สรุปเขายังรักหล่อน ยังไม่ลืมคืนวันเก่า ๆ เพราะไม่อย่างนั้นใจเขาคงจะไม่หวั่นไหวไปกับท่าทีออดอ้อนนั่น และเขาชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่า ที่ยอมแต่งงานด้วยเพราะต้องการแก้แค้นเอาคืน หรือเพราะอยากให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมกันแน่ ความมืดโรยตัวมาห่มคลุมทั่วทุกพื้นที่ ไฟในห้อง นอนของภีมพลยังคงส่องสว่าง ในช่วงเวลาแห่งความสุขกับเขาและลูกสาว...เสียงเคาะประตูห้องดังขัดห้วงอารมณ์ เขาถอนหายใจพลางลุกเดินไปเปิดประตู เพียงบานประตูถูกกระชากออก เขาต้องชะงักนิ่งงัน เมื่อไม่ใช่บิดาและยุพิน แต่เป็นคนที่พยายามบอกตัวเองว่าชิงชังหล่อนเหลือเกิน "เธอมาทำไม!" แววตาเข้มหลุบมองถาดอาหารที่หล่อนถือมาด้วย... แม้เขาจะมีท่าทีไม่ต้อนรับ หากแต่หล่อนกลับคลี่ยิ้มมาให้คล้ายกับไม่ยี่หระต่อสายตาขับไล่คู่นั้น "เพราะพี่เหนือไม่ลงไปทางข้าว เอิงกลัวว่าจะ...อ๊ะ!" เพล้ง! เสียงแก้วน้ำหล่นแตกเกลื่อนพื้น เมื่อใหญ่ปัดถาดอาหารในมือจันทร์เจ้าเอยจนกระเด็นหลุดจากมือ...หล่อนยืนขบกรามแน่นสองมือกำเข้าหากัน แววตาสั่นระริกจับจ้องมองคนใจร้าย ในขณะที่เขาเองก็ยังจ้องมองเขม็ง "อย่าพยายามเลยเอิง จะบอกอะไรให้นะ ที่พี่ยอมแต่งงานกับเธอก็เพราะความรับผิดชอบเท่านั้น เธออย่าคิดว่าจะอาศัยคุณพ่อมาทำอะไร ๆ ให้มันเหมือนเดิมได้ เธอหลอกทุกคนได้ แต่หลอกพี่ไม่ได้หรอกนะ!" "แต่เอิงคิดถึงลูก พี่เหนือจะกีดกันแม่ลูกไม่ให้ใกล้ชิดไม่ได้นะคะ!" "สมใจเธอแล้วสิ ที่แผนของเธอสำเร็จ แต่..ก็ได้แค่นี้แหละ เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะพี่ไม่ได้รักเธอแล้วยังไงล่ะ!" ปึง! เสียงปิดประตูใส่หน้าจนจันทร์เจ้าเอยสะดุ้งเฮือก... ท่ามกลางความเงียบงัน แววตาของหล่อนร้อนผ่าวปวดหนึบ ได้แต่บอกตัวเองว่าจะต้องอดทน ยามก้มลงเก็บจานชามและเศษแก้วที่กระจายเกลื่อนพื้น ท่ามกลางม่านน้ำตาที่พร่าเลือน หล่อนบดกรามจนเป็นสันนูน คิดอย่างมีความ หวัง จะต้องมีสักวันที่เป็นของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD