Chapter 7
ลมพัดหวน
ในห้องนอนที่มีเพียงแสงไฟสลัวสาดส่อง เสียงครางกระเส่าเงียบไปแล้ว มีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอจากร่างที่ผล็อยหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย ร่างนั้นหลับสนิทดำดิ่งลึกสู่ห้วงฝัน หลังจากได้เสพสุขกับกายสาวจนเต็มอิ่ม
หากแต่ปานตะวันไม่อาจข่มตาหลับ เหลือบมองคนข้างกาย หล่อนค่อย ๆ ยกแขนที่พาดกอดเกี่ยวร่างของตนเอาไว้ออกไป ยันกายลุกนั่งอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้การขยับของตนต้องปลุกเขาขึ้นมา หล่อนพาร่างลงจากเตียงอย่างเงียบเชียบ หยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปแอบเปิดในห้องน้ำ...ความมีอิทธิพลของเขาทำให้หล่อนกลัว ผู้ชายคนนี้ทำอะไรก็ได้หากระแคะระคายว่าหล่อนกำลังทำตัวนอกใจไปหาใครอีกคน
หยาดน้ำตาหยดลงหน้าจอเมื่อเลื่อนไปเจอข่าวว่าภีมพลกำลังจะแต่งงาน ความเจ็บปวดกินลึกราวถูกมีด
แหลมคมตวัดลงบนใจที่ยังเก็บเขาไว้จนเต็มพื้นที่ในหัวใจ...ไม่เคยมีสักวันที่จะไม่คิดถึงคะนึงหา คิดถึงเขา คิดถึงลูก คิดถึงคืนวันเก่า ๆ หากแต่เพราะความจำเป็นบางอย่างทำให้ต้องจากมา หล่อนไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจเช่นนี้...ระหว่างความรักกับความกตัญญู มันช่างเป็นทางเลือกที่ปวดหัวใจเหลือเกิน
"พี่เหนือลืมเอิงได้จริง ๆ เหรอคะ ฮือ ๆ"
หล่อนตีอกชกตัวฟูมฟายท่ามกลางความเงียบงัน เสียงสะอื้นดังแผ่วอยู่ในห้องน้ำที่ปิดประตูมิดชิด หล่อนไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เหตุใดจึงทำให้เขารักและลืมหล่อนได้ลง เขาคงรักผู้หญิงคนนั้นมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมทิ้งความโสดแต่งงาน การร่วมชีวิตกับใครสักคนนั้นไม่ง่าย และใจเขาได้เลือกแล้ว เลือกคนที่จะมาเป็นแม่ของลูกแทนที่เธอ
เหมือนความหวงจะแทรกซึมลึก เขาเป็นพ่อของลูก ใครก็ไม่มีสิทธิ์ได้ไปยืนตรงนั้น ตำแหน่งที่หล่อนเป็นคนเลือกที่จะทิ้งมา
ความคิดถึงคือแรงขับที่ทำให้ต้องออกอุบาย จะ
โกหกคนข้างกายอย่างไร อยากหาทางแอบไปหาภีมพลเหลือเกิน หล่อนคิดถึงลูกที่ทิ้งมาตั้งแต่ตัวยังแดง ๆ วันนี้รู้สึกผิดจนกินน้ำตาต่างข้าวทุกคืนวัน อยากกอดอยากหอมใจจะขาด...ทรมานเหลือเกินกับการเฝ้ามองดูเขาเติบโตผ่านโลกออนไลน์ ภาพถ่ายที่ภีมพลลงไว้ หล่อนเข้ามาเปิดดูทุกวัน...เขาเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงลูกของหล่อนมาเป็นอย่างดี
คือกำลังใจเพียงหนึ่งเดียวที่ช่วยต่อลมหายใจ ให้ผ่านคืนวันแสนโหดร้ายมาได้ ผ่านความทรมานกับการต้องอยู่กินกับคนที่ไม่ได้รัก เขาได้ตัวหล่อนมาเพราะอำนาจเงิน
ยามที่เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วค่อย ๆ ล้มตัวลงนอน หล่อนตัดสินใจแล้ว จะต้องหาทางไปพบหน้าลูกให้ได้ แม้ไปแล้วจะเสี่ยงต่อการถูกขับไล่ไส่ส่งกลับมาก็ตามที
"บ้าไปแล้วไอ้เหนือ ทำไมมึงไม่จำ ไม่ดูเคสกูเป็นตัว อย่าง คิดอะไรอยู่วะ"
จอมทัพโวยวายออกมาคัดค้านหัวชนฝา จากการที่ได้รู้ว่าเพื่อนจะแต่งงาน และเพื่อนเล่าทุกอย่างให้เขาฟังแล้ว ว่าปานตะวันกลับมา...และความสัมพันธ์ก็เกิดขึ้น จนเป็นสาเหตุให้ถูกจับแต่งงาน
มีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่ได้บอก เหตุใดจึงยอมแต่งงาน ก็เพราะความแค้นสุมใจ เขารอวันเอาคืน
"กูก็แค่ อยากให้ลูกมีแม่...ก็เท่านั้น"
จอมทัพถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขากำลังคิดว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ปานตะวัน แล้วเพื่อนเขาจะรับผิดชอบอย่างไร
"ในเมื่อเธอบอกว่าเธอไม่ใช่เอิง บางทีเธออาจจะไม่ใช่จริง ๆ ก็ได้นะไอ้เหนือ"
"ไม่ใช่แล้วไง เพราะถึงอย่างไรกูก็ทำลงไปแล้ว ไม่ดีเหรอวะ ก็เหมือนกับความรับผิดชอบ ทำแล้วก็ต้องยอมรับ"
"สรุปมึงอยากแต่งงานกับใครกันแน่ เอิงหรือเอย"
จอมทัพเริ่มสับสน เพื่อนเขาจะแต่งงานกับเมียเก่า โดยที่ทางบ้านไม่มีใครรู้ว่าหล่อนคือใคร โดยทุกคนเข้าใจว่าหล่อนคือจันทร์เจ้าเอย คือผู้หญิงที่ไม่เคยเกี่ยวพันอะไรกันกับภีมพลมาก่อน...เรื่องราวชุลมุนอลหม่าน เขากลัวว่าสักวันมันจะมัดคอเพื่อนของเขาเสียเอง
หากแต่คนมั่นใจก็ยังยืนยันหัวชนฝา เชื่อในความคิดของตัว
"เอิงกับเอยก็คือคนเดียวกันนั่นแหละ ไม่มีจันทร์เจ้าเอยในโลกนี้ มีแต่คนที่ชื่อปานตะวัน!"
"แล้วทำไมไม่บอกพ่อนายไปว่าเธอเป็นใคร"
"ก็เพราะท่านเกลียดเธอ ถ้าบอกไปการแต่งงานจะไม่มีวันเกิดขึ้น"
จอมทัพลอบผ่อนลมหายใจ...เขารู้แล้ว...แท้จริงเพื่อนยังลืมแม่ของลูกไม่ลง
"ที่จริงมึงยังรักเธอ...ไม่อย่างนั้น...ความสัมพันธ์จะไม่มีวันเกิดขึ้น อย่าหลอกตัวเองเลยเพื่อน ยอมรับมาเถอะว่าอยากคืนดีกับเขา"
ภีมพลนิ่งเงียบ...ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา เขามั่นใจว่าลืมหล่อนไปจากใจได้แล้ว ที่แต่งงานไม่ได้อยากได้หล่อนคืนมา มันก็แค่การสนองความคลั่งแค้น เขาบอกตัวเองแบบนั้น เรื่องระหว่างเขากับปานตะวัน จะไม่มีวันลมพัดหวนแน่นอน
กลิ่นหอม ๆ โชยมายามพาตัวเองเข้ามาในบ้าน...ภีมพลเดินไปตามกลิ่นนั้น เขากำลังคิดว่าวันนี้ยุพินทำอะไรกิน มันเป็นกลิ่นอาหารที่เขาโปรดปราน และหล่อนช่างรู้ใจ จนต้องเข้าไปดูให้เห็นกับตา
"ป้าพิน..."
".....!"
ชายหนุ่มต้องชะงัก เมื่อในครัวไม่มียุพิน แต่กลับเป็นคนที่ใจชิงชัง
"เอิงทำกับข้าวไว้รอพี่เหนือค่ะ ไปอาบน้ำสิคะ เดี๋ยว
จะได้ลงมาทานข้าว"
'เอิง...เหรอ'
เขาเอียงหน้ามองอย่างแปลกใจ...วันนี้หล่อนมาแปลก หล่อนทำดีกับเขาราวกับเตรียมตัวทำหน้าที่เมียที่ดี ท่าทีแปลกไปไม่พอ ยังแทนตัวเองว่าเป็นปานตะวันแบบเต็มปาก มันทำให้เขากระตุกยิ้มเยาะ เมื่อสุดท้ายหล่อนก็เผยตัวตนออกมา
"เมื่อกี้เธอหลุดปากแทนตัวเองว่าเอิง...หึ...เธอยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าเธอเป็นใคร"
จันทร์เจ้าเอยมองสบตากับแววตาเข้มที่จับจ้อง หล่อนใช้ยิ้มหวานเข้าสู้ สูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึก เพราะในเมื่อคิดจะเล่มเกมกับเขาแล้วก็ต้องไปให้สุดทาง เป้าหมายคือหล่อนต้องชนะเท่านั้น คนพ่ายแพ้คือเขาที่ต้องเป็นฝ่ายเจ็บปวดจากการกระทำของตัวเอง
หล่อนตีหน้าเศร้า ค่อย ๆ เดินมาประจันหน้ากับคนที่ยืนขวางทางออกเอาไว้ รีดน้ำตาให้รินไหล ทำในสิ่งที่ภีมพลไม่คาดฝัน ด้วยการโผเข้ากอดเขาเอาไว้จนแน่น ใบหน้าสวยแนบกับแผงอกกว้าง สะอื้นสารภาพออกมา
"เอิงผิดไปแล้วค่ะ เอิงขอโทษ ถ้าพี่เหนือจะไม่ใจร้าย
เกินไป ให้อภัยเอิงด้วยนะคะ ฮือ ๆ"
"....."
เขาไปไม่เป็นเมื่อหล่อนมาเหนือเมฆ หยาดน้ำตาและแววตาออดอ้อนเกือบทำให้เขาใจอ่อน เขาชะงักสองแขนที่กำลังจะโอบกอดตอบเพราะความลืมตัว...เสียงกระซิบสั่ง อย่าใจอ่อนกับคนที่เคยทำให้เจ็บเจียนตายเป็นอันขาด
ร่างที่สั่นตามแรงสะอื้นถูกผลักออกจากตัวราวรังเกียจ ส่งผ่านความเกลียดชังทางแววตาที่จับจ้องมองหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
"หยุด! อย่าทำแบบนี้ เพราะมันจะไม่ได้ผลอีกต่อไป"
หล่อนยังคงสะอื้น มองเขาอย่างขอความเมตตา
"เอิงต้องทำยังไงคะพี่เหนือถึงจะหายโกรธ ให้โอกาสเอิงได้แก้ตัว"
แววตาเข้มหรี่มอง...ไม่มีคำพูดใด ๆ เล็ดลอดออกมาจากปากของเขาอีก ชายหนุ่มหันหลังหนีก่อนที่จะใจอ่อนไปกับหล่อน เดินกลับไปทางเก่า ทิ้งจันทร์เจ้าเอยให้ยืนคว้างอยู่เพียงลำพัง
ตลอดทางเดินที่พาไปสู่ตัวลิฟต์ ใจเขาฟุ้งซ่านสับสน
หนัก...สรุปเขายังรักหล่อน ยังไม่ลืมคืนวันเก่า ๆ เพราะไม่อย่างนั้นใจเขาคงจะไม่หวั่นไหวไปกับท่าทีออดอ้อนนั่น และเขาชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่า ที่ยอมแต่งงานด้วยเพราะต้องการแก้แค้นเอาคืน หรือเพราะอยากให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมกันแน่
ความมืดโรยตัวมาห่มคลุมทั่วทุกพื้นที่ ไฟในห้อง นอนของภีมพลยังคงส่องสว่าง ในช่วงเวลาแห่งความสุขกับเขาและลูกสาว...เสียงเคาะประตูห้องดังขัดห้วงอารมณ์ เขาถอนหายใจพลางลุกเดินไปเปิดประตู
เพียงบานประตูถูกกระชากออก เขาต้องชะงักนิ่งงัน เมื่อไม่ใช่บิดาและยุพิน แต่เป็นคนที่พยายามบอกตัวเองว่าชิงชังหล่อนเหลือเกิน
"เธอมาทำไม!"
แววตาเข้มหลุบมองถาดอาหารที่หล่อนถือมาด้วย...
แม้เขาจะมีท่าทีไม่ต้อนรับ หากแต่หล่อนกลับคลี่ยิ้มมาให้คล้ายกับไม่ยี่หระต่อสายตาขับไล่คู่นั้น
"เพราะพี่เหนือไม่ลงไปทางข้าว เอิงกลัวว่าจะ...อ๊ะ!"
เพล้ง!
เสียงแก้วน้ำหล่นแตกเกลื่อนพื้น เมื่อใหญ่ปัดถาดอาหารในมือจันทร์เจ้าเอยจนกระเด็นหลุดจากมือ...หล่อนยืนขบกรามแน่นสองมือกำเข้าหากัน แววตาสั่นระริกจับจ้องมองคนใจร้าย ในขณะที่เขาเองก็ยังจ้องมองเขม็ง
"อย่าพยายามเลยเอิง จะบอกอะไรให้นะ ที่พี่ยอมแต่งงานกับเธอก็เพราะความรับผิดชอบเท่านั้น เธออย่าคิดว่าจะอาศัยคุณพ่อมาทำอะไร ๆ ให้มันเหมือนเดิมได้ เธอหลอกทุกคนได้ แต่หลอกพี่ไม่ได้หรอกนะ!"
"แต่เอิงคิดถึงลูก พี่เหนือจะกีดกันแม่ลูกไม่ให้ใกล้ชิดไม่ได้นะคะ!"
"สมใจเธอแล้วสิ ที่แผนของเธอสำเร็จ แต่..ก็ได้แค่นี้แหละ เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะพี่ไม่ได้รักเธอแล้วยังไงล่ะ!"
ปึง!
เสียงปิดประตูใส่หน้าจนจันทร์เจ้าเอยสะดุ้งเฮือก...
ท่ามกลางความเงียบงัน แววตาของหล่อนร้อนผ่าวปวดหนึบ ได้แต่บอกตัวเองว่าจะต้องอดทน ยามก้มลงเก็บจานชามและเศษแก้วที่กระจายเกลื่อนพื้น ท่ามกลางม่านน้ำตาที่พร่าเลือน หล่อนบดกรามจนเป็นสันนูน คิดอย่างมีความ หวัง จะต้องมีสักวันที่เป็นของเธอ