Chapter 4
เรื่องเข้าใจผิด (2)
หล่อนปัดมือของเขาออกจากใบหน้า หากแต่ก็ไปไหนไม่ได้ เพราะถูกกักเอาไว้ด้วยสองมือที่ยันไว้กับผนัง
"แกล้งอะไรคะ เอยไม่รู้เรื่อง!"
"จำไม่ได้ใช่มั้ย ได้!"
"อื๊อ!"
หล่อนดิ้นขลุกขลัก สองมือผลักไสอกกว้างเมื่อถูกจู่โจมด้วยจูบแสนดุดันป่าเถื่อน ความร้อนรุ่มบดขยี้จนกลีบปากนุ่มร้าวระบม เจ็บแสบไปทั่วเรียวปากจากสัมผัสแสนหยาบกระด้างจากคนเถื่อนถ่อย
ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ นายจ้างของหล่อนไม่เคยบอกว่ามีผู้ป่วยจิตเวชอาศัยอยู่ร่วมชายคา
"เอยไม่ใช่เมียพี่เหนือ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น ถอยไป!"
เมื่อเป็นอิสระ สองมือจึงผลักไปที่อกกว้างเต็มแรง ผลุนผลันทำท่าจะเปิดประตูออกไปจากห้อง แต่แล้วหล่อนต้องชะงัก เมื่อเขาไวกว่าด้วยการยื่นมือไปกดปุ่มบนแผง วงจรที่ติดอยู่ข้างประตู และมันเป็นสิ่งที่หล่อนไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามีเอาไว้ทำอะไร
".....!"
แววตาคู่สวยเบิกกว้าง ต้องชะงักฝีเท้าผงะถอยหลัง เมื่อจู่ ๆ ก็มีบานประตูลับเลื่อนออกมาขวางหน้ากั้นโลกภายนอก อิสรภาพของหล่อนสูญสิ้น บานประตูอัตโนมัติขังหล่อนเอาไว้ในครัวเพียงลำพังกับเขาสองคน
หล่อนขนลุก ใจหล่นวูบ เมื่อเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอดังอยู่ด้านหลังเหนือต้นคอ
"คุณพ่อได้บอกเธอไหม บ้านหลังนี้...มีเอาไว้ขังโจร!"
หญิงสาวยื่นมือไปกดปุ่มเพื่อหวังจะให้มันเปิดออก หากแต่ก็ไร้ผล จึงหันกลับไปมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเลิ่กลั่ก
"เธอรู้รหัสเหรอเอิง...ถึงคิดจะหนีออกไป"
"พี่เหนือ ปล่อยเอยไปเดี๋ยวนี้!"
หล่อนชักกลัวจริง ๆ เสียแล้ว กลัวกับแววตากรุ่นกระแสปรารถนาที่จับจ้อง เขาเหมือนเสือร้ายกระหายหิวที่จ้องจะตะปบชิ้นเนื้อแสนโอชะ ยืนตัวสั่นใจเต้นแรง ยามที่เขาขยับเข้ามาประชิดตัว
ยิ่งตอกย้ำความเชื่อ ลูกชายบ้านนี้เป็นโรคที่เกี่ยวกับจิตเวชจริง ๆ
หล่อนไม่รู้หรอกว่า ท่าทีตื่นกลัวยิ่งกระตุ้นสัญชาต ญาณดิบในใจภีมพล แรงขับจากความเคียดแค้นทำให้ใจเขามืดบอด คิดเพียงแต่ว่าอยากแก้แค้นเอาคืน ให้หล่อนได้รู้รสชาติของความเจ็บปวดเสียบ้าง
แววตาชิงชังแดงก่ำสั่นระริก ยิ่งคิดไปถึงเรื่องนั้นตามความเข้าใจของตน...หล่อนเข้าหาบิดาของเขาเพราะผล ประโยชน์ของเงิน
สองแขนของหล่อนถูกเขากระชากเข้าหาตัว จันทร์เจ้าเอยพยายามจะร้องให้คนช่วย แววตาคู่สวยเบิกกว้าง
"อย่านะ! ช่วย อื๊อ!"
มือใหญ่ยื่นมาตะปบปิดเสียงของหล่อนเอาไว้
"หึ ทำเป็นสะดีดสะดิ้งเหมือนไม่เคย เธอกลัวคุณพ่อรู้หรือไงว่าเราเป็นอะไรกัน!"
"อื๊อ!"
หล่อนพยายามส่ายหน้าหนี หากแต่เขาไม่ฟัง ชายหนุ่มใช้มือข้างที่ว่างแกะกระดุมเสื้อของตัวเองออก เขากระชากมันออกจากกายแกร่ง ก่อนนำไปปิดปากของหล่อน มัดเอาไว้จนเสียงร้องประท้วงดังอู้อี้อยู่ภายใต้พันธนาการที่ขวางกั้น
ร่างกลมกลึงถูกอุ้มไปวางบนโต๊ะตัวใหญ่ที่เอาไว้ใช้เตรียมวัตถุดิบเพื่อปรุงอาหาร ชายหนุ่มมองหาผ้าเอามามัดมือของหล่อนที่ถูกยกขึ้นไปเหนือหัว ความกลัวทำให้หยาดน้ำตารินไหลออกมา หากแต่มันไม่อาจแทรกซึมลงไปในใจอันแสนด้านชาได้ เขากลับมองว่านั่นคือมารยาที่หล่อนเสแสร้งแกล้งทำ
เขาจะไม่มีวันเชื่อหล่อนอีกต่อไป หลอกเขามานานหลายปีแล้วก็ทิ้งกันไป ทิ้งไปได้แม้กระทั่งสายเลือดของตัว
"อื๊อ!"
จันทร์เจ้าเอยดิ้นรนจนสุดแรงเมื่อเขากระชากกางเกงนอนออกจากร่าง ก่อนจับสองขาของหล่อนพาดไปบนท่อนแขนทั้งสองข้าง ล็อกสะโพกกลมกลึงไม่ให้ขยับหนีด้วยสองมือ หล่อนส่ายหน้าไปมาน้ำตาไหลพราก เมื่อรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตน
"หยุดดิ้นได้แล้วเอิง ยังไงก็คนเคยขี่กันมาก่อน ต่อให้เธอจะทำเป็นลืมมันไปก็เถอะ!"
หล่อนทำเป็นลืมเขาก็จะรื้อฟื้น ทำเป็นผลักไสเขาก็จะยิ่งทำ ส่วนลึกร้องบอก...เขาแค่ทำเพราะความโกรธแค้นที่สุมอกจนใจมอดไหม้ หาได้ทำลงไปเพราะแรงขับจากความคิดถึง ไม่ได้ทำลงไปเพราะยังรัก ยังคิดถึงคืนวันเก่า ๆ ที่เคยมีร่วมกัน
เขาจะทำให้หล่อนได้พานพบ นรกที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร...ปานตะวัน...ผู้หญิงใจเลวทราม เขาจะสั่งสอนให้หล่อนได้ซาบซึ้งกับรสชาติของความทุกข์ทน
ใต้ผืนผ้าที่ปิดปาก จันทร์เจ้าเอยสะอื้นออกมาอย่างยอมรับชะตากรรม เมื่อไม่อาจสู้แรงช้างม้าของคนใจอำมหิตได้ ท่ามกลางม่านน้ำตาที่พร่าเลือน แววตาตื่นตระหนกเบิกกว้าง เมื่อปลายนิ้วแกร่งรั้งขอบแพนตี้ลงต่ำ เขารูดมันผ่านเรียวขาขาว ในความตื่นกลัวหัวใจสาวเต้นเร่า นับเป็นครั้งแรกที่เปิดเผยส่วนซ่อนเร้นต่อสายตาผู้ชาย
แววตาเข้มทอประกายปรารถนา เนินสวาทที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า กระตุ้นแรงขับจากส่วนลึกที่กดเอาไว้ ท่ามกลางใจที่คิดว่าเคียดแค้นชิงชัง...แท้จริงแล้วเขาไม่เคยลืมแม่ของลูกออกไปจากใจได้เลย
ความทรงจำเก่า ๆ เริ่มหวนคืนสู่ใจที่แห้งผาก กระแสปรารถนาลอยกรุ่นหมุนวนอยู่ในใจที่กำลังสับสน เขามองเรือนร่างแสนยั่วใจพลางบดกรามจนเป็นสันนูน หล่อนช่างร้ายกาจนัก ยังคงปั่นป่วนหัวใจเขาได้เหมือนเดิม
แท้จริงเขาคิดถึงเธอ...แม้ใจจะพยายามบอกว่าไม่ใช่ก็ตาม
จันทร์เจ้าเอยนอนหอบหายใจแรง ส่ายหน้าไปมาพร้อมเสียงประท้วงที่ไม่อาจเล็ดลอด เมื่อฝ่ามือร้อนทาบลง
บนเนินเนื้อแล้วเคล้นคลึงหยอกเย้า หล่อนต้องสะดุ้งขนลุกเกรียวไปทั้งร่างเมื่อปลายนิ้วแกร่งลากไล้ไปตามรอยแยกที่ยังคงปิดสนิท ใบหน้าคมคร้ามก้มลงต่ำเพื่อลองลิ้ม
"อื๊อ! พี่เหนือ อย่า!"
หล่อนส่ายหน้าไปมาจนผืนผ้าที่ปิดปากหลุด เมื่อลิ้นร้อนลากไล้ไปตามเนื้อในสีชมพูระเรื่อ สลับสอดแทรกลึกเขาสู่โพรงสวาทนุ่มหยุ่น ตะโบมจูบดูดดึงด้วยปากราวหิวกระหาย ในขณะที่จันทร์เจ้าเอยพยายามส่ายสะโพกหนี ทว่าหล่อนไม่อาจขยับตัวได้เลย เมื่อเขาล็อกขาของหล่อนเอาไว้ด้วยสองแขนแข็งแรง
โอ...หัวใจของชายหนุ่มเต้นเร่ากับกลิ่นหอมระรวยรินจากข้างใน ลุ่มหลงในรสชาติแสนหอมหวานจากกายสาว สัมพันธ์รักครั้งแรกระหว่างหล่อนกับเขานั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเช่นไรเพราะเมามายจนไม่ได้สติ จำไม่ได้ด้วยซ้ำเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
"อื๊อ อืมม...พะ พี่เหนือ อย่า! พอแล้ว ฮือ ๆ"
หล่อนอ้อนวอนแทรกสลับเสียงครางกระเส่า หยาดน้ำตารินไหลไม่อาจฝืน ในความหวาดกลัวจนสุดขีด กลับมี
ความหวามไหวจากรสสัมผัสสลับแทรก ทั้งที่ไม่ยินยอมและไม่เต็มใจ แต่ลิ้นร้อนที่ลากไล้ดูดดึงกลับสัมผัสตรงจุดกระสัน มันทำให้หยาดน้ำหวานไหลหลั่งออกมา ในการขัดขืนก็เกิดอารมณ์คล้อยตามไปกับรสรักของคนพาล จนหล่อนนึกเกลียดตัวเองเหลือเกิน
"หวานเหลือเกิน...เอิง...อืม...”
ชายหนุ่มสอดลิ้นเข้าไปในร่องสวาทที่เริ่มชุ่มฉ่ำ รัวลิ้นคว้านไปมาจนกายสาวบิดเร่าจากความหวามไหวสลับแทรกอารมณ์ผลักไส ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มเพราะคิดว่านั่นคือมารยา เขารู้เช่นเห็นชาติในตัวหล่อนเสียแล้ว และยิ่งหล่อนทำขัดขืนผัวเก่าเช่นเขามากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งแกล้งให้หล่อนขาดใจตายคาห้องครัว
"พี่เหนือ! ทะ ทำอะไร!"
แววตาคู่สวยเบิกกว้าง เมื่อเห็นเขาจัดการกับกางเกงตัวเอง รูดมันลงจากสะโพกสอบ หล่อนนอนตัวสั่นใจเต้นโครมคราม เมื่อเห็นแก่นกายของเขาที่ผงาดชูชันเต็มสองตา
"ไม่! ไม่นะ อย่า! อย่าทำแบบนี้ เอยไม่ใช่เธอ พี่เหนือเข้าใจผิด!"
เขากระตุกยิ้ม ไม่เชื่อในสิ่งที่หล่อนปั้นแต่ง มือข้างถนัดกำไปรอบ ๆ ท่อนเนื้อแข็งขึง รูดขึ้นรูดลงต่อหน้าคนที่
นอนอยู่บนโต๊ะ ขยับไปไหนไม่ได้
"จะกลัวอะไรเอิง เราก็เคยขี่กันมาแล้ว อย่าทำสะดีดสะดิ้งเหมือนไม่เคย!"
"กรี๊ดดด! ไม่ อย่า..."
จันทร์เจ้าเอยกรีดร้องออกมาสุดเสียง แต่ดูเหมือนมันจะไม่เล็ดลอดผ่านห้องนี้ไปได้ น้ำตาไหลพรากเมื่อเขาถูไถท่อนเนื้อขึ้นลงกับปากทางเข้าร่องสวาท ก่อนจะดันพรวดเดียวเข้ามาจนสุดทาง
"โอ๊ย! เจ็บ เอยเจ็บ ฮือ ๆ"
กายสาวสั่นระริก เมื่อความเจ็บจนไม่อาจบรรยายแล่นพล่านไปทั่วร่าง เหมือนจะขาดใจ...คล้ายตรงนั้นจะฉีกขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ ทั้งเจ็บทั้งคับแน่นจนภายในตอดรัดตุบๆ จากความรู้สึกหลากหลาย
เขาสูดปากเบา ๆ เมื่อความคับแน่นกำลังทำร้ายจนเสียวไปทั่วแก่นกายและท้องน้อย...อา...เขาไม่ปฏิเสธ ว่าหล่อนน่ะสุดยอดที่ทำให้เขาปั่นป่วนได้ แม้จะคิดว่ายังเกลียดก็ตามที
"วันนี้เล่นบทเป็นใครล่ะเอิง หึ แค่นี้ทำเป็นสำออย ใคร! ไอ้หน้าโง่ที่ไหนจะเชื่อเธอ"
แววตาเข้มด้านชาไร้ความปราณีมองร่างสั่นสะท้านตรงหน้า เขากระตุกยิ้มหยัน ไม่ได้สงสารกับหยาดน้ำตาของผู้หญิงมารยานั่นเลยสักนิด
ตรงกันข้าม ยิ่งหล่อนแสดงความเจ็บปวด กลับยิ่งกระตุ้นความบ้าคลั่งในใจ สองมือจับต้นขาขาวเนียนเอาไว้ แล้วขยับสะโพกเข้าออกแรง ๆ
"อื้อ...ไอ้คนสารเลว เอาออกไป!"
หล่อนสบถด่า กลับยิ่งเรียกเสียงหัวเราะให้ดังใส่หน้า ทั้งยังไม่หยุดโยกขยับ ก่อนจะเข่นเสียงรอดไรฟัน
"แน่นเสียขนาดนี้ เอามันส์ขนาดนี้ ใครจะปล่อยกันล่ะ เอิง!"
"พี่เหนือข่มขืนเอย คนสารเลว ไอ้ชั่ว ไอ้เลว! อื๊อ"
หล่อนก่นด่าเพราะความโกรธเกลียดสุดหัวใจ และในขณะเดียวกัน รสรักของเขาก็พานจะให้ร่างกายทรยศเคลิบเคลิ้มไปกับแรงเสียดสีแบบเนื้อแนบเนื้อ หากแต่ใจที่ต่อต้าน ก็ยังทำให้หล่อนส่ายสะโพกหนี หากแต่สองมือแกร่งก็ล็อกเอาไว้จนแน่น ซ้ำยังกระทำกับหล่อนอย่างป่าเถื่อน ไร้ซึ่งความปราณีใด ๆ
"ฮึก...มะ ไม่ไหวแล้ว ปล่อยเอยไป ปล่อยเอยได้แล้วคนสารเลว ฮือ ๆ"
หล่อนไม่ไหวแล้วจริง ๆ แรงกระแทกของเขานั้นทำให้ร้าวระบมไปถึงท้องน้อย อีกทั้งเจ็บเหมือนร่องหลืบฉีกขาด หากแต่เขาหาได้หยุด น้ำตาของหล่อนยิ่งทำให้ความเกลียดชังเพิ่มในหัวใจแกร่ง เพราะเขาคิดว่านั่นคือมารยา
อา...เหมือนวิญญาณกำลังจะหลุดลอยจากร่าง หล่อนยอมแพ้แล้ว แพ้ให้กับคนป่าเถื่อนแสนเอาแต่ใจ ร่างกายร้าวระบมทอดร่างนอนนิ่งราวหมดแรง ได้แต่นอนหลับตานิ่ง หยาดน้ำใส ๆ ไหลรินร่วงหล่นบนโต๊ะ ปล่อยให้เขากระแทกกระทั้นเพื่อไปถึงจุดหมายตามอำเภอใจ
อดทนอีกไม่นาน...อีกชั่วอึดใจเท่านั้น แล้วหล่อนก็จะหลุดพ้นไปจากนรกตรงนี้ หญิงสาวปลอบหัวใจที่ร้าวราน
ภีมพลบดกรามจนเป็นสันนูน เมื่อเขานั้นเสียวไปทั่วร่างหากแต่ต้องข่มเอาไว้ไม่แสดงออก...เขาจะไม่มีวันทำให้หล่อนเห็น ให้หล่อนได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาชอบมากเพียงใด กับการที่ภายในร่องสวาทของหล่อนนั้นช่างคับแน่น ทั้งยังตอดรัดไม่หยุดอีกด้วย
จันทร์เจ้าเอยรู้สึกว่า เวลาช่างผ่านไปยาวนานเหลือเกิน ดูเหมือนเขาจะยังไม่สาแก่ใจ จึงได้กระทำจนหล่อนรับรู้ได้ถึงร่องสวาทที่ร้อนผ่าว ทรมานจนต้องร้องขอเสียงเบาหวิว
"เจ็บไปหมดแล้ว พอเสียที พอได้แล้ว ฮือ ๆ"
เขาโน้มกายไปข้างหน้า ขยับขึ้นไปนั่งคุกเข่าอยู่บนโต๊ะ ดันสองขาของหล่อนให้คู้ไปด้านหน้าจนแนบชิดอกอิ่ม สองมือแกร่งวางทาบยันไว้กับโต๊ะข้างเอวคอดกิ่ว แล้วออกแรงโยกขยับอีกครั้ง
"ฮึก...หยุด! หยุดเสียที"
เขากระแทกแรง ๆ ชนิดเข้าสุดออกสุด ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ เขาข่มเสียงแห่งความหฤหรรถ์ไม่ให้เล็ดลอดเพราะกลัวหล่อนได้ใจ ความป่าเถื่อนไร้หัวใจเท่านั้นที่หล่อนจะได้มันไป มันสาสมกันแล้วกับผู้หญิงสารเลว!
"ซี๊ดดดด...อูวววว...เอิง! เอิง!"
แล้วเขาก็ข่มเอาไว้ไม่ได้ เสียงครางกระเส่ามาพร้อม
กับสายความรักที่ฉีดพุ่งเข้าไปในกายสาว กายแกร่งกระตุกเกร็งสั่นยามปลดปล่อยอย่างรุนแรง เขายังกระแทกกระทั้นไม่หยุด เมื่อน้ำรักยังคงถูกระบายออกมาอย่างท่วมท้น...อา...เขาไม่ปฏิเสธ มีความสุขเหลือเกินเมื่อความคับแน่นภายในยังคงตอดรัดท่อนเนื้อเอาไว้ตลอดเวลา
จบแล้วสินะ...จบเสียทีกับความเจ็บปวด แววตาพร่าเลือนด้วยม่านน้ำตามองคนที่ยังคงนั่งหอบหายใจอยู่กลางหว่างขาของหล่อน...ไม่มีแม้ถ้อยคำปลอบประโลม ไม่มีแม้รอยยิ้มและจูบแทนคำขอบคุณ มีเพียงแววตาเย็นชาชิงชังที่ส่งมาให้
เสียดายในสิ่งที่เสียไปเหลือเกิน ครั้งแรกของหล่อนมันช่างแสนเลวร้าย ไม่เห็นจะดีเลยสักนิด มีแต่ความเจ็บปวดและทรมาน เขาหยิบยื่นให้หล่อนอย่างป่าเถื่อนและโหดร้ายเหลือเกิน