Chapter​ 4 เรื่องเข้าใจผิด​ (2)

2321 Words
Chapter​ 4 เรื่องเข้าใจผิด​ (2) หล่อนปัดมือของเขาออกจากใบหน้า​ หากแต่ก็ไปไหนไม่ได้​ เพราะถูกกักเอาไว้ด้วยสองมือที่ยันไว้กับผนัง "แกล้งอะไรคะ​ เอยไม่รู้เรื่อง!" "จำไม่ได้ใช่มั้ย​ ได้!" "อื๊อ!" หล่อนดิ้นขลุกขลัก​ สองมือผลักไสอกกว้างเมื่อถูกจู่โจมด้วยจูบแสนดุดันป่าเถื่อน​ ความร้อนรุ่มบดขยี้จนกลีบปากนุ่มร้าวระบม​ เจ็บแสบไปทั่วเรียวปากจากสัมผัสแสนหยาบกระด้าง​จากคนเถื่อนถ่อย ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้​ นายจ้างของหล่อนไม่เคยบอกว่ามีผู้ป่วยจิตเวชอาศัยอยู่ร่วมชายคา "เอยไม่ใช่เมียพี่เหนือ​ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น​ ถอยไป!" เมื่อเป็นอิสระ​ สองมือจึงผลักไปที่อกกว้างเต็มแรง​ ผลุนผลันทำท่าจะเปิดประตูออกไปจากห้อง​ แต่แล้วหล่อนต้องชะงัก​ เมื่อเขาไวกว่า​ด้วยการยื่นมือไปกดปุ่มบนแผง วงจรที่ติดอยู่ข้างประตู​ และมันเป็นสิ่งที่หล่อนไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามีเอาไว้ทำอะไร ".....!" แววตาคู่สวยเบิกกว้าง​ ต้องชะงักฝีเท้าผงะถอยหลัง​ เมื่อจู่​ ๆ​ ก็มีบานประตูลับเลื่อนออกมาขวางหน้า​กั้นโลกภายนอก​ อิสรภาพของหล่อนสูญสิ้น บานประตูอัตโนมัติขังหล่อนเอาไว้ในครัวเพียงลำพังกับเขาสองคน หล่อนขนลุก​ ใจหล่นวูบ​ เมื่อเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอดังอยู่ด้านหลังเหนือต้นคอ "คุณพ่อได้บอกเธอไหม​ บ้านหลังนี้...มีเอาไว้ขังโจร!" หญิงสาวยื่นมือไปกดปุ่มเพื่อหวังจะให้มันเปิดออก​ หากแต่ก็ไร้ผล​ จึงหันกลับไปมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเลิ่กลั่ก "เธอรู้รหัสเหรอเอิง...ถึงคิดจะหนีออกไป" "พี่เหนือ​ ปล่อยเอยไปเดี๋ยวนี้!" หล่อนชักกลัวจริง​ ๆ​ เสียแล้ว​ กลัวกับแววตากรุ่นกระแสปรารถนาที่จับจ้อง​ เขาเหมือนเสือร้ายกระหายหิวที่จ้องจะตะปบชิ้นเนื้อแสนโอชะ​ ยืนตัวสั่นใจเต้นแรง​ ยามที่เขาขยับเข้ามาประชิดตัว ยิ่งตอกย้ำความเชื่อ​ ลูกชายบ้านนี้เป็นโรคที่เกี่ยวกับจิตเวชจริง​ ๆ หล่อนไม่รู้หรอกว่า​ ท่าทีตื่นกลัวยิ่งกระตุ้นสัญชาต ญาณดิบในใจภีมพล​ แรงขับจากความเคียดแค้นทำให้ใจเขามืดบอด​ คิดเพียงแต่ว่าอยากแก้แค้นเอาคืน​ ให้หล่อนได้รู้รสชาติของความเจ็บปวดเสียบ้าง แววตาชิงชังแดงก่ำสั่นระริก​ ยิ่งคิดไปถึงเรื่องนั้นตามความเข้าใจของตน...หล่อนเข้าหาบิดาของเขาเพราะผล ประโยชน์ของเงิน สองแขนของหล่อนถูกเขากระชากเข้าหาตัว จันทร์เจ้าเอยพยายามจะร้องให้คนช่วย​ แววตาคู่สวยเบิกกว้าง "อย่านะ! ช่วย​ อื๊อ!" มือใหญ่ยื่นมาตะปบปิดเสียงของหล่อนเอาไว้​ "หึ​ ทำเป็นสะดีดสะดิ้งเหมือนไม่เคย เธอกลัวคุณพ่อรู้หรือไงว่าเราเป็นอะไรกัน!" "อื๊อ!" หล่อนพยายามส่ายหน้าหนี​ หากแต่เขาไม่ฟัง ชายหนุ่มใช้มือข้างที่ว่างแกะกระดุมเสื้อของตัวเองออก​ เขากระชากมันออกจากกายแกร่ง​ ก่อนนำไปปิดปากของหล่อน​ มัดเอาไว้จนเสียงร้องประท้วงดังอู้อี้อยู่ภายใต้พันธนาการที่ขวางกั้น ร่างกลมกลึงถูกอุ้มไปวางบนโต๊ะตัวใหญ่ที่เอาไว้ใช้เตรียมวัตถุดิบเพื่อปรุงอาหาร​ ชายหนุ่มมองหาผ้าเอามามัดมือของหล่อนที่ถูกยกขึ้นไปเหนือหัว​ ความกลัวทำให้หยาดน้ำตารินไหลออกมา​ หากแต่มันไม่อาจแทรกซึมลงไปในใจอันแสนด้านชาได้​ เขากลับมองว่านั่นคือมารยา​ที่หล่อนเสแสร้งแกล้งทำ เขาจะไม่มีวันเชื่อหล่อนอีกต่อไป​ หลอกเขามานานหลายปีแล้วก็ทิ้งกันไป​ ทิ้งไปได้แม้กระทั่งสายเลือดของตัว "อื๊อ!" จันทร์เจ้าเอยดิ้นรนจนสุดแรงเมื่อเขากระชากกางเกงนอนออกจากร่าง​ ก่อนจับสองขาของหล่อนพาดไปบนท่อนแขนทั้งสองข้าง​ ล็อกสะโพกกลมกลึงไม่ให้ขยับหนีด้วยสองมือ​ หล่อนส่ายหน้าไปมาน้ำตาไหลพราก​ เมื่อรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตน "หยุดดิ้นได้แล้วเอิง ยังไงก็คนเคย​ขี่กันมาก่อน​ ต่อให้เธอจะทำเป็นลืมมันไปก็เถอะ!" หล่อนทำเป็นลืมเขาก็จะรื้อฟื้น​ ทำเป็นผลักไสเขาก็จะยิ่งทำ​ ส่วนลึกร้องบอก...เขาแค่ทำเพราะความโกรธแค้นที่สุมอกจนใจมอดไหม้​ หาได้ทำลงไปเพราะแรงขับจากความคิดถึง​ ไม่ได้ทำลงไปเพราะยังรัก​ ยังคิดถึงคืนวันเก่า​ ๆ​ ที่เคยมีร่วมกัน เขาจะทำให้หล่อนได้พานพบ​ นรกที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร...ปานตะวัน...ผู้หญิงใจเลวทราม​ เขาจะสั่งสอนให้หล่อนได้ซาบซึ้งกับรสชาติของความทุกข์ทน ใต้ผืนผ้าที่ปิดปาก​ จันทร์เจ้าเอยสะอื้นออกมาอย่างยอมรับชะตากรรม​ เมื่อไม่อาจสู้แรงช้างม้าของคนใจอำมหิตได้​ ท่ามกลางม่านน้ำตาที่พร่าเลือน​ แววตาตื่นตระหนกเบิกกว้าง​ เมื่อปลายนิ้วแกร่งรั้งขอบแพนตี้ลงต่ำ เขารูดมันผ่านเรียวขาขาว​ ในความตื่นกลัวหัวใจสาวเต้นเร่า​ นับเป็นครั้งแรกที่เปิดเผยส่วนซ่อนเร้นต่อสายตาผู้ชาย แววตาเข้มทอประกายปรารถนา​ เนินสวาทที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า​ กระตุ้นแรงขับจากส่วนลึกที่กดเอาไว้​ ท่ามกลางใจที่คิดว่าเคียดแค้นชิงชัง...แท้จริงแล้วเขาไม่เคยลืมแม่ของลูกออกไปจากใจได้เลย ความทรงจำเก่า​ ๆ​ เริ่มหวนคืนสู่ใจที่แห้งผาก​ กระแสปรารถนาลอยกรุ่นหมุนวนอยู่ในใจที่กำลังสับสน​ เขามองเรือนร่างแสนยั่วใจพลางบดกรามจนเป็นสันนูน​ หล่อนช่างร้ายกาจนัก​ ยังคงปั่นป่วนหัวใจเขาได้เหมือนเดิม แท้จริงเขาคิดถึงเธอ...แม้ใจจะพยายามบอกว่าไม่ใช่ก็ตาม จันทร์เจ้าเอยนอนหอบหายใจแรง​ ส่ายหน้าไปมาพร้อมเสียงประท้วงที่ไม่อาจเล็ดลอด​ เมื่อฝ่ามือร้อนทาบลง บนเนินเนื้อแล้วเคล้นคลึงหยอกเย้า​ หล่อนต้องสะดุ้งขนลุกเกรียวไปทั้งร่างเมื่อปลายนิ้วแกร่งลากไล้ไปตามรอยแยกที่ยังคงปิดสนิท​ ใบหน้าคมคร้ามก้มลงต่ำเพื่อลองลิ้ม "อื๊อ! พี่เหนือ​ อย่า!" หล่อนส่ายหน้าไปมา​จนผืนผ้าที่ปิดปากหลุด เมื่อลิ้นร้อนลากไล้ไปตามเนื้อในสีชมพูระเรื่อ​ สลับสอดแทรกลึกเขาสู่โพรงสวาทนุ่มหยุ่น​ ตะโบมจูบดูดดึงด้วยปากราวหิวกระหาย​ ในขณะที่จันทร์เจ้าเอยพยายามส่ายสะโพกหนี​ ทว่าหล่อนไม่อาจขยับตัวได้​เลย เมื่อเขาล็อกขาของหล่อนเอาไว้ด้วยสองแขนแข็งแรง โอ...หัวใจของชายหนุ่มเต้นเร่า​กับกลิ่นหอมระรวยริน​จากข้างใน​ ลุ่มหลงในรสชาติแสนหอมหวาน​จากกายสาว สัมพันธ์รักครั้งแรกระหว่างหล่อนกับเขานั้น​ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเช่นไร​เพราะเมามายจนไม่ได้สติ​ จำไม่ได้ด้วยซ้ำเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น "อื๊อ​ อืมม...พะ​ พี่เหนือ​ อย่า! พอแล้ว​ ฮือ​ ๆ" หล่อนอ้อนวอน​แทรกสลับเสียงครางกระเส่า หยาดน้ำตารินไหล​ไม่อาจฝืน ในความหวาดกลัวจนสุดขีด​ กลับมี ความหวามไหวจากรสสัมผัสสลับแทรก​ ทั้งที่ไม่ยินยอมและไม่เต็มใจ​ แต่ลิ้นร้อนที่ลากไล้ดูดดึงกลับสัมผัสตรงจุดกระสัน​ มันทำให้หยาดน้ำหวานไหลหลั่ง​ออกมา ในการขัดขืนก็เกิดอารมณ์คล้อยตามไปกับรสรักของคนพาล​ จนหล่อนนึกเกลียดตัวเองเหลือเกิน "หวานเหลือเกิน...เอิง...อืม...” ชายหนุ่มสอดลิ้นเข้าไปในร่องสวาทที่เริ่มชุ่มฉ่ำ​ รัวลิ้นคว้านไปมาจนกายสาวบิดเร่า​จากความหวามไหวสลับแทรกอารมณ์ผลักไส ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้ม​เพราะคิดว่านั่นคือมารยา​ เขารู้เช่นเห็นชาติในตัวหล่อนเสียแล้ว และยิ่งหล่อนทำขัดขืนผัวเก่าเช่นเขามากเท่าไหร่​ เขาก็จะยิ่งแกล้งให้หล่อนขาดใจตายคาห้องครัว "พี่เหนือ! ทะ​ ทำอะไร!" แววตาคู่สวยเบิกกว้าง​ เมื่อเห็นเขาจัดการกับกางเกงตัวเอง​ รูดมันลงจากสะโพกสอบ​ หล่อนนอนตัวสั่นใจเต้นโครมคราม​ เมื่อเห็นแก่นกายของเขาที่ผงาดชูชันเต็มสองตา "ไม่! ไม่นะ​ อย่า! อย่าทำแบบนี้​ เอยไม่ใช่เธอ​ พี่เหนือเข้าใจผิด!" เขากระตุกยิ้ม​ ไม่เชื่อในสิ่งที่หล่อนปั้นแต่ง​ มือข้างถนัดกำไปรอบ​ ๆ​ ท่อนเนื้อแข็งขึง​ รูดขึ้นรูดลงต่อหน้าคนที่ นอนอยู่บนโต๊ะ​ ขยับไปไหนไม่ได้ "จะกลัวอะไรเอิง​ เราก็เคยขี่กันมาแล้ว​ อย่าทำสะดีดสะดิ้งเหมือนไม่เคย!" "กรี๊ดดด! ไม่​ อย่า..." จันทร์เจ้าเอยกรีดร้องออกมาสุดเสียง​ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เล็ดลอดผ่านห้องนี้ไปได้​ น้ำตาไหลพรากเมื่อเขาถูไถท่อนเนื้อขึ้นลงกับปากทางเข้าร่องสวาท​ ก่อนจะดันพรวดเดียวเข้ามาจนสุดทาง "โอ๊ย! เจ็บ​ เอยเจ็บ​ ฮือ​ ๆ" กายสาวสั่นระริก เมื่อความเจ็บจนไม่อาจบรรยายแล่นพล่านไปทั่วร่าง​ เหมือนจะขาดใจ...คล้ายตรงนั้นจะฉีกขาดออกเป็นเสี่ยง​ ๆ​ ทั้งเจ็บทั้งคับแน่นจนภายในตอดรัดตุบ​ๆ จากความรู้สึกหลากหลาย เขาสูดปากเบา​ ๆ​ เมื่อความคับแน่นกำลังทำร้าย​จนเสียวไปทั่วแก่นกายและท้องน้อย...อา...เขาไม่ปฏิเสธ​ ว่าหล่อนน่ะสุดยอดที่ทำให้เขาปั่นป่วนได้​ แม้จะคิดว่ายังเกลียดก็ตามที "วันนี้เล่นบทเป็นใครล่ะเอิง​ หึ​ แค่นี้ทำเป็นสำออย ใคร! ไอ้หน้าโง่ที่ไหนจะเชื่อเธอ" แววตาเข้มด้านชาไร้ความปราณีมองร่างสั่นสะท้านตรงหน้า​ เขากระตุกยิ้มหยัน​ ไม่ได้สงสารกับหยาดน้ำตาของผู้หญิงมารยานั่นเลยสักนิด ตรงกันข้าม​ ยิ่งหล่อนแสดงความเจ็บปวด​ กลับยิ่งกระตุ้นความบ้าคลั่งในใจ​ สองมือจับต้นขาขาวเนียนเอาไว้ แล้วขยับสะโพกเข้าออกแรง​ ๆ "อื้อ...ไอ้คนสารเลว​ เอาออกไป!" หล่อนสบถด่า​ กลับยิ่งเรียกเสียงหัวเราะให้ดังใส่หน้า​ ทั้งยังไม่หยุดโยกขยับ​ ก่อนจะเข่นเสียงรอดไรฟัน "แน่นเสียขนาดนี้​ เอามันส์ขนาดนี้​ ใครจะปล่อยกันล่ะ​ เอิง!" "พี่เหนือข่มขืนเอย​ คนสารเลว​ ไอ้ชั่ว​ ไอ้เลว! อื๊อ" หล่อนก่นด่าเพราะความโกรธเกลียดสุดหัวใจ​ และในขณะเดียวกัน​ รสรักของเขาก็พานจะให้ร่างกายทรยศเคลิบเคลิ้มไปกับแรงเสียดสีแบบเนื้อแนบเนื้อ​ หากแต่ใจที่ต่อต้าน​ ก็ยังทำให้หล่อนส่ายสะโพกหนี​ หากแต่สองมือแกร่งก็ล็อกเอาไว้จนแน่น​ ซ้ำยังกระทำกับหล่อนอย่างป่าเถื่อน​ ไร้ซึ่งความปราณีใด​ ๆ "ฮึก...มะ​ ไม่ไหวแล้ว​ ปล่อยเอยไป​ ปล่อยเอยได้แล้วคนสารเลว​ ฮือ​ ๆ" หล่อนไม่ไหวแล้วจริง​ ๆ​ แรงกระแทกของเขานั้นทำให้ร้าวระบมไปถึงท้องน้อย​ อีกทั้งเจ็บเหมือนร่องหลืบฉีกขาด​ หากแต่เขาหาได้หยุด​ น้ำตาของหล่อนยิ่งทำให้ความเกลียดชังเพิ่มในหัวใจแกร่ง​ เพราะเขาคิดว่านั่นคือมารยา อา...เหมือนวิญญาณกำลังจะหลุดลอยจากร่าง​ หล่อนยอมแพ้แล้ว​ แพ้ให้กับคนป่าเถื่อนแสนเอาแต่ใจ​ ร่างกายร้าวระบมทอดร่างนอนนิ่งราวหมดแรง​ ได้แต่นอนหลับตานิ่ง​ หยาดน้ำใส​ ๆ​ ไหลริน​ร่วงหล่นบนโต๊ะ ปล่อยให้เขากระแทกกระทั้นเพื่อไปถึงจุดหมายตามอำเภอใจ อดทนอีกไม่นาน...อีกชั่วอึดใจเท่านั้น​ แล้วหล่อนก็จะหลุดพ้นไปจากนรกตรงนี้​ หญิงสาวปลอบหัวใจที่ร้าวราน ภีมพลบดกรามจนเป็นสันนูน​ เมื่อเขานั้นเสียวไปทั่วร่างหากแต่ต้องข่มเอาไว้ไม่แสดงออก...เขาจะไม่มีวันทำให้หล่อนเห็น​ ให้หล่อนได้รู้ว่าจริง​ ๆ​ แล้วเขาชอบมากเพียงใด​ กับการที่ภายในร่องสวาทของหล่อนนั้นช่างคับแน่น​ ทั้งยังตอดรัดไม่หยุดอีกด้วย จันทร์เจ้าเอยรู้สึกว่า เวลาช่างผ่านไปยาวนานเหลือเกิน​ ดูเหมือนเขาจะยังไม่สาแก่ใจ​ จึงได้กระทำจนหล่อนรับรู้ได้ถึงร่องสวาทที่ร้อนผ่าว​ ทรมานจนต้องร้องขอเสียงเบาหวิว "เจ็บไปหมดแล้ว พอเสียที​ พอได้แล้ว​ ฮือ​ ๆ" เขาโน้มกายไปข้างหน้า​ ขยับขึ้นไปนั่งคุกเข่าอยู่บนโต๊ะ​ ดันสองขาของหล่อนให้คู้ไปด้านหน้าจนแนบชิดอกอิ่ม​ สองมือแกร่งวางทาบยันไว้กับโต๊ะข้างเอวคอดกิ่ว​ แล้วออกแรงโยกขยับอีกครั้ง "ฮึก...หยุด! หยุดเสียที" เขากระแทกแรง​ ๆ​ ชนิดเข้าสุดออกสุด​ ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ​ เขาข่มเสียงแห่งความหฤหรรถ์ไม่ให้เล็ดลอดเพราะกลัวหล่อนได้ใจ​ ความป่าเถื่อนไร้หัวใจเท่านั้นที่หล่อนจะได้มันไป​ มันสาสมกันแล้วกับผู้หญิงสารเลว! "ซี๊ดดดด...อูวววว...เอิง! เอิง!" แล้วเขาก็ข่มเอาไว้ไม่ได้​ เสียงครางกระเส่ามาพร้อม กับสายความรักที่ฉีดพุ่งเข้าไปในกายสาว​ กายแกร่งกระตุกเกร็งสั่นยามปลดปล่อยอย่างรุนแรง​ เขายังกระแทกกระทั้นไม่หยุด​ เมื่อน้ำรักยังคงถูกระบายออกมาอย่างท่วมท้น...อา...เขาไม่ปฏิเสธ​ มีความสุขเหลือเกินเมื่อความคับแน่นภายในยังคงตอดรัดท่อนเนื้อเอาไว้ตลอดเวลา จบแล้วสินะ...จบเสียที​กับความเจ็บปวด​ แววตาพร่าเลือนด้วยม่านน้ำตามองคนที่ยังคงนั่งหอบหายใจอยู่กลางหว่างขาของหล่อน...ไม่มีแม้ถ้อยคำปลอบประโลม​ ไม่มีแม้รอยยิ้มและจูบแทนคำขอบคุณ​ มีเพียงแววตาเย็นชาชิงชังที่ส่งมาให้ เสียดายในสิ่งที่เสียไปเหลือเกิน​ ครั้งแรกของหล่อนมันช่างแสนเลวร้าย​ ไม่เห็นจะดีเลยสักนิด​ มีแต่ความเจ็บปวดและทรมาน​ เขาหยิบยื่นให้หล่อนอย่างป่าเถื่อนและโหดร้ายเหลือเกิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD