ตอนที่ 4 มันเกิดอะไรขึ้น

1652 Words
“นาย!” “..” ขณะเดียวกันเสียงที่คุ้นเคยขานเรียกจากที่ไกล ๆ ทำให้ทินกรผละเรียวปากออกจากพิรดาทันที ก่อนจะเหลือบตามองไปยังลูกน้องคนสนิทที่ยืนตรงฝั่งทางเข้า เขาชะงักเล็กน้อยเมื่อเลื่อนสายตามองไปยังหญิงสาวอีกคน เธอแต่งตัวชุดนักศึกษารัดรูป ปล่อยผมยาวลอนสีน้ำตาลเสวย รูปร่างผอมเพรียวตรงตามลักษณะที่เจ๊ใหญ่ประจำผับ Nice แจ้งไว้ ซึ่งคล้ายคลึงกับผู้หญิงที่เขาพึ่งจูบเมื่อสักครู่ “อึก! ทุเรศที่สุดเลย! “พิรดาน้ำตาไหลพรากมือเรียวเล็กเช็ดคาบน้ำลายออกจากริมฝีปากตัวเองอย่างรังเกียจ หนำซ้ำเลือดสีสดบริเวณกลีบปากที่ถูกกัดยังผุดซึมอยู่ทุกครั้งที่ลงมือถูก…มันทั้งแสบและชาหนึบในเวลาเดียว ความเกรี้ยวโกรธที่มีอยู่ตอนนี้สามารถกลบอาการปวดปัสสาวะไปเลยทันที “ทำอย่างกับไม่เคยจูบผู้ชาย” “..” ถ้อยคำกระแนะกระแหนของทินกรทำให้พิรดาละความสนใจจากเรียวปากของตัวเอง เงยขึ้นจ้องเจ้าของใบหน้าหล่อตาเขียวปัด แล้วแผดเสียงตะโกนดังลั่นด้วยอารมณ์บันดาลโทสะพร้อมกับออกแรงกระแทกหมัดเล็กเข้าที่ตาข้างซ้ายของมาเฟียหนุ่มอย่างรวดเร็วโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว “แล้วกล้าดียังไงมาขโมยจูบแรกของฉันล่ะฮะ!!!!” ผลัวะ! “โอ๊ยย!ยัยบ้าเอ๊ย! “ทินกรเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บ ขณะเดียวกันพาร์ทเตอร์ที่พึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวอีกคน เขาตกใจเป็นอย่างมากที่เห็นผู้เป็นนายถูกต่อยจึงเปลี่ยนจากเดินเร็วเป็นวิ่งแทน “นายเป็นยังไงบ้างครับ” “เจ็บสิวะ!ถามได้ ยัยแสบนั่นแม่งหมัดหนักชะมัด!! “มือหนาข้างซ้ายกุมเบ้าตาตัวเองไว้ พลางชี้นิ้วคาดโทษตามหลังหญิงสาวตัวแสบที่วิ่งหนีความผิดของตัวเองไปตั้งแต่ลงมือชกเขาเรียบร้อยแล้ว ถึงเธอจะร้องไห้ฟูมฟายก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย “อย่าให้กูเจอหน้าอีกก็แล้วกัน พ่อจะจับกระแทกให้เข็ด “ทินกรเค้นเสียงลอดไรฟันด้วยความคับแค้นใจ “มันเกิดอะไรขึ้นครับนาย “พาร์ทเตอร์ถามความจริงจากผู้เป็นนายด้วยความไม่เข้าใจ เขาไปรับหญิงสาวที่นัดแนะกันไว้ตามคำสั่ง พอกลับมาอีกทีกลับเกิดเรื่องเกิดราว “กูไม่มีอารมณ์มาตอบคำถามมึง “ทินกรแหวใส่ลูกน้องคนสนิทด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว สองเท้าหนักหมุนตัวเดินตรงไปยังลิฟต์ตัวใหญ่ท่าทางขึงขังอย่างหัวเสียในการกระทำของยัยตัวแสบ ใบหน้าหล่อบิดเบ้เข้าหากันเป็นระยะ เนื่องจากยังคงเจ็บหนึบ ๆ ตรงเบ้าตาตัวเอง โดยมีเสียงเรียกของพาร์ทเตอร์ตามหลัง “นายแล้วผู้หญิงคนนี้ละครับ!” “ไสหัวไป!!!! “ทินกรตะโกนตอบกลับมา ทำเอาลูกน้องอย่างพาร์ทเตอร์หม่นคิ้ว งงเป็นไก่ตาแตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ และ เขาจะต้องถามไถ่จากผู้เป็นนายให้รู้ความให้ได้ “พี่แล้วหนูล่ะ “หญิงสาวชุดนักศึกษาทักท้วงขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ “กลับไปก่อนแล้วกัน “พาร์ทเตอร์หันไปบอกกับหญิงสาวชุดนักศึกษาเสร็จก็รีบวิ่งตามผู้เป็นนายไปทันที ปล่อยให้หญิงสาวด้านหลังกระทืบเท้าฟึดฟัดด้วยความขัดใจ ที่ต้องเสียทั้งงานและเงินไปพร้อม ๆ กัน โดยที่ยังไม่ได้เริ่มงานเลยด้วยซ้ำ “…” ….. “ฮื้อ~จูบแรกของฉันมีไว้ให้พี่ Doyong เท่านั้นนะไอ้ปากลามก “หลังจากได้ปลดปล่อยสิ่งที่อั้นไว้นาน พิรดาก็มาร้องไห้หน้ากระจกตรงอ่างล้างหน้าต่อด้วยความเสียดาย มือเรียวเล็กยังคงกำหมัดแน่นอย่างคับแค้น จนฝ่ามือเป็นรอยกรงเล็บ หนำซ้ำเธอยังเกือบฉี่ลาดเพราะไอ้หน้าหล่อนั่นอีก ครืนนนนน ครืนนนนนนน “..” ขณะเดียวกันเสียงสายเรียกเข้าก็ดังขึ้นพิรดาจึงละสายตาออกจากใบหน้าอาบน้ำตาตัวเองในกระจก แล้วล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตขึ้นมา บนหน้าจอปรากฏรายชื่อที่คุ้นเคย เธอจึงรีบปาดน้ำตาออกจากพวกแก้มแล้วสูดหายใจเข้าปอดหนึ่งครั้ง เพื่อทำให้โทนเสียงเป็นปกติไม่สั่นเครือ เมื่อเช็กความพร้อมเรียบร้อย นิ้วเรียวจึงกดรับสาย “สมายด์แกอยู่ไหนฉันกับพี่โรมกลับมาไม่เจอแกเนี่ย “ทันทีที่ยกโทรศัพท์แนบหูน้ำเสียงร้อนใจของสาวิกาก็ดังเข้ามา บ่งบอกว่าเธอกำลังปั่นป่วนใจและห่วงใยเอามาก ๆ “ฉันอยู่ห้องน้ำน่ะแก ปวดท้องไม่ไหวเลยรีบมา “มือเรียวเล็กยกขึ้นมาลูบบริเวณรอยแผลตรงริมฝีปากล่างเบา ๆ อย่างกังวลใจ จะหาเหตุผลอะไรมาตอบคำถามเพื่อนสาวที่เธอเองก็คงหนีไม่พ้น ครั้นจะหนีกลับเลยก็กลัวดูไม่ดี “อือ ๆ ฉันกับพี่โรมเป็นห่วงแกมากเลยรู้ไหม” “ขอโทษนะที่ไม่ได้โทรบอกก่อน” “ไม่เป็นไร ๆ งั้นฉันกับพี่โรมรออยู่ที่เดิมนะ” “โอเคจ้า” “..” เมื่อกดวางสายจากเพื่อนสาวพิรดาก็เปิดก๊อกน้ำแล้วล้างหน้าเพื่อเพิ่มความสดชื่น แม้ว่ารอบดวงตาจะยังหนักอึ้งเนื่องจากร้องไห้อย่างหนัก ก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดอีกครั้งทำใจให้กลับมาเป็นปกติ โซนประสาทยังคงครุ่นคิดหาคำตอบให้ตัวเอง “…” “นายประคบน้ำแข็งไว้สักพักนะครับ “พาร์ทเตอร์ยื่นผ้าห่อน้ำแข็งให้ทินกรที่ตอนนี้เจ้าตัวนั่งพิงหลังกับผนังเก้าอี้ทำงานด้วยสีหน้าถมึงทึง ไม่เท่านั้นรอบดวงตาข้างซ้ายยังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวซ้ำ โดยมีเสียงกัดกรามดังกรอด ๆ เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน ใบหน้าอันหล่อเหลาของผู้เป็นนายมีทั้งรอยแดงจากฝ่ามือและรอยช้ำบนดวงตาราวกับถูกเมียทุบตี แต่ติดตรงที่ผู้เป็นนายไม่มีนายหญิงนี่สิ ทำเอาเขาแทบกลั้นขำไม่อยู่ ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นผู้เป็นนายถูกผู้หญิงเป็นฝ่ายทำร้ายก่อน “มึงไปสืบประวัติยัยแสบนั่นมาให้กูภายในวันนี้ “หลังจากยื่นมือรับห่อน้ำแข็งจากมือลูกน้องคนสนิท ทินกรจึงเอ็นหลังพิงผนังเก้าอี้นั่งท่าเดิมพร้อมกับประคบดวงตาตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยปากสั่งเสียงเข้มดุ ภายในอกร้อนรุ่มจนแทบนั่งไม่ติด สมองเอาแต่ครุ่นคิดหาทางเอาคืนยัยเด็กแสบ ที่ทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาเขามีรอยตำหนิ “ได้ครับ แต่ผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับนาย ทำไมถึงถูกผู้หญิงคนนั้นทั้งตบแล้วก็ต่อยเอาได้ล่ะครับ ทั้งที่นายไม่เคยพลาดท่าหะ…” “เพราะมึงไงช้า! กูถึงต้องลงมาตามด้วยตัวเอง! ไม่อย่างนั้นกูคงไม่ต้องเจอยัยเด็กนั่น! “ทินกรแหวใส่ลูกน้องคนสนิทด้วยน้ำเสียงดุดันทันที โดยที่พาร์ทเตอร์ยังพูดไม่จบ “นายต้องโทษเด็กใหม่ของเจ๊ใหญ่แล้วล่ะครับ ที่ผมมาช้าก็เพราะรอเธอแต่งหน้าอยู่” “สัสเอ๊ย!!แล้วยัยแสบนั่นก็ดันรูปร่างลักษณะเหมือนอย่างที่อีเจ๊ใหญ่มันบอกกูด้วยดิ ต่างกันตรงหน้าตา กูก็เข้าใจผิดสิวะ พูดแล้วแม่งก็เจ็บใจฉิบหาย “กำปั้นแกร่งทุบลงบนโต๊ะทำงานด้วยความเจ็บใจ ใบหน้าอันหล่อเหลาฉายสีดุร้าย ทว่าแววตาคมกริบกลับแฝงไปด้วยกลิ่นอายบางอย่างที่ตรงกันข้ามกับความรู้สึกที่เป็นอยู่ ยามที่ภาพใบหน้าน่ารักแก้มป่องตากลมโตของยัยเด็กแสบประดังประเดเข้ามาความทรงจำ “งั้นก็แสดงว่านายเข้าใจผิดไปเองคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคือเด็กของเจ๊ใหญ่ที่ส่งมา” “ยังไงมึงก็ผิด!!” “เอ้านาย!ทำไมผมถึงยังผิด ผมก็ทำตามคำสั่งนายแต่ติดที่คนของเจ๊ใหญ่ ส่วนนายเองก็ผิดที่ไม่รู้จักอดทนอดกลั้นความหื่นของตัวเองได้เกินห้านาที ถ้านายอดทนรออีกนิดผมว่าคงไม่เกิดเรื่อง “พาร์ทเตอร์แย้งขึ้นด้วยความไม่ชอบใจที่ถูกผู้เป็นนายโยนความผิดให้ โดยไม่หวั่นเกรงกับสายตาโหดเหี้ยมที่จ้องมองมา เนื่องจากเขาทั้งสองเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กจึงเปรียบเสมือนเพื่อนกันมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง ทำให้การถกเถียงของทั้งคู่จึงเป็นเรื่องปกติ โตร้ม! “มึงนี่สักจะเหิมเกริมกับกูมากเกินไปแล้วนะไอ้เตอร์! “ทินกรดันตัวลุกขึ้นพาดกำปั้นลงบนโต๊ะทำงานอย่างไม่สบอารมณ์กับถ้อยคำยอกย้อนของลูกน้องคนสนิท “ก็นายโยนความผิดให้ผมนิครับ “พาร์ทเตอร์ยังทำใจกล้าตอบโต้กับผู้เป็นนาย แต่โทรเสียงที่ใช้อ่อนลงกว่าเมื่อครู่ เพราะรู้สึกเกรงกลัวต่อสายตาโหดเหี้ยมของผู้เป็นนายที่จ้องมองมาตาเขม็งราวกับจะฉีกเนื้อเขาออกเป็นชิ้น ๆ “มึงรีบออกไปทำงานตามที่กูสั่งเดี๋ยวนี้ ก่อนที่กูจะยิงกระบาลมึงซะก่อน!” “ขอโทษครับนาย ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ “พาร์ทเตอร์รีบก้มหน้าเอ่ยขอโทษเสียงสั่นเครือ สองเท้าจึงหมุนตัวเดินฉับ ๆ ออกจากห้องทำงานไปทันที เมื่อผู้เป็นนายชักปืนจากเอวด้านหลังขึ้นมาจ่อตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เอาจริงเอาจังกับคำขู่ ทันทีที่ลูกน้องคนสนิทเดินออกไปทินกรจึงพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ อย่างหงุดหงิด ก่อนจะวางปืนไว้บนโต๊ะทำงาน ทรุดตัวนั่งลงด้วยความคุกรุ่นอยู่ภายในอกที่ขจัดออกไปไม่ได้สักที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD