ช่วงสายของวัน
วันนี้ ฟ้ามณีไม่มีเรียน แต่เธอนัดเพื่อนไปทำบุญกันที่วัดพระแก้ว
ฟ้ามณีอาบน้ำแต่งตัว พลันองค์นคราก็ปรากฎกายขึ้น
"โอ้ยพี่ ตกใจหมดเลย"ฟ้ามณีพูดอย่างตกใจ
"น้องตกใจอะไร " องค์นคราตอบฟ้ามณีอย่างสงสัย
"ก็พี่แต่งตัวไปไหนคะ วันนี้ กางเกงยีนส์ เสื้อเชิตแขนยาว เต็มยศเชียว" ฟ้ามณีถามอย่างสงสัย
"อ่าวก็น้องจะไปเที่ยววัดพระแก้วไม่ใช่เหรอ มันต้องแต่งกายสุภาพนิ" องค์นคราตอบฟ้ามณี
"เดี๋ยว อย่าบอกนะ " ฟ้ามณีพูดแค่นั้น
"บอก พี่จะปรากฎกายไปเที่ยวด้วย" องค์นคราบอกอย่างภูมิใจ
"หน้าแบบนี้ เขาคิดเงินแน่ๆ บัตรประชาชนก็ไม่มี" ฟ้ามณีบอกองค์นครา
"ไม่เป็นไร พอจะเข้าพี่ก็ไม่ปรากฎกายไง"
"โอ้โห เจ้าเล่ห์นัก" ฟ้ามณีแซวองค์นครา
"เปล่านะ เรียกว่าเรียนรู้ที่จะปฏิบัติ" ว่าแล้วองค์นคราก็บันดาลอาหารมาวางไว้ให้บนโต
"ว้าว แกงฟักทองใส่ไก่ พี่รู้ได้ยังไงว่าฟ้าอยากกินอะ"
"ไม่มีอะไรเกี่ยวกับน้อง ที่พี่ไม่รู้ กินเถอะ" องค์นครา บอกฟ้ามณี
ฟ้ามณีลงมือกินอาหารอย่างอร่อย
เมื่อถึงเวลานัด น้ำมนต์ก็ขับรถไปรับเนยกรอบ แล้วมารับฟ้ามณี
"อ่าวองค์นคราไปด้วยเหรอ ดวงมณี" น้ำมนต์ถามเพื่อนรัก
"หูยยย หล่อมากค่ะ แต่งแบบนี้" เนยกรอบชมองค์นครา
"ให้มันน้อยๆหน่อยของเพื่อน" น้ำมนต์ปรามเนยกรอบ
องค์นคราได้แต่หัวเราะ
น้ำมนต์เคลื่อนรถมุ่งหน้าไปวัดพระแก้ว
"ดีเนอะ มีคนดูแลตลอดเลยอะยัยฟ้า" เนยกรอบพูดอย่างปลื้มในตัวองค์นครา
"ก็ไม่ขนาดนั้นอะเนย ตอนแรกเป็นใครก็ยากที่จะรับได้ทั้งนั้น" ฟ้ามณีอธิบายเพื่อน
"อืม คนมีอยากไม่มี คนไม่มีอยากมี " น้ำมนต์พูดขึ้นอย่ามองเห็นสัจธรรม
ไม่นาน น้ำมนตก็วนจอดดรถในจุดที่บริการให้จอดรถ
แล้วทั้งหมดก็เดินข้ามมาตรงวัดพระแก้ว
"อ่าว องค์นคราละ" เนยกรอบถามอย่างสงสัย
"อยู่ในดวงแก้ว เดี๋ยวไปเจอตอนผ่านประตูเลย" ฟ้ามณีตอบเพื่อน
ทั้งสามคนเดินผ่านประตูตรวจเรียบร้อย องค์นคราก็ปรากฎกาย
"พี่ช่วยถ่ายรูปได้นะ"องค์นครากระซิบบอกฟ้ามณี ฟ้ามณีพยักหน้าให้
สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่องค์นครา อย่างชื่นชม
องค์นคราได้แต่ทำหน้านิ่ง เพราะไม่ค่อยยิ้มอยู่แล้ว องค์นคราจะยิ้มมากที่สุดก็ตอนอยู่กับฟ้ามณีนี่แหละ
"พี่ถ่ายรูปให้น้องกับเพื่อนหน่อยค่ะ" ฟ้ามณียื่นโทรศัพท์ให้องค์นครา รับหน้าที่ถ่ายรูป
"ไหนๆ ขอดูหน่อยค่ะ" ฟ้ามณีไปชะโงกหน้าดูโทรศัพท์ในมือ ขององค์นครา
"พี่ถ่ายรูปสวยมาก" ฟ้ามณีเงยหน้ายิ้มให้พี่ องค์นครายิ้มกว้างออกมา ฟ้ามณีชอบรอยยิ้มนี้ รอยยิ้มที่งดงามดั่งยามพระจันทร์เต็มดวง
"ไป ไปตรงมุมนั้นกันเถอะ" เนยกรอบชวนเพื่อนทั้งสองพร้อมกับองค์นครา
"ร้อนเนอะ ฝนน่าจะตกสักแมต"ฟ้ามณีบ่นกับเพื่อน
"น้องอยากให้ฝนตกจริงๆใช้มั้ย" องค์นคราถามน้อง
"ทำมัยเหรอคะ"
"พี่ทำให้ได้ " องค์นคราบอกฟ้ามณี
"งั้นขอเข้าตรงที่มีหลังคาให้หลบฝนก่อน" ฟ้ามณีและทุกคนเดินไปหลบตรง ศาลานั่งที่มีหลังคาให้หลบฝน บริเวรตรงหน้าเข้าสักการะพระแก้วมรกต
ฟ้ามณีหันหน้ามาพยักหน้าให้องค์นครา
และในทันที ฝนก็ตกขึ้นมาจริงๆ
"มหัศจรรย์มาก"เนยกรอบมองอย่างอึ้งๆ ฝนตกแบบไม่มีเค้า ไม่มีวี่แววว่าจะตก
"อืม สุดยอด เคยแต่ได้ยิน เพิ่งเคยเห้นกับตา" น้ำมนต์พูดขึ้นมา อย่างชื่นชม
"จะให้หยุดตอนไหนบอกพี่นะ" องค์นคราบอกกับฟ้ามณี
"อีกสักพักแล้วกันค่ะ น้องร้อน" ฟ้ามณีบอกองค์นครายิ้มๆ
องค์นคราส่งยิ้มให้เด็กๆทั้งสาม
ผ่านไปราว 20 นาที
"พี่หยุดฝนเถอะค่ะ เดี๋ยวคนอื่นไม่ได้เดินเที่ยวกันพอดี" ฟ้ามณี บอกองค์นครา
"ได้สิน้องพี่" องค์นครารับคำ แล้วฝนก็หยุดในทันที
"องค์นคราอย่างเท่ห์"เนยกรอบชมองค์นครา องค์นคราได้แต่ยิ้มให้ไม่ตอบอะไร
"หืม ยัยฟ้าแต่ดูหนุ่มคนนั้นสิ หล่ออ่า "เนยกรอบชวนฟ้ามณีดูผู้ชายคนนึงที่เดินมา กล้ามเป็นมัดๆ ปลดกระดุมเสื้อสามเม็ด โชว์ให้เห็นรอยสัก
"หืม รอยสักกราวใจมากแก" ฟ้ามณี เออออ ไปกับเนยกรอบ ส่วนองค์นครา มองตามไม่วางตาอย่างจดจำ
เมื่อทั้งหมดเดินชม เดินเที่ยวจนครบทุกจุดก็พากันขึ้นรถกลับ
"แล้วเจอกันนะดวงมณี องค์นครา" น้ำมนต์บออกเมื่อทั้งคู่ลงรถ
"ขับรถดีๆนะบ๊ายบาย" ฟ้ามณีโบกมือลาเพื่อน แล้วเดินขึ้นห้องพัก
เมื่อถึงห้องฟ้ามณีก็เตรียมจะอาาบน้ำ
"พี่ไม่หายไปเหรอคะน้องจะอาบน้ำ น้องอายนะ" ฟ้ามณีบอกองค์นครา
"น้องก็รู้พี่อยู่ด้วยตลอด ถึงแม้จะปรากฎกายหรือไม่ก็ตาม" องค์นคราบอกฟ้ามณี
"ใช่แต่มันก็อายมั้ยละ พี่หายไปก่อนมันไม่ชินค่ะ" ฟ้ามณีอธิบายพี่ยืดยาว
องค์นครายิ้มกว้าง แล้วกายเลือนหายไป
"ฟูว์......"ฟ้ามณีพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก แล้วเปลี่ยนชุดไปอาบน้ำ
เธออาบน้ำเสร็จก็มาใส่ชุดนอน
"ว้ายยย" ฟ้ามณีตกใจที่องค์นคราปรากฎกายต่อหน้า ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อฮาวาย ติดกระดุมสามเม็ด น่าอกมีรอยสักเต็มไปหมด
"เป็นไง เราเท่ห์มั้ย"องค์นคราถามอย่างภูมิใจ
"พะ พะ พี่ทำอะไร ทำมัยแต่งตัวอย่างนี้ แล้วทำมัยมีรอยสักด้วยละคะ" ฟ้ามณีถามอย่างสงสัย
"อ่าวก็พี่เห็นน้องกับเนยกรอบ ชอบชายคนนั้นที่มีรอยสักแบบนี้นี่ พี่ก็เลยลองมีดูบ้างเป็นไงน้องถูกใจมั้ย" องค์นคราถามฟ้ามณีอย่างภาคภูมิใจ
"โอ้ยยย พี่ ฟ้าก็พูดไปเรื่อย ไม่ได้ไปชอบเค้าแบบนั้น เห้อ พักๆ" ฟ้ามณีทั้งขำทั้งบอกองค์นครา
"งั้นเหรอ แต่พี่ก็ว่าเท่ห์ดีนะ เดินไปเช็คเรตติ้ง แบบที่มนุษย์ชอบทำหน่อยเป็นไง จะได้รู้" องค์นคราพูดแบบไม่ได้คิดอะไร
"ก็ชอบอ่อยอย่างนี้ไง เมียถึงเต็มบ้านเต็มเมือง หึ" ฟ้ามณีพูดออกมาอย่างหงุดหงิดไม่รุ้ตัว
"เออ พี่ว่าน้องคงหิว" องค์นคราเปลี่ยนเรื่อง แล้วบันดาลอาหารไว้บนโต๊ะ คราวนี้พี่จัดข้าวขาหมูไว้ให้ฟ้ามณี
ฟ้ามณีมองอาหารแล้วยู่หน้า
"ไม่เอาได้มั้ย อยากกินพิซซ่าค่ะ" เธอบอกพี่
"ได้สิ " องค์นครา เปลี่ยนจากข้าวขาหมูเป็นพิซซ่าให้น้อง
ฟ้ามณีมองแล้วยิ้มกว้าง แล้วเธอก็นั่งกินพิซซ่าอย่างอรมณ์ดี
เธอกินได้แค่ไม่กี่ชิ้นก็อิ่ม ฟ้ามณีมองหน้าองค์นครายิ้มๆ
"อิ่มแล้วเหรอ" องค์นคราถามฟ้ามณีอย่างรู้ทัน ฟ้ามณีพยักหน้าให้พี่
องค์นคราจัดการ เก็บทุกอย่างให้ตามเคย
"น้องพร้อมไปดูเรื่องราวอีกหรือเปล่า" องค์นคราถามฟ้ามณี
ฟ้ามณีหันมายิ้มแล้วพยักหน้าให้พี่
พรึบ!!!!!
องค์นคราพาฟ้ามณีย้อนมาดูเรื่องราวอีกครั้ง
ฟ้ามณียืนเคียงข้างองค์นครา มองหยาดมณีที่กำลังหันซ้ายหันขวา แล้วยิ้มคนเดียว
เธอย่องออกไปเที่ยวอีกแล้ว หยาดมณีคิดในใจ "หึ พี่บอกว่าจะพาไปเที่ยวแต่ก็มิมาเสียที ขอออกไปสำรวจรอ หน่อยก็แล้วกัน"เมื่อนึกเช่นนี้ สาวน้อยผู้ซุกซนก็เดินร่าเริ่งออกจากที่พัก ไปยังดงดอกไม้อันงดงาม ในระหว่างที่เธอกำลังชื่นชม อย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น ก็มีคนมากระชากแขนของเธอ หยาดมณีหันมาอย่างตกใจ
แต่เมื่อพบหน้าผู้ที่กระชากแขนของเธอนั้น เธอตกใจยิ่งกว่า
"ท่านพี่" หยาดมณีพูดเพียงแค่นั้น เพราะเบื้องหน้าของเธอคือองค์ชายเล็ก หรือองค์ชายนครานั้นเอง คราวนี้มีผู้หน้าใหม่มาด้วยถึงสามท่าน แต่ทั้งสามท่านนี้ นั่งประนมมืออยู่ที่พื้นอย่างนอบน้อม
"ใช่เราเอง นี่เจ้าก็ยังจำได้ เหตุใดจึงจำสัญญาที่ให้ไว้แก่เรามิได้ เหตุใดเจ้าจึงมิรอ หากมิใช่เรามาเจอเจ้า เจ้าจักเป็นเช่นไร เจ้านี้มิคิดบ้างหรือ" องค์นคราตำหนิหยาดมณีไปหลายคำ
"ท่านพี่เองสัญญาจะพาน้องเที่ยว แต่นี้ก็ผ่านไปนานโข ท่านก็มิมา น้องก็คิดว่าท่านคงสัญญาเพียงลมปากเท่านั้น ใครจะไปรู้ แล้วเหตุใดต้องโมโหถึงเพียงนี้ น้องมิได้ผิด เป็นท่านที่ปล่อยให้น้องรอเสียเนิ่นนาน"หยาดมณีตอบโต้อย่างเหลือทน
"เจ้าพูดออกมาได้เช่นไรหยาดมณี พี่มีหน้าที่ พี่มีงานต้องทำ พี่ต้องปกป้องพวกเราชาวนาค พี่มิได้ลืมน้อง เพียงแค่น้องรอสักนิด มิได้หรือ พี่เป็นห่วงจะมิให้โมโหได้เช่นไร"องค์นคราที่โมโหถึงขีดสุดในคราวแรก ผ่อนเสียงให้เบาลงแล้วออธิบายหยาดมณี
หยาดมณียังคงไม่พูด เธอเบือนหน้าหนีไม่มองแม้แต่หน้าของพี่
"พี่ก็มาตามสัญยาแล้วนี้ไง พี่ไปหาเจ้าที่ตรงที่พัก มิเจอเจ้า พี่ร้อนรนเพียงใด เจ้ารู้หรือไม่ พี่ออกตามหา ดีที่เจอเจ้า แล้วน้องพี่เหตุใดถึงมิมองพี่ พี่ตั้งใจมาหาเจ้าถึงเพียงนี้ เจ้ามิใยดีพี่เชียวหรือ" องค์นคราอธิบายเหตุและผลให้หยาดมณีฟัง หยาดมณีหันหน้ามามองพี่อีกครั้ง
หยาดมณีมององค์นครา นัยตาสั้นสะท้าน
"น้องขอโทษ น้องแค่คิดว่าออกมาสำรวจมิไกลคงมิเป็นไร น้องขอโทษ"หยาดมณีพูดพร้อมยกมือนพวันทาไหว้ตรงหน้าพี่
"เอาหละ ช่างมันเถิด พี่มิได้จะว่าเจ้าเพื่อเอาความ พี่ว่าเจ้าเพราะความห่วงเท่านั้น เมื่อเจ้าสำนึกได้ พี่ก็จักไม่ต่อความอีก"องค์นครากอดปลอบหยาดมณี
ด้านฟ้ามณีที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ข้างๆองค์นครา "ทำมัยเราดูงอแง่งี่เง้าจัง" เธอพึมพำคนเดี๋ยวจนองค์นคราที่ยืนข้างๆของเธอขำ
"พี่ไม่ต้องขำเลยนะ" ฟ้ามณีดุองค์นครา แล้วตั้งใจดูเหตุการณ์ต่อ
"แล้วนี่พี่พาผู้ใดมากันเจ้าค่ะ ทำมัยแต่งกายไม่เหมือนพี่ แล้วท่านทั้งหลายใยจึงมิยืน" หาดมณีถามอย่างสงสัย
"นี่เป็นทหารและบริวารในการปกครองของพี่ ผู้นี้ชื่อว่า มนตรา ผู้นี้ชื่อว่านิลภัทร ส่วนผู้นี่ชื่อว่าอินทุมาลา" องค์นคราบอกหยาดมณี
"ลุกๆๆ พี่มิเหมือนกันหรือ " หยาดมณียิ้มแล้วบอกทุกท่าน ทั้งสามคนมองหน้าผู้เป็นเจ้านาย องค์นคราพยักหน้าอนุญาต
ทั้งสามท่านจึงลุกยืน
"พี่ท่านมานานมั้ยเจ้าคะ" หยาดมณีถามองค์นคราอย่างดีใจ เรื่องขุนข้องหมองใจเมื่อครู่หายสิ้นแล้ว
"หึ พี่เอาคนมาดูแลเจ้า เพราะเกรงว่าจักหนี้เที่ยว แล้วก็เป็นเฉกเช่นนั้นจริงๆด้วย "
องค์นคราตอบหยาดมณี
"ถึงกับต้องเฝ้าเชียวหรือ น้องมิใช่นักโทษนะเจ้าคะ"หยาดมณีเถียงองค์นครา
"เจ้ามิใช่นักโทษ เพราะเรามิให้ค่านักโทษถึงเพียงนี้"องค์นคราบอกหยาดมณีแล้วยิ้มกว้าง
"ไม่ต้องเฝ้ามิได้หรือเจ้าคะ"หยาดมณีต่อรอง
"มิได้ พี่เป็นห่วงเจ้า เพราะเจ้าดื้อรั้นยิ่งนัก พี่จักให้มนตราและนิลภัทร อยู่ดูแลเจ้า ส่วนอินทุมาลาจะติดตามพี่แทนมนตราและนิลภัทร" องค์นคราบอกหยาดมณี
พรึบ!!!!
ฟ้ามณีถูกองค์นคราพากลับมายังปัจจุบัน
"พี่รีบพากลับมาทำมัยคะ ฟ้ายังอยากดูต่อ" ฟ้ามณีโว้ยวายพี่
"น้องจะอันตรายหากอยู่นานกว่านี้"องค์นคราตอบฟ้ามณี
ฟ้ามณีพยักหน้ารับรู้
"แต่เดี๋ยวนะคะ มนตรากัยนิลภัทร ให้เฝ้าน้อง หมายถึงเฝ้าแค่ตอนนั้น หรือว่าเฝ้ายาวมาถึงทุกวันนี้" ฟ้ามณีถามอย่างนึกขึ้นได้
องค์นครายิ้ม แทนคำตอบ ปรากฎกายมนุษย์ ของมนตราและนิลภัทร นั่งนพไหว้อยู่เบื้องหน้าของเธอและพี่