องค์นคราพาฟ้ามณี ย้อนดูภาพเรื่องราวต่างๆ ตอนนี้ฟ้ามณีและที่ยื่นอยู่ข้างๆองค์นครา กำลังยืนอยู่ในที่แห่งนึง เบื้องหน้ามีน้ำตกอันงดงาม
ปรากฎกายพญานาคสาว อายุบำเพ็ญเพียร ราว 6 หมื่นปีในร่างมนุษย์ เป็นหญิงสาวงดงามกำลังนั่งเล่นอยู่ที่ลำธารน้ำตกเพียงผู้เดียว
เธอค่อยๆหันซ้ายหันขวา ดูบรรยากาศโดยรอบ แล้วก็ใช้มือสัมผัสน้ำเล่น ฟ้ามณีค่อยๆพินิจ เมื่อเห็นหน้าของนาคสาวในร่างมนุษย์ตนนี้
"นี่ นี่ มันหน้าเหมือนเราเลย" ฟ้ามณีพูดออกมา
"ใช่นี่คือน้อง ในภพนาค ในชื่อหยาดมณี" องค์นครา พูดกับฟ้ามณี
"แล้วเธอจะไม่เห็นไม่ได้ยินพวกเราเหรอคะ"ฟ้ามณีถามอย่างสงสัยใคร่รู้
"เหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นผ่านมานานมากแล้ว เราทำได้แค่ดู กลับไปแก้ไขหรือทำอะไร ไม่ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องห่วงว่าเธอจะเห็นเรา เหมือนเราดูหนังเรื่องนึงก็แค่นั้น"
องค์นครา ตอบแล้วยิ้มบางๆให้ฟ้ามณี
หยาดมณีที่กำลังเล่นน้ำอย่างสบายอุรา ก็ต้องพลันชะงัก เมื่อเห็นครุฑบินวนไปมา เธอรีบหาต้นไม้ใหญ่หลบด้วยความกลัว
ครุฑบินวนมาใกล้เข้า ใกล้เข้าทุกที พลันมือเธอก็ถูกดึงจากใครสักคน เธอตกใจ หันหน้าไปมอง
"เรามาช่วยเจ้าจงนิ่ง"ชายหน้าดุ ร่างกำยำน่าเกรงขามผู้นี้ออกคำสั่ง หยาดมณีรู้สึกกลัวและเกรงในสายตาและใบหน้าที่ดุนี้ เธอจึงเงียบแล้วเดินตาม
พี่ชายตรงหน้า สร้างปราการม่านแก้วครอบกายของเขาและเธอไว้ หยาดมณีมองอย่างอึ้งๆ
"ท่านเป็นผู้ใดกัน" หยาดมณีถามชายเบื้องหน้า
"เรานะหรือ องค์ชายเล็ก ผู้ใดเขาก็เรียกเราว่าเช่นนั้น แต่เจ้าเรียกเราว่าท่านพี่นครา ก็ได้" ชายหน้าดุคนนั้นบอกหยาดมณีให้เรียกเขาว่า ท่านพี่นครา
หยาดมณีพยักหน้ารับ
"แล้วเหตุใด เป็นสาวเป็นนาง จึงออกมาเดินเที่ยวเล่นตามอำเภอใจเพียงผู้เดียวเล่า มิกลัวโดนครุฑจับฉีกกายรึ" องค์นคราตำหนิหยาดมณีเสียงดุ
"เจ้ามีนามว่าอันใด" องค์นคราถามต่อ
"หยาดมณี" หยาดมณีตอบองค์นคราเพียงเท่านั้น ไม่อยากจะพูดกับพี่สักเท่าไหร่ เป็นอะไรทำมัยต้องดุมากมายขนาดนี้
เสมือนองค์นคราที่อยู่ในปราการม่านแก้วกับหยาดมณี จะรู้ความคิดของหยาดมณี จึงกล่าว
"ที่เราต้องดุ เพราะห่วง มิยากให้เกิดอันตรายอันใดแก่เจ้า โปรดอย่าเห็นความหวังดีนี้เป็นอื่น มิได้เจตนาให้เจ้าเสียใจ"
"น้องก็มิได้ว่าอันใด เช่นใดท่านพี่ก็ช่วยชีวิตน้องไว้แล้ว จักว่าอันใด ก็สุดแท้แต่ใจเถิด" หยาดมณี ตอบองค์นครา อย่างผู้ที่เอาแต่ใจ
เสียงครุฑบินวน หายไปสักพักแล้ว องค์นครา คายปราการม่านแก้วออก
"เอาละ น้องพี่ เจ้าปลอดภัยแล้ว เจ้าอยู่ ณ ที่แห่งใด เราจักไปส่ง"องค์นครากล่าวเพียงแค่นั้น
"ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ น้องกลับเองได้" หยาดมณียืนยันเช่นนั้น
"ให้พี่ไปส่งให้เจ้าปลอดภัยเถิดหนา อย่าถือทิฐิ จนตัวเจ้าเองต้องตกอยู่ในอันตราอีกเลย" องค์นครา บอกหยาดมณี
หยาดมณีมองหน้าพี่อย่างชั่งใจ แล้วยินยอมให้ท่านพี่นครา ตามไปส่งในบ้านของเธอ
เมื่อเธอเดินกลับมาถึงบ้าน ก็วิ่งกอดบิดา
"มาแล้วจ๊ะท่านพ่อ"หยาดมณีบอกบิดาแล้วเข้าไปสวมกอด
"เจ้าไปที่ใดมา พ่อเป็นห่วงยิ่งนัก" พ่อของหยาดมณีตำหนิบุตรสาว
"อย่าตำหนิน้องเลยท่านผู้อาวุโส ข้าตำหนิไปมากโขแล้ว"องค์นครา บอกกกับพ่อของหยาดมณี มิให้ตำหนิบุตรสาว
"องค์ชายเล็ก " พ่อของหยาดมณีรนลาน แล้วทำความเคารพ จนหยาดมณีแปลกใจ
"ลุกขึ้นเถิดท่านผู้อาวุโส"องค์นครา บอกพ่อของหยาดมณีให้ลุกขึ้น
"ท่านมาได้เช่นไร"พ่อของหยาดมณีถามอย่างแปลกใจ
"เรามาดูความเรียบร้อย แล้วเห็นบุตรสาวของท่านหลบครุฑที่บินวนอยู่ เราเลยเข้าไปช่วย " องค์นคราบอกไปตามความจริงที่เกิดขึ้น
"เจ้านี่ช่างซุกซนเหลือคณานับ เที่ยวเล่นมิรู้ความ ความตายจักมาเยื่อนมิรู้ตัว" พ่อของหยาดมณี อดตำหนิบุตรสาวมิได้ เหตุเพระเป็นห่วง
หยาดมณีได้แต่ซึมลงไปถนัดตา
"ท่านผู้อาวุโสอย่าไปดุน้องหยาดมณีเลย นางคงมิคิดว่าจักเกิดเรื่องเฉกเช่นนี้ ปลอดภัยก็นับว่าดีแล้วมิใช่หรือ" องค์นคราช่วยให้หยาดมณีพ้นจากการโดนบิดาดุ
"องค์ชายเล็กช่างเมตตาลูกสาวข้ายิ่งนัก ท่านมีเมตตาสมคำร่ำลือจริงๆ" พ่อของหยาดมณี กล่าวออกมาอย่างซาบซึ้งที่เจ้าชายผู้นี้ ช่วยชีวิตบุตรสาวของเขาไว้
หยาดมณีเดินเลี่ยงออกมา ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างปรากฎชัดให้ฟ้ามณีที่ยืนเคียงคู่องค์นคราในปัจุบันได้เห็นชัด ทุกจุดทุกมุม ทุกการกระทำ ของทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น
ฟ้ามณีมองทุกอย่าง ด้วยความสับสน เหตุการณ์เบื้องหน้า ผู้หญิงตรงหน้า คือเราในอดีตหรอกหรือ หากจะว่าใช้ เธอเองนั้นไม่มั่นใจ แต่จะว่าไม่ใช้ แต่ทุกการกระทำ ที่หยาดมณีทำ เธอมีความรู้สึกร่วมชัดเจน ชัดชนิดที่ว่า แต่ละประโยคที่หยาดมณีจะพูดเธอเองเดาไว้ล้วงหน้าทั้งหมด แล้วก็ไม่ผิดไปจากกันเลย
ภาพยังคงปรากฎต่อไป หยาดมณีเดินมาเก็บดอกไม้ ที่บริเวรใกล้ที่พัก แล้วเอามาร้อยเป็นมาลา ถึงพี่จะหน้าตาดุ บอกบุญไม่รับอยู่ตลอดเวลา แต่ทว่า พี่ก็ช่วยชีวิตของเรา
หยาดมณีคิดเช่นนั้น เธอก็ลงมือร้อยมาลาไปเรื่อยๆ
"น้องพี่ เจ้ามาอยู่ที่แห่งนี้นี่เอง พี่จักกลับแล้วหนา" องค์นครา พูดกับหยาดมณี
หยาดมณีหันมองพี่ แล้วเดินมาหาพร้อมกับพวงมาลา
"น้องมอบให้พี่แทนคำขอบคุณเจ้าคะ ที่ช่วยชีวิตน้องเอาไว้"หยาดมณียื่นพวงมาลา ให้องค์นครา
องค์นครารับพวงมาลา แต่ตั้งใจสัมผัสมือของน้อง หยาดมณีตกใจเล็กน้อย ทำให้องค์นครายิ้มกว้างออกมา เมื่อองค์นครายิ้มใบหน้าท่านกลับสว่างราวกับพระจันทร์เต็มดวง
หยาดมณีมองภาพนี้ แล้วพูดออกมา พร้อมๆกับที่ฟ้ามณีพูดโดยไม่รู้ตัว
"พี่ท่านยิ้มแล้วงามน่ามอง ท่านยิ้มบอยๆสิ น่าดูกว่าทำหน้าบึ้งอยู่มากโข" หยาดมณีในอดีตและฟ้ามณีในปัจจุบัน พูดคำเดียวกันออกมา
องค์นคราตรงหน้าฟ้ามณี ยิ้มดีใจ ที่น้องยังจำประโยคเหล่าได้
ส่วนองค์นครา ที่อยู่ตรงหน้าหยาดมณี ขำกับคำพูดของน้อง แล้วยิ้มกว้างอีกครั้ง
"แบบนี้นะเหรอ ที่เจ้าชอบ" องค์นคราถามหยาดมณี
หยาดมณีพยักหน้าแล้วยิ้มให้พี่
"พี่จักกลับแล้วหนา น้องจงอย่าไปเที่ยวเล่นอีก พี่สัญญา ว่าพี่จักหาเวลามาพาเจ้าเที่ยวเล่น แต่สัญญาได้หรือไม่ ว่าจะมิไปหากไม่มีพี่" องค์นคราขอคำมั่นสัญญาจากน้อง
"เจ้าค่ะ" หยาดมณี รับคำแล้วยิ้มกว้าง
"พี่ท่านสัญญาแล้ว ห้ามลืมคำนะเจ้าคะ"หยาดมณีย้ำคำสัญญากับพี่ชาย
"พี่มิลืมดอก" องค์นคราวางมือบนศีรษะหยาดมณีแล้วยิ้มให้น้อง
พรึบ!!
ฟ้ามณีกลับมาที่ห้องเธอดังเดิม ฟ้ามณีมีอาการเหนื่อยหอบ และเวียนหัว เธอมององค์นครา
"ทำมัยไม่ดูต่อคะ" ฟ้ามณีถามองค์นคราอย่างไม่เข้าใจ
"น้องเหนื่อยเกินไปแล้ว เดี๋ยวพี่พาไปดูใหม่" องค์นครา มองฟ้ามณีด้วยความเป็นห่วง แล้วเอามือวางที่ศีรษะฟ้ามณี สักพักฟ้ามณีก็มีอาการดีขึ้นทุกอย่าง
"เราดูอีกไม่ได้หรือคะ" ฟ้ามณีถามอย่างอยากรู้
"วันนี้ไม่ได้แล้ว น้องต้องพัก"องค์นคราบอกว่ามณี
ฟ้ามณีก้มมองเวลา
"เราไปยืนดูตั้งนาน ทำมั้ยเวลาถึงไม่ขยับเลยละคะ"ฟ้ามณีถามอย่างสงสัย
"เราพาเจ้าข้ามห้วงแห่งเวลาไป เจ้าไม่ต้องเสียเวลาของเจ้าเลยแม้แต่น้อย แต่ผลเสียคือ น้องจะเหนื่อยง่าย จะข้ามไปดูนานๆไม่ได้" องค์นครา บอกฟ้ามณี
แล้วนั่งลงข้างๆ น้อง ฟ้ามณีหันมามองที่องค์นครานิ่งแล้วไม่ได้พูดใดๆ
องค์นครา บันดาลอาหารมาไว้บนโต๊ะเบื้องหน้า
"น้องไปกินข้าวแล้วพักผ่อนเถอะ นี่ก็ใกล้จะเย็นมากแล้ว"
ฟ้ามณีเดินไปดูอาหารบนโต๊ะ มีกุ้งเผา ทะเลผัดผงกะหรี่ ต้มยำปลา
"เยอะมาก" ฟ้ามณีพูดมาอย่างอึ้งๆ
"กินสิ พี่นั่งเป็นเพื่อน" องค์นครา มานั่งฟังตรงข้ามน้อง
ฟ้ามณีลงมือกิน คืออาหารอร่อยทุกอย่าง อร่อยมากๆจริงๆ เธอกินอย่างอร่อย จนอิ่ม
และเหมือนเช่นเดิม หลังจากเธออิ่ม พี่ก็จัดการถ้วยจานให้
ฟ้ามณียิ้มให้องค์นคราอย่างไม่รู้ตัว
"พี่มาอย่างนี้ แล้วภพพี่ ไม่ต้องทำอะไรเหรอคะ" ฟ้ามณีเริ่มเปิดใจคุย
"พี่จะอธิบายยังไงให้เข้าใจดีละ เอาเป็นว่าพี่รับรู้ทุกอย่างที่พี่อยากรู้ได้ด้วยญาณ ด้วยจิต และบารมีที่สั่งสม ส่วนกายของพี่จะอยู่ ณ ที่แห่งใดก็ได้ทั้งนั้น" ฟ้ามณีพยักหน้าอย่างเข้าใจ
"เออ แล้วคู่ครองของพี่ละคะ"ฟ้ามณีถามคำถามนี้ออกไป แต่ข้างในรู้สึกเจ็บปวด
"พี่ อยากอธิบายน้องเรื่องนี้ มานานมากแล้ว แต่พี่ว่าน้องอาจไม่พร้อมที่จะรับฟังสักเท่าไหร่"องค์นคราพูดน้ำเสียงสลดลง
"เล่าได้มั้ยคะ อยากรู้จริงๆ"
"ในยุคที่มีศึกสงคราม ในยุคนั้น และมาถึงตอนนี้ การเสพกามคืออีกหนึ่งอย่างที่ทำให้นาคดำรงค์เผ่าพงษ์พันธุ์และมีอายุยืนยาว จึงไม่แปลก ที่มนุษย์ชอบกล่าวหาว่าพญานาคนั้นมากรัก แต่จะว่าอย่างไรได้เล่า ในศึกสงคราม หากใครชนะ ก็จะมีผู้มาถวายบุตรสาว เพื่อเป็นรางวัล หากเราไม่รับ ก็จะเกิดการน้อยใจ หากเรารับก็กลายเป็นผู้ที่มากรัก เราเบื่อกับเรื่องนี้เต็มที ทุกวันนี้เราดำรงชีวิตด้วยการบำเพ็ญเพียรเพียงเท่านั้น ตั้งแต่เจ้าจากมา พี่ก็เข้าสู่หนทางแห่งการบำเพ็ญ เพราะรู้สึกว่าพี่ทำพลาดเหลือเกิด มันคือการผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ ในการตัดสินใจของพี่ พี่เสียใจจนถึงทุกวันนี้ " องค์นรานิ่งไป ฟ้ามณีมองพี่อย่างหลากหลายความรู้สึก
"ก็คงต้องใช่เวลาพิสูจน์เรื่องราว มันคงต้องรอเวลาเท่านั้น ถามว่าเห็นใจพี่มั้ย มันก็เห็นใจกว่าเมื่อก่อนคะ แต่มันก็นั้นแหละ เรื่องราวที่เราจำอะไรไม่ได้เลย มันก็คงต้องใช้เวลาสักหน่อย ส่วนอนาคต ฟ้าจะให้อภัย หรือไม่ให้อภัยพี่ ฟ้าเองก็ตอบไม่ได้ค่ะ " ฟ้ามณีบอกองค์นครา อย่างตรงต่อความรู้สึกของตัวเองที่เธอคิดตอนนี้
"ไม่เป็นไร แค่น้องเปิดใจรับฟังพี่ แค่นี้ก็ดีมากแล้ว"องค์นครา กับฟ้ามณี ยิ้มบางๆให้แก่กัน