ฟ้ามณีเดินมาถึงหน้าตึก คณะเศรษฐศาสตร์ เธอมองพ่อหนุ่มหน้าอิตตาลี่
"พี่ไปอยู่ในดวงแก้วได้แล้ว"ฟ้ามณีบอกพี่
"เดี๋ยวค่อยไป เพื่อนน้องกำลังมา" องค์นคราบอกกับฟ้ามณี
สิ้นสุดคำพูด น้ำมนต์ และเนยกรอบเดินมา
"สวัสดี ดวงมณี เป็นยังไงบ้าง เมื่อคืนโอเคมั้ย พ่อครูฝากให้มาถาม ว่าได้ของที่ทำหล่นในพุ่มไม้คืนหรือยัง เรางงอยู่นะ แต่พ่อครูฝากบอกว่า ของทุกอย่างมีเจ้าของ แม้ว่าพลัดพรากกันไปนานแค่ไหน ก็กลับคืนสู่เจ้าของเดิมอยู่ดี เราเองก็งง แต่พ่อครูบอกว่าเธอจะเข้าใจที่ฝากมาพูด"น้ำมนต์บอกกับเพื่อน
"อืม เราว่าเราเข้าใจ" ฟ้ามณีตอบเพื่อนอย่างคนปลง
"เดี๋ยวนะ พ่อหนุ่มฝรั่งคนนี้คือใคร"เนยกรอบถามอย่างสงสัย เธอไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ตอนนี้เธอเห็นอยู่ข้างๆเพื่อนเธอ
น้ำมนต์ และเนยกรอบรอคำตอบจากเพื่อน
"เห้อ จะอธิบายพวกแกยังไงดีอ่า "ฟ้ามณีตอบเพื่อนอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไง
"ก็อธิบายตามความจริงนั้นแหละ เราเป็นเพื่อนกันนะ"เนยกรอบบอกฟ้ามาณี
"งั้นไปนั่งด้านนูนกัน" ฟ้ามณีชวนเพื่อน
ทุกคนรวมถึง องค์นครา เดินตามไปนั่งที่ซุ้มม้านั่งลับตาคน
"ไหนๆ ก็มาก่อนเวลาเป็นชั่วโมง ฉันจะเล่าความจริงให้พวกแกฟังเลยแล้วกัน" ฟ้ามณีพูดออกมา
"มีอะไรที่พวกเรายังไงรู้อีกเหรอฟ้า" เนยกรอบถามเพื่อน ฟ้ามณีพยักหน้า
แล้วเธอก็เริ่มเล่า
"คืออย่างงี้ เมื่อวานตอนลงมาจากเรือนที่น้ำมนต์ ไปทำกับข้าวช่วยแม่ เนยกรอบแยกไปรับโทรศัพท์ ฉันเองเดินมานั่งเล่นดูปลาคราฟ อยู่ๆฉันรู้สึกว่าเหมือนมันครึ้มๆ ก็เลยเงยหน้ามองท้องฟ้า ที่ตอนนั้นเริ่มครึ้มเหมือนจะตั้งเค้าฝน แต่แล้วก็มีวัตถุ วัตถุหนึ่งตกลงมาจากท้องฟ้าโล่งๆหล่นลงมาที่ตักฉัน พอฉันดู ปรากฎว่า เป็นดวงแก้วมณีสีแดง ขนาดเท่าเหรียญสิบ แล้วฉันก็นึกถึงคำพูดพ่อครู ว่าหากเจอดวงแก้วมณีแล้วจะได้รู้เรื่องราวและพบเจอองค์นคราได้โดยตรง ฉันไม่อยากได้ ไม่อยากรู้ ไม่อยากเจอ เลยโยนดวงแก้วดวงนี้เข้าพุ่มไม้ที่บ้านของน้ำมนต์ แล้วเดินมาที่โต๊ะกินข้าว แล้วเราก็กินข้าวกันปกติ น้ำมนต์ส่งที่หอ ฉันก็อาบน้ำแต่งตัวเตรียมนอน แล้วก็นึกได้ ว่ายังไม่จัดกระเป๋าและยังไม่ดูตารางเรียน ฉันเปิดกระเป๋า ฉันงงมาก ดวงแก้วมณีสีแดงดวงนั้นอยู่ในกระเป๋าฉันอะแก " ฟ้ามณีบอกกับเพื่อน
"แล้วเธอทำไงต่ออะดวงมณี" น้ำมนต์ถามอย่างอยากรู้
"เราก็คิดว่า เออเดี๋ยวพรุ้งนี้ไปทิ้งใหม่ แล้วเราก็นอน พอเราหลับสนิท เราก็ฝันอะแก เห็นตัวเองไปยืนใต้ทะเล แล้วเห็นพญานาค สองตนแหวกว่ายน้ำกันมา แล้วมาหยุด ที่ตรงบริเวรหน้าฉัน ทั้งคู่กลายร่างเป็นมนุษย์ชายและหญิง
ตนที่กลายเป็นผู้หญิง ใบหน้าเหมือนฉันไม่มีผิดเพี้ยน สวมชุด จะว่าไทยก็ไม่ใช่ จะว่าสไบก็ไม่เชิง เป็นผ้าถุงเลื่อมสวย มีเสื้อเกาะบริเวณอกสีชมพู แล้วมีผ้าคล้ายๆผ้าชีฟองสีชมพูบริเวรไหล่ไล่ยาวลงถึงพื้น ส่วนตนที่เป็นผู้ชาย หล่อ หน้าตาออกไปทางฝรั่งโซนผู้ชายอิตตาลี่ ร่างกายกำยำ นุ่งโจงกระเบนสีเข้ม คล้องสร้อยสังวาลย์ทองคาดลงมาหนึ่งฝั่ง ไม่ใส่เสื้อ แล้วทั้งคู่ก็พันกันเป็นวงกลมแนวดิ่ง สอดประสานไปมา วนกายลงข้างล่างทะเล ไปเรื่อยๆ ลึกลงไป ลึกลงไป แต่ทว่าถึงแม้จะพันกายกันลงไปลึงลงแค่ไหน ฉันที่อยู่ที่เดิมกลับมองเห็นชัดเหมือนตามลงไปด้วย ชัดทั้งภาพและความรู้สึก สักพัก ทั้งคู่คลายออกจากกัน แล้วกลับร่างเป็นมนุษย์ดั่งเดิม แล้วแวกว่ายสายน้ำหยอกล้อกันขึ้นมา และยังคงหยุด ตรงหน้าของฉัน แล้วก็มีพยานาคสีดำสนิทอีกตนวายน้ำมา แล้วหยุดกลายร่างเป็นมนุษย์หุ่นบางแต่ยังคงไว้ซึ้งความกำยำ สวมโจงกระเบนสีดำสนิท กายมนุษย์ผิวสองสี ไม่สวมเสื้อ สวมสังวาลย์สีเงินคาดบ่าหนึ่งฝัง ประนบมือนพไหว้ พยานาคสองตนตรงหน้า
"องค์ชายนครา มีพยาครุฑบินวนก่อกวน เรามาสักพักแล้วพระเจ้าข้า" นาคตนนั้นรายงาน
"งั้นรึ มนต์ตรา งั้นเจ้าไปส่งชายาเราที่วังแล้วเราจะมุ่งหน้าไปก่อน เจ้าก็จงอยู่เฝ้าน้องหยาดมณีเสียที่นั้นเลย แล้วเจ้าจงตามนิลพัตร์ให้ตามเราไป" พยานาคตนที่ชื่อนคราพูดแค่นั้นแล้วก็แวกว่ายสายน้ำไป อย่างรวดเร็ว
ฉันก็สะดุงตื่น แล้วบ่น
ฝันบ้า ฝันบออะไร หยาดมณีกับนครา คราวนี้ มีมนต์ตรา กับนิลพัตร์มาอีกด้วย มันเรื่องอะไรหนักหนา ไหนบอกจะไม่มาเข้าฝันแล้วไง ผิดสัจจะ
เท่านั้นและ ก็มีเสียงตอบกลับมาประมาณว่าเราขี้โกง ได้ดวงแก้วแล้วแต่โยนทิ้ง เราเลยหันตามเสียง เท่านั้นและ เต็มๆ ภาพชัด เสียงชัด คือองค์ที่เราเห็นในฝันองค์นครา"
"อ่าวแกทำไงอะฟ้า" เนยกรอบถามอย่างสนใจ
"ฉันก็บอกว่า ตัดภพตัดชาติไปแล้วจะมาตามอะไร เขาก็ต่อรองว่า ขอให้ฉันได้รู้เรื่องราวหากฉันยังคิดเช่นเดิม เขาก็จะแค่ดูแล ไม่ปรากฎกาย ไม่มารบกวน
ฉันเลยตกลง จะได้จบๆสะที "
"อ่าวแล้วแบบนี้จะรู้เรื่องยังไง ดวงมณี เธอรับสื่อได้ขนาดนี้ แล้วต้องไปรู้แบบไหน ถ้าเขาปรากฎกาย แล้วเธอเห็นแค่คนเดียวแต่คนอื่นไม่เห็น แล้วเธอเผลอพูด คนอื่นจะไม่ว่าเธอบ้าเหรอ" น้ำมนต์ ถามเพื่อนอย่างสงสัยและเป็นห่วง
ฟ้ามณีส่งสายตาไปที่พ่อหนุ่มอิตตาลี่ ข้างเธอ
"อย่าบอกนะว่า นี่คือองค์นครา" เนยกรอบพูดออกมาอึ้งๆ
"บอกจ๊ะ "ฟ้ามณีตอกลับเพื่อน
"หล่อมาก หล่อสุดอะไรสุด " เนยรอบถึงกับเพ้อ
"แล้วท่านปรากฎกาย ได้อย่างนี้เลยเหรอครับ" น้ำมนต์ถามองค์นคราอย่างสงสัย
"พี่อยากให้ใครเห็น ก็ได้ทั้งนั้น แต่พี่ก็เลือก ที่พวกเราไม่นิยมปรากฎกายในรูปแบบมนุษย์ หรือแม้แต่รูปลักษณ์ ของพญานาคให้ใครเห็น เพราะมนุษย์จิตนาการสูง ตกใจง่าย และตกอยู่ในภวังค์ง่าย คนส่วนน้อยถึงจะได้รับการอนุญาตจากพวกเรา ให้ได้พบเจอพวกเราแล้วอีกอย่างตอนพี่ปรากฎกาย เรียกพี่ เหมือนที่น้องฟ้าเรียกก็ได้"
องค์นคราบอกน้ำมนต์ แล้วยิ้มให้ ท่านเป็นพญานาคที่ยิ้มยากมากๆ แต่เมื่อท่านยิ้มครั้งใด คนที่ได้พบรอยยิ้มขององค์นครา กลับรู้สึกว่ามันช่างงดงามดั่งยามพระจันทร์เต็มดวง สวย สว่าง งามตา
"เพ้อ จริงๆ หล่อไม่ไหว ตายแน่ๆ" เนยกรอบพูดออกมา
"ผมคิดว่า ภาษาที่พี่นคราพูดจะเป็นอีกแบบ ไม่นึกว่าพูดปกติเหมือนพวกผมเลย" น้ำมนต์กล่าวออกมาอย่างที่คิด
"น้องฟ้ามณี บอกให้พี่พูดแบบนี้ ถ้าพูดแบบพี่พูดจริงๆ เกรงว่าคนอื่นจะสงสัย แล้วยังให้เปลี่ยนชุดให้ร่วมสมัย แล้วน้องก็ชม เออ ชมพี่ว่าอะไรนะ" องค์นครา หันไปถามฟ้ามณี
"เทสดีค่ะ"ฟ้ามณีตอบ
"หูยย แล้วพี่ออกมาข้างน้อง จะตามฟ้าตลอดเลยเหรอคะ" เนยกรอบเริ่มถามอย่าางสนใจ
"ไม่ปรากฎกายตลอดหรอก พี่จะสถิตในดวงแก้วนี้"องค์นคราชี้ไปที่ดวงแก้วที่ฟ้ามณีห้อย
"อย่าบอกนะ ว่าคือดวงที่หล่นลงมา แล้วตามเธอกลับบ้าน" น้ำมนต์ถามฟ้ามณี
"บอกอีกนั้นแหละ พี่จัดการเนรมิตรตัวเรือนให้เรียบร้อย" ฟ้ามณีบอกเพื่อน
"มันอึ้งมา เล่นเอาฉันที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เชื่อสะสนิทใจ พี่หล่อมาก ถ้าหนูเป็นยัยฟ้า หายโกรธเลย ยกโทษให้เพราะหล่อ "เนยกรอบบอกองค์นครา
องค์นครายิ้มให้
"พวกน้องไปเรียนเถอะ ถึงมันยังเหลืออีก 15 นาที แต่อาจารย์ที่สอนจะให้คนเข้าห้องช้าสุด เลยลงหยิบของที่อาจารย์ลืม ขึ้นไปให้ " องค์นคราบอกทุกคน พูดจบพ่อหนุ่มหน้าอิตตาลี่ ก็หายตัวไป ฟ้ามณีรู้ทันทีว่าเข้าดวงแก้ว
"ฉันเชื่อสนิทเลย เล่นเอาคนหัวสมัยใหม่แบบฉันเชื่อสนิทใจ แถมหายตัวโชว์อีก เชื่อแล้วไม่หลบหลู่" เนยกรอบถึงกับยกมือไหว้ดวงแก้ว
"ไปพวกเราไปเรียนกัน พี่เค้าเตือนแล้ว ไม่อยากไปสายสุด" น้ำมนต์ชวนเพื่อนไปเรียน
วันนี้ทั้งสามคน เรียนวิชาหลักเศรษฐกิจ
"นักศึกษาคะ เมื่อสักครู่ใครเข้าห้องคนสุดท้ายนะคะ" อาจารย์ถามขึ้นมาก่อนสอน
"เอาหล่าววว พวกแก พี่นคราแม่นสุด" เนยกรอบกระซิบเพื่อน
"ผมครับอาจารย์ " เพื่อนในห้องลุกขึ้นตอบ
"มานี่ลูก อาจารย์ลืมของ ช่วยลงไปหยิบให้อาจารย์หน่อย เป็นกระเป๋าแดงๆตรงโต๊ะอาจารย์นะคะ มีอยู่กระเป๋าเดี๋ยว" อาจารย์บอกข้อมูลลูกศิษย์โดยละเอียด
เมื่ออาจารย์ได้กระเป๋าแล้วก็เริ่มสอน
แล้วสั่งงาน "ให้นักศึกษาวิเคราะห์ นโยบายกระตุ้นเศรษกิจของรัฐบาลมาส่ง โดยยกมาเรื่องใดเรื่องนึง แล้วเราลองวิเคราะห์ดูนะคะ ไม่ต้องกลัวผิดลูก อาจารย์แค่อยากรู้ เดี๋ยวเรามาแชร์ความคิดเห็นกัน สำหรับวันนี้ แยกย้ายกันกลับได้ค่ะ"
ฟ้ามณี น้ำมนต์ แล้วก็ เนบกรอบ เดินลงจากตึก
"คิดถึงพี่นคราอ่า"เนยกรอบเพ้อ ขำๆ
"ของเพื่อนมั้ยก่อน"น้ำมนต์บอกเพื่อนขำๆ
องค์นคราได้แต่ฟังผ่านดวงแก้วแล้วขำ
"ให้พี่ออกมาเดินเป็นเพื่อนมั้ย " ฟ้ามณีได้ยินเสียงพ่อหนุ่มหน้าอิตตาลี่
"ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวคนมองเยอะ" ฟ้ามณีตอบกลับพี่ในใจ
"ได้ครับ " พี่ตอบกลับเธอมาผ่านความคิดของเธอเพียงแค่นี้
"เราไปกินไอติมกันมั้ย อยากกินอะ" เนยกรอบชวนเพื่อน
"ไปสิ อยากกกิน" ฟ้ามณีตอบตกลง
"ไปๆ " น้ำมนต์ก็ตกลง
"ฟ้า แล้วถ้าเราชวนพี่นครากินได้มั้ยอ่า ภพเค้ากินอะไร" เนยกรอบถามอย่างสงสัย
"ตนอื่นฟ้าไม่รู้ แต่พี่นครา ฟ้าถาม ท่านบอกท่านอิ่มทิพย์ ไม่กินอาหาร อิ่มทิพย์ อิ่มบารมี" ฟ้ามณีตอบเพื่อน
"หูยยย เท่ห์อ่ะ ตอนแรกเราก็นึกว่าองค์นคราจะ แก่ เพราะอายุก็น่าจะนับ แสน นับล้านปี เห็นแบบนี้ละฟินเลย แอบรักปู่ อิอิ" เนยกรอบเพ้อขำๆ
องค์นคราที่ฟังผ่านลูกแก้ว ก็ขำเสียมากกว่า ไม่โกรธ ไม่ถือสาอะไร ท่านเองได้แต่คิดในใจ มนุษย์หนามนุษย์ ลุ่มหลงง่ายอย่างนี้ไงเล่า เราถึงมิอยากให้เห็น
ทั้งสามคนเดินมาถึงร้านไอ้ติม โชคดีที่ทั้งร้านไม่มีใครเลย เนยกรอบสั่งไอ้ติมชุดใหญ่ จนฟ้ามณีและน้ำมนต์ไม่สั่งเลย เพราะแค่ที่เนยกรอบสั่งก็คือ จะกินหมดมั้ย ไม่ได้สั่งมาแค่ชุดเดี๋ยวด้วย เนยกรอบเล่นสั่งรัวๆ
เมื่อกินไอ้ติมกันเสร็จ ทุกคนแยกย้ายกันกลับที่พัก ฟ้ามณีอิ่มมากๆ เนื่องจากอากาศร้อน ในช่วงบ่ายนี้ ฟ้ามณีจึงอาบน้ำดับร้อน
เมื่อเธอแต่งตัวเสร็จ องค์นครา ปรากฎตัวในชุดโจงกระเบนไม่ใส่เสื้อของท่าน
"อุ้ยตกใจหมดเลย" ฟ้ามณีบอกพี่
"พี่จะพาเจ้าย้อนกลับไปดูเรื่องราว"องค์นคราบอกแล้วยิ้มให้ฟ้ามณี
ฟ้ามณีได้แต่ยืนอึ้ง