8|

1201 Words
คุณหญิงเดินทางกลับหลังจากวันนั้นทันที เหตุการณ์กลับมาปกติ คุณหิรัญออกไปทำงานตั้งแต่ฉันยังไม่ตื่น กลับเข้าบ้านก็ดึกเหมือนทุกครั้ง เป็นคู่แต่งงานที่ไม่เหมือนคู่อื่นทั่วไป เราสองคนแยกห้องนอน อยู่บ้านเดียวกันแทบไม่ได้เห็นหน้ากัน หากมีธุระเขาจะสั่งคนในบ้านมาบอก ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย เขาให้เลขาจัดการ ฉันมีเงินใช้ไม่ขาดมือ วงเงินบัตรเครดิตไม่จำกัด มีรถรับส่งและคนขับรถส่วนตัว พอคุณหญิงกลับไปเขาก็ไม่เคยเสนอตัวมารับฉันที่ม’ หาลัยอีกเลย แล้วฉันก็ถูกซุบซิบว่าถูกเขี่ยทิ้งเพราะเป็นแค่เด็กธรรมดาที่น่าเบื่อสำหรับเขา เรียนแค่พอใช้ กิจกรรมก็ไม่โดดเด่น รู้ดีกว่าตัวฉันอีก “ไปลานกิจกรรมกัน” โซ่วิ่งเข้ามาชวนฉันกับแขไปลานกิจกรรม วันนี้มหา’ลัยจัดงานฉลองให้กับเดือนดาวของแต่ละคณะก่อนที่จะเข้าคัดเลือกเป็นดาวเดือนของมหา’ลัยอีกรอบ “ไม่ไปได้มั้ย” ฉันทำเสียงเบื่อ กิจกรรมนี้ไม่ได้บังคับและเช็กชื่อด้วย แต่เพราะมีวงดนตรีที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ก็เลยเป็นที่สนใจ ใครๆ ก็อยากไป “เป็นอะไร ทิ้งไว้ก่อนได้มั้ย อายุอย่างเราเข้าผับไปดูพี่กิตเล่นดนตรีได้ที่ไหน” โซ่บ่นแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “พี่ชายเป็นเจ้าของผับแท้ๆ” แขพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะไม่หยุด “มันก็ไม่ได้ปะ ถึงคนอื่นจะไม่สนกฎหมายแต่ฉันสนเว้ย สักวันเราก็ต้องอายุยี่สิบ” “ก็รอยี่สิบก่อนสิ” “กว่าจะยี่สิบพี่กิตเขาก็เลิกร้องเพลงแล้วมั้ง” ฉันกุมขมับ สองคนนี้ไม่ทะเลาะกันสักวันจะได้มั้ยเนี่ย “โอเค งั้นไป เก็บของแป๊บนึงเลิกทะเลาะแล้วก็เถียงกันเป็นคนแก่ได้แล้ว” “เด็กมั้ย” แขหันมาแย้งฉัน “เด็กๆ เขาไม่เถียงกันแล้ว มีแต่แก่ๆ ทั้งนั้น ยิ่งโตก็ยิ่งคิดว่าตัวเองเก่ง อ้างความรู้ อ้างว่าผ่านมาโลกมามาก ทั้งๆ ที่ก็เคยเป็นเด็กมาก่อน” “เป็นอะไร ตั้งแต่เช้าแล้วนะ” “เปล่าสักหน่อย แค่หิว” ฉันตอบกลับแล้วรีบเก็บของพาคนงอแงไปดูดนตรีที่ลานกิจกรรมทันที “กรี๊ดดดดดดดดดด พี่กิต พี่กิต หล่อมากค่ะพี่ กรี๊ดดดดดดด” ฉันจะบ้า ถ้ารู้ว่าอาการหนักขนาดนี้จะไม่มาด้วยเลย ขอนั่งรออยู่ข้างนอกดีกว่า “ทำใจนะนานามีเพื่อนบ้าผู้ชาย กรี๊ดดดด พี่กิต” ปากก็ว่าเพื่อนบ้าผู้ชาย ตัวเองก็ใช่ย่อยที่ไหน สรุปเพื่อนทั้งสองคนของฉันบ้าผู้ชายถูกมั้ย “ขอเสียงน้องๆ ที่ยังโสดหน่อยเร็วววววว” “หนูค่ะพี่กิต โสดแบบตะโกน” “โสดแบบแห้งแล้งมากค่ะ กรี๊ดดดดด” ฉันกลั้นขำไม่อยู่ เพราะแบบนี้หรือเปล่าถึงยังโสด “ยกมือสินานา ไม่โสดก็เหมือนแหละ” “บ้าเหรอ” ฉันพยายามสะบัดข้อมือออกแต่ก็ถูกแขจับมืออีกข้างชูขึ้นพอไม่ทันระวังเพราะมัวดึงข้อมือกลับ โซ่ก็ชูข้อมือของฉันขึ้นสำเร็จ กลายเป็นว่าตอนนี้แขนทั้งสองข้างของฉันถูกชูขึ้นเรียบร้อย “พวกเราโสดค่ะ” ฉันถอนหายใจ เหนื่อยกับสองคนนี้จนขี้เกียจขัดขืนแล้ว ถึงจะโสดหรือไม่โสดก็คงไม่มีใครมาสนใจหรอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตสำหรับใครอยู่แล้ว ฉันเริ่มปล่อยวางและเริ่มสนุกกับคอนเสิร์ต ร้องตามเต้นบ้างเป็นบางครั้ง พอถึงเพลงที่กำลังฮิตอยู่ในตอนนี้ก็มีนักศึกษาคณะอื่นขยับเข้ามาเรื่อยๆ จนฉันรู้สึกว่าตรงที่ยืนเริ่มอึดอัด “อย่าเบียดเข้ามานักสิคะ” โซ่เริ่มบ่นแล้วหันไปพูดกับข้างหลัง แต่ไม่มีใครใส่ใจเพราะสิ่งที่ทุกคนสนใจคือได้เข้าใกล้หน้าเวทีมากที่สุด “ออกกันเถอะ” ฉันเริ่มทนไม่ไหว ขืนยังอยู่ได้ขาดอากาศหายใจตายแน่ๆ “ได้ไง ชนกลับสิ” โซ่กับแขพร้อมใจกันดันตัวไปด้านหลัง คิดว่าแรงผู้หญิงสองคนจะสู้ผู้ชายเป็นกลุ่มได้เหรอ “ว้ายยยย” เสียงดนตรีก็ยังดังต่อเนื่อง ด้านล่างก็ชุลมุนเพราะมีคนเริ่มเป็นลมแล้ว “ขยับหน่อยสิวะ” เสียงผู้ชายด้านหลังตะโกนแข่งกับเสียงเพลงบอกให้ด้านหน้าขยับ ไม่สุภาพบุรุษเอาเสียเลย พวกฉันจะตายกันอยู่แล้วตอนนี้ “ไม่ไหวแล้วอ่ะ” ฉันก็เริ่มหน้ามืดหายใจไม่ออกแล้วด้วยตอนนี้ “จะออกยังไง แน่นไปหมด “แขพูดแล้วเริ่มมองหาทางออก ปึก! “นานา ละ เลือดแกออก” ฉันรีบยกมือขึ้นมาจับที่หัวของตัวเอง แม้มันจะยากลำบากแต่ก็อยากรู้ว่าเลือดออกจริงหรือเปล่า พอเห็นว่าที่ปลายนิ้วคือเลือดก็เริ่มรู้สึกเจ็บทันที “ใครขว้างขวดมาคะ เพื่อนหนูหัวแตก” โซ่โวยวายคนรอบข้างเริ่มหันมามองพวกเรา พอเห็นเลือดเท่านั้นก็เริ่มถอยห่างทันที “เจ็บมั้ยนานา ถอยหน่อยค่ะมีคนนิสัยไม่ดีขว้างขวดมาโดนหัวเพื่อนหนูค่ะ” แขเข้ามาประคองฉัน พอเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าวก็มีรุ่นพี่คณะเดียวกับเราเข้ามาช่วยอีกแรง “เห็นมั้ยว่าใครขว้าง” หนึ่งในรุ่นพี่ที่เข้ามาช่วยถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ไม่เห็นหรอกค่ะ เบียดกันแน่นขนาดนั้นแต่พอจำได้ว่าผู้ชายด้านหลังอยู่คณะวิศวะ” โซ่เอ่ยแต่ยังไม่รู้ว่าใช่กลุ่มนั้นหรือเปล่า “ค่อยจัดการ ตอนนี้ต้องพาน้องนานาไปโรงพยาบาลก่อน แค่ห้องพยาบาลคงเอาไม่อยู่” “นานาโทรหา สา เอ่อ ผู้ปกครองแกสิ” แขพูดขึ้นขณะที่เรากำลังรอรถรุ่นพี่ “ไม่เป็นไรหรอก แค่หัวแตกเอง” “แกจะบ้าเหรอ ไม่บอกได้ไง เจ็บขนาดนี้” ฉันคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตถึงขั้นต้องโทรไปบอกเขาแต่โซ่ก็ทำท่าไม่พอใจแล้วก็หงุดหงิด “เอามือถือมาฉันโทเอง ให้เขารับรู้ จะมาไม่มาหรืออะไรก็แล้วแต่เขา” แขเปิดเกระเป๋าฉันแล้วหยิบมือถือออกมา “แข ไม่เป็นไรจริงๆ” “เมมชื่อไว้ว่าอะไร ชื่อไลน์ก็ได้” “ไม่มี ติดต่อผ่านเลขาเอา” “เฮ้อ อะไรเนี่ยนานา” แล้วฉันก็เคยติดต่อเขาด้วย “รถมาแล้ว” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง หวังว่าแขคงยุติความพยายามนั่นลง #หิรัญ “คุณหิรัญ ขออนุญาตค่ะ” “มีอะไรด่วนหรือเปล่า” ผมเงยหน้าจากเอกสารเมื่อเลขาส่วนตัวหน้าตาตื่นรีบเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู “คุณนานาส่งรูปนี้มาค่ะ” ผมรับมือถือที่ใช้ติดต่อกับเด็กคนนั้นผ่านเลขามาดู “ติดต่อกลับไปแล้วถามรายละเอียดเดี๋ยวนี้ ตั้งสติหน่อยสิ” ในรูปคือเลือดแต่ไม่รู้ว่าเลือดอะไรเพราะเลขาของผมสติแตกก่อน “ค่ะๆ” “ได้เรื่องแล้วรีบติดต่อผมทันที” “คุณหิรัญจะไปไหนคะ” “ไปจัดการเจ้าของรูป” ________________
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD