“พักผ่อนเถอะนะคะ พรุ่งนี้จะมีคุณหมอมาตรวจร่างกายให้คุณนานาอีกครั้ง”
“หมอ? ”
“ตกใจอะไรคะ ก็หมอเกรซไงคะ คุณนานาคงได้เจอแล้ว หรือว่า” ฉันก็นึกว่าจะเป็นคนของเขาเสียมากกว่าที่ต้องเข้ามาจัดการเรื่องนี้
“หมอเกรซ เป็นคนของบ้านหลังนี้เหรอคะ”
“ครอบครัวหมอเกรซเป็นหมอประจำตระกูลของคุณหิรัญมาตั้งแต่รุ่นทวดค่ะ หมอเกรซเมื่อก่อนก็ตามคุณพ่อมาทำงานที่นี่ก็เลยสนิทกับคุณหิรัญมาตั้งแต่ยังเด็ก จนตอนนี้ก็ได้ทำงานร่วมกันและดูแลกันมาจนถึงปัจจุบันค่ะ” ฉันพยักหน้าแล้วร้องอ๋อทันที
“นานาอยากรู้เรื่องคุณหิรัญให้มากกว่านี้ พี่จันทร์ช่วยเล่าเรื่องคุณหิรัญให้นานาฟังได้มั้ยคะ” ก่อนจะล้มตัวลงนอนฉันก็ยังไม่หยุดถามเรื่องสามีตัวเอง เต็มปากแบบนี้แปลกๆยังไงก็ไม่รู้
“ได้สิคะ แต่ตอนนี้คุณนานาต้องนอนพักก่อนนะคะ”
“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ดูแลนานา” รู้ทั้งรู้ว่าเป็นหน้าที่แต่ฉันก็รู้สึกดีใจมากจริงๆ ที่มีเพื่อนไว้คอยพูดคุยและปรึกษา ดีกว่าต้องอยู่คนเดียวและใช้ชีวิตท่ามกลางความสับสนที่พร้อมจะก่อตัวขึ้นตลอดเวลา ฉันไม่อยากคิดฆ่าตัวตายอีกแล้ว มันทรมานแล้วก็น่าอายเสียมากๆ
“นอนนะคะ มีอะไรเรียกจันทร์ได้ตลอดเลยนะคะ”
“ค่ะ”
#หิรัญ
“คุณนานาหลับเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“แน่ใจว่าหลับจริงๆ”
“จันทร์นั่งเฝ้าจนแน่ใจแล้วค่ะ”
“ไปทำงานต่อเถอะ” ผมวางบุหรี่ในมือลงทั้งที่มันยังถูกไหม้ไม่หมด ตั้งใจว่าจะสูบให้หมดแต่เพราะ จันทร์ ออกมาจากห้องนั้นก่อนเวลาก็เลยต้องวางมันลงแล้วก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอนของใครบางคนที่ติดกับห้องนอนของผม
ทิ้งน้ำหนักเท้าลงพื้นให้เงียบเสียงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ง่ายเลยสำหรับผู้ชายมือเท้าหนักอย่างผม
นานา นอนหลับอยู่บนเตียง ด้านข้างมีเสื้อผ้าถูกพับกองเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ ร่างเปลือยเปล่าที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอยากล่วงเกินเลยสักนิด รอยสักข้างลำตัวของเธอทำให้ผมต้องเอื้อมมือไปจับ มันเป็นสัญลักษณ์ของมูลนิธิตาแก่นั่นและตัวเลขขนาดเล็ก เธอคือสินค้าไม่ใช่มนุษย์ที่จะเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ ให้กับตัวเอง นอกจากไมโครชิพแล้วเธอก็ยังมีรอยสักและเลขสินค้าอยู่บนตัว
ผมใช้มือของตัวเองพลิกร่างกายของเธอเพื่อที่จะสำรวจด้านหลังว่ายังมีสิ่งแปลกปลอมหลงเหลืออยู่อีกหรือเปล่า
แผ่นหลังของเธอมีรอยแผลเป็น เป็นรอยยาวหลายแห่ง จนผมรู้สึกว่าสิ่งที่เจอมานั้น หนักหนาสาหัสมากเหลือเกิน
“รอยอะไร” ผมรีบดึงผ้าห่มคลุมเอาไว้เหมือนเดิมแล้วรีบเดินออกจากห้องนั้นทันที
พอกลับมาที่ห้องของตัวเองก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกครั้ง อยู่ๆหัวมันก็ร้อน
ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่นไม่หยุดทำเลวเสียที ผมไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะต้องได้แต่งงานกับเด็กของมูลนิธินั้น แม่คิดอะไรอยู่ถึงได้ไปคว้าเอาเด็กคนนี้มาให้ผม
“นายครับ โทรนัดหมอเกรซเรียบร้อยแล้วครับ”
“อือ พรุ่งนี้อย่าลืมส่งรถไปรับ” หมอนั่นงานเยอะรัดตัว ทำงานไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนเป็นเรื่องเคยชิน แต่ผมไม่ชินด้วย มนุษย์ต้องการพักผ่อน ต่อให้งานเร่งงานรีบมากองอยู่ตรงหน้าก็ควรปัดทิ้งไปบ้าง ถ้าตายขึ้นมาเขาก็ต้องหาคนใหม่มาแทนที่อยู่ดี
“ครับนาย"
_____________