เวลาต่อมา...
ตอนนี้เราทั้งคู่ส่งเจ้าแมวน้อยไปแล้วฉันไม่อยากอาลัยอาวรณ์อะไรนักเพราะกลว่าว่าจะเอากลับและไม่ยอมให้เขาไปน่ะสิ ฉันเป็นพวกใจอ่อนกับสัตว์แต่กับคนอย่างหวังเลย
“จะเลยเหรอ?” เสียงของเซย์ที่เดินข้างฉันถาม
“อืม” ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ทำไมนิ
“ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะเมื่อกี้ก็กินไปแค่น้ำเองนิ” แต่ฉันกินขนมไปด้วย
“....” จ๊อกกก!! ฉันไม่ต้องตอบอะไรเพราะว่าท้องของฉันได้ทำการตอบแทนไปเรียบร้อยแล้วด้วยการร้องออกมาดัง ๆ อย่างไม่อาย
ท้องไม่อายแต่ฉันอายแทน -///-
“หึ แบบนี้ต้องไม่ต้องถามแล้วล่ะมั้ง”
“....”
“แถวนี้มีร้านที่ฉันมาบ่อย ๆ ไปร้านนั้นแล้วกันเนอะ” หมับ! เขาพูดเองเออเองแต่ทำไมต้องมาจับมือของฉันด้วยเนี่ย?
“...ปล่อย” พรึ่บ!! ฉันสะบัดมือออก
“โอ๊ะ!!โทษทีพอดีว่ากว่าจะหลงกับเธอเพราะงั้นเลยอยากจับมือเอาไว้”
“เหตุผล...ไร้สาระ” ฉันโตขนาดนี้แล้วนะจะมาหลงแค่เดินไปร้านอาหารเนี่ยนะ ปัญญาอ่อนอยากจับมือผู้หญิงแต่หาเหตุผลที่ดี ๆ ไม่ได้สินะ เฮ้ออออ
“ยอมรับ ^0^” และเขาก็หน้ามึนจริง ๆ เลยนะ
“-_-”
“ไป ๆ เดี๋ยวมื้ดนี้ฉันเลี้ยงเอง” เขาบอกแบบนั้นก็ดีเหมือนกันเพราะฉันจะผลาญจนเขาไม่กล้าเสนอหน้ามายุ่งอีกเลย
ร้านอาหาร
พรึ่บ!!
“จะกินอะไรสั่งได้เลยนะ” เมื่อเราเข้ามาในร้านเซย์ก็บอกกับฉัน
ฉันหยิบเมนูมาอ่านก่อนจะกวาดสายตาไปทั่ว ๆ และตัดสินใจว่าจะเอาทั้งหมด
“เอาทั้งหมดอย่างละ 1”
พรวดดด!!!
“โสโครก -_-” เพราะว่าเซย์พ่นน้ำที่ตัวเองกำลังดื่มออกมาน่ะสิ
“เธอ!!กินหมดเหรอที่สั่งมาน่ะ” เขาถาม
“จ่ายไม่ได้หรือไง?” ฉันแกล้งถามทำไมจะจ่ายไม่ได้บ้านเขารวยจะตาย รวยขนาดที่ว่าตายอีกกี่ชาติจะใช้หมด
“จ่ายอ่ะจ่ายแต่เธอจะกินไว้เหรอ?”
“...” ฉันนิ่งไม่ตอบอะไร
“เอ่อ แล้วเครื่องดื่มจะรับเป็นอะไรดีคะ?” พนักงานรับออเดอร์ถามแทรกเข้ามา
“น้ำเปล่า”
“ผมเอาไวน์” เขาสั่งบ้างทั้งที่เป็นคนขับแท้ ๆ แต่กลับสั่งไวน์เนี่ยนะ?
เหอะ!
“....” ฉันเมื่อสั่งอาหารเรียบร้อยก็มองออกไปนอกร้าน ที่นี่บรรยากาศดีมากเลยร้านติดกับทะเลลมพัดเย็น ๆ วิวสวย ๆ จะแสงไฟไหนจะการตกแต่งของร้านที่ฉันชอบมาก
ไม่ได้นั่งบรรยากาศแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
“เธอชอบเล่นกีฬาเหรอ?”
“...?” ฉันมองหน้าของเขานิดหน่อยเพราะอยู่ ๆ เขาก็ชวนฉันคุยแต่จะให้นั่งเงียบ ๆ ตลอดก็คงไม่ใช่สินะ
“เห็นเล่นเจ๊ตสกีเก่งงั้นเธอก็คงชอบเล่นกีฬาอย่างอื่นด้วยสินะ”
“ไม่ได้ชอบ”ร่ายกายของฉันแข็งแรงเพราะว่าได้รับการฝึกมาตั้งแต่เด็กทั้งการต่อสู่และการยิงปืนฉันได้เรียนแบบนั้นมากนานแล้ว เพราะงั้นร่างกายของฉันเลยแข็งแรงพอที่จะสามารถขับเจ๊ตสกีได้
“งั้นทำเธอถึงเอาชนะฉันได้?”
“แค่ไม่กลัวตาย” ฉันตอบโดยสายตามองออกไปนอกทะเลกว้าง
“หืม?”
“ฉันบิดเคร่งเร่งอย่างไม่กลัวตายและรู้วิธีการขับเท่านั้นเอง ฉันไม่ได้เก่งกาจอะไรแค่ไม่กลัวตายเท่านั้นเอง -_-”
“เธอพูดเรื่องความตายได้หน้าตายเฉยเลยนะ”
“เพราะฉันเคยเกือบตายมาแล้วไง...” ฉันมองเข้าไปในดวงตาของเขา
“ขออนุญาตเสริฟ์อาหารค่ะ” และยังไม่ทันที่เขาจะได้ถามอะไรต่อพนักงานก็เอาอาหารเสริฟ์ซึ่งมีเท่าไหร่ก็ไม่รู้แต่ฉันจะกินมันให้หมดนั่นแหละ
“กินหมดแน่นะเธอ?” เขามองอย่างกลัว ๆ นิดหน่อยเมื่ออาหารมาอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด
“...” ฉันไม่ตอบอะไรแค่ลงมือทานอาหารตรงหน้าทีละอย่าง ๆ ไปช้า ๆ
1 ชั่วโมงต่อมา
“ฮึก!!เธอปอบลงหรือไง?” เขามองฉันอย่างไม่อยากเชื่อก่อนจะกลืนน้ำลายและพูดอะไรเสีย ๆ ออกมา
“...” ฉันไม่ได้สนใจเขาและกินอย่างต่อเนื่องจนหมด
“เฮ้อออ เธอนี่มันน่ามหัศจรรย์จริง ๆ” เขาพูดเมื่อฉันกินอาหารหมดแล้ว
“ไร้สาระ”
“เฮ้ย! มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระนะเว้ย! เธอตัวเท่าแมวแต่กินอาหารตัวเท่าช้างได้ยังไง?!” เขายังสงสัยไม่เลิก
“ฉันอยากกินขนม -_-” กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่
“ถ้ากินไหวก็กินฉันไม่ห้ามหรอก...น้อง! สั่งขนมหน่อย” เขาบอกก่อนจะเรียกพนักงานให้ฉัน
“รับอะไรดีครับ?” พนักงานต่างยืนมองฉันอย่างสนใจ ไม่เคยเห็นคนกินข้าวหรือไง?
....มองอยู่ได้
“....” เขามองหน้าฉัน
“มีขนมอะไรบ้าง?” และถามให้
“เอ่อ วันนี้เป็นเค้กมะพร้ามอ่อนและมาการองครับ” พนักงานแนะนำ
“เยลลี่จะกินอะไร?”
“ทั้งสอง =_=”
“อืม ฉันก็ไม่น่าถามเนอะ เอามาอย่างละหนึ่งพอไหม?” เขาถามฉัน
“....”
“เอามาสอง สามเลยเอ้า!” เขาสั่งไป
“ครับ” และพนักงานก็รับออเดอร์และเดินออกไป
“กินหมดไหมที่สั่งไป?” เขาถามฉันต่อเนื่องคงยังตกใจที่ฉันกินอาหารเกือบสามสิบจานหมด
“อืม” และหลังจากนั้นของหวานก็มาเสริฟ์ฉันก็นั่งกินจนหมดส่วนเซย์ก็ดื่มไวน์รอจนเกือบหมดขวด
“ทั้งหมด 21,800 บาทครับ” เสียงของพนักงานมาเช็กบิลซึ่งแน่นอนว่าเขาเป็นคนจ่ายและที่มันแพงขนาดนั้นเพราะว่ามีไวน์ของเขาขวดละเกือบหมื่นอีก ไม่ใช่ว่าฉันกินคนเดียวนะ
“ฉันช่วย...”
“ไม่ต้องแค่นี้เอง” เขาบอกก่อนจะต่ายเป็นบัตรเครดิต
ส่วนฉันก็ลุกขึ้นและออกมาเดินย่อยรอหน้าร้าน....
“เสร็จแล้วกลับกันเถอะ” เขาเดินออกมา
“....”
“ไปเดินย่อยกันหน่อยไหม?” เขาถามฉันท่าทางของเขาแปลกไปนิดหน่อยเพราะว่าดื่มไวน์ไปคนเดียวนิจะเมาก็แปลกเท่าไหร่ แต่บรรยากาศวันนี้ก็เดินอยู่เหมือนกันนั่นแหละเพราะงั้นเดินสักแปบคงจะไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“ไปสิ...”
ตึก...ตึก...ตึก...
ครืนนน~ ซ่าาา~
เราทั้งคู่ลงมาเดินที่หาดทรายมันสะอาดมากจนฉันยอมถอดรองเท้าเพื่อเดิน เสียงน้ำทะเลเสียงลมชวนให้ผ่อนคลายมากขึ้น
“ฮึก ๆ อ่าส์!!” ฉันหันไปมองเซย์ที่ถือขวดไวน์มาด้วยและกระดกดื่ม
“....”
“เยลลี่” เขาเรียกชื่อของฉันน้ำเสียงฟังดู...เมานิดหน่อย
“...?”
“เธอ...ไม่ใช่ได้ไอ้อาโปและต้องการอะไรบ้างกับมันสินะ” ฉันยืนฟังเพราะอยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไรออกมาจะน่าสนใจแค่ไหนกันนะ
“แล้วไง?”
“ฉันเอง...ก็อยากจัดการอะไรบางอย่างกับมันเหมือนกัน”
“....” ฉันเดินเข้าไปมองหน้าของเขาใกล้ ๆ
“เพราะงั้นใช้ฉันสิ...ใช้ฉันเป็นเครื่องมือของเธอ” ต่อให้เขาไม่บอกฉันก็ตั้งใจจะใช้เขาอยู่แล้วนั่นแหละ เพราะเซย์เป็นเครื่องกระตุนชั้นดีที่สุดเลยล่ะที่จะทำให้อาโปกลายเป็นบ้าได้
“....”
“ว่าไงเธอสนใจไหม?” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าของฉันและฉันก็ไม่คิดหลบสายตาของเขาแต่อย่างใด
“ยังไงล่ะ...ฉันใช้นายได้ยังไงบ้าง?” น่าสนใจขึ้นมานิดหน่อยแฮะ ยอมด้วยตัวเองแบบนี้เขาจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดหรือถ้าเขาจะเจ็บปวดนั่นก็เพราะว่าเขาเสนอตัวเข้ามาเอง
“เธอจะใช้ฉันทำอะไรตามใจเธอเลย...เยลลี่”
“...” แต่ฉันยังไม่มีแพลนจะใช้เขาตอนนี้น่ะสิเพราะสิ่งสำคัญตอนนี้คือทำให้อาโปหลงรักฉันก่อนและหลังจากนั้นก็ค่อยเริ่มตีตัวออกห่าง เมื่อนั้นเซย์ถึงจะมีประโยชน์ขึ้นมา
“ขอแค่เธอใช้ฉัน”
“เมาก็กลับไปนอนก่อนเถอะ อย่าพูดอะไรตอนที่ตัวเองยังสติไม่ดี” หมับ!! เขาจับมือของฉันไปวางที่หน้าอกด้านซ้ายของเขา
“...?”
“ฉันไม่ได้เมาหรอก แต่ฉันชอบเธอ...ชอบมากเกินกว่าจะอยู่เฉย ๆ และมองเธอเข้าหาผู้ชายคนอื่นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่อย่างน้อยฉันก็อยากรู้เหตุผลของเธอและอยู่ใกล้ ๆ เธอเพื่อให้มั่นใจว่าเธอจะไม่เผลอใจไปรักมัน”
“ชอบฉันเพราะอะไร?”
“เอ่อเพราะ...” เขานิ่งไปแปบนึงคงไม่คิดว่าฉันจะถามออกมาสินะ
“ถ้าชอบฉันเพราะหน้าฉันเหมือนแฟนเก่านายอันนี้ไม่เอานะ”
“...!!!”
“หึ”