“เฮ้ออออออ” ฉันเดินออกมาจากนายเซย์สักระยะก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ ออกมา เพราะไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นจะเข้ามายุ่งกับฉันทำไม ถ้าบอกว่าเป็นห่วงเพื่อนก็ยังไงอยู่เพราะว่าดูแล้วทั้งคู่คงไม่ได้ดีต่อกันเท่าไหร่นัก นายอาโปก็พูดจาว่าร้ายนายเซย์ ส่วนเซย์ก็คิดว่าฉันตาต่ำที่ไปมองอาโปสรุปได้ว่าสองคนนี้อาจจะมีสงครามเงียบอยู่ก็ได้น่ะสิ หึ
หรือว่า...จะใช้เซย์เป็นเครื่องมือดีนะแต่ว่าคนอย่างเขาไม่ควรไปยุ่งดีกว่าฉันไม่อยากวุ่นวายกับเขาเท่าไหร่นักดูหน้าก็รู้ว่าเจ้าเล่ห์แค่ไหน เฮอะ!!
จ๊อกกกก~
“หิวว่ะ!” เพราะมัวแต่ต้องดำเนินการตามแผนฉันเลยยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลยส่งผลให้ท้องร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่จะเดินกลับไปที่โรงอาหารก็ยังไงอยู่เพราะงั้นโดนคาบบ่ายและไปหาข้าวกินดีกว่า เมื่อตัดสินใจได้อย่างนั้นแล้วฉันก็ขับรถออกมาจากมหาวิทยาลัยเพื่อไปกินข้าวทันที
ชั่วโมงต่อมา
ร้านอาหาร
งับ! งับ! งับ!
“อืมมม!!” อร่อยแหะ!
หลังจากที่หาร้านอาหารที่จะกินได้แล้วฉันก็นั่งยาว ๆ โดยกินข้าวคนเดียวมาสักพักแล้ว ฉันเป็นพวกกินจุกินเยอะเพราะว่าโรคประจำอย่างหนึ่งฉันมีความเครียดเพื่อเพราะงั้นวิธีคลายเครียดคือการกินและถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันกินเยอะมากกว่าปกตินั่นหมายความว่าฉันกำลังเครียดหนักเช่นตอนนี้
“อึก!”
“เอ่อ ขอโทษนะคะคุณลูกค้าทางเรารบกวนของเก็บจานที่อาหารหมดแล้วนะคะ” แม้ว่าโต๊ะจะใหญ่แค่ไหนก็ว่างไม่พอเพราะงั้นพนักงานเลยขอเก็บจานไปก่อนหนึ่งรอบ
“....” ฉันไม่ตอบอะไรแค่พยักหน้าเท่านั้น
“เอ่อ ลูกค้าจะรับอาหารเพิ่มอีกไหมคะ?” ฉันหยุดคิดก่อนสักพักก่อนจะหยิบเมนูมาสั่งอาหารเพิ่มอีกแต่ว่าไม่อยากพูดซ้ำหลายรอบ
“เอาเหมือนเดิม”
“ได้ค่ะ” พนักงานรับออเดอร์ก่อนเดินออกไป
“เฮ้ออออ” เห็นฉันนิ่ง ๆ เหมือนไม่เครียดอะไรแต่ความจริงฉันมีความเครียดตั้งแต่เจอหน้าของอาโปไม่รู้เพราะเลือดมันแรงหรือยังไงหน้าของเขาถึงเหมือนพ่อมากมาย แต่หวังว่าจะไม่เลวขนาดพ่อหรอกนะ แต่ก็คงไม่เหลือหรอก หึ
พอเจออาโปความทรงจำตอนเด็กก็โพล่งออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งที่มันผ่านมา 12 ปีแล้ว เมื่อไหร่จะเอาความทรงจำบ้า ๆ นั่นออกไปได้สักทีคำตอบคือแก้แค้นไงมันถึงจะลบล้างได้
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา..
“เอ่อ ทั้งหมด 3,870 บาทค่ะ” เสียงพนักงานคิดเงินและมองฉันแปลก ๆ แต่ฉันไม่แปลกเท่าไหร่หรอกเพราะมาคนเดียวแดกไปสามพันกว่า
“...” ฉันไม่พูดและส่งบัตรเครดิตให้แทน
“รอสักครู่นะคะ” เมื่อพนักงานรับบัตรไปแล้วฉันก็เตรียมตัวลุกออกไปโต๊ะ
เมื่อจัดการจ่ายทุกอย่างเรียบร้อยฉันก็เดินออกมาจากร้านเพื่อกลับไปวางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ต่อ...
หอพัก J
แผนการของฉันคือทำให้หลง อาจจะฟังเหมือนไร้สาระและละครไปหน่อยแต่ความมันคือสิ่งที่อันตรายที่สุดความรัก ความไว้ใจนี่แหละอันตรายและเจ็บปวดที่สุดเพราะพ่อของฉันเองก็ต้องตายเพราะความรักและความไว้ใจเหมือนกัน
“อันดับแรกพยายามเข้าหาอาโปให้มากที่สุด” ฉันสืบสเปกและความชอบของอาโปมาหมดแล้วว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหน สนใจผู้หญิงสไตร์ไหนหรือว่าวิธีการเข้าหาผู้หญิงของเขาด้วยไม่ว่าทางไหนเขาก็ต้องแพ้ทางฉัน
“และเมื่อเขาชอบและหลงฉันเมื่อไหร่ตอนนั้น...ฉันจะทำให้ทั้งครอบครับฉิบหาย!”
กลางดึก
“มึงทำแบบนี้ได้ยังไง?!”
“กูเพื่อนมึงนะเว้ย!!!” โครม!! เสียงถามดังลั่นพร้อมเสียงโครมครามออกมาจากห้องทำงานของพีระเขากำลังถามเพื่อนสนิทตลอด 20 ปีเสียงสั่นเครือ
“ไอ้พีกูไม่ได้ตั้งใจทำไมมึงไม่เชื่อกูวะ?!” เสียงของไพรัตน์ตะโกนบอกเพื่ออธิบายกับเพื่อน
“ไม่ได้ตั้งใจ?”
“ไม่ได้ตั้งใจแต่มึงกลับโยนความผิดมาให้กู!!มึงโกงเงินบริษัทมึงขายข้อมูลให้คู่แข่งมึงคบชู้กับเลขาแต่มึง!!กับโยกทุกอย่างมาให้กู!!มึงทำได้ยังไงวะ?!” หมับ! พีระเข้าไปกระชากคอของไพรัตน์
“ไอ้พี...”
“กูไว้ใจมึงอย่าง!!แต่มึงกลับทำแบบนี้กลับกู!!!” เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะไพรัตน์เริ่มโกงบริษัทที่เปิดร่วมพีระเขาฉ้อโกงและขายข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัทตัวเองให้คู่แข่ง แถมยังมีเรื่องผู้หญิงในบริษัททั้งที่ไพรัตน์มีครอบครัวเป็นตัวตนอยู่แล้วแถมยังอายุเท่าลูกสาวของเขาอีก
“ไอ้พีมึงจะให้กูทำยังไงวะบ้านกูกำลังลำบากนะเว้ย!”
“แล้วทำไมมึงไม่มาบอกกู!!ทำเรื่องเหี้ย ๆ แบบนั้นได้ยังไงมึงโยกความผิดของมึงให้กูที่เป็นเพื่อนมึงได้ยังไงวะ?”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” เสียงของไพรัตน์พูดและมองเพื่อนของตัวเองอย่างเย็นชา
“ฮะ?”
“มึงว่ายังไงนะ?” พีระตัวสั่นไปด้วยความโกรธกับสิ่งที่ได้ยินจากปากเพื่อนสนิท
“ก็มึงอยากมาไว้ใจกูไม่อ่านเอกสารเองทำไมล่ะเพราะความไว้ใจของมึงเลยทำให้กูเจอช่องทางไง หึ” ไพรัตน์ยิ้มมุมปาก
“ไอ้สัสรัตน์!!!”
“กูขอโทษนะที่ต้องทำแบบนี้แต่กูไม่มีทางเลือกเงินมันสำคัญว่ะ...แต่ถ้ามึงรับไม่ได้ล่ะก็กูมีวิธี” ไพรัตน์ยิ้มก่อนจะหยิบปืนที่พบมาด้วยที่เขามาวันนี้เพื่อมาปิดปากพีระนั่นเอง เขาตั้งใจมาที่นี่เพื่อฆ่าเพื่อนตัวเอง ไพรัตน์วางแผนทั้งหมดโยกความผิดให้เพื่อนตัวเองก่อนจะมาเคลียร์ใจที่นี่เพราะรู้ว่าพีระไม่มีทางเปิดเผลอความจริงก่อนได้คุยกับแน่นอน นั่นแหละเพราะความเชื่อใจโง่ ๆ ของพีระล้วน ๆ
แกร๊ด!!
“นี่มึง...”
“ขอโทษนะแต่ถ้ามึงยังอยู่แผนทั้งหมดที่กูวางไว้ตั้งนานคงล้มไม่เป็นท่า” เขาพูดเฉลยทุกอย่างที่เรื่องทั้งหมดเขาได้วางแผนมาหมดแล้ว
“เหอะ!!กูไว้ใจผิดคนสินะ” พีระแค่นยิ้มออกมาอย่างสมเพชตัวเองก่อนจะนึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ ที่ผ่านมาร่วมกัน เขากับไพรัตน์เป็นเด็กกำพร้าอยากจนและมีความคิดว่าอยากร่ำรวยสักครั้งในชีวิตเพราะงั้นทั้งสองเลยร่วมมือกับทำงานและเก็บเงิน ตั้งใจเรียนหาความรู้เพื่อเปิดบริษัทเป็นของตัวเองแต่ตอนนี้เราทั้งคู่มีทุกอย่างแล้วไม่ว่าจะครอบครัว เงินทอง การงาน เพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากลับหักหลังของเขา
“ใช่ เพราะงั้นถ้าไม่อยากลำบากก็ตายไปซะสิ ส่วนลูกสาวมึงกูดูแลเอง”
“อย่ามายุ่งกับลูกกู!!!”
“หรืออยากให้แยมไปเป็นเด็กกำพร้าเหมือนมึงตอนเด็กล่ะ?” แยมหรือลูกสาวของพีระ
“ไอ้สัสรัตน์!!!” หมับ!! พีระโมโหพุ่งเข้าหาไพรัตน์พยายามแย่งปืนมาเพราะถ้าเขาไม่จัดการมันเขานั่นแหละจะโดนมันจัดการ
“ไอ้พี!!!มึงท้าทายกูเหรอวะ?!!”
“กูจะไม่ยอมตาย!!!กูจะไม่มีวันให้แยมต้องลำบากเหมือนกู!!ในเมื่อมึงไม่เห็นกูเป็นเพื่อนงั้นกู!ก็จะไม่มองมึงเป็นเพื่อนเหมือกัน!!!”
ตุบตับ!!พลั๊ว!!
“กูก็ไม่ยอมฉิบหายเหมือนกัน!!มึงต้องตายเพื่อให้กูอยู่รอดเว้ย!!!” ไพรัตน์พูดอย่างเห็นแก่ตัว
“ไอ้เห็นแก่ตัว!!!”
“เออ!!!เพราะมึงไม่เห็นหัวกูก่อนไง!!!” เพราะพีระเก่งและฉลาดกว่าไพรัตน์เขาช่างพูดและเป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่หลายคนมาตั้งแต่เด็กเพราะงั้นไพรันต์เลยอิจฉาพีระมาอย่างเงียบ ๆ ตลอด
“มึงคิดไปเองนั่นแหละ! ทั้งหมดเพราะมึงไม่ยอมรับความจริงและโลภมากต่างหาก!!”
“แล้วไงวะกูไม่สนเพราะทั้งหมดของมึงต้องเป็นของกู!!!!” พลั๊ว!!!
ปัง!!!!ไพรัตน์ใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักพีระกระเด็นล้มไปก่อนจะยิงเข้าหัวของเขาตายทันที
ตุบ!! เสียงของบางอย่างตกลงเสียงดังทำให้ไพรัตน์หันไปมองหน้าประตูก่อนจะพบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนมองอยู่
“แยม...” เสียงไพรัตน์เรียกเสียงเบา
“ลุงฆ่าพ่อหนู...”