บทที่8 หวงเมีย
สถานการณ์เริ่มมาคุจนโต๊ะของพวกเธอกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในผับ ดีนที่นั่งอยู่อีกโต๊ะเหมือนจะลุกเข้ามาที่โต๊ะของพวกเธอ คารีน่าส่งสายตาให้ดีนหยุดไม่ต้องเดินเข้ามาไม่งั้นเรื่องคงไม่จบง่าย ๆ
“ใจเย็นเกล คนมองกันใหญ่แล้ว” คารีน่าเห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้ามาลูบแขนอบิเกลเบา ๆ ให้ใจเย็นลงเพราะดูแล้วไม่ใช่แค่มาวินคนเดียวที่หัวร้อน อบิเกลก็หัวร้อนไม่ต่างกัน
“แล้วกูโทรไปทำไมมึงไม่รับสายกู สองวันแล้วนะเกล” กดเสียงข่มอารมณ์โกรธเอาไว้
“หึ กูไม่อยากรับ เรื่องแค่นี้มันเข้าใจยากตรงไหน” เรียวปากสวยแสยะยิ้มบอกด้วยความดื้อรั้นไม่คิดยอมอ่อนข้อให้
“อีเกล! มึงเบาหน่อยดิ๊วะ กูกลัวร้านเขาพัง” ริชชี่รีบออกปากห้ามเสี่ยงสั่นแล้วก็เข้ามากอดแขนอบิเกลเอาไว้
“กลับพร้อมกูตอนนี้ถ้ามึงไม่อยากมีปัญหาแล้วมึงสองคนก็ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะชอบพาเกลหนีกูเที่ยว” มาวินขบกรามแน่นพยายามข่มความโกรธเอาไว้แล้วก็ไม่ลืมที่จะตวัดสายตาดุมองมาที่คารีน่าและริชชี่พร้อมกับเอ่ยคำขู่ออกมา
“เกลมึงกลับกับมาวินก่อนดีกว่ากูไม่อยากมีปัญหา กูกลัวร้านเขาพัง” คารีน่ากับริชชี่รีบเกลี้ยกล่อมอบิเกลให้กลับก่อนที่จะเกิดเรื่องราวใหญ่โต ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่อบิเกลกล้ามีปากเสียงกับมาวินส่วนมากเวลาหนีเที่ยวถ้าเกิดมาวินมาตามอบิเกลก็เดินตามกลับอย่างว่าง่ายแต่ครั้งนี้ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นทำให้อบิเกลกล้าต่อปากต่อคำกับมาวิน
“จะกลับได้ยัง!” มาวินเห็นอบิเกลเงียบอยู่นานก็กระชากเรียวแขนให้เธอเดินตามออกจากผับ
มาวินมันยัดตัวอบิเกลขึ้นรถได้ก็ขับรถออกจากผับด้วยความเร็วและไม่ต้องถามนะว่าเขาจะพาเธอไปไหนต่อเพราะเธอก็ไม่รู้และไม่กล้าถามเหมือนกันดูจากหน้าของเขาแล้วตอนนี้ถ้าถามอะไรออกไปโดนมันตะคอกกลับแน่ ๆ
รถสปอร์ตคันหรูแล่นกลับมาที่ผับของออสติน มาวินยังไม่อยากพาอบิเกลกลับไปที่ห้อง ถ้ากลับไปที่ห้องแล้วอยู่ด้วยกันสองคนมีหวังทะเลาะกันห้องพังยับแน่ ยิ่งตอนนี้อบิเกลเมามากและดูเหมือนเธอก็พร้อมจะปะทะกับมาวินได้ทุกเมื่อเหมือนกัน
“จะลงได้ยังเกล” เอ่ยถามเสียงขุ่น
“ฉันอยากกลับห้อง” เอ่ยบอกเสียงนิ่ง ๆ กลับ ไม่แม้แต่จะหันหน้าไปมองหน้ามาวิน
“ได้กลับแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้” เขาเปิดประตูแล้วหันกลับมาพูดกับอบิเกลอีกครั้ง “ลงมาอย่าให้พูดซ้ำ”
ปัง!
มาวินลงมาจากรถแล้วยืนรออบิเกลแต่ก็ไร้วี่แววที่เธอจะเปิดประตูรถลงมาสุดท้ายก็ต้องเป็นมาวินที่เดินไปเปิดประตูให้กับเธอลงมาจากรถ สายตามองชุดที่เธอใส่แล้วต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้งและไม่รู้มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว
มือหนาจับกุมมือเล็กของอบิเกลพาเดินเข้าไปด้านในผับและเธอก็ยอมเดินตามเขาไปง่าย ๆ ไม่ได้แสดงท่าทางฟึดฟัดอะไรออกมา แค่เธอกับเขาเดินเข้ามามันก็เป็นอย่างที่มาวินคิดเอาไว้เมื่อสายตาที่มองมาที่อบิเกลอย่างโลมเลียแสดงความหื่นในตัวของแต่ละคนได้อย่างดี
‘ขยันยั่วอารมณ์เขาดีเหลือเกินแล้วชุดนี่ก็ไม่รู้จะยั่วเพศไปไหน’
จากจับมือก็เปลี่ยนมาโอบรอบเอวบางเอาไว้พร้อมตวัดสายตาดุไปทางสายตาหื่น ๆ บอกให้ได้รู้ว่าคนนี้ของกู สายตาหื่นหลาย ๆ คู่ที่พอจะรู้จักมาวินก็รีบหลบตากันจ้าละหวันแต่ก็ยังอดไม่ได้ที่ยังมองตามแผ่นหลังบางไปอีก กว่าที่มาวินจะพาอบิเกลเดินฝ่าผู้คนมาได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกอยู่เหมือนกันถ้ารู้ว่าคนจะเยอะอย่างนี้เขาคงพาอบิเกลเข้าทางเส้นทางVIPไปแล้ว
“ไงมึง ร้านเขาพังรึเปล่า” ดูคำถามของไอ้บรูซมันสิครับผมยังไม่ทันจะได้นั่งเลย
“นั่งลงเกล” ผมนั่งลงที่โต๊ะแล้วขยับให้เกลนั่งลงข้าง ๆ ผมและเธอก็ทำตามอย่างว่าง่ายแม้หน้าตาจะบอกบุญไม่รับก็เถอะแล้วใครสนกันล่ะ ไม่อยากนั่งก็ต้องนั่งในเมื่อเธอเล่นปั่นประสาทผมมาแล้วตั้งสองวันเต็ม ๆ แล้วเวลาเธออยู่ต่อหน้าเพื่อน ๆ ของผมนี่เรียบร้อยไม่มีปากมีเสียงแต่พออยู่กับผมสองคนเถอะพยศยิ่งกว่าอะไรดี
“เกลดื่มอะไรไหม เราสั่งให้” ออสตินละความสนใจจากสาวสวยข้างกายหันมาสนใจอบิเกลที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“ไม่ต้อง! เดี๋ยวกูจัดการเอง” เสือกเสนอหน้ามาเทคแคร์นี่เมียกูกูดูแลเอง
“กูออสตินเพื่อนมึงเอง กูแค่ถามมึงจะโมโหทำไมวะ” ออสตินมองหน้ามาวินอย่างระอานี่เขาเป็นเพื่อนมันนะมันยังออกอาการขนาดนี้แล้วคนอื่นไม่ต้องคิดเลยว่ามันจะขนาดไหน
“จะดื่มอะไร” ผมหันมาถามเกลที่เอาแต่นั่งหน้านิ่งไม่ยอมคุยกับใครสักคน “ไม่ได้เอาปากมาถามไม่ตอบ” อบิเกลเธอเป็นผู้หญิงที่ยั่วอารมณ์ผมได้เก่งที่สุด ยั่วอารมณ์ในที่นี้ผมหมายถึงยั่วอารมณ์โมโนนะครับเธอสามารถทำให้ผมโมโหเธอได้เกือบทุกเวลาเลยก็ว่าได้
“ปากนายนี่คงพูดคำดี ๆ ออกมาไม่ได้เลยสินะ” อบิเกลมองค้อนกลับไปหนึ่งทีแต่ก็ยังคงไม่ตอบคำถามของมาวินเหมือนเดิม
“ขยับมาใกล้ ๆ จะนั่งห่างไปไหนของเธอวะเกล ทำตัวให้น่ารักเหมือนผู้หญิงคนอื่นเขาบ้างไม่ได้เลยรึไงฮะ” ที่ผมให้เกลขยับมาใกล้ ๆ ผมแค่อยากได้กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ จากตัวของเธอก็อย่างว่าผมไม่ได้เจอเธอมาสองวันแล้วและอีกอย่างผมไม่เคยห่างจากเกลเลยสักวันตั้งแต่ที่เรามีความสัมพันธ์กัน อย่างน้อย1วันผมต้องได้เห็นหน้าและต้องได้คุยแต่นี่เธอเล่นหายเงียบไปเลยสองวันและมันทำให้ผมหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ผมก็อธิบายไม่ถูก
“ไอ้เหี้ยวิน เจอเมียมึงทิ้งกูเลยนะเว้ย กูอุตสาไปเป็นเพื่อน” ไคโรเดินเข้าอย่างหัวเสีย
“เออ กูขอโทษกูลืมมัวแต่โมโหยัยตัวดี”
“เฮ้ออ...” เกลถึงกลับต้องถอนหายใจออกมาที่มาวินเอาแต่พูดแขวะเธอไม่หยุด
“หรือมันไม่จริงว่ะเกล ไม่ต้องมาทำเป็นถอนหายใจแรงเลยแล้วมึงก็อีกคนขยับออกไปนั่งไกลเกลดิ” มาวินกำลังบ่นให้อบิเกลอยู่ ๆก็เหลือบสายตามาเห็นไคโรที่กำลังจะขยับเข้ามานั่งติดกับเธอ ปากหนาก็เริ่มทำงานขยับไล่ไคโรในทันที
“อะไรของมึงหนักหนาวะไอ้วิน มันเหลือที่นั่งอยู่ที่เดียวไหมวะ มึงไม่ต้องหวงเกลมากก็ได้ กูเนี่ยเพื่อนมึงไม่ได้คิดอะไรกับเกล มึงเข้าใจไหมฮะ” ไคโรส่ายศีรษะอีกรอบหวงเมียแม้กระทั่งเพื่อนก็ไม่เว้น
“มาวินจะหวงก็ไม่แปลกหรอกค่ะ เกลสวยขนาดนั้น มิลล์เป็นผู้หญิงด้วยกันยังอดที่จะมองไม่ได้เลย” สาวสวยข้างกายของออสตินที่มองมาที่อบิเกลอย่างชื่นชมและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าคนนี้คือคนสำคัญของมาวิน เธอต้องผูกมิตรไว้ก่อนเป็นดีที่สุด
“ขอบคุณค่ะ” เกลหันไปส่งยิ้มบางให้กับมิลล์ก่อนจะหันมายกยิ้มให้กับมาวิน