[พ่ออาจจะไม่ได้กลับบ้านวันนี้นะ ถ้าลูกไม่ได้เป็นอะไรมาก เดี๋ยวพ่อให้คนขับรถไปรับ]
มองข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ด้วยแววตาน้อยใจ เด็กสาวนั่งมองข้อความนี้พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อรอบดวงตา ไม่รู้ว่ามีใครเป็นเหมือนตัวเองไหม น้อยคนที่ต้องการให้พ่อแม่มาวุ่นวายในชีวิตด้วย วัยรุ่นหลายคนไม่อยากคุยกับพ่อแม่เสียด้วยซ้ำ แต่เธอไม่ใช่
ทว่าขณะนั้นเอง
“เอ่อ คนไข้เชิญทำแผลทางนี้ค่ะ” เสียงเล็กของผู้หญิงทำให้อลินเงยหน้าขึ้นมอง
“ทำแผล?”
“หมอแผ่นดินบอกให้ดิฉันมาทำแผลให้คนไข้ค่ะ” คนได้ยินขมวดคิ้วมุ่น หมอแผ่นดินหรือ...แค่ได้ยินชื่อใจก็เต้นตึกตักแล้ว
“เขาบอกเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ อย่างนี้แหละค่ะคุณหมอแสนดีกับคนไข้ทุกคน”
ดับฝันเสียอย่างนั้น พยาบาลกล่าวอย่างนี้ราวกับจะบอกว่าเขาแสนดีอย่างนี้กับทุกคน ไม่มีใครพิเศษกว่าใคร
เด็กสาวยอมไปทำแผลด้วย เธอมีเรื่องอยากถามเสียมากกว่า
“เอ่อ หมอแผ่นดิน...มีแฟนหรือเปล่าคะ” น้ำเสียงอ่อน ในใจก็ลุ้น ๆ ว่าคนหน้าตาดีอย่างหมอแผ่นดินน่าจะมีแฟนแล้ว ทว่า
“ไม่มีหรอกค่ะ แต่ว่าหมอเขาน่ะ มีคนชอบ ๆ อยู่” คิ้วเรียวขมวดมุ่น ราวกับมีฟ้าผ่าลงกลางใจ แต่...ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะเป็นแฟนกันนี่ คิดได้อย่างนั้นมุมปากเรียวเล็กก็ยกยิ้มขึ้น
“ทำเบา ๆ นะคะ” เอ่ยปากบอกพี่พยาบาลระหว่างทำแผล แม้นจะซ่าแค่ไหน แต่ก็เจ็บเข่าอยู่ไม่น้อย กำแพงโรงเรียนไม่ได้สูงมาก แต่ว่าลงผิดท่าแขนก็เลยหักแถมยังเอาเข่าลงอีกด้วย
“ว่าแต่ว่า...คุณหมอว่างช่วงไหนบ้างคะ” เสียงเล็กเอ่ยถามด้วยความสงสัย ทำเอาพยาบาลสาวเงยหน้าขึ้นมอง
“ตกหลุมรักคุณหมอเหรอคะ” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน เธอพยักหน้ารับเบา ๆ หากว่าอาการใจเต้นตึกตักแบบนี้เรียกว่ารัก เธอก็คงตกหลุมรักอย่างที่พี่พยาบาลคนนี้พูด
“หึ อายุแค่นี้เองนะ”
“อ้าว...” ราวกับว่าพี่พยาบาลกำลังจะบอกว่า อายุแค่นี้เองทำเป็นแรด “อายุน้อยก็มีหัวใจนะคะ”
“แต่หมอแผ่นดิน 31 แล้วนะ”
“สะสามสิบเอ็ดเหรอคะ!!” โพล่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ อ้าปากเหวอที่ได้ยินอายุของเขา อายุห่างจากเธอถึง 15 ปี!
“ใช่จ้ะ” หูของเธออื้ออึง ทำไมเขาดูไม่เหมือนคนอายุเลขสามเลย นึกน้อยใจที่ตัวเองเกิดช้า เขาคงไม่ชายตามองเธอแน่ ๆ
“เรียบร้อยแล้วจ้ะ ถ้าคุณพ่อมารับแล้วก็กลับได้เลยนะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” พนมมือไหว้ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำแผล รู้สึกเหมือนกับอกหักทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันได้จีบเลย แต่ก็ไม่แน่เขาอาจจะชอบผู้หญิงอายุน้อยกว่าก็ได้
ถึงจะครึ่งค่อนชีวิตก็เถอะ!
อลินกลับคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยความเงียบเหงา บ้านเกียรติภูมิอยู่ด้วยกันหลายคนมาก เป็นวงศาคณาญาติกัน ทั้งคุณอา คุณลุง พ่อของเธอ ลูกพี่ลูกน้อง และพี่ชายฝาแฝดของเธอเอง แต่ก็แบ่งสัดส่วนกันอย่างชัดเจน หากว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาก็ไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอกัน เพราะบ้านหลังใหญ่มาก ตอนนี้อลันคนเป็นพี่น่าจะอยู่กับพ่อในตอนนี้
“เฮ้อ...” นอนแหงนหน้าขึ้นมองเพดาน อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์คุณแม่ไปต่างประเทศกับสมาคมทนายความเพื่อประชาชน ทั้งคุณพ่อคุณแม่เป็นทนายความด้วยกันทั้งคู่ แม้ว่าจริง ๆ แล้วตระกูลของเธอจะทำธุรกิจที่ร่ำรวยติดท็อปสามของประเทศ ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินกว่าถึงสามแสนล้านบาท แน่นอนว่าบริษัทกฎหมายที่พ่อของเธอบริหารอยู่ก็เป็นหนึ่งในเครือบริษัทที่ชื่อว่าเดอะเกรทฟีเจอร์กรุป
ฝ่ามือบางกดเล่นโทรศัพท์ ค้นชื่อหมอแผ่นดินผ่านอินสตาแกรม ทั้งในเฟซบุ๊ก แม้แต่ในติ๊กต็อก แต่ก็ยังไม่เจอ หรือว่าเขาจะไม่ได้เล่นโซเชียล จริงสิ...คนอายุรุ่นราวนี้ก็คงไม่ชอบเล่นอะไรทำนองนี้ ไหนจะงานของเขาอีกด้วย
“เฮ้อ...” ถอนหายใจออกมาแรง ๆ จะอาบน้ำก็ไม่สะดวก ความปวดตรงแขนก็ยังมีอยู่ ซึ่งในใบนัดแพทย์เธอจะได้เจอคุณหมอแผ่นดินอีกอาทิตย์หน้า แต่เรื่องอะไร...
“พรุ่งนี้ไปหาดีกว่า” สั่นหัวดุ๊กดิ๊กอย่างคนอารมณ์ดี คิดว่าพรุ่งนี้จะแอบไปหาเขาที่โรงพยาบาลเผื่อว่าจะได้เจอกันสักหน่อย ยิ่งจินตนาการถึงใบหน้าของเขาหัวใจก็ฟูฟ่อง อาการแบบนี้มันทำให้เธอมีความสุขจนลืมความน้อยใจต่อพ่อตัวเอง แถมวันนี้คุณหมอยังเป็นห่วงบอกให้พยาบาลทำแผลให้อีก ทำไมเขาถึงแสนดีขนาดนี้ก็ไม่รู้ อย่างนี้จะให้เธอทนได้ยังไงไหว เทใจให้เขาหมดตัก
ขณะเดียวกันคนที่ถูกคิดถึง ชายหนุ่มนั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ภายในห้องนอนเวร เพ้อนึกถึงผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ได้เจอคนถูกใจ แต่เธอดันแต่งงานแล้ว เขาไม่ได้คิดอยากไปแย่งหรอก แค่นึกถึงเพียงแค่นั้น
“เป็นไรวะ ทำหน้าอย่างกับมีคนตาย” เพื่อนนอนเวรด้วยกันถาม
“ใช่ มีคนตาย”
“หือ?”
“มึงไง”
“อ้าว...เพื่อนถามดี ๆ แช่งกันซะแล้ว” หมอณภัทรส่ายหน้าเบา ๆ ไม่คิดว่าเพื่อนคนนี้จะตอบแบบนี้ ดูท่าแล้วจะเซ็งจัด “แล้วไมมึงไม่นอนอะ เดี๋ยวถึงเวลาออกไปราวด์ละ”
“...นอนไม่หลับว่ะ”
“ทำไม มึงยังคิดเรื่องของคุณแพตตี้อยู่งั้นเหรอ”
“อือ...” แผ่นดินตอบพร้อมกับเอนตัวลงนอนมองเพดานห้อง เขาผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ
“ทำใจ เธอเป็นเมียเจ้าของโรง’บาลเลยนะ”
“หึ กูไม่ได้คิดแย่งหรอก แค่เสียดายที่เราเจอกันช้าไป” ณภัทรส่ายหน้าเบา ๆ เรื่องของเวลามันไม่มีใครสามารถกำหนดได้หรอก
“เพราะไรรู้ป่ะ เพราะว่าเขาไม่ได้คู่กับมึงไง” หมอณภัทรตบไหล่เพื่อนเบา ๆ อย่างคนปลอบใจ แผ่นดินทำหน้าเซ็งจัดแบบนี้มาหลายวันแล้ว นาน ๆ เพื่อนรักจะได้เจอสาวถูกใจ พอได้เจอถูกใจหน่อยเขาก็แต่งงานแล้วเสียอย่างนั้น
“แล้วเนื้อคู่กูเมื่อไหร่จะมาล่ะถ้างั้น” ถามอย่างเซ็ง ๆ ตอนนี้เขาก็อายุเยอะแล้ว ยังไม่ทันได้แต่งงานเลย
“ก็อย่ามัวแต่ตั้งสเปกเลย ผู้หญิงชอบทำอาหาร ทำงานบ้านเก่ง เย็บปักถักร้อย...มีแค่ในนิยายเถอะ”
“อ้าว...กูก็ไม่ได้ขนาดนั้นแค่ชอบแบบนี้ ผิดเหรอวะ” แผ่นดินบ่นอุบอิบ แพตตี้ตรงสเปกของเขาทุกอย่างเลย
“หึ หรือเนื้อคู่มึงจะยังไม่เกิดวะ”
“ไอ้เวร ถ้าเนื้อคู่กูยังไม่เกิด กว่าจะโตกูแก่พอดี” ส่ายหน้าเบา ๆ ไม่เคยสนใจผู้หญิงอายุน้อยกว่ามาก ๆ อยู่แล้วด้วย 22-23 วัยกำลังขบเผาะ คิดแล้วมุมปากก็ยกสูงขึ้น ถ้าได้เจอคนที่เหมือนกับคุณแพตตี้เขาจะไม่พลาดโอกาสเลย
“เดี๋ยวกูนอนละ” ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว ห้องนอนเวรพักได้สองคน แผ่นดินหลับตาพริ้มลงเหมือนกับทุกวัน ชีวิตแพทย์ก็มีอยู่แค่นี้แหละ กิน นอน ทำงาน เข้าเวร ด้วยเหตุนี้ล่ะมั้งที่เขายังไม่มีแฟน ไม่เกี่ยวกับว่าเนื้อคู่ยังไม่เกิดอย่างไอ้ณภัทรพูดหรอก...
เช้าวันต่อมา...
“เด็กนักเรียนคนเมื่อวานซื้อมาให้ค่ะ เอามาให้ตั้งแต่เช้าเลยนะคะ เธอฝากขอบคุณคุณหมอด้วยค่ะ” ใบหน้าหล่อเหลาพยักรับเบา ๆ อย่างไม่คิดอะไร ปกติก็มีคนไข้เอาของมาฝากเป็นของกำนัลให้บ่อย ๆ ทว่า
“ฉันถามเธอเมื่อวาน เธอบอกว่าเธอชอบคุณหมอค่ะ” ได้ยินอย่างนั้นถึงกับแค่นหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า ใคร ๆ ก็เคยเป็นวัยรุ่น ก็คงเป็นวัยรุ่นที่ชอบกรี๊ดกร๊าดผู้ชายหน้าตาดี เพราะเขาเองก็รู้ตัวว่าตัวเองหล่อมากแค่ไหน
“ดูท่าเธอจะจริงจังมากเลยนะคะ ฉันก็เลยให้ไอจีของคุณหมอไป”
“หือ...ให้ไปแล้วเหรอครับ”
“เอ่อ ขอโทษค่ะ” เขามีสีหน้าตกใจมาก นั่นทำให้พยาบาลที่ทำงานกับเขามาโดยตลอดตกใจตามไปด้วย ปกติคุณหมอไม่ทำหน้าตกใจแบบนี้
“คือว่า...เธอมาขอน่ะค่ะ” แผ่นดินผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้เปิดสาธารณะอยู่แล้ว
“ทีหลังไม่ต้องให้ใครนะครับ” ว่าอย่างเซ็ง ๆ ชายหนุ่มเอนหลังพิงพนักพิงเก้าอี้ มองแก้วกาแฟและขนมเค้กที่วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งบนแก้วกาแฟมีตัวอักษรถูกเขียนไว้
‘ขอบคุณนะคะ :) ’
ไม่อยากจะกินหรอก แต่ถ้าคนไข้มีน้ำใจเขาก็ไม่อาจจะปฏิเสธ ฝ่ามือหนาคว้าแก้วกาแฟมาดื่มโดยไม่ได้คิดอะไร...
ต่างจากคนให้ที่กำลังเพ้อว่าเขาคงดื่มกาแฟที่เธอซื้อไปฝากอย่างมีความสุข อลินนั่งเท้าคางที่โต๊ะเรียน ทว่า
ปึก!
“พี่ลัน!!” ฝ่ามือหนาของพี่ชายก็ยื่นมาปัดแขนของเธอออกทำให้ใบหน้าเล็กเกือบโขกใส่โต๊ะ เธอหันขวับไปทางด้านหลังทันที
“ฮ่า ๆ เลิกซ่าได้ยัง พ่อบอกว่าวันนี้จะมารับ”
“จริงเหรอ” เปลือกตาบางเบิกกว้างมองพี่ชายฝาแฝดที่เรียนห้องเดียวกัน ซึ่งอีกฝ่ายนั้นไม่น่าเชื่อถือจนน้องสาวต้องทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“อือ ไปรับแม่ที่สนามบินด้วย แม่บอกงานเสร็จแล้วก็เลยกลับไว โดนแม่ด่าแน่ ฮ่า ๆ” พี่ชายหัวเราะเสียงดัง อลันอยากแกล้งน้องสาว ซึ่งคำพูดของเขาทำเอาอลินรู้สึกหวั่น ๆ หวั่นว่าจะโดนแม่ดุเพราะโดดเรียนจนทำให้แขนหัก แต่เธอก็ทำหน้าระรื่นเหมือนเดิม
“ไม่ต้องมายุ่งด้วย!” ว่าพร้อมกับย่นจมูกใส่พี่ชาย อลินไม่ชอบพี่ชายตัวเองสักเท่าไร ขี้แกล้ง แถมพ่อยังรักมากกว่าอีกด้วย
ฉันจะเก่งกว่าพี่ให้ได้เลยคอยดู
เด็กสาวมองหน้าพี่ชายพร้อมกับนึกคิดในใจ เธอจะต้องเก่งให้ได้เหมือนพ่อ ซึ่งทั้งอลินและอลันลงเรียนพรีดีกรีคณะนิติศาสตร์ เพื่อจะได้จบปริญญาตรีไว ๆ และจะได้สอบตั๋วทนายเป็นทนายที่เก่งให้ได้เหมือนพ่อ
“มองอะไร ไหนมานี่เขียนอะไรให้” เด็กหนุ่มเดินเข้าใกล้น้องสาวพร้อมกับปากกาเมจิกในมือ
“ทำอะไร อย่ายุ่ง!” พยายามจะชักแขนที่ใส่เฝือกหนี แต่พี่ชายก็ไม่สนใจ รีบเขียนข้อความลงใส่เฝือกของน้องสาว
‘หายไว ๆ น้องรัก’
“มาลบออกเดี๋ยวนี้เลยนะพี่ลัน!!” อลินตะโกนเสียงไล่หลังพี่ชายเมื่อได้อ่านข้อความ กลอกตามองบนเมื่ออีกฝ่ายหันหน้ามายักคิ้วหลิ่วตาใส่อย่างกวน ๆ
“อยากจะบ้าตาย ไม่ได้ต้องการสักหน่อย” ยกมืออีกข้างขึ้นลูบเบา ๆ พยายามลบออกแต่ก็ทำไม่ได้
“แก...โกรธอะไรลันนัก” เสียงของเพื่อนสาวดังขึ้นทำให้ใบหน้าของอลินหันไปมอง
“เฮ้อ แกก็เข้าข้างแฟนตัวเองไง” โยษิตาเพื่อนของเธอเองพ่วงด้วยตำแหน่งแฟนสาวของพี่ชาย “ฉันต้องถามแกซะมากกว่าว่ารักไปได้ยังไงผู้ชายนิสัยเสียอย่างพี่ลัน”
“หึ แกไม่เข้าใจหรอก เดี๋ยวแกก็รู้สึก”
“โน ๆ ฉันต้องคู่กับผู้ชายแสนดี เหมือนกับ...” หมอแผ่นดิน คิดในใจแล้วก็เขิน จนเก็บอาการไม่อยู่
“อะไรอ่ะ แกมีความรักเหรอ”
“คิก ๆ ก็มีน่ะสิ...เมื่อวานที่ไปหาหมออ่ะ หมอหล่อมากกกก~” ลากเสียงยาวเพื่อนเน้นย้ำกับเพื่อนว่าหมอหล่อมากจริง ๆ
“จะหล่อขนาดไหนกันเชียว หล่อสู้ลันได้หรือเปล่า” เพื่อนสาวว่าพลางทำหน้าเพ้อฝันเช่นกัน ทำเอาคนได้ยินถึงกับต้องคว่ำปากลงด้วยความหมั่นไส้
“ไม่รู้สิ แต่หมอแผ่นดินมีเสน่ห์มาก เหมือนกับถูกสะกดจิตเลย ตอนที่ฉันมองหน้าเขา มันมีเสียงในหัวดังขึ้น แบบ...หลงรักผมสิ หลงรักผมเลย” อลินทำหน้าเพ้อฝันไม่ต่างกัน คิดแล้วก็ใจเต้นตึกตัก
“แล้วแกจะจีบเขาเหรอ”
“ก็เออน่ะสิ...ไม่อยากให้พลาดโอกาสหรอก แม้ว่าเขาจะอายุเยอะกว่า แต่...ฉันน่ะไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย” ว่าเสียงเศร้า คงเป็นความรู้สึกน้อยใจจากบิดาด้วยล่ะมั้งที่ทำให้เธอใฝ่ฝันอยากมีผู้ชายที่ให้ความอบอุ่นกับเธอได้ และเขาก็อบอุ่นมาก ๆ อีกด้วย