MAFIA 03
***************************
[TRAIPHUM : SAID]
ผมกลับเข้ามาในห้องของตัวเองที่ตอนนี้ข้าวของของพัดชาได้ถูกย้ายไปอยู่อีกห้องแล้ว
ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าเธอจะขอแยกห้องกับผมทั้งที่เมื่อก่อนแทบจะอ้อนวอนก้มกราบขอให้ผมอยู่กับเธอ
แต่พอเธอคิดที่จะทำร้ายตัวเองแล้วฟื้นขึ้นมาเธอก็กลายเป็นคนละคนไปเลย สายตาที่เธอมองหน้าผมมันเหมือนว่าเธอไม่ได้ต้องการผมเหมือนที่ผมเองก็ไม่ได้ต้องการเธอ
ตอนแรกก็ดีใจเหมือนกันนะที่เธอจำอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าการที่เธอจำเรื่องราวของเราไม่ได้เลยมันไม่ใช่เรื่องที่ดี
เพราะดูจากการกระทำของเธอที่ห่างเหินและเย็นชากับผมแบบนี้มันทำให้ผมรู้ได้ทันทีเลยว่าพัดชาที่แสนอ่อนโยนและเชื่อฟังผมไม่อยู่แล้ว
แต่ถ้าความจำของเธอกลับมาผมคิดว่าเธอจะต้องกลับมาเชื่อฟังผมเหมือนเดิมแน่นอน
“คุณจะไม่นอนกับฉันเหรอคะไตรภูมิ?”
“ทำไม กลัวว่าถ้าฉันออกไปข้างนอกแล้วจะเอาผู้หญิงเข้ามาเอาในนี้หรือไง”
“ฉันก็แค่อยากให้คุณอยู่กับฉันคืนนี้ได้มั้ยคะ?”
สายตาอ้อนวอนของคนตัวเล็กทำให้ผมยกยิ้มมุมปากที่เธอต้องการผมมากขนาดนี้ ที่จริงแล้วผมเองก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอกนะ
แต่ในเมื่อเราสองคนแต่งงานกันโดยที่มันไม่ได้เกิดจากความรักเลยมันทำให้ผมเลือกที่จะใจร้ายกับเธอ เพื่อให้เธอทนไม่ได้แล้วขอหย่ากับผมเอง
การแต่งงานของเรามันก็เป็นแค่ธุรกิจเท่านั้น พ่อจะยกทุกอย่างให้ผมก็ต่อเมื่อผมกับพัดชาเราสองคนแต่งงานกัน
นั่นแหละมันเลยทำให้ผมได้เธอมาเป็นเมียด้วยความไม่เต็มใจไง
“ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันจะออกไปข้างนอก”
“คืนนี้อยู่กับฉันนะคะ”
พัดชาพยายามพูดขอขอร้องอ้อนวอนเพื่อที่จะให้ผมอยู่กับเธอ เพราะเธอไม่อยากอยู่ในห้องคนเดียว
การที่ผมให้เธออยู่ในห้องเดียวกับผมและนอนเตียงเดียวกับผมมันก็ดีมากแล้วนะ แล้วนี่เธอยังกล้าที่จะมาขอให้ผมอยู่กับเธออีกเหรอ
“ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวค่ะ”
“เธอเองก็น่าจะรู้นะพัดชาว่าฉันไม่ได้ต้องการที่จะอยู่กับเธอ”
“ทำไมล่ะคะ ฉันมันไม่น่ารักเหมือนผู้หญิงที่คุณพามานอนด้วยเหรอ?”
“จะว่ายังไงดีล่ะ ฉันก็แค่ไม่ต้องการเมียอย่างเธอก็เท่านั้นเอง”
จะบอกว่าผมแม่งใจร้ายกับเมียตัวเองก็ได้นะ ผมยอมรับว่าตัวเองก็เลวกับเธอจริงๆ นั่นแหละ
เพราะถ้าไม่เลวจริงก็คงทำไม่ได้หรอกนะที่พาผู้หญิงเข้ามาในบ้านเพื่อทำให้เธอเจ็บปวดและทนไม่ได้ ต้องขอหย่ากับผมน่ะ
“การที่ฉันทำแบบนี้เธอเองก็น่าจะรู้ได้ไม่ยากเลยนะว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ”
“แต่เราแต่งงานกันแล้วนะคะ”
“แล้วยังไง ถ้ารับในสิ่งที่ฉันเป็นไม่ได้ก็หย่าสิ”
“คุณก็รู้ว่าฉันรักคุณมากแค่ไหน แล้วฉันจะหย่ากับคุณได้ยังไงคะ”
พัดชามองหน้าผมกลับมาก่อนที่น้ำตาของเธอจะไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง
เหมือนว่าเธอเสียใจมากที่ผมทำเหมือนไม่ได้ต้องการเมียอย่างเธอเลย ต้องให้เธอร้องไห้ต่อหน้าผม ผมก็ไม่ได้รักเธอหรอกนะ
“อย่าร้องเพราะฉันไม่ใช่ผัวที่แสนดีที่จะเช็ดน้ำตาให้เธอหรอกนะพัดชา”
“ฉันรู้ค่ะว่าคุณไม่คิดที่จะใจดีกับฉันหรอก แต่ฉันก็ไปจากคุณไม่ได้เหมือนเดิม”
“นั่นมันก็เรื่องของเธอ ถ้าทนความเจ็บปวดได้ก็ทนต่อไปแล้วกัน”
พูดจบผมก็เดินออกไปจากห้องทันที เพราะไม่อยากอยู่มองหน้าเมียตัวเองที่ตอนนี้กำลังร้องไห้อย่างหนัก ก็บอกแล้วไงว่าผมแม่งไม่ใช่ผัวที่แสนดีของเธอหรอก
ตอนนั้นน่ะเหรอไม่ว่าผมจะพูดอะไรพัดชาก็พร้อมที่จะทำตามที่ผมบอกทุกอย่างเลย และไม่กล้าที่จะพูดอะไรที่ทำให้ผมไม่พอใจด้วย
แต่พอเธอฟื้นขึ้นมาผมกลับรู้สึกว่าเธอไม่ใช่พัดชาคนเดิมคนที่เชื่อฟังผมเหมือนเดิมแล้ว
รู้มั้ยว่าทำไมผมถึงได้มองออก มันเป็นเพราะว่าสายตาที่เธอมองผมไง สายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เธอมองผมด้วยความรัก
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกนะ แต่เมื่อกีี้ทั้งคำพูดและการกระทำของเธอน่ะมันทำให้ผมถูกมองเหมือนตัวเองกลายเป็นคนอื่นในสายตาของเธอไปแล้ว
ไลน์
เสียงแจ้งเตือนข้อความไลน์ดังขึ้นทำให้ผมต้องหยุดคิดเรื่องของพัดชาแล้วหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง
พอเปิดขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเอเดนเพื่อนสนิทของผมทักมาชวนไปผับที่ผมเป็นเจ้าของ เพราะมันรู้ไงว่าผมไม่อยากอยู่ที่บ้าน
ตั้งแต่ที่แต่งงานกับพัดชามาได้เกือบสองปีผมก็แทบไม่อยู่ที่บ้านเลย ผมไม่อยากอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับเธอ
และไม่อยากมองหน้าเธอที่มองหน้าผมกลับมาเหมือนว่าเธอเจ็บปวดมาก
ผมยอมรับนะว่าตัวเองแม่งเลวที่ทำให้เมียตัวเองเจ็บปวดได้มากขนาดนี้ แต่ที่ผมทำเพราะผมเองก็มีเหตุผลเหมือนกัน ต่อให้เหตุผลของผมมันจะฟังไม่ขึ้นก็ตาม
เอเดน : กูจะไปผับมึงนะ มึงจะเข้าผับป่ะ
เอเดน : เห็นมึงไม่ค่อยอยากอยู่ที่บ้านก็เลยมาชวน
ไตรภูมิ : ยังไม่รู้ ถ้าไปเดี๋ยวกูบอกแล้วกัน
เอเดน : อะไรกันทีอย่างนี้ล่ะบอกไม่รู้ หรือเป็นเพราะว่าเมียฟื้นแล้วอย่างนั้นเหรอ
ไตรภูมิ : ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพัดชาหรอก
ผมเดินออกมาจากห้องตัวเองก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พัดชาเดินออกมาจากห้องของเธอเหมือนกัน
ห้องใหม่ของเธอกับห้องของผมอยู่ติดกันเพราะผมเป็นคนบอกให้แม่บ้านย้ายของของเธอมาอยู่ที่ห้องนี้เอง
ถ้าเกิดว่าเธอคิดที่จะทำอะไรบ้าๆ อีกผมจะได้รู้ไง เธอมองหน้าผมที่มองหน้าเธอกลับไปเหมือนกัน
พอเห็นสายตาที่เธอมองผมแบบนี้แม่งโคตรไม่ชอบเลยว่ะ อย่างที่บอกไงว่าเธอเคยรักผมมากและยอมตายเพื่อผมด้วยซ้ำ
แล้วพอเห็นสายตาที่ไร้ความรู้สึกของเธอตอนนี้มันกลับทำให้ผมไม่ชอบใจขึ้นมา
“ฉันจะออกไปข้างนอก อาจจะไม่กลับเข้ามา”
“โอเคค่ะ”
พัดชาตอบกลับมาทันทีโดยที่ไม่ถามอะไรต่อเลยว่าผมจะไปที่ไหน ไปกับใครแล้วจะไม่กลับเข้ามาที่บ้านจริงๆ เหรอ
แต่เธอกลับตอบมาแค่ว่าโอเคเท่านั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอไม่มีทางพูดแค่นี้แน่ และตอนนี้สายตาของเธอก็ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้อยากจะรู้เรื่องของผมเลย
เธอเปลี่ยนไปมากจริงๆ นะ ถ้าเกิดว่าความจำเสื่อมอย่างน้อยก็น่าจะยังมีความรู้สึกรักให้กันบ้างไง แต่นี่อะไร แม่งไม่มีเลย
“ไม่ถามเหรอว่าฉันจะไปที่ไหน ไปกับใคร?”
“ไม่ถามค่ะ เพราะฉันไม่ได้อยากรู้อยู่แล้วว่าคุณจะไปที่ไหน”
“ไม่คิดที่จะห้าม?”
“ไม่ค่ะ เพราะฉันรู้ว่าห้ามไปยังไงคุณก็จะไปอยู่ดี”
พัดชายักไหล่ก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างทันทีเหมือนไม่ได้สนใจว่าผมจะออกไปไหนไปทำอะไรกับใครเลยด้วยซ้ำ
เห็นแค่นี้มันก็ทำให้ผมรู้ได้ทันทีแล้วล่ะว่าเธอแม่งเปลี่ยนไปจริงๆ จากเมียที่คอยเชื่อฟังและตามเอาใจผมมาตลอด
ตอนนี้น่ะเหรอกลายเป็นเมียที่ไม่สนใจผัวอย่างผมไปแล้วล่ะ ผมเดินตามพัดชาลงมาข้างล่างก่อนจะคว้ามือของเธอเอาไว้
ทำให้เธอหันกลับมามองหน้าผมที่มองหน้าเธอด้วยความไม่พอใจ ผมไม่ชอบให้ใครมาเดินหนีแบบนี้โดยเฉพาะเมียอย่างเธอ เธอจะต้องเชื่อฟังผมเท่านั้น
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“เธอจำทุกอย่างได้ใช่มั้ยพัดชาถึงได้ทำแบบนี้?”
“ถ้าฉันจำได้ฉันก็ต้องกลับไปทำเหมือนเดิมสิคะ แต่ที่ฉันไม่เหมือนเดิมก็หมายความว่าฉันจำอะไรไม่ได้เลย”
“แน่ใจเหรอว่าไม่ได้แกล้งจำไม่ได้?”
“ค่ะ ฉันแน่ใจว่าฉันจำไม่ได้”
“คิดจะทำอะไรกันแน่พัดชา?”
ยิ่งเห็นสายตาเธอมองหน้าผมด้วยความเย็นชาแบบนี้มันก็ทำให้ผมอดที่จะถามเธอออกไปไม่ได้ว่าเธอคิดที่จะทำอะไรกันแน่
เพราะเมื่อก่อนเธอแม่งต้องการผมอย่างกับอะไร แต่ตอนนี้กลับไม่ต้องการกันซะอย่างนั้น แล้วคิดว่าผมจะเชื่อเหรอว่าเธอไม่ต้องการผมจริงๆ
“ที่ทำแบบนี้ต้องการอะไร?”
“หมายถึงอะไรคะฉันไม่เข้าใจ ฉันน่ะเหรอคะคิดจะทำอะไรกับคุณ”
“ที่เมินฉันแบบนี้ทั้งที่เมื่อก่อนตามติดจนน่าคำราญ”
“คุณไม่ได้ยินที่หมอพูดเหรอคะว่าฉันจำอะไรที่เกี่ยวกับคุณไม่ได้เลยค่ะคุณไตรภูมิ มันก็ไม่แปลกหรือเปล่าที่ความรู้สึกของฉันที่มีต่อคุณมันจะหายไปด้วยเหมือนกัน”
พัดชาตอบกลับมาทันทีว่าเธอจำอะไรที่เกี่ยวกับผมไม่ได้มันเลยทำให้เธอเลือกที่จะเย็นชากับผมแบบนี้
แต่ที่เธอทำอยู่ตอนนี้น่ะมันทำให้ผมไม่ชอบไง เพราะไม่เคยมีใครมองผมด้วยสายตาที่เย็นนชาแบบนี้มาก่อนเลย
“มีอะไรจะพูดกับฉันอีกมั้ยคะ”
“เธออยากหย่ากับฉันหรือเปล่าพัดชา?”
“ทำไมคุณถามแบบนี้ล่ะคะ หรือว่าคุณอยากหย่ากับฉันเหรอ?”
“ในเมื่อเธอเองก็จำอะไรที่เกี่ยวกับฉันไม่ได้ ฉันคิดว่าเราเองก็ไม่ควรมีอะไรเกี่ยวข้องกันนะ”
“พูดเหมือนคนที่ไม่ได้รักกันเลยนะคะ”
“ในเมื่อรู้แล้วไม่คิดที่จะหย่าหรือไง”
“ถ้าคุณอยากหย่าฉันหย่าให้ก็ได้นะคะ แต่ถ้าคุณพ่อของคุณถามฉันก็คงต้องตอบตามความจริงว่ามันเป็นความต้องการของคุณเอง ไม่ใช่ฉัน”
“หึ สุดท้ายก็เอาพ่อฉันมาอ้างเพื่อที่จะไม่หย่าสินะ”
ผมมองหน้าพัดชาก่อนที่จะเดินออกมาจากบ้านทันที การที่เธอพูดแบบนี้มันทำให้ผมรู้ได้เลยว่าเธอไม่ได้อยากหย่ากับผมหรอก
ดีไม่ดีการที่เธอเย็นชาใส่ผมแบบนี้อาจจะเป็นแผนของเธอก็ได้ไง แต่บอกเลยนะว่าเธอไม่มีทางที่จะทำให้ผมแม่งหวั่นไหวให้เธอได้หรอก เพราะผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลย
ตอนแรกก็คิดว่าการที่เธอเย็นชากับผมมันคงเป็นเพราะเธอจำผมไม่ได้หรือไม่อดีตที่ผมเคยทำให้เธอเสียใจเลยทำให้เธอปิดกั้นตัวเองกับผม
แต่พอเธอพูดประโยคเมื่อกี้ออกมามันเลยทำให้ผมรู้ได้ไม่ยากเลยว่าเธอเองก็ไม่ได้อยากหย่ากับผมหรอก
[TRAIPHUM : SAID END]