MAFIA01:กลายเป็นเมียมาเฟีย

1922 Words
MAFIA 01 ************************** “พัดชา พัดชา” “…” “พัดชา…” ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วก็รู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมดและที่รู้สึกเจ็บมากที่สุดเลยก็คือหัวของฉัน มันหนักอึ้งเหมือนมีก้อนหินมาวางอยู่ที่หัวยังไงยังไงยังงั้นเลย พอสายตาเริ่มปรับโฟกัสได้ฉันก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆ ก็มีใบหน้าของผู้ชายที่ฉันไม่คุ้นเคยมาอยู่ใกล้ใบหน้าฉันขนาดนี้ ฉันผลักเขาออกไปอย่างแรงทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังเจ็บตัวอยู่ ทำให้เขาเองก็ตกใจไม่ต่างจากฉันเหมือนกัน และเมื่อกี้เหมือนเขาเรียกชื่อใครคนหนึ่งก็ไม่รู้ และคนที่เขาเรียกชื่อเมื่อกี้ฉันเองก็ไม่รู้จักด้วย เขามองหน้าฉันที่มองหน้าเขากลับไปก่อนที่ริมฝีปากบางจะยิ้มกว้างออกมาเหมือนว่าเขาดีใจมากที่เห็นว่าฉันฟื้นแล้ว ฉันมองไปรอบห้องก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีสายอะไรไม่รู้ระโยงระยางไปหมดเลย ใช่สิ ก่อนที่ฉันจะจำอะไรไม่ได้เลยตอนนั้นฉันกำลังจะข้ามถนนแล้วก็มีรถพุ่งเข้ามาชนฉัน แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับฉันบ้างก็ไม่รู้อีกเลย “จะกลับแล้วเหรอพินอิน ให้เราไปไปส่งป่ะ?” “ไม่เป็นไร เราข้ามถนนไปแค่นี้เดินต่อไปอีกหน่อยก็ถึงหอพักเราแล้วล่ะ” “ไม่อยากให้กลับไปเลย เรารู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้” “อะไรเหรอที่ว่ารู้สึกแปลก?” “ไม่รู้เหมือนกัน เรารู้สึกเหมือนว่าจะไม่ได้เจอเธออีก” “คิดมากไปหรือเปล่า พรุ่งนี้ก็ได้เจอกันที่ทำงานเหมือนเดิมนั่นแหละ” “โอเค งั้นก็เดินทางปลอดภัยนะ” “อืม” ฉันยิ้มให้ชรเพื่อนที่ฉันสนิทด้วยมากที่สุดก่อนจะมองซ้ายมองขวาเพื่อที่จะข้ามถนน พอเห็นว่ารถไม่มีแล้วฉันก็เดินข้ามทันที เพราะตรงนี้ไม่มีทางม้าลายและไม่มีสะพานลอยด้วย แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ข้ามไปอีกฝั่งก็มีรถยนต์คันหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว ทำให้ฉันตกใจมากและยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนที่ฉันจะจำอะไรไม่ได้ก็มีเสียงเรียกชื่อฉันเสียงดังขึ้นมาในตอนที่ร่างกายของฉันตกกระทบพื้นแล้ว “พินอิน!!!” “ฟื้นแล้วเหรอ?” “…” “เธอทำให้ฉันเป็นห่วงมากเลยนะพัดชา อย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจหรือเปล่า?” คนตรงหน้ามองหน้าฉันอย่างตำหนิ และสายตาที่เขามองฉันมันเหมือนมีความไม่พอใจและความโล่งใจ และเมื่อกี้เขาไม่ได้เรียกชื่อฉันแต่ดันเรียกชื่ออีกคน ทำให้ฉันต้องเอ่ยถามเขากลับไปทันทีว่าเขาจำผิดคนหรือเปล่า “คะ...คุณเรียกฉันว่าอะไรนะคะ?” “อย่าบอกนะว่าจำตัวเองไม่ได้” “ระ…เรียกใหม่อีกทีค่ะ” “พัดชา” “ไม่ใช่...ฉันไม่ใช่พัดชา” ฉันตอบกลับไปทันทีว่าตัวเองไม่ใช่พัดชาผู้หญิงที่เขาพูดถึง พอฉันพูดประโยคเมื่อกี้ออกไปรอยยิ้มของคนตรงหน้าก็หายไปทันที ก่อนที่เขาจะเดินออกไปข้างห้อง และไม่นานหมอก็เข้ามาดูอาการของฉันและถามว่าฉันจำอะไรได้บ้าง รู้อะไรมั้ยว่าที่นี่เป็นที่ที่ฉันไม่คุ้นเคยเอาซะเลย และไม่รู้ด้วยว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้วทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ และคนตรงหน้าฉันตอนนี้ฉันก็ไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนด้วย “จำอะไรได้บ้างหรือเปล่าครับ?” “ไม่ได้ค่ะ” ฉันส่ายหน้าตอบกลับไปทันทีว่าตัวเองจำอะไรไม่ได้เลย ทำให้หมอหันไปมองกับผู้ชายที่อยู่ข้างฉันแล้วบอกว่าการที่ฉันจำอะไรไม่ได้อาจจะเป็นเพราะสมองของฉันได้รับความกระทบกระเทือนทำให้ความทรงจำบางส่วนหายไป โดยเฉพาะความทรงจำที่ฉันไม่อยากจำ เดี๋ยวก่อนนะ ฉันไม่ได้ความจำเสื่อมหรือเปล่า ฉันยังจำทุกอย่างได้ว่าฉันเป็นใคร แต่กับคนตรงหน้าฉันไม่รู้จักเขาจริงๆ ว่าเขาเป็นใคร จู่ๆ เขาก็มองหน้าฉันด้วยสายตาที่ไม่พอใจแล้วมาเรียกฉันว่าพัดชาอีก “คนไข้ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองอาจทำให้ความทรงจำบางส่วนหายไปครับ” “หมายความว่าเธอจะจำไม่ได้เป็นบางเรื่องใช่มั้ยครับ?” “ใช่ครับ” “แล้วจะมีทางกลับมาจำได้มั้ยครับ?” “โอกาสมีครับ แต่ก็ต้องช่วยฟื้นความจำคนไข้ด้วยการพาไปสถานที่ที่เคยไปบ่อยๆ ก็จะช่วยได้ครับ ส่วนมากแล้วคนไข้ที่มีอาการแบบนี้ไม่นานก็จะจำได้เองครับ ไม่น่าเป็นห่วง” พูดจบหมอก็เดินออกจากห้องไปทำให้ฉันอยู่กับเขาแค่สองคน เขาหันมามองหน้าฉันที่มองหน้าเขากลับไปเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามฉันขึ้นมาอีกครั้งเหมือนอยากรู้ว่าฉันจำเขาได้หรือเปล่า สายตาที่เขามองฉันน่ะมันทำให้ฉันแอบกลัวเหมือนกันนะ เหมือนว่าฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจอย่างนั้นแหละเขาถึงได้มามองหน้าฉันแบบนี้ “ฉันเป็นใคร?” “ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้จักคุณค่ะ” ฉันตอบกลับไปทันทีว่าฉันไม่รู้จักเขา และฉันก็ไม่ได้ความจำเสื่อมด้วย ฉันจำทุกอย่างได้ แต่ที่จำไม่ได้เลยก็คือคนตรงหน้าฉันคนนี้เป็นใคร “คุณเป็นใคร?” “ความทรงจำบางส่วนที่มันหายไปคงจะเป็นเรื่องของฉันสินะพัดชา” “ฉันไม่รู้จักคุณค่ะ เราไม่เคยเจอกันมาก่อนไม่ใช่เหรอ?” “หึ ไม่เคยเจอกันมาก่อนอย่างนั้นเหรอ” “…” คนตรงหน้ามองหน้าฉันที่มองหน้าเขากลับไปเหมือนว่าประโยคที่ฉันพูดเมื่อกี้จะทำให้เขาอยากหัวเราะออกมา ถ้าเขามองหน้าฉันเขาเองก็น่าจะรู้นะว่าฉันจะเขาไม่ได้จริงๆ “แล้วแหวนที่เธอสวมอยู่น่ะไม่ทำให้เธอจำได้บ้างเลยเหรอพัดชาว่าฉันคือใคร” “...” ได้ยินที่คนตรงหน้าพูดทำให้ฉันก้มมองมือของตัวเองทันที และเห็นแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายที่ตัวเองสวมเอาไว้อยู่จริงๆ ด้วย นี่มันเรื่องบ้าอะไรอ่ะ ฉันแต่งงานแล้วเหรอ ฉันเงยหน้าไปมองหน้าเขาอีกครั้งและเห็นว่าเขาเองก็มองหน้าฉันกลับมาเหมือนกัน “ฉันคือผัวมาเฟียของเธอ” “อะไรนะคะ?” “ทีนี้จำได้หรือยังว่าฉันเป็นใคร?” “ฉัน...ฉันอยากเข้าห้องน้ำค่ะ” ฉันเลือกที่จะไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เพราะฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ ฉันค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ก่อนที่จะล็อกประตูเอาไว้ไม่ให้เขาตามเข้ามาได้ ฉันไปยืนมองตัวเองในกระจกแล้วก็ต้องตกใจที่คนในกระจกกลับไม่ใช่ตัวฉันแต่เป็นใบหน้าของอีกคน นี่มันเรื่องจริงเหรอที่ฉันมาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนนี้อ่ะ ฉันไม่ใช่พัดชา แต่ฉันคือพินอิน ใช่ ชื่อของฉันคือพินอินไม่ใช่พัดชา ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็ยังคงเห็นผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของฉันยืนอยู่ที่เดิม เขาที่เห็นว่าฉันเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็หันมามองหน้าฉันโดยที่ไม่ยอมละสายตาไปไหนเลยล่ะ ทำให้ฉันต้องเอ่ยถามเขาขึ้นมา ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองฝันไปยังไงยังงั้นเลย “คุณชื่ออะไรคะ?” “ฉันถามเธอจริงๆ นะพัดชา เธอจำฉันไม่ได้หรือกำลังเรียกร้องความสนใจกันแน่” “เมื่อกี้หมอก็บอกไม่ใช่เหรอคะว่าฉันความจำเสื่อม แล้วฉันจะจำคุณได้ยังไง” “…” ฉันตอบกลับไปทันที พอฉันพูดประโยคเมื่อกี้ออกไปเขาก็ถอนหายใจเหมือนไม่อยากจะพูดกับฉัน ท่าทางและอาการของเขาที่เป็นอยู่ตอนนี้มันทำให้ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาคือสามีของฉันและฉันก็คือเมียของเขา เพราะคนเป็นผัวเมียกันเขามองหน้ากันด้วยสายตาที่เย็นชาด้วยเหรอ “คุณชื่ออะไรคะ?” อีกครั้งที่ฉันเอ่ยถามทำให้เขายอมบอกชื่อของตัวเองให้ฉันรู้ทันที “ไตรภูมิ” “เราสองคนแต่งงานกันเหรอคะ แต่งกันนานหรือยัง แล้วทำไม…” “แต่งงานกันแล้วและตอนนี้เธอก็คือเมียของฉัน” “ฉันคือเมียของคุณ?” “อืม เธอคือเมียของฉันและฉันก็เป็นผัวของเธอไง ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่ต้องจำอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวสักพักเธอก็จำได้เอง” “น่าแปลกจังเลยนะคะสายตาที่คุณมองเมียตัวเองกลับไม่มีความรักอยู่ในนั้นเลย” ฉันตอบกลับไปทันทีที่ได้ยินคุณไตรภูมิบอกว่าฉันคือเมียของเขา แต่สายตาที่เขามองฉันเหมือนว่าเขาไม่ได้รู้สึกรักฉันเลยด้วยซ้ำ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพัดชาเธอไปทำอะไรให้เขา เขาถึงได้ดูไม่ชอบเธอมากขนาดนี้ ฉันเดินไปนั่งที่เตียงแล้วหันไปเห็นมือถือที่ข้างเตียง ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบมันแล้วเปิดขึ้นมาและมันก็คือมือถือของพัดชาหรือของฉันนั่นแหละ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจก็คือปีพุทธศักราชที่ฉันอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่ที่ที่ฉันเคยอยู่เลย ก่อนที่ฉันจะโดนรถชนน่ะฉันอยู่ในปีพุทธศักราช 2550 แต่ตอนนี้มันเป็นปีพุทธศักราช 2590 หมายความว่าฉันอยู่ในช่วงเวลาของอนาคตอย่างนั้นเหรอ “เป็นไปได้ยังไง นี่ฉันข้ามเวลามาในโลกอนาคตเหรอ?” “เป็นอะไร?” สีหน้าที่ดูตกใจของฉันทำให้คุณไตรภูมิถามขึ้นมาทันที ฉันส่ายหน้าแล้วบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่ามันจะอยู่จริงพวกข้ามเวลาน่ะ แล้วทำไมฉันถึงได้มาอยู่ในร่างของพัดชาได้ล่ะแล้วตัวฉันตอนนั้นล่ะจะเป็นยังไง หรือว่าฉันตายแล้วอย่างนั้นเหรอ “หรือเริ่มจำอะไรได้บ้างแล้วอย่างนั้นเหรอ?” “เปล่าค่ะไม่ได้เป็นอะไร” “อยากให้ฉันอยู่เฝ้าหรือเปล่าหรืออยากอยู่คนเดียว” “สีหน้าของคุณมันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีนะคะว่าคุณไม่ได้อยากอยู่กับฉัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้วค่ะอยู่คนเดียวได้” “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ฉันจะกลับแล้ว เดี๋ยวจะให้คนมาเฝ้าที่หน้าห้อง” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันบอกคุณแล้วไงว่าฉันอยู่คนเดียวได้” “หึ คนอย่างเธอน่ะเหรอจะอยู่คนเดียวได้” พูดจบคุณไตรภูมิก็เดินออกจากห้องไปเลย ไม่ว่าจะเป็นสายตา น้ำเสียง และการกระทำของเขามันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าเขาไม่ได้รักเมียตัวเองเลย แต่นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องรู้ไง เพราะสิ่งที่ฉันอยากรู้ตอนนี้ก็คือทำไมฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ แล้วทำไมถึงได้ข้ามเวลามาเป็นเมียมาเฟียได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD