“รู้ตัวว่าป่วยก็อย่าดื้อสิ”
“ฉันไม่ได้ดื้อนะ คุณต่างหากที่นิสัยไม่ดีมารังแกคนป่วย ชอบฉวยโอกาส” เธอต่อว่าเขา
แม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้ฉวยโอกาสรังแกเธอจนมีราคี แต่ยังอดต่อว่าไม่ได้
“แบบนี้เขาเรียกว่าดื้อไม่รู้ความ”
อัคนีหอมแก้มคนดื้ออย่างหมั่นไส้ ร่างบางในอ้อมแขนหยุดออกฤทธิ์แล้ว เมื่อรู้ว่ายิ่งดิ้นยิ่งเสียเปรียบจากที่ไม่ถูกรังแกจะโดนรังแกจริงๆก็ได้
“ถึงเราจะแต่งงานกันแล้ว แต่เราเพิ่งรู้จักกันนะคะคุณอัคนี”
ดารากานต์ผ่อนลมหายใจยาว ความอบอุ่นจากอ้อมแขนที่โอบรัดรอบกาย ให้ความรู้สึกดีอย่างประหลาด หญิงสาวอดนึกหวั่นไม่ได้ เมื่อเธอและเขามาแต่งงานกันโดยไม่เคยรู้จักหรือรักกันมาก่อน ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา จะมั่นคงและยืนยาวมากพอจะอยู่ร่วมกันได้ตลอดชีวิตหรือไม่ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างรู้จักกันน้อยเหลือเกิน
“เราก็ค่อยๆ เรียนรู้กันไปสิครับ เรามีเวลาทั้งชีวิต ที่จะทำความรู้จักกัน”
ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขาเลย เมื่ออัคนีรู้ดีว่าเขารู้สึกพิเศษกับภรรยาตัวแทนคนนี้ยังไง ในชีวิตหนุ่มใช่จะไม่เคยพบหรือรู้จักกับผู้หญิงมาก่อน ผู้หญิงมากมายที่เข้ามาในชีวิต ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกอยากปกป้องดูแล หรืออยากกอดไว้แบบนี้ทุกวันทุกคืนมาก่อน ดารากานต์เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้
“ถ้ายายเดือนกลับมาล่ะคะ ผู้ใหญ่คง...”
ดารากานต์อดนึกถึงเจ้าสาวตัวจริงของเขาไม่ได้ น้องสาวของเธอใจเด็ดนัก หนีไปโดยไม่ยอมบอกกล่าว ทั้งๆ ที่เป็นคนอ่อนแอนุ่มนิ่มแบบนั้น ไม่รู้ไปตกระกำลำบากที่ไหน หากศศิกานต์กลับมาอัคนีจะทำยังไง ในเมื่อเธอไม่ใช่เจ้าสาวที่พ่อแม่ของเขาหมายมั่นปั้นมือไว้ตั้งแต่ครั้งแรก
“กลับมาก็เรื่องของเธอสิครับ ผมกับคุณเราแต่งงานกันแล้วนะครับ จดทะเบียนกันแล้วด้วย ฐานะของเราสองคนคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมาย น้องสาวของคุณคือคนอื่นสำหรับผม”
แม้อัคนีเคยพบศศิกานต์มาหนหนึ่งแล้ว สองสาวเป็นฝาแฝดมีใบหน้าเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว ชายหนุ่มกลับไม่ได้รู้สึกต่อเธอทั้งสองเหมือนกัน กับศศิกานต์เขาไม่ใจเต้นแรงไม่อยากเข้าใกล้ เขาไม่เคยรู้สึกพิเศษกับเธอเหมือนที่รู้สึกกับดารากานต์
“ดาวครับ ให้โอกาสผมนะครับ” เขาเอ่ยขอ ดวงตาคมสบตาเธออย่าเว้าวอน จนหญิงสาวต้องหลบสายตา
ดารากานต์นิ่งเงียบในอ้อมกอดเขา ความอบอุ่นอ่อนโยนจากชายคนแรกที่ได้รับทำให้ใจสาวไหวหวั่น มันจะเป็นไรไหมถ้าเธอจะเปิดใจให้เขาเข้ามาใกล้ชิด ก็เธอกับเขาแต่งงานกันแล้วนี่นา แม้จะเป็นการแต่งงานแบบฉุกเฉินก็ตาม แต่เธอรู้สึกว่าเขาน่าสนใจและไม่น่ารังเกียจสักนิด
“โอเคค่ะ แต่ระหว่างที่เราเรียนรู้กัน คุณห้ามล่วงเกินฉันนะ” เธอมีข้อแม้
อัคนีหัวเราะเบาๆ พยักหน้ารับ “ตกลงครับ ผมจะไม่ล่วงเกินคุณ ถ้าคุณไม่เต็มใจ”
ดารากานต์ยิ้มอ่อนๆ หัวใจเริ่มเต้นในจังหวะนุ่มนวลขึ้น เมื่อได้ยินคำตอบรับจากชายหนุ่ม เธอคงคิดไม่ผิดหรอกนะ ที่ให้โอกาสผู้ชายคนนี้ หากเขาทำให้เธอเสียใจ เธอจะไม่ยกโทษให้เขาเลยคอยดูสิ เธอคาดโทษเขาไว้ล่วงหน้า
อัคนีกับดารากานต์กลับมาที่เรือนหอของทั้งสอง หลังจากตกลงใจจะศึกษาดูใจกันอย่างจริงจัง สองหนุ่มสาวเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลต่างฮันนีมูนไปในตัว ผู้ใหญ่สองฝ่ายแอบลุ้นว่าการจับคู่ครั้งนี้แม้จะผิดฝาผิดตัวแต่ก็น่าจะได้ผลไม่น้อย เพราะสองหนุ่มสาวมีท่าทางสนิทสนมกลมเกลียวกันเกินคาดหมาย
ทั้งสองเลือกเดินทางไปที่เกาะช้างจังหวัดตราด ระหว่างรอขึ้นเรือเฟอร์รี่ตรงท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อย ก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งเดินรี่เข้ามาทักทายอัคนี
“เพลิงคะ ดีใจที่ได้เจอเพลิงอีก”
ร่างอวบอิ่มสวมเสื้อสายเดี่ยวสีสดกับกางเกงขาสั้นสีขาว โชว์เรียวขาสวยเดินเข้ามาทัก พร้อมกับจับแขนของอัคนีไว้อย่างถือสนิท อัคนียิ้มกร่อยๆ เมื่อพบกับจามรีอดีตแฟนสาวอย่างบังเอิญ เขากับเธอเคยคบหากันช่วงหนึ่ง ก่อนจะเลิกรากันไปเมื่อฝ่ายหญิงพบคนใหม่
“เอ่อ... จ๋า นี่ดาวภรรยาของผมครับ”
อัคนีแกะมือที่เกาะแขนเขาออก ขยับมาโอบไหล่คนตัวเล็กที่ทำหน้าตึงอยู่พลางแนะนำให้อดีตแฟนสาวรู้จักกับภรรยา เป็นการให้เกียรติดารากานต์และเป็นการป้องกันตัวจากจามรีแม่สาวไฟแรงสูง ที่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมาก่อน
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันจามรีหรือจ๋า เพื่อนสนิทของเพลิงค่ะ”
จามรีหน้าเสียเล็กน้อย เมื่อถูกอดีตแฟนหนุ่มแนะนำให้รู้จักภรรยาของเขา
“ค่ะ ฉันดารากานต์ เป็นภรรยาของคุณอัคนีค่ะ”
ดารากานต์ทักทายตอบ ขณะตวัดสายตามองหน้าสามีของเธออย่างคาดโทษ รอให้ไปถึงที่พักบนเกาะก่อนเถอะจะซักฟอกให้ขาวเชียว เพิ่งขอโอกาสกับเธอแท้ๆ ยังมีผู้หญิงอื่นซ่อนไว้อีก
“คุณสองคนจะไปเกาะช้างกันเหรอคะ”
จามรีเอ่ยถาม ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าท่าเรือนี้ไปเกาะช้าง แต่อยากหาเรื่องคุยกับอัคนีมากกว่า
“เราจะไปฮันนีมูนกันครับ”
อัคนีตอบอย่างเสียไม่ได้ เขามองหน้าอ่อนใสของภรรยาอย่างเว้าวอน เกรงเธอจะเข้าใจผิดไปใหญ่โต ดารากานต์ทำหน้าเฉยสนิทจนคนมองเริ่มใจไม่ดี
“ดาวเขาชอบทะเลผมเลยพามาครับ”
“แหม คุณดาวนี่ชอบทะเลเหมือนจ๋าเลยนะคะ”
จามรีมองร่างหนาบึกบึนของอดีตแฟนหนุ่มอย่างโหยหา เธอไม่น่าทิ้งเขาไปแต่งงานกับผู้ชายไม่ได้เรื่องคนนั้นเลย ตอนนี้เธอหย่าขาดจากสามีแล้ว ความคิดแรกที่ได้พบอัคนีคืออยากทวงเขากลับมาเป็นของเธออีกครั้ง สายตาของหญิงสาวลอบมองภรรยาของเขาอย่างประเมิน ท่าทางหงิมๆ แบบนี้หน้าตาก็จืดชืดอย่างกับปลานึ่ง จะสู้สาวร้อนซ่อนสวาทอย่างเธอได้ยังไง สมัยคบหากันอัคนีร้อนแรงมากแค่ไหนเธอรู้ดีหากไม่เจนสังเวียนเธอคงรับมือและชิงตำแหน่งผู้หญิงของเขามาจากหญิงสาวคนอื่นไม่ได้แน่ ภรรยาของเขาไม่น่าเข้าข่ายสาวไฟแรงแบบที่ชายหนุ่มชอบ หญิงสาวมองคู่แข่งอย่างดูแคลน
“เมื่อก่อนเพลิงก็พาจ๋ามาเที่ยวทะเลแบบนี้บ่อยๆ จริงมั้ยคะเพลิง”
คำพูดกระตุกต่อมหึงของแม่สาวทรงโต ทำให้ดารากานต์อดทนอยู่เฉยไม่ไหว เข้าใจเจตนาอันมิดีของอีกฝ่ายที่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการเข้ามาเป็นมือที่สามระหว่างสามีภรรยา ผู้หญิงสมัยนี้หน้าด้านยิ่งกว่าถนนคอนกรีต ไม่สนว่าเขามีลูกเมียแล้วหรือยังแบบนี้ต้องจัดให้สักยกจะได้เลิกร่อนส่ายเหมือนพวกสัมภเวสีหิวโซ
“เหรอคะ น่าเสียดายนะคะ ที่คงไม่มีโอกาสแบบนั้นอีก”
ดารากานต์ตอบกลับเสียงนิ่ม แต่ดวงตาตวัดมองจามรีด้วยแววตาวาววับ ราวกับแม่เสือสาว
... ถ้าจะคิดมาเปิดสงครามกับเธอ ก็ขอบอกให้รู้เอาไว้ว่าคิดผิด ดารากานต์คนนี้ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ...
“เรือมาแล้ว ไปขึ้นเรือกันเถอะ”
อัคนีเบรกทัพห้ามศึกระหว่างสองสาวก่อนจะเลยเถิดไปไกล เขาหิ้วกระเป๋าและข้าวของเดินตามร่างเล็กของภรรยาขึ้นไปบนเรือ หาที่นั่งได้ก็หันมาเอาอกเอาใจภรรยาสาว
“หิวมั้ยครับดาว”
ดารากานต์ส่ายหน้าขยับเข้าไปเกาะราวกั้น ทอดสายตามองทะเล ปล่อยให้คนตัวโตถอนหายใจเฮือกๆ เพราะไม่รู้จะง้องอนยังไงดี
“ขอนั่งด้วยคนนะคะ จ๋ามาคนเดียวค่ะนัดเพื่อนไว้ที่เกาะ”
นางมารตามมาราวีไม่หยุดปลุกให้นางฟ้าหันขวับมามอง ดวงตากลมโตตวัดมองร่างอวบอิ่มที่เบียดกระแซะมานั่งข้างๆ เก้าอี้ตัวติดกันกับอัคนีอย่างไม่ชอบใจ ชายหนุ่มรีบขยับเข้าชิดเก้าอี้ของภรรยาวาดแขนโอบไหล่บางไว้ แสดงให้คนมาใหม่รู้ว่าเขากับเธอรักกันหวานเจี๊ยบแค่ไหน
“ที่รักคะ ดาวหิวน้ำจัง”
ดารากานต์ทนนิ่งเฉยอยู่ไม่ไหว ฝ่ายตรงข้ามบุกหนักแบบนี้ ขืนทำเฉยพ่อยอดชายนายอัคนีคงถูกฝ่ายนั้นป่วนจนหัวหมุนแน่
... นึกว่ายั่วผู้ชายเป็นคนเดียวหรือไง เธอจะไม่ยั่วแต่จะอ้อนแทน ดูสิว่าใครจะแน่กว่าใคร...