4

1121 Words
เขายกร่างสาวขึ้นสูงจนร่างกายไม่ได้เชื่อมต่อกัน ก่อนจะวางร่างระหงลงบนโซฟา จับเรียวขายาวให้ชิดกันก่อนจะโย้ไปข้างหน้า ซึ่งมอลลี่ก็รีบใช้แขนคล้องหัวเข่าทั้งสองข้างไว้อย่างรู้งานว่า เขากำลังจัดท่วงท่าให้อยู่ในท่า สวรรค์เบิกทาง เป็นอีกท่าหนึ่งที่เธอโปรดปราน แม้ว่าจะให้ชายอื่นทำท่วงท่านี้ก็ไม่เท่ากับริคคาร์โด้ทำ เพราะเขาถึงอกถึงใจเธอดีเหลือเกิน เมื่อฝ่ายหญิงรู้งาน ฝ่ายชายก็เริ่มบรรเลงเกมสวาททันที เขาก้าวขึ้นมาบนโซฟาหันหลังให้เธอ ก่อนจะย่อตัวสอดแก่นกายใหญ่เข้าไปในรังผึ้งฉ่ำเยิ้ม ขนาบขาทั้งสองข้างของตนกับบั้นท้ายกลมกลึง มือใหญ่ข้างหนึ่งจับมั่นตรงพนักพิงศีรษะของโซฟา อีกมือหนึ่งเท้าลงบนเบาะ “อา...ริคคะ...อา...เยี่ยมคะ...โอ้...อา” มอลลี่ครางกระเส่ากับการเคลื่อนไหวร้อนเร่าของริคคาร์โด้ที่จะเรียกได้ว่าไม่ปราณีปราศรัยร่างของเธอเลยแม้แต่น้อย เขากระแทกแก่นกายชายขนาดเกินพอดีเข้าลึกสุดเส้นทางรักจนเกิดเสียงกึกๆ ของการกระทบกันระหว่างส่วนปลายกับผนังด้านใน จังหวะของเขาไม่เพียงแค่หนักหน่วงและเร็วรี่เท่านั้น บางครั้งเขายังส่ายวนร่างเป็นรูปวงกลม ควงสว่านให้เม็ดมุกที่ฝังอยู่ในอวัยวะสืบพันธ์เสียดสีกับผนังนุ่มภายในกลีบดอกไม้ เรียกทั้งเสียงคราง เรียกทั้งความสยิวเสียวและความกระสันซ่านให้มอลลี่ได้มากโข ท่วงท่านี้สามารถทำให้เขาอัดกระชั้นกายแกร่งเข้าสู่ความนุ่มชื้นได้ถนัดถนี่ รุนแรงและหน่วงหนักทุกการเข้าออกไม่ต่างกับเสาเข็มทำงาน ทุกการกระแทกเธอจุกแน่นไปหมด แต่น่าแปลกที่เธอไม่นี่หระกับความเจ็บจุกกลับสนุกและสุขสันต์มากกว่า แล้วยิ่งเวลาที่เขาผ่อนปรนจังหวะเป็นเนิบช้าขยับแก่นกายใหญ่เข้าออกช้าๆ ไม่เร่งรีบ แต่เน้นให้เม็ดมุกเสียดทานกับผิวเนื้อภายใน ร่างสาวร้อนรักถึงกับสั่น แทบจะขยับบั้นท้ายตามความเป็นชายที่ทำงานไม่รีบร้อน เสียงครวญก็ดังตามไปด้วย แล้วพอเขาขับเคลื่อนเร่งจังหวะซอยระรัว กระโจนร่างเร็วจนมอลลี่ค้นพบความสุขครั้งแล้วครั้งเล่า กรีดร้องรับความสุขที่ประดังเข้ามาด้วยความเต็มใจ “ริคคะ...อา...อา คุณสุดยอด...อา” ริคคาร์โด้เร่งอยู่ในท่วงท่านี้ต่อไปอีกสักพัก เขาก็เดินทางไปยังจุดหมายที่เดียวกับเธอ ร่างหนาหยุดเคลื่อนไหวปล่อยสายน้ำแห่งความสุขหลังจากที่ก้าวผ่านประตูสวรรค์ เจ้าของห้องขยับตัวมานั่งริมโซฟา ดึงปราการป้องกันออกจากความเป็นชายของตน ก่อนจะโยนมันลงไปในถังขยะ ปลายตามองร่างของมอลลี่ที่นอนเปล่าเปลือยหายใจหอบระรัว “เธอกลับไปได้แล้วมอลลี่ ฉันจะพักผ่อน” เขาเอ่ยปากไล่ ไม่ใช่ว่าสุขสมแล้วจะถีบหัวส่ง แต่เป็นเพราะริคคาร์โด้รู่ดีว่า มอลลี่มาที่นี่ทำไม ซึ่งตอนนี้เธอก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วด้วย “โธ่ ริคคะ” เธอยันตัวลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ขายังสั่น เบียดชิดทรวงอกกับท่อนแขนกำยำของเขา “มอลลี่ยังไม่อยากกลับนี่คะ ขอมอลลี่ค้างที่นี่นะคะ มอลลี่ยังไม่หายคิดถึงคุณเลย” “อย่าเลย ฉันไม่มีอารมณ์ ฉันอยากพักผ่อนพรุ่งนี้ฉันมีประชุมแต่เช้า” ริคคาร์โด้เอ่ยเสียงแข็ง “มอลลี่แค่อยากนอนกอดริคเฉยๆ นี่คะ ไม่ต้องมีเซ็กส์ต่อก็ได้” ขอเพียงแค่เขาเปิดโอกาสให้เธอนอนด้วยคืนนี้ เธอรับรองว่าจะปลุกอารมณ์ของเขาให้ขึ้นได้ไม่ยาก “อย่าให้ฉันพูดซ้ำสองนะมอลลี่ เธอก็น่าจะรู้นิสัยฉันนะ” พูดจบร่างหนาก็ลุกขึ้นยืน ก่อนเดินไปคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบเอว “ฉันให้เวลาเธอสิบนาทีในการแต่งตัว ถ้าฉันออกมาจากห้องน้ำแล้วยังเห็นเธออยู่ ฉันจะให้รปภ.มาลากตัวเธอออกไปจากห้องของฉัน” ริคคาร์โด้ก้าวเดินไปยังห้องนอนของตัวเองทันทีที่พูดจบ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้มอลลี่ทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจที่ตนเองถูกไล่ง่ายๆ เช่นนี้ แต่ครั้งนี้หญิงสาวจำต้องยอมทำตามที่อีกฝ่ายบอก เพราะรู้ดีว่าหากไม่ทำตามอะไรจะเกิดขึ้นกับตน วันนี้เธอยอมกลับแต่พรุ่งนี้จะมาใหม่ เนื่องจากยังมีอีกหลายท่วงท่าของเขาที่เธอยังไม่ได้ประสบ พอนึกถึงร่างสาวก็ครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมา มีหวังคืนนี้ต้องหาร่างกายของชายหนุ่มมาบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นเสียแล้ว กว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ดานิตามาฝึกงานในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนิสัยของเพื่อนร่วมงานที่มีหลากหลายกันไป เรียนรู้เรื่องงานที่เธอไม่เคยทำมาก่อน เรียนรู้สังคมและเทคโนโลยีที่ก้าวไปไกล ส่งผลให้ดานิตามีความรับผิดชอบมากขึ้น อีกทั้งยังมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นตามไปด้วย แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังเป็นเด็กเล็กในสายตาของผู้เป็นพ่อ ที่จะต้องมีคนตามรับตามส่งอยู่ตลอดเวลาอยู่ดี “เย็นนี้ลูกแก้วต้องไปพบลูกค้ากับคุณริค พี่พีทไม่ต้องมารับลูกแก้วนะคะ เดี๋ยวคุณริคจะไปส่งลูกแก้วบ้านเองค่ะ” ดานิตาเอ่ยบอกธนาวิชญ์หรือพีท ลูกชายคนเล็กของป้าสมร หัวหน้าคนรับใช้ที่บ้านของตน บุคคลที่วิกรม บิดาที่เคารพรักไว้ให้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาดูแลดานิตา ลูกสาวสุดที่รัก ซึ่งธนาวิชญ์ก็ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม เธอไปไหน เขาไปที่นั่น “ไม่เป็นไรครับ พี่จะอยู่ห่างๆ ไม่ไปรบกวนการทำงานของคุณหนูครับ” คนที่ฟังอยู่ถึงกับหน้ามุ่ยเสมือนคนถูกขัดใจ ดานิตารู้ว่าบิดารักและเป็นห่วงเธอมาก แต่นี่เธอโตแล้วอายุก็ยี่สิบสี่ปี บรรลุนิติภาวะถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เธอไม่สามารถทำอะไรตามตามใจและตามฝัน ยังถูกจำกัดพื้นที่อยู่ในกรอบที่วิกรมกำหนดไว้ แม้กระทั่งมาเรียนถึงต่างแดน ดานิตาคิดว่าตนเองจะได้รับอิสระบ้าง แต่เปล่าเลยทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD