บทที่ 3

1127 Words
“ก็เพราะกลัวว่าจะเก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้ยังไงล่ะครับ ผมถึงไม่ต้องการเป็นบอร์ดี้การ์ดของเธอ” นิโคลัสย้อนกลับทันทีที่ผู้เป็นลุงพูดจบ เขากล้าเอาหัวเป็นประกันว่าหากได้อยู่ใกล้นารินดา เขาคงไม่อาจกักเก็บความเกลียดชังที่มีต่อเธอไว้ได้นานเกินควร “เฮ้อ...นิค ลุงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนคุณหนูนาเดียจะไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ลุงไม่รู้ว่าคืนวันนั้นแกทะเลาะกับคุณนาเดียเพราะเรื่องอะไร แต่ลุงอยากให้แกเก็บความเกลียดชังเหล่านี้ไว้ในใจก่อนได้ไหม ลุงอยากให้แกไปเป็นบอร์ดี้การ์ดให้กับคุณหนูนาเดีย มีแค่เพียงแกคนเดียวเท่านั้นที่จะดูแลคุณหนูนาเดียได้ดีที่สุด” “ดีที่สุดแน่ คงได้จับเธอหักคอภายในนาทีสองนาทีที่เห็นหน้ากัน” นิโคลัสเค้นเสียงลอดไรฟัน รู้สึกอึดอัดใจในทุกนาที ที่ผู้เป็นลุงเข้ามาขอร้องให้เขาทำหน้าที่นี้ เพราะนั่นมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการหลีกหนีให้ไกลที่สุด “นิโคลัส...” คราวนี้ไมเคิลเค้นเสียงเรียกหลานชายเต็มยศ ซึ่งคำเรียกของเขา ทำเอาผู้เป็นเจ้าของชื่อต้องถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดใจ รู้ว่าหากผู้เป็นลุงเอ่ยเรียกเช่นนี้แล้ว เขาคงต้องถูกอีกฝ่ายวิงวอนให้ทำตามคำขอร้อง และก็เป็นดั่งที่บอร์ดี้การ์ดมือพระกาฬผู้นี้คิดไว้ไม่มีผิด เมื่อไมเคิลได้ลั่นวาจาขอร้องแกมออกคำสั่งในตัวว่า “ถือว่าทำเพื่อลุง ทำเพื่อบุญคุณที่เจ้านายมีต่อเราสองคน” ถูกขอร้อง ถูกย้ำเตือนให้นึกถึงอดีตที่ผ่านมา บุญคุณที่มิสเตอร์ฮาเวิร์ดได้ชุบเลี้ยงชายฉกรรจ์กับเด็กผู้ชายผอมกะหร่องกะแหร่ง เพราะขาดอาหารมาหลายมื้อ เล่นจู่โจมเข้าสู่หัวใจ ส่งให้นิโคลัสต้องกัดฟันแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปน “เมื่อไร คำว่าบุญคุณมันจะหมดสิ้นสักที” นิโคลัสเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก เป็นคำถามที่ถูกถามขึ้นมานานหลายปีแล้ว แต่คนถามก็ไม่ได้รับคำตอบแม้แต่ครั้งเดียว ไมเคิลไม่อาจให้คำตอบกับผู้เป็นหลานได้ นอกจากจะตบลงไปบนบ่ากว้างแข็งแกร่งของอีกฝ่ายอย่างหนักมือ พร้อมกับเอ่ยตอบเสียงเศร้าว่า “บุญคุณคงหมดลง พร้อมๆ กับลมหายใจที่หมดไปจากชีวิตของลุงด้วย” นิโคลัสจ้องสบตากับผู้เป็นลุงเขม็งกับคำตอบที่ได้ยิน “ทำไมลุงถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ” “เพราะลุงกำลังรู้สึกเหมือนที่พูดออกไป” ไม่ใช่แค่เพียงรู้สึกตามที่บอกออกไป แต่ไมเคิลรู้สึกว่ามันเป็นลางสังหรณ์ ทว่าเขาไม่ต้องการพูดไปมากกว่านี้ ไม่ต้องการให้นิโคลัสเกิดอาการไม่สบายใจเพราะเขา “นิค ลุงขอร้อง...ไปดูแลคุณหนูนาเดียตามที่เธอต้องการ” นิโคลัสถอนหายใจยาว แล้วเอ่ยตอบเสียงเครียดๆ ว่า “ผมยังไม่รับปากนะครับ ว่าจะทำตามที่ลุงขอร้องได้หรือเปล่า” การตอบรับแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ทำให้ไมเคิลคลี่ยิ้มออกมาได้บ้าง “คุณหนูมาถึงที่บ้านตอนบ่ายสองโมง อย่าลืมลงไปต้อนรับคุณหนูด้วย” คราวนี้นิโคลัสเลือกอาการนิ่งเงียบเป็นคำตอบให้กับผู้เป็นลุง ทางด้านของไมเคิล เมื่อเอ่ยบอกทิ้งท้ายแล้ว ก็เดินออกไปจากห้องของหลานชาย ยังคาดเดาไม่ได้ว่านิโคลัสจะทำตามที่เขาขอร้องหรือไม่ “บ้าชะมัด...กลับมาสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นทำไม นาเดีย” นิโคลัสสบถเสียงลั่น ใครจะรู้คำตอบดีมากกว่าตัวเขา ว่าเพราะเหตุใดเขาไม่ต้องการเข้าใกล้นารินดา เขาต้องการอยู่ห่างจากคุณหนูผู้นี้ให้ไกลที่สุด และถ้าหากเป็นไปได้ เขาอยากออกไปจากคฤหาสน์หลังนี้ด้วยซ้ำไป ซึ่งนั่นมันเป็นเพราะคำพูดของนารินดาประโยคเดียว ก่อนที่เธอจะเดินทางไปประเทศอังกฤษ ‘ฉันต้องการเป็นเมียของคุณ นิโคลัส คาร์ลอส’ สนามบินสุวรรณภูมิคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลเดินทางเข้า-ออกในประเทศไทย อาคารผู้โดยสารฝั่งขาเข้า เต็มไปด้วยบรรดาญาติมิตรที่มารอรับคนรัก คนในครอบ ครัวของตนเองกลับสู่อ้อมกอด มิสเตอร์ฮาเวิร์ด ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้คนที่มารอรับลูกสาวสุดที่รักกลับอ้อมกอด สี่ปีเต็มสำหรับการไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ นารินดาไม่เคยกลับมาเยี่ยมบ้าน ไม่เคยกลับมาเยี่ยมบิดา ไม่ใช่เพราะไม่มีค่าตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน แต่เป็นเพราะนารินดาเบื่อการนั่งเครื่องบินนานหลายสิบชั่วโมง และคนที่ทนคิดถึงลูกไม่ไหว อย่างมิสเตอร์ฮาเวิร์ดต้องเป็นฝ่ายไปเยี่ยมลูกสาวแทน แต่ในวันนี้ นารินดาสำเร็จการศึกษาและกลับบ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากไม่ได้กลับมานานหลายปี มิสเตอร์ฮาเวิร์ดจึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ขณะรอเครื่องบินที่ลูกสาวโดยสารมา ลงจอดในสนามบิน และรอเวลาที่ลูกสาวผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองออกมาพบกับตนเองตรงจุดนัดพบ “อีกไม่กี่นาทีก็ได้พบนาเดียแล้ว นาเดียจะต้องดีใจที่เห็นเรามารอรับ” มิสเตอร์ฮาเวิร์ดเอ่ยพูดกับบอร์ดี้การ์ดที่เดินทางมากับตนเองด้วยความตื่นเต้นดีใจ ดวงตาของผู้เป็นพ่อประกายไปด้วยความสุขกับการรอคอยสวมกอดลูกสาวไว้ในอ้อมแขน แต่! สตีฟ บอร์ดี้การ์ดคนสนิท ที่เดินทางมากับผู้เป็นเจ้านาย กลับไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะพวกเขาไม่สามารถทำตามคำสั่ง ที่ถูกสั่งกำชับนักกำชับหนาของคุณหนูนารินดาได้ “เจ้านายคิดว่าคุณหนูจะดีใจหรือครับ ที่เห็นหน้าพวกเรา” “ทำไมจะไม่ดีใจ” มิสเตอร์ฮาเวิร์ดถามเสียงแข็ง และเมื่อได้รับคำตอบจากสตีฟ ก็ต้องหน้าถอดสีเล็กน้อยกับความจริงที่ได้ยิน “เจ้านายลืมคำสั่งของคุณหนูแล้วหรือครับ” “ไม่ลืม” มิสเตอร์ฮาเวิร์ดตอบเสียงห้วนๆ ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่เราไม่มีเวลารอ เราอยากมารอรับนาเดีย อยากเห็นหน้าลูกของเรา” สตีฟถอนหายใจยาวให้เจ้านายได้ยิน พลางเอ่ยพูดถึงผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เพราะเจ้านายและตัวเขาไม่สามารถทำตามที่นารินดาต้องการได้ “ภาวนาว่าคุณหนูจะไม่อาละวาดจนสนามบินแตกนะครับ” “หุบปากซะไอ้สตีฟ” มิสเตอร์ฮาเวิร์ดสั่งเสียงห้วนจัด ตีหน้าเป็นกังวลไปกับคำพูดของลูกน้อง เพราะรู้ดีว่าลูกสาวจะต้องอาละวาด โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD