บทที่ 8 หวง

1846 Words
เวลาต่อมา... -แก้มใส- ฉันเห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่โรงอาหาร แต่ไม่สามารถไปมุงดูได้เหมือนกับคนอื่น ๆ ด้วยความที่กำลังเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง แต่ก็พอรู้ว่าจะต้องเป็นแก๊งเฮียมังกรแน่ ๆ เพราะว่าพวกเขาเคยก่อเรื่องจนเตี่ยต้องมาเคลียร์ที่มหา’ลัยบ่อย ๆ “โอ๊ย ๆ” “จ...เจ็บเหรอคะ” ฉันชะงักฝ่ามือเมื่ออยู่ ๆ พี่เสือก็ร้องโอดครวญขึ้นมาเสียงดัง ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมากุมมือของฉันด้านที่ถือสำลีอยู่ “เจ็บสิจ๊ะ แต่ว่าพี่ชอบ...พี่ชอบความเจ็บปวดน่ะ” ฉันทำหน้าแหยหน่อย ๆ เพราะพี่เสือเขาหน้าหม้อมาก แม้นว่าจะหล่อมาก แต่นิสัยของเขามันลดทอนความหล่อของเขาไปมากเลยทีเดียว ซึ่งตอนนี้พี่เอมิเลียก็ทำหน้าเหมือนจะอ้วก ส่วนเฮียมังกร...มองฉันตาแข็งมาก “เฮ้ยไอ้มังกร...ตามึงจะถลนออกมาอยู่แล้ว” เฮียไม่ตอบแต่ตวัดสายตาไม่พอใจมองพี่เสือกลับคืน “โกรธว่ะ ฮ่า ๆ หวงน้องขนาดนี้ใครจะกล้าเข้าใกล้อาหมวยล่ะ” พอพูดคำว่าหวง ก็ทำให้ฉันรู้สึกดีใจ แม้นจะไม่มั่นใจว่าสถานะไหนก็ตาม “ว่าแต่ หมวยมีคนที่ชอบยัง” “หือ...เอ่อ...” พอพี่เสือถามอย่างนี้ก็ทำให้ฉันเลื่อนสายตาไปมองเฮียมังกร “พอดีว่าเตี่ยไม่ให้มีแฟนค่ะ” “เหรอ...อย่าไปเชื่อเตี่ยมาก เชื่อพี่ดีกว่า แต่ถ้าหมวยอยากเรียนรู้การมีแฟน มาปรึกษาพี่ได้นะ” พี่เสือไม่หยุดพูดเลยให้ตายสิ ฉันว่าแผลจะไม่หายเพราะเขาพูดมากนี่แหละ ทว่า “เลิกพูด หมวย ๆ อะไรของมึง พ่อแม่มึงเป็นคนจีนหรือไง” เฮียมังกรพูดเสียงเข้ม ดูเขาจะไม่พอใจมาก หนำซ้ำยังยื่นมือมาคว้าเอาสำลีจากมือของฉันไปอีก “โอ๊ย ๆ” ก่อนจะกดลงแรง ๆ ที่แผลบริเวณมุมปากของพี่เสือ ทำเอาอีกฝ่ายร้องจ๊ากเลยทีเดียว “หึ...” ฉันหลุดขำออกมา ก่อนจะโดนสายตาคมของเฮียมังกรตวัดมองอย่างไม่พอใจ เล่นเอาฉันหุบยิ้มแทบไม่ทัน เฮียมังกรทิ้งสำลีในมือ ก่อนจะเปลี่ยนมาคว้าข้อมือของฉันให้ลุกขึ้น โดยที่ไม่พูดอะไรตามเคย ปัง! “อ๊ะ...” เฮียมังกรพาฉันเข้ามาในห้องน้ำผู้ชาย ก่อนจะกระแทกประตูห้องน้ำปิดแรง ๆ จนฉันสะดุ้งโหยงหลุดเสียงอุทานออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เธอไม่รู้อะไรเลยเหรอวะ!” “ระรู้อะไรคะ” เขาข่มเปลือกตาปิดลง ราวกับไม่อยากจะเชื่อว่าฉันจะเอ่ยพูดว่าไม่รู้ออกมาอย่างนี้ “มันจับ มันแตะเนื้อต้องตัวเธอ เธอก็ควรพูดว่าไม่เล่นด้วย อย่าทำ ปัดป้องบ้างสิวะ” ฉันกะพริบเปลือกตาปริบ ๆ ไม่รู้ว่าจะต้องตกใจอะไรก่อนดี ระหว่างสิ่งที่เขาพูด หรือคำพูดยาวเหยียดที่ไม่คิดว่าจะได้ยินนี้ “กะก็พี่เสือก็พูดอย่างนี้ตลอด ตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแล้ว” ฉันก็แค่คิดว่ามันเป็นปกติของเขา แต่ว่าเฮียมังกรนี่แหละที่ผิดปกติ “แล้วตอนนี้มันเหมือนตอนนั้นไหม หือ...” “ก็...เหมือน ๆ กัน” ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขาจะโวยวายไปทำไม “แล้วทำไมต้องตะคอกตลอดด้วย” “_” “เฮียหวงฉันเหรอ” “_” “หรือหึงกันแน่” ฉันลุ้นคำตอบจากคนตัวโตจนตัวโก่งเลยล่ะ ทว่า “เพ้ออะไร ถ้าเกิดเกิดเรื่องอะไรแล้วเตี่ยรู้ เธอคิดว่าใครจะถูกทำโทษ เธอ...หรือฉัน?” ฉันกลืนน้ำลายลงคอ นึกว่าจะตอบว่าทั้งหวงและหึง เฮียมังกรดับฝันแล้ว “แค่นี้ใช่ไหมคะ เฮียไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ตราบใดที่พี่เสือไม่ได้เอาจริง ฉันก็ไม่ทำให้พี่เดือดร้อนหรอก” “เธอรู้ได้ไงว่ามันไม่ได้เอาจริง เธอรู้จักมันดีแค่ไหน ดีกว่าฉันที่ใช้ชีวิตกับมันมาตลอดหรือไง” เป็นครั้งที่สองที่เขาพูดยาวแบบนี้ เล่นเอาทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว “ไม่รู้ค่ะ” ฉันตอบเสียงอ่อน เอาจริงก็เริ่มหวั่นใจกับการลวนลามของพี่เสือเหมือนกัน “หึ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา...เธออย่าทำให้ฉันต้องเดือดร้อน” เขาว่าเสียงเย็นยะเยือกจนไรขนอ่อนที่แขนของฉันลุกเกลียว ก่อนที่เฮียมังกรจะผละตัวออกห่างจากตัวฉัน เขาเดินออกจากห้องน้ำโดยไม่รอฉันเลย “พู่ว~” ฉันพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ค่อนข้างโล่งอกที่ไม่ได้ใครอยู่ในห้องน้ำ แต่ก็ต้องรีบเดินออกจากที่นี่ก่อนจะมีคนมา ทว่าพอเดินพ้นขอบประตูห้องน้ำเท่านั้นแหละ “ฟ้าใส...” ฉันกลับเห็นฟ้าใสยืนมองอยู่ เธอนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา “พอดีรุ่นพี่ให้มาตามน่ะ หมดเวลาพักแล้ว” “อ้อ...โอเค” ฉันก็ทำตัวไม่ถูก แต่ถ้าจะถามว่าเห็นเฮียมังกรออกจากห้องน้ำไหมก็กลัวว่าจะเป็นการโยนหินถามทาง คิดในแง่ดีไว้...ฟ้าใสอาจจะมาไม่ทันเห็นเฮียมังกรออกจากห้องน้ำก่อนฉันก็ได้... ตกเย็น... หลังจากเสร็จกิจกรรมรับน้องวันนี้ เราสามคนก็เดินออกมาหน้าคณะฯ กอหญ้าเงียบมาก เธอเหมือนทำตัวไม่ถูกและก็ไม่รู้ว่าจะไปไหน “กลับยังไงอะกอหญ้า” เธอเล่าว่าพักที่อะพาร์ตเมนต์ไม่ไกลจากมหา’ลัย “อ้อ ก็คงเดินแหละ ไม่ไกลเท่าไร” “เหรอ แล้วเธอล่ะ” ฉันหันไปถามฟ้าใสบ้าง ตั้งแต่ที่ฉันออกจากห้องน้ำเมื่อช่วงบ่ายนั้น ฟ้าใสก็เงียบไปเลย “ก็เดี๋ยวคุณแม่มารับน่ะ” ฟ้าใสตอบด้วยน้ำเสียงต่างจากเดิมมาก คงเป็นเพราะเรื่องเมื่อตอนบ่าย และเรื่องที่เธอรู้ว่าฉันกับเฮียมังกรไม่ได้เป็นพี่น้องกันแท้ ๆ “โอเค ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะเดินไปส่งกอหญ้าที่หอก่อน” บอกตามตรงว่าฉันอยากแยกตัวออกจากฟ้าใส เราเพิ่งเจอกันความผูกพันยังไม่มีเสียด้วยซ้ำ คนเราเลือกได้ถูกไหม...ฉันว่าฉันเลือกที่จะไม่เป็นเพื่อนกับฟ้าใสดีกว่า หากว่าเธอชอบเฮียมังกรเหมือนกับฉัน ไม่เช่นนั้นมันก็จะมีปัญหาไม่รู้จบ “อือ เอางั้นก็ได้” ฉันลอบยิ้มในใจเพราะนึกว่าฟ้าใสจะไม่ยอมเสียอีก “ถ้างั้นแยกกันตรงนี้เลยเนอะ บาย ๆ” ฉันยกมือขึ้นโบกลาฟ้าใส ซึ่งเธอก็ยกมือลาฉันเหมือนกัน ก่อนที่เธอจะเดินจากไป “แล้วหอเธออยู่ไหนนะ” “อ้อ เดี๋ยวเราพาไป...เราเองก็จำทางไม่ได้” กอหญ้าว่าเสียงอ่อน เธอยิ้มแหย ๆ เหมือนกับว่าทำตัวไม่ถูก “แล้วแก้มไม่กลับเหรอ” “อ้อ เรารอเฮียมังกรมารับน่ะ ส่งข้อความไปยังไม่อ่านเลย” “ไม่ลองโทรไปล่ะ” คำพูดของกอหญ้าทำให้ฉันนิ่งไปพักหนึ่ง ซึ่งเราสองคนกำลังเดินอยู่บนฟุตบาทข้างถนน “ไม่รู้สิ ถ้าข้อความไม่อ่านโทรไปก็คงไม่มีประโยชน์” หลาย ๆ ครั้งมันก็เป็นแบบนี้นี่แหละ ตอนที่เราเรียนประถม-มัธยมด้วยกันเฮียก็มักจะหนีฉันกลับก่อน หรืออาจจะกลับไปกับเพื่อน โดยทิ้งฉันไว้ให้เตี่ยมารับทุกครั้ง แต่แล้ว ปิ๊ด! “อ๊ะ!...” อยู่ ๆ ก็มีเสียงบีบแตรรถดังขึ้นทางด้านหลังเราสองคน ฉันกับกอหญ้าสะดุ้งพร้อมกับหลุดเสียงอุทานออกมา “ใครเหรอ” ฉันขมวดคิ้ว เสียงของกอหญ้านั้นเต็มไปด้วยความฉงนใจ ก่อนที่รถคันหรูจะค่อย ๆ แล่นมาเทียบฟุตบาทตรงที่เราสองคนยืนอยู่ พร้อมกับการเลื่อนบานกระจกลงของเจ้าของรถยนต์คันหรูนี้ “หมวยจริงด้วย” “พี่ไวเปอร์!” ฉันฉีกยิ้มออกมาเมื่อเห็นผู้มาใหม่ พี่ไวเปอร์เป็นเพื่อนกับเฮียมังกรอีกคน เขาฉีกยิ้มโชว์ซี่ฟันเรียงกันสวย ซึ่งพี่ไวเปอร์อยู่ในชุดรับน้องเหมือนกับเรา ๆ แต่เป็นสีต่างออกไปเพราะเรียนคนละคณะ “จะไปไหน อย่าบอกนะว่าไอ้มังกรมันทิ้งหมวยให้เดินเตร่กลับเองอีก” ฉันหน้ามุ่ยทันที เพราะเฮียมังกรทำแบบที่พี่ไวเปอร์พูดบ่อยครั้ง ไม่พอใจก็ไล่ฉันลงจากรถ เมื่อก่อนยังดีที่มีคนขับรถมารับได้ แต่ตอนนี้ฉันโตแล้วจะต้องพึ่งพาตัวเอง “ไม่ใช่ค่ะ พอดีเฮียยังไม่มารับ” “อ้อ งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง” บอกฉันทีเถอะว่าพี่ไวเปอร์อยากจะไปส่งฉันจริง ๆ ก็เขาเล่นมองแต่กอหญ้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จนเธอหลบสายตา “ว่าแต่...เพื่อนเหรอ” “หึ...” ฉันแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อสิ่งที่คิดในหัวนั้นเป็นจริง พี่ไวเปอร์สนใจกอหญ้าจริง ๆ “ใช่ค่ะ เธอชื่อกอหญ้า...และก็กอหญ้านี่พี่ไวเปอร์เป็นเพื่อนกับเฮียมังกรน่ะ” “อ้อ สวัสดีค่ะ” เธอยกมือขึ้นไหว้ ทำเอาพี่ไวเปอร์รีบยกมือขึ้นปราม “ไม่ถึงกับต้องไหว้หรอก พี่ยังไม่แก่นะ” เขาว่าด้วยน้ำเสียงตัดพ้อหน่อย ๆ “ขึ้นมาสิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” “ค่ะ...” ฉันรีบตอบรับ แต่กอหญ้ากลับยิ้มบาง ๆ ไม่เดินตามฉันมาเสียอย่างนั้น “มาด้วยกันสิ ให้พี่ไวเปอร์ไปส่ง” “คือหอเราไม่ไกลน่ะ” “หอไหนล่ะ” พี่ไวเปอร์ถาม “เอ่อ...” “พี่รู้จักทุกหอ” เขาว่าน้ำเสียงราบเรียบ แต่ฉันก็พอรู้เรื่องของพี่เขามามากพอสมควร พี่ไวเปอร์มีแฟนเยอะมากตั้งแต่มัธยมที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน บางทีคบทีละสองสามคนเลย “เอ่อ...หอร่วมฤดีค่ะ ไม่ไกลประตูสอง” เธอว่าพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ “อ้อ แต่นี่ประตูห้านะ” “หือ? ...” ฉันกับกอหญ้าหันมามองหน้ากัน ท่าทีเหลอหลาของเราสองคนทำให้พี่ไวเปอร์หัวเราะเบา ๆ “ไม่รู้เหรอ มหา’ลัยมันใหญ่นะ ประตูทางออกแต่ละบานก็ไกลกัน” เขาถามด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ เชิงกดดันกอหญ้าให้เธอขึ้นรถไปด้วย ซึ่งฉันน่ะไม่ติดอะไรถ้าพี่ไวเปอร์จะไปส่งด้วยความที่เรารู้จักกันมานาน แต่ว่ากอหญ้าคงไม่สบายใจ “ฉันเกรงใจน่ะค่ะ” “ไม่หรอก พี่ผ่านทางนั้นพอดี” “มาเถอะ...” ฉันตัดบทสนทนาคนทั้งสองโดยการคว้าข้อมือของกอหญ้าให้เดินมาขึ้นรถของพี่ไวเปอร์ เธอน่าจะเกรงใจจริง ๆ อีกอย่างนะ...พี่ไวเปอร์ก็ดูสนใจเธอมากเหมือนกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD