-แก้มใส-
ฉันรู้สึกอึดอัดที่ฟ้าใสทำอย่างนี้ ตอนนี้พี่เสือก็ถอยห่างจากฉันแล้ว เหลือแต่ฟ้าใสที่กำลังสอดแขนเข้าคล้องแขนของฉัน ราวกับว่าเราเป็นเพื่อนกันมานานนมทั้ง ๆ ที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อกี้นี่เอง
“เรากำลังจะไปกินข้าวที่โรงอาหารน่ะ น้องฟ้าไปด้วยกันสิ” พี่เสือดันมาชวนฟ้าใสด้วยซะงั้น ซึ่งเฮียมังกรก็หันขวับไปมองเพื่อนของตัวเองทันที เหมือนเขาจะไม่ต้องการให้ฟ้าใสไปด้วย ฉันรู้สึกดีใจที่เขาไม่มีท่าทีสนใจฟ้าใสเลย และก็ไม่สนใจฉันด้วย
“ดีจัง ฉันอยากลองกินข้าวที่นี่ด้วย จะดีมากค่ะถ้าพี่สองคนแนะนำร้านอาหารให้ ใช่ไหม...แก้มใส” เธอว่าด้วยความสดใส ไม่วายหันมาถามความคิดเห็นกับฉันอีกด้วย
“อือ งั้นก็ชวนกอหญ้าด้วย” พอเธอคาดคั้นเอามาก ๆ ฉันก็เลยอยากให้เพื่อนอีกคนที่ดูเงียบ ๆ มาด้วยดีกว่า
“กอหญ้า...คนสวย ๆ นั่นใช่ไหม” พี่เสือตาลุกวาว เขาดูกะล่อนมาก แถมยังดูกวนสุด ๆ
“ค่ะ...แต่ฉันว่าแก้มใสน่ารักกว่า ใช่ไหม” ฟ้าใสหันมาถามฉันอีกครั้ง แล้วเรื่องที่เธอถาม...มันน่าเอามาเปรียบเทียบกันไหมล่ะเนี่ย
...แต่ก่อนที่ฉันจะไปเรียกกอหญ้า เฮียมังกรก็เดินหนีไปแล้ว เขาเดินเข้าไปในโรงอาหารก่อนพวกเรา
“เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ ยังไงถ้าอยากกินด้วยก็ไปเรียกเพื่อนมาแล้วก็ตามไปนะ” พี่เสือพูดโดยที่สายตาของเขาจับจ้องไปยังแผ่นหลังหนาของเฮียมังกรที่เดินหนีไม่สนโลก
“โอเคค่ะ เดี๋ยวรีบตามไปเลย” ไม่ใช่เสียงของฉัน แต่เป็นเสียงของฟ้าใสต่างหาก
“แก...เราไปกินข้าวกล่องกันก็ได้” พอพี่เสือไปแล้ว ฉันก็เอ่ยบอกฟ้าใส เพราะไม่สะดวกใจเท่าไร หากว่าเธอจะใช้ฉันเป็นสะพานทอดไปหาเฮียมังกร
“แต่ฉันอยากกินกับพี่มังกร นะ ๆ แกก็พาไปหน่อยนะ ๆ” ฟ้าใสว่าด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“แต่เมื่อกี้เขาดูไม่พอใจที่เราจะไปกินข้าวด้วยนะ”
“ก็ถ้าแกพูดก็ไม่มีอะไรหรอก แกเป็นน้องสาวของเขานี่”
“ฉันไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ ของเขา”
“อ้าว...เหรอ” ฟ้าใสมีน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก และฉันก็รู้สึกผิดหวังไม่ต่างกัน ตอนแรกก็นึกว่าเธอจะอยากเป็นเพื่อนของฉันเสียอีก แต่ที่ไหนได้เธอแค่อยากรู้จักเฮียมังกร แต่แล้ว
“ทำอะไรกันเหรอ เราเอาข้าวมาเผื่อน่ะ” เสียงของกอหญ้าก็ดังขึ้น ทำให้เราสองคนหันหลังไปมองก็เห็นว่าในมือของเธอนั้นมีกล่องข้าวอยู่สามกล่อง
“ง่ะ ขอบคุณนะที่เอามาให้” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง หันไปสนใจกอหญ้าแทน ส่วนฟ้าใสก็มองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลก ๆ แต่สุดท้ายเธอก็ยอมยื่นมือไปคว้าเอากล่องข้าวที่กอหญ้าเอามาเผื่อ
“แล้วเราจะไปนั่นกินที่ไหนดี” กอหญ้าว่าด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร ทำให้ฉันรีบพูดทันทีก่อนที่ฟ้าใสจะพูด
“ไปนั่งที่ม้านั่งนั่นดีไหม ตรงนั้นไง” ไม่ว่าเปล่า ฉันคว้ามือของกอหญ้าให้ออกตัวเดิน แต่กอหญ้าก็หันมาหาฟ้าใส
“มาด้วยกันสิ ฟ้าใส” น้ำเสียงของกอหญ้านั้นหวานหยดเลยทีเดียว แม้นฟ้าใสจะดูไม่พอใจ แต่เธอก็คงรู้ว่าฉันไม่พาไปหาเฮียมังกรอย่างที่ต้องการ
“โอเค...” เธอยอมเดินตามพวกเราสองคนไปนั่งที่ม้านั่ง ฟ้าใสเป็นคนหน้าตาสวยพอตัว มีเอกลักษณ์และสดใส แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าความสดใสของฟ้าใสดูปลอม ๆ ก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะตอนแรกเธอไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับฉันจริง ๆ ก็ได้ ฉันก็เลย...ไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอแล้ว
อีกด้านหนึ่ง...
-มังกร-
“เพราะมึงเลย น้อง ๆ ก็เลยไม่มานั่งให้กูมอง” เสียงของไอ้เสือนั้นไม่ได้ทำให้ผมสนใจ มันก็เพ้อพกไปเรื่อย ไม่รู้ว่าระหว่างไอ้เสือหรือไอ้ไวเปอร์สองคนนี้ใครจะพลาดท่าติดโรคติดต่อทางเพศก่อนกัน มันจะล่อไปทั้งมหา’ลัยแล้วแต่ก็ไม่หยุด
“เออ น้องที่ชื่อฟ้าใสดูสนใจมึงนะ”
“เลิกพูดแล้วก็กินได้แล้ว มึงจะไม่หยุดพูดจริงดิ” ผมทนไม่ไหวก็เลยเอ่ยปากพูด แล้วเมื่อกี้อะไรนะ...เพื่อนของแก้มใสดูสนใจผมงั้นเหรอ แต่ผมไม่ได้สนใจหรอก
“กูก็แค่บอก ก็ถ้าน้องเขาสนใจมึงจริงจะเป็นเรื่อง”
“ทำไม”
“ก็แก้มใสชอบมึง แล้วเพื่อนเธอก็มาชอบมึงอีกไง งานเข้ากูบอกเลย” มันส่ายหน้าเบา ๆ
“ไร้สาระ” แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเหมือนเดิม เพราะยังไงเรื่องผมกับแก้มใสก็ไม่มีทางเกิดขึ้น แต่แล้ว
“เฮ้ย...ไอ้เวกัสมาว่ะ” เสียงนี้ของมันก็ทำให้ผมสนใจเป็นอย่างมาก เพราะไอ้เวกัสมันทำเพื่อนผมร้องไห้ เอมิเลียยังไม่หายเพ้อเลย
“มึงว่ามันทิ้งเอมิเพราะเธองี่เง่าหรือมันนอกใจ”
“ไม่รู้” ผมตอบ
“กูว่ามันนอกใจเธอว่ะ ถ้าจะว่างี่เง่าไม่น่าใช่ กูเห็นมันทนมานานไม่คิดเลิก”
“ไม่หรอกมั้ง ผู้ชายทุกคนไม่ได้มีความคิดนอกใจเหมือนมึง”
“อ้าวไอ้เวร หลอกด่ากูตลอด...ใครมันจะไปดีกับมึง เลิกกับแฟนเพราะอะไรนะ อยากอยู่คนเดียว ถุ้ย...” มันว่าน้ำเสียงเต็มไปด้วยการประชดประชัน ก็จริง...ผมเพิ่งเลิกกับผู้หญิงคนหนึ่งไปเพราะอยากอยู่คนเดียว และไม่ได้รู้สึกรักเธอเลยตั้งแต่ตกลงคบกัน ซึ่งเราจบกันได้ด้วยดี แม้เธอจะโกรธแต่ก็ไม่ได้ตามรังครวญ ทว่าคงไม่ใช่กับเพื่อนผม
“เฮ้ย! เอมิมาว่ะ” ผมเห็นก่อนไอ้เสืออีกแต่ไม่พูด เอมิเลียมาที่โต๊ะของกลุ่มไอ้เวกัส ก่อนที่เธอจะเขวี้ยงกระเป๋าใส่โต๊ะกินข้าวของพวกมันจนข้าวจานนั้นกระจัดกระจาย
พรึ่บ!
ผมกับไอ้เสือผุดลุกขึ้นทันที ก่อนจะรีบวิ่งไปห้ามเอมิเลียที่กำลังกระทำหลาย ๆ อย่างที่ผมบอกได้เลยว่าไม่สามารถอธิบายได้ เธอส่งเสียงกรี๊ด ๆ พร้อมกับยกมือทั้งสองข้างทุบตีไอ้เวกัส ก่อนที่ผมจะไปอุ้มเธอจากทางด้านหลังให้ขยับห่างจากไอ้เวกัส ส่วนไอ้เสือก็เข้าไปผลักไอ้เวกัสอย่างแรง
เวรละ...
ไอ้สองตัวนี้มันเป็นอริกันตั้งแต่เรียนที่วิทยาลัยการช่างแล้ว
“เฮ้ย!! มึงมาผลักกูทำไมวะไอ้เสือ”
“แล้วทำไมกูจะผลักมึงไม่ได้ มึงทำอะไรเอมิ!”
“อ้าวไอ้เวรนี่ ตาบอดหรือไงวะ เพื่อนมึงต่างหากที่เข้ามาทำกู” สองคนนี้ทะเลาะกันเสียงดังบ่อยครั้ง ไอ้เสือทำตัวถ่อยมากทุกคนรู้ดี ไม่ต่างจากไอ้เวกัส ซึ่งหลายคนก็ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายวิดีโอ ส่วนผมก็อุ้มเอมิเลียให้หนีออกจากฝูงชน
“ปล่อยฉัน!! มันนอกใจ ฮึก”
“ตั้งสติหน่อยดิวะ ที่นี่มหา’ลัยน่ะโว้ย!” ผมโมโหมากไม่ต่างกัน เพราะพวกเราใกล้จบแล้ว แต่ถ้ายังมีปัญหาแบบนี้ผมก็กลัวว่าจะไม่จบกันอะดิ ทว่า
“ฮึก ฮือ~” เอมิเลียปล่อยโฮออกมาจนตัวสั่นเทา เธอกำมือเข้าหากันแน่น ก่อนที่ผมจะรั้งเธอมากอด
“มึงฟังกู...ไอ้เวรนั่นไม่มีค่าให้มึงต้องมาร้องไห้แบบนี้” ผมก็เหมือนกับทุกคน ไม่ว่าจะยังไงคนใกล้ตัว เพื่อนของผมก็ต้องมาอันดับแรก แม้นเพื่อนแต่คนจะนิสัยเสียกัน แต่ถ้าใครทำเพื่อนผมเสียใจ ผมก็รู้สึกเสียใจไม่ต่างกัน
...ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้วหลังจากที่รปภ.เข้ามาห้ามไอ้เสือกับไอ้เวกัสที่แลกหมัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ถ้าไม่มาห้ามนะ กูจะต่อยมันให้เละ”
“ดูหน้าตัวเองก่อนค่อยพูด” ผมว่าด้วยน้ำเสียงเบื่อ ๆ กับความนักเลงของไอ้เสือที่ไม่ดูสภาพตัวเอง
“แล้วไอ้ไวเปอร์ล่ะ ทำไมมันไม่มากับเธอ”
“ไม่รู้ อึก ไม่ได้เข้าม.ตั้งแต่เช้า” เอมิเลียยังคงสะอื้นไห้อยู่
“หึ มันไปนอนอยู่กับผู้หญิงไง ทิ้งกูตั้งแต่เมื่อคืนละ” ไอ้เสือว่าพร้อมกับใช้ลิ้นดุ้นกระพุ้งแก้ม ซึ่งเราสามคนนั่งอยู่ที่ม้านั่งข้าง ๆ กับตัวอาคารของสาขาที่เรียน ดีที่ไอ้เวกัสมันไม่ได้เรียนสาขาเดียวกันกับผม ไม่งั้นไอ้เสือคงมีเรื่องต่อยกับมันทุกวี่ทุกวันแน่ ๆ
ทว่าขณะนั้นเอง
“เฮีย!...” เสียงนี้ก็ทำให้ผมกลอกตามองบน หันไปมองก็เห็นแก้มใสเดินมาหา เธอมีสีหน้าตกอกตกใจ ก่อนจะยกมือไหว้ ทักทายเอมิเลีย
“แก้มใสเหรอ โตขึ้นมากเลย” เอมิเลียหยุดร้องไห้แล้ว
“ไม่เจอกันนานเลย แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ”
“ไม่ต้องอยากรู้หรอก กลับไปเข้ากิจกรรม” ผมเอ่ยพูดเสียงดุ ๆ ไม่อยากให้แก้มใสเข้ามาพัวพันกับพวกเราเลย ผมเองก็รู้ตัวดีว่าตัวเองและเพื่อนไม่ใช่คนดี พลอยจะทำให้เธอวุ่นไปด้วย และที่สำคัญเตี่ยก็ไม่ค่อยชอบเพื่อนผมอยู่แล้วด้วย
“ฉันก็แค่อยากรู้” แก้มใสว่าด้วยน้ำเสียงอ่อน ๆ ราวกับกำลังน้อยใจผม
“เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง หมวยทำแผลให้พี่ทีสิ” ไอ้เสือเอ่ยพูด พร้อมกับขยับให้แก้มใสนั่งข้าง ๆ ซึ่งเธอก็พยักหน้ารับแล้วก็มานั่งอย่างไม่อิดออด
“แหม แล้วที่ฉันกำลังทำให้อยู่นี่ล่ะ” เอมิเลียถือสำลีอยู่ในมือ แต่มันก็ให้แก้มใสทำแผลให้ ซึ่งมันทำให้ผมไม่พอใจเอามาก ๆ แล้วแก้มใสนี่ก็ใสซื่อไม่รู้ห่าเหวอะไรสักอย่าง...