จื่อเวยไขแม่กุญแจออกช้า ๆ บ่าวไพร่และคนอื่น ๆ เองก็เดินตามมาดูกันหมด ประตูห้องเปิดออกเผยให้เห็นหีบของมีค่าที่วางอัดกันจนแน่นห้อง ข้างในมีฝุ่นเล็กน้อย ไม่ได้มีมากอะไร นางเดินนำน้องชายและน้องสาวเข้าไปในห้องอย่างเบิกบาน นี่สิคือความสุข
ก่อนหน้านี้นางไม่ได้สนใจว่าจะมีเงินมากน้อยแค่ไหน แต่พอได้ลำบากถึงได้รู้และเห็นคุณค่าของมัน ต่อไปถ้าท่านตาหรือใครให้อะไรกับนาง นางจะเก็บให้หมดไม่ให้มีเหลือเลยคอยดูสิ
“โอ้โห พี่รอง เครื่องประดับของท่านเยอะมากเลยเจ้าค่ะ ดูสิ มีอาวุธด้วย” หย่งเยว่ไม่เคยเห็นเงินทองเครื่องประดับเยอะเท่านี้มาก่อน แต่ถึงนางจะอยากวิ่งเข้าไปดูมากเท่าไหร่ นางก็ไม่ได้ก้าวออกไป ทำเพียงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เท่านั้น และนี่คือสิ่งที่นางชื่นชมหย่งเยว่เสมอมา เด็กคนนี้มักจะยับยั้งตนเองได้เสมอ ถึงจะไม่ดีเท่าคุณหนูคนอื่น ๆ ที่เก็บอาการดีจนไม่รู้ว่ากำลังตื่นเต้นอยู่หรือไม่ก็ตาม
“อืม ข้าไม่ได้เข้ามาดูเสียนาน คงจะต้องตรวจให้ละเอียดเสียหน่อย ท่านพ่อคงไม่ว่าอะไรนะเจ้าคะที่ข้าจะขอตรวจนับสินเดิมของท่านแม่ของข้า”
“อืม ตามใจเจ้าเถิด” นางไม่ได้กล่าวขออนุญาต นางเพียงแค่บอกให้เขาทราบก็เท่านั้น ไม่ว่าเขาจะอนุญาตหรือไม่ นางก็จะทำอยู่ดี เขาจะไปทำสิ่งใดได้อีก
“ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นอาจี๋ ไปตามลุงหานและแม่นมหย่งมา” นางหันไปสั่งสาวใช้คนสนิทให้ไปตามข้ารับใช้เก่าแก่ของท่านแม่มา ก่อนหน้านี้นางได้ขอความช่วยเหลือให้ลุงหานไปที่จวนตระกูลซ่งเพื่อขอบัญชีย้อนหลังแล้ว คิดว่าป่านนี้งานน่าจะแล้วเสร็จแล้วกระมัง
“เจ้าค่ะคุณหนู” อาจี๋รีบออกไปตามคำสั่งของคุณหนูของนาง เมื่อสายอยู่ดี ๆ คุณหนูก็ให้ไปตามบ่าวรับใช้ของอดีตฮูหยินมาพบเป็นการส่วนตัว นางไม่รู้ว่าคุณหนูไปเตรียมการมาตั้งแต่เมื่อใด ทั้งอะไรกันที่ทำให้คุณหนูนึกอยากตรวจดูทรัพย์สินของตนและมารดากันแน่
ไม่นานลุงหานและแม่นมหย่งก็มาถึง นางรู้ดีว่าทั้งสองคนไม่ใช่บ่าวธรรมดาทั่วไป แต่เป็นองครักษ์ที่ท่านตาให้มาอยู่ข้างกายท่านแม่ตั้งแต่เด็กต่างหาก แม่นมหย่งและลุงหานนั้นเป็นสหายสนิทของท่านแม่ แต่กว่านางจะรู้ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว หากรู้เร็วกว่านี้สักหน่อย นางอาจจะตอบโต้การเดินหมากของคนพวกนั้นได้มากกว่านี้ก็ได้
“ลุงหาน คืนนี้รบกวนท่านเฝ้าห้องนี้ให้ข้าหน่อยนะเจ้าคะ”
“ขอรับคุณหนู” อยู่ดี ๆ ช่วงสายของวันนี้คุณหนูก็ให้สาวใช้คนสนิทของตนเองมาตามไปพบที่เรือน ตั้งแต่ฮูหยินเสียไป พวกเขาก็คอยปกป้องคุณหนูเงียบ ๆ คนที่ได้ใกล้ชิดหน่อยก็จะเป็นแม่นมหาน แต่พอเริ่มโตคุณหนูก็เริ่มห่างเหินจากพวกเขาไปทุกที ๆ แล้ววันนี้อยู่ดี ๆ คุณหนูมาตามไปพบ มีหรือพวกเขาจะไม่แปลกใจ
“ส่วนแม่นมหาน คืนนี้ท่านมาหาข้าที่เรือนหน่อยนะเจ้าคะ ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
ใจจริงนางอยากจะให้ของมีค่ากับน้อง ๆ บ้าง แต่จะให้ตอนนี้ไม่ได้ ยังไงก็ต้องหลังจากตรวจนับเสียก่อน เวลานั้นจะได้ไม่มีการอ้างนู่นอ้างนี้ได้อีก
“คืนนี้ข้าคงจะต้องขอรบกวนด้วยนะเจ้าคะ” ว่าจบนางก็เดินนำคนอื่น ๆ ออกจากห้อง ก่อนจะลงกลอนแล้วเก็บกุญแจเข้าในอกเสื้อของตนเอง จุดประสงค์ในการเข้ามาดูครั้งนี้คือการจดจำการจัดวางของ ของในห้องไว้ กุญแจห้องอยู่ในความดูแลของพ่อบ้านมานาน ไม่รู้ว่าดอกที่นางถืออยู่นั้นจะเป็นดอกเดียวที่มาอยู่จริงหรือไม่ก็ไม่รู้ คืนนี้อาจจะมีคนโลภมากขอเก็บเกี่ยวครั้งสุดท้ายก็เป็นได้
หลังจากทุกคนแยกย้ายกันกลับไปที่เรือนใครเรือนมันด้วยความงุนงง แม่นมหย่งก็เข้ามาพบคุณหนูของตนเองตามคำสั่ง ในอกของนางนั้นพกบัญชีทั้งหมดจากตระกูลซ่งและที่นางจดด้วยตนเองมาด้วย
“นี่เจ้าค่ะคุณหนู นี่เป็นบัญชีทรัพย์สินต่าง ๆ ที่ได้มอบให้คุณหนูทั้งหมดจากตระกูลซ่งเจ้าค่ะ ส่วนนี่เป็นบัญชีที่ข้าแอบจดไว้เองเจ้าค่ะคุณหนู” คืนนี้นางจะให้เวลาพ่อบ้านอู๋ได้มีเวลาจัดการปลอมแปลงบัญชีเสียหน่อย
“ขอบคุณแม่นมมากที่คอยดูแลข้ามาตลอด”
“คุณหนู...รู้หรือเจ้าคะ” นางเป็นทั้งสาวใช้ข้างกาย สหายคนสนิทและองครักษ์ของอดีตฮูหยิน นางย่อมเห็นคุณหนูเป็นดั่งหลานสาวของตนเอง คราวนั้นนางพยายามเกลี้ยกล่อมให้สหายหย่าจากสามีเสีย แต่นางช่างดื้อรั้น อ้างว่าจะทำให้ตระกูลซ่งขายขี้หน้า ทั้งที่ตอนแต่งงานคนในตระกูลไม่มีใครเห็นด้วยสักคน หากจะกลับไปก็ไม่กล้าแบกหน้ากลับไปแล้ว
“อืม...รู้สิ นับตั้งแต่วันนี้ ข้าจะให้แม่นมและลุงหานมาอยู่ที่เรือนของข้า คืนนี้ท่านก็นอนที่นี่เสียนะเจ้าคะ” นางไม่อยากเอ่ยสิ่งใดให้มากความ ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนกลายเป็นบ่าวธรรมดาทั่วไปในจวน มีหน้าที่ทำความสะอาดบ้าง ทำอาหารบ้าง ไม่มีเจ้านายให้รับใช้เป็นหลัก แต่ตอนนี้นางจะให้ทั้งสองคนมาคอยรับใช้และอยู่ข้างกายของนาง
กลางดึกคืนนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามที่จื่อเวยคิดเอาไว้ พ่อบ้านเต๋อต้องใช้เวลาทั้งคืนเพื่อไล่ทำบัญชีที่ดูมีพิรุธ ผิดกับทางจื่อเวยที่นอนหลับอย่างสบายใจบนเตียงหรูหรา นี่สิคือความสุข การใช้ชีวิตโดยไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องเงิน
“พ่อบ้านเต๋อ รบกวนขอบัญชีให้ข้าด้วย” เช้านี้ทุกคนที่ว่างก็ยังคงมารวมตัวกันเพื่อดูการนับทรัพย์สินของคุณหนูรองเช่นเคย เมื่อวานเรื่องที่คุณหนูรองมีทรัพย์สมบัติเต็มจนล้นห้องแพร่ออกไปทั่วทั้งจวน ไม่พอเท่านั้น เช้านี้เองก็เริ่มมีข่าวเรื่องคุณหนูรองร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติล้นเรือนออกมาจากคนในจวนที่ไปจ่ายตลาดตอนเช้า
“นี่ขอรับคุณหนู” เมื่อคืนเขาต้องอดหลับอดนอนทั้งคืน กว่าจะเสร็จก็ฟ้าสว่างแล้ว เขามั่นใจว่าคุณหนูรองจับไม่ได้แน่นอน
“แม่นมหย่ง ข้ารบกวนนำสมุดบัญชีจากตระกูลซ่งและของพ่อบ้านไปตรวจหน่อยนะเจ้าคะว่าตรงหรือไม่” ระหว่างรอแม่นมตรวจบัญชีนางก็สั่งให้บ่าวชายช่วยขนหีบออกมาวางไว้ที่ห้องโถง โดยให้ลุงหานคอยสั่งงานอย่างใกล้ชิด
“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะคุณหนู ดูเหมือนจะมีหายไปหลายรายการเลยเจ้าค่ะ ของสองบัญชีนี้ตรงกัน แต่บัญชีของพ่อบ้านเต๋อไม่ตรงกับทั้งสองเจ้าค่ะ อย่างไรบ่าวว่าควรตรวจดูของก่อนนะเจ้าคะ เผื่อตอนลงบัญชีจะมีสิ่งใดผิดพลาดหรือหลงลืมไปเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นเริ่มนับรายการทรัพย์สินเลยเจ้าค่ะ ลุงหาน รบกวนยกหีบเข้ามาเลยเจ้าค่ะ”
“ขอรับคุณหนู”
การนับครั้งนี้นางจะทำการนับด้วยตนเอง เพื่อกันให้พ่อบ้านเต๋อดิ้นหนีได้ นางเริ่มนับและจดลงบัญชีทีละหีบ กว่าจะหมดก็ใช้เวลาไปหลายชั่วยาม อาจเพราะนางทำคนเดียวด้วยเลยช้า แต่เหมือนว่าคนอื่น ๆ ในบ้านจะไม่ละความพยายามในการสอดรู้สอดเห็นเลยแม้แต่น้อย
“ลุงหาน รบกวนกุมตัวพ่อบ้านเต๋อไว้ด้วยเจ้าค่ะ”
“ขอรับ” เขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าคุณหนูคงจะระแคะระคายพ่อบ้านเต๋อ ดังนั้นเมื่อมีคำสั่งเขาจึงพุ่งเข้าจับพ่อบ้านเต๋อให้คว่ำลงกับพื้นทันที
“นี่ หยุดนะ เจ้าทำสิ่งใด ปล่อยพ่อบ้านเดี๋ยวนี้”
“รบกวนฮูหยินช่วยสงบอารมณ์ของตนเองด้วยเจ้าค่ะ ข้าตรวจทรัพย์สินแล้ว มีของหายไปหลายรายการ ข้าคงจะต้องกุมตัวพ่อบ้านไว้ก่อน อย่างไรต้องรอท่านพ่อกลับมาแล้วค่อยจัดการอีกทีนะเจ้าคะ เอาตัวไปมัดไว้ที่ลานฝึกกลางแจ้ง”
“ขอรับคุณหนู”
“คุณหนูรอง บ่าวไม่ได้ทำนะขอรับ คุณหนู ข้าไม่ได้ทำ”
“อุดปากเสีย อย่าให้ใครมาเสียงดังเอะอะโวยวายกลางจวนดั่งพวกไร้มารยาทเช่นนี้”
“ขอรับ”
“เชิญทุกท่านไปที่ห้องอาหารด้วยเจ้าค่ะ นี่ใกล้ได้เวลารับสำรับเย็นแล้ว อีกไม่นานท่านพ่อน่าจะกลับมาแล้ว” นางไม่รอให้ใครเอ่ยขัดอีก ครั้งนี้นางไม่ได้ตามท่านปู่ท่านย่าให้มาช่วย เพราะนางต้องการจัดการด้วยตนเอง ความจริงหากทำได้นางก็อยากจะโบยเจ้าหัวขโมยด้วยตนเองเสียตั้งแต่พบหน้า แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์ไว้ก่อน