“คืนนี้เธอสวยมากเลยนะ ดูสิ มีแต่คนมองเธอทั้งนั้นเลย” เจไดโน้มตัวกระซิบข้างหูเล็ก
“ทุกคนคิดว่าเราเป็นคู่รักกันหมดแล้ว…” เกวลินกระซิบเย้า
ครู่หนึ่งปานวาดก็เดินมาพาทั้งสองไปหาครอบครัวเธอ เกวลินและเจไดกล่าวทักทายผู้ใหญ่ก่อนที่บทสนทนาจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานด้วยเพราะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่สักพักเธอก็รู้สึกว่ามีใครบางคนแอบมองเธออยู่ ครั้นมองไปรอบ ๆ ก็ไปหยุดที่ชายคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนอยู่ตรงมุมห้องพร้อมกับมีสาวสวยเกาะติดเแจ เธอถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายทันทีที่เห็นหน้าเขา พยัคฆ์ ศศิวัตรเกียรติกุล...
“เธอโอเคหรือเปล่าเกว” เจไดถามอย่างเป็นกังวลเมื่อสังเกตเห็นว่าเธอแปลกไป
“โอเค ๆ”
“คุณพยัคฆ์ก็มาร่วมงานด้วยนะ เขามาถึงก่อนพวกเธอสองคนได้สักพักแล้ว พ่อดีใจมากที่รู้ว่าเขาจะมาร่วมงานนี้ด้วย เพราะอะไรเธอรู้ไหม เพราะการที่เรารู้จักและสนิทกับบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างเขามันดีต่อครอบครัวเรายังไงล่ะ ยิ่งกว่านั้นข่าวลือนั้นก็เป็นความจริงด้วย คุณพยัคฆ์จะเป็นประธานคนใหม่ของลาเทสต้า คุณพ่อยืนยันแล้วแต่บอกว่าเรื่องนี้ยังเป็นความลับอยู่ พวกเขายังไม่เปิดเผย” ปานวาดเล่า
“ถ้าอย่างนั้น... เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหลีกเลี่ยงเขาให้มากที่สุด ฉันไม่อยากทำลายงานวันเกิดของพ่อเธอนะ” เกวลินชักหงุดหงิด และตั้งใจทำอย่างที่พูดจริง ๆ เธอหลีกเลี่ยงพยัคฆ์ตลอดคืน แต่พอเธอเดินไปทางห้องโถงหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จ ก็ต้องบังเอิญเจอกับเขาจนได้…
“เธอคงเป็นเด็กที่ชอบอวดรวยมากสินะ แถมยังดื้อและเอาแต่ใจด้วย”
หญิงสาวค่อย ๆ หยุดเดินแล้วหันมามองหน้าเขา
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไรคุณพยัคฆ์”
“อย่างที่ฉันบอกไปหลายครั้งแล้วไงเกวลิน ฉันไม่ใช่ศัตรูที่เธอจะกำจัดได้ง่าย ๆ และฉันก็จะปรากฏตัวทุกที่ที่เธอไป” เขายิ้ม
“อย่างนั้นเหรอคะ อื้มม… ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอนะคะคุณพยัคฆ์” เกวลินยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าเธอไม่มีทีท่าว่าจะกวนเขาแม้แต่น้อย
“เธอต้องการให้มันเป็นแบบนี้ใช่ไหมล่ะ ถึงได้เรียกร้องความสนใจจากฉันไม่หยุดแบบนี้น่ะ เธอมันชอบปั่นหัวผู้ชาย แล้วก็ชอบอวดผู้ชายทั้งที่ยังเรียนไม่จบ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเมื่อคิดว่าเธอใกล้ชิดกับเจไดเกินเพื่อนทั่วไป
“อื้มม… แล้วทำไมคุณต้องมาหึงฉันกับเจไดด้วยล่ะคะ” เกวลินขยับเข้ามาใกล้ร่างสูงมากขึ้นจนกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยออกมาแตะจมูกโด่ง พยัคฆ์แทบจะคุมสติไว้ไม่อยู่ ตอนนี้เขาใกล้จะหมดความอดทนไปทุกที “คุณอิจฉาที่ฉันอยู่ใกล้เขาใช่ไหมคะ”
“ดูเธอมั่นใจมากเลยนะเกวลิน ทั้งที่ยังหาเงินเองไม่ได้ด้วยซ้ำแต่กลับใช้ชีวิตราวกับว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วเลยนะ” พยัคฆ์ส่งเสียงเย้ยหยันออกมา “ฉันไม่เคยสนใจเธอเลย อย่าหลงตัวเองนัก ฉันแค่อยากสั่งสอนเธอเท่านั้นแหละ สักวันเธอจะต้องคลานมาขอร้องฉันแน่ ดังนั้นอย่ามั่นใจให้มากนัก ฉันยอมรับนะว่าเธอสวย แต่จะให้ฉันไปหึงหวงเธอกับผู้ชายที่ยังเรียนไม่จบแบบนั้นมันก็ออกจะมากเกินไปหน่อยนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดถากถางจากเขา หญิงสาวจึงจ้องเขม็งด้วยความโกรธ
“พูดไม่ออกแล้วเหรอ หื้ม… เกวลิน” เขาถามอย่างประชด
“คุณเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมากนะคุณพยัคฆ์ ทำตัวไม่เหมาะสมกับเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเลยนะคะ” หญิงสาวโต้ตอบด้วยรอยยิ้มเยาะ “คุณแน่ใจนะคะว่าคุณไม่ได้หึงฉันกับเจไดน่ะ แต่ถึงจะหึง… คุณก็ทำอะไรไม่ได้หรอก สำหรับฉันคุณก็คงเป็นได้แค่วันไนต์สแตนด์เท่านั้นแหละ ไม่มีวันเป็นอะไรได้มากกว่านั้น”
เกวลินพูดต่ออย่างประชดก่อนจะจงใจเดินเฉียดไหล่เขาไป พยัคฆ์ยังคงนิ่งค้างอยู่ที่เดิม เขามองตามหลังเธอไปพลางหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมกับกำมือแน่น เขาไม่ชอบเลยที่เธอมีอิทธิพลต่อเขาแบบนี้ มันทำให้เขาหงุดหงิดมาก