“เย้ๆ สนุกจังเลยค่ะคุณริวทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ” ลูกชุบที่ทำหน้าตาตื่นเต้นดีใจราวกับว่าเธอเป็นเด็กน้อยที่มาเล่นเครื่องเล่นที่สวนสนุกแตกต่างจากริวกิ ที่ทำหน้าเอือมเขารู้สึกเวียนหัวที่ต้องมาเล่นเครื่องเล่นที่หวาดเสียวอะไรแบบนี้
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะมาเล่นเครื่องเล่นเด็กๆ แบบนี้เวียนหัวฉันจะอวก”
“อย่าอวกนะคะคุณริว….เสียชื่อหมดคุณเป็นถึงทายาทของ ชิวาร่า เล่นเครื่องเล่นแล้วอวกแตกอายเค้านะ คิ!คิ!”
“ลูกชุบ เธอนี่นะแสบมากๆ ฉันจะเอาคืนเธอทุกดอกสนุกมากใช่ไหมที่แกล้งฉันแบบนี้” ริวกิที่ชีวิตในวัยเด็กเขาไม่มีโอกาสมาเล่นสวนสนุกและเล่นเครื่องเล่นผาดโผนแบบนี้และไม่ชิน เพราะถูกพ่อนั้นบังคับให้เรียนทั้งวิชาการและศิลปะป้องกันตัวมีชีวิตที่กดดันมาตลอดเขาสูญเสียชีวิตช่วงวัยเด็กไปนั่นเอง
“ก็คุณสัญญาแล้วนี่คะว่าจะตามใจฉันขอแค่บอกนี่ไงคะที่ที่ฉันอยากจะมา”
“ไม่ไหวฉันจะเป็นลม” ริวกิที่เล่นเครื่องเล่นจนหน้าซีดลูกชุบเห็นท่าว่าไม่ดีจึงพยุงเขาให้มานั่งที่เก้าอี้และเดินไปซื้อน้ำและไอศกรีมมาให้
“ไหวไหมคะ นี่ค่ะจะช่วยให้ดีขึ้น” เธอจึงยื่นน้ำและไอศกรีมรสช็อกโกแลตให้ยากูซ่าหนุ่มมาดเท่ที่เสียฟอร์มเขาหน้าตาซีดเซียว และดูหมดสภาพผิดจากตอนขามา
“ขอบใจ อื้ม…อร่อยจริงๆ ด้วยทำไมมันรสชาติดีแบบนี้ดีกว่าไอศกรีมแพงๆในห้างอีก” ดวงตาของยากูซ่าหนุ่มเบิกกว้าง เขาทำท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่ได้กินของอร่อยดูมีความสุขและพอใจกับของหวานในมือมาก
“แน่นอนสิคะ ของแพงใช่ว่าจะดีเริสเสมอไปรู้ไหมว่าตอนเด็กๆ กว่าฉันจะได้กินไอ้เจ้านี่ต้องเก็บเงินค่าขนมที่แม่ให้ไปโรงเรียนตั้งหลายวัน”
“หือ… ป้าเธอก็รวยนี่ทำไมแม่เธอถึงให้เงินค่าขนมน้อยอีแค่ไอศกรีมที่ไทยก็ไม่กี่บาทเอง” ริวกิที่สนใจคำพูดของลูกชุบเขาแปลกใจไม่น้อยที่ในวัยเด็กเธอต้องเก็บเงินซื้อไอศกรีมแค่แท่งเดียว
“คือที่บ้านของชุบยากจนค่ะเมื่อก่อนป้าฤดีเป็นคนใช้ที่บ้านหลังนั้น พอแม่พี่โซ่เสียป้าก็กลายเป็นแม่เลี้ยงเขาทันทีแต่หลังจากนั้นพ่อกับแม่ของชุบเสียด้วยอุบัติเหตุป้าเลยเก็บชุบมาเลี้ยง” ลูกชุบเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอในอดีตให้ริวกิฟังเขาเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าชีวิตของเธอนั้นน่าสงสาร
“ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันโตมาได้และมีโอกาสได้มาเรียนที่ต่างประเทศเพราะครอบครัวของพี่โซ่และป้าของฉัน จึงตั้งใจว่าจะตอบแทนพวกเขาให้ดีที่สุด” ใบหน้าสวยยิ้มออกมาอย่างจริงใจ แววตาแสดงถึงความมุ่งมั่นริวกิถึงกับอึ้งจ้องมองใบหน้าสวยดวงตาชวนฝันคู่นั้นอย่างลึกซึ้ง จิตใจแกร่งของเขานั้นอ่อนระทวยลูกชุบนั้นชีวิตของเธอไม่ได้เพรียบพร้อมแบบเขา
“อืม…แล้วเธอมีอะไรที่อยากได้อีกไหม เงิน กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า หรือเครื่องสำอางดีล่ะ?” ริวกิที่อยากจะมอบสิ่งดีๆให้แก่เธอบ้างเขารู้สึกเห็นใจที่ลูกชุบนั้นโตมาแบบที่เขาคาดไม่ถึง และอยากจะเติมเต็มให้เธอบ้างเพราะเธอสมควรที่จะได้รับมันในช่วงเวลาที่อยู่กับเขา
“ไม่ค่ะ ฉันไม่อยากได้ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรหลังจากที่เราแยกกันฉันคิดว่าจะไปช่วยงานของครอบครัว มีเงินเดือนอยู่แล้วส่วนของฟุ่มเฟือยเหล่านี้ไม่จำเป็น”
“ลูกชุบ เธออยู่กับฉันอย่าทำให้ฉันเสียหน้าเธอก็รู้ว่าฉันเป็นใคร การแต่งตัวใช้ของแพงๆ เป็นการให้เกียรติสถานที่และผู้คนที่เราเข้าหายิ่งคุยธุรกิจด้วยเธอเรียนบริหารก็น่าจะรู้”
“ใช่ค่ะ มันก็อาจจะจริงในส่วนนั้นแต่ฉันไม่ได้ให้ความสำคัญแค่เปลือกนอก” ริวกิที่ได้ยินคำตอบเขาถึงกับหัวใจกระตุกลูกชุบเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจที่เขานั้นเคยมองข้าม
“เธอรู้ไหมว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มาสวนสนุก” ริวกิสารภาพกับเธอและยอมบอกความลับนี้ เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันที่กล้าเล่าเรื่องราววัยเด็กให้เธอฟัง
“ห่ะ! ครั้งแรกมิน่าคุณถึงได้มีสภาพเป็นแบบนี้…ฉันขอโทษค่ะ ถ้ารู้คงจะไม่ชวนไปเล่นอะไรที่น่าหวาดเสียวแบบนี้” ลูกชุบรู้สึกผิดทันทีที่ได้รู้เธอนึกถึงคำพูดของป้าสมรได้ว่า ชีวิตของริวกินั้นเคร่งครัดแต่เด็กเขาคงโตมาอย่างอยากลำบากแบกรับความกดดันแต่เล็ก
“ไม่เป็นไรถือว่าฉันได้มาเหมือนคนอื่นๆแล้ว แม้จะมาเล่นเอาตอนโตอายุก็ปาเข้าไปยี่สิบกว่าแล้วก็ตาม ฮ่าๆๆ ตลกชะมัด!” ริวกิที่พยายามหัวเราะร่าเพื่อกลบเกลื่อนลูกชุบที่รู้ดีจึงอยากจะปลอบใจเขาบ้าง
“ดีค่ะ คุณริวหลังจากนี้ไปสิ่งไหนที่อยากจะทำหรือไม่เคยทำในตอนสมัยเด็กๆ บอกชุบมานะคะเราจะทำมันด้วยกันฉันยินดีเป็นเพื่อนให้คุณค่ะ”
“เพื่อน! เพื่อนที่ไหนเขานอนเอากันทุกคืนล่ะ?” ใบหน้าหล่อเลิกคิ้วขึ้นมองดูเธอด้วยความสงสัยแต่ลึกๆเขาเองก็รู้สึกประทับใจ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีเพื่อนสนิทนอกจากฟูกะที่เป็นลูกน้องและครอบครัวเท่านั้นที่ไว้วางใจได้
“ถ้างั้นเราเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนกันก็ได้นี่ ไม่ต้องทำเรื่องนั้น….คุณริวว่าดีไหมคะ?”
“ไม่มีทางเธอเซ็นสัญญาไว้แล้วก็ต้องตามข้อตกลงสิ อย่ามาหลอกฉันโดยอ้างคำพวกนี้ฉันไม่ได้ต้องการเธอมาเป็นเพื่อนสักหน่อย” ริวกิรีบค้านทันทีแม้จะดีใจที่เขานั้นมีคนข้างกายที่สามารถไว้วางใจได้อีกคน แต่เขาไม่อาจหักห้ามใจที่จะไม่นอนร่วมเตียงกับเธอได้ในยามค่ำคืนเสียแล้ว
“จิ๊! คนอะไรใจร้าย…รู้หรือเปล่าคะมิตรภาพระหว่างเพื่อนมันดีแค่ไหน ฉันมีเพื่อนน้อยแต่เพื่อนฉันดีทุกคนนะจะบอกให้แล้วคุณจะเสียใจที่ไม่รักษาเพื่อนดีๆแบบฉันไว้” ปากบางทำเสียงจิ๊จ๊ะใส่เธอเคืองที่เขานั้นเอาสัญญามาอ้าง และไม่ยอมหลงกลแม้จะคล้อยตามไปบ้าง
“หึ! เธอไม่เหมาะจะมาเป็นเพื่อนกับฉันหรอกเชื่อสิ อย่างเธอเหมาะที่จะเก็บไว้ทำอย่างอื่นมากกว่าทั้งสวยทั้งหวานนุ่มนิ่มไปหมด” สายตาเจ้าชู้มองดูใบหน้าเธอสลับกับมองเรือนร่างโดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจทำหน้าหื่นใส่ จนลูกชุบต้องเอามือดันหน้าหล่อเหลาให้หันมองไปทางอื่น
“นี่คุณริว….คุณนี่ก็จะคิดกับฉันแค่เรื่องแบบนี้สินะวันๆ คุณเคยคิดอะไรบ้างเกี่ยวกับฉันไม่เคยจะคิดเรื่องดีๆได้เลย”
“ใช่! ก็ฉันถึงบอกเธอไปนี่ไงว่าเธอไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนเพราะในสมองอันปราดเปรื่องของฉันมันคิดแบบนั้นกับเธอไม่ได้ และก็อย่าเพ้อเจ้อคิดว่ามาเป็นเพื่อนฉันแล้วจะไปหาผู้ชายอื่นมาเป็นแฟนนะเธอจะต้องได้เห็นดี”
“เหอะ! คุณหึงฉันเหรอคะคุณริวกิ?” ลูกชุบจึงใช้โอกาสนี้ทดสอบเขาเพราะเมื่อวานเขาก็ถามเธอแบบนี้เช่นกันเธอจึงอยากจะเอาคืนเขาบ้าง
“เปล่าฉันแค่ไม่อยากใช้ของร่วมกับใคร เธอก็ควรจะรู้ถ้าเธอผิดสัญญาก็จะต้องโดนอะไรบ้างสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือการหักหลัง”
“ได้ค่ะ ฉันทำใจตั้งแต่ก้าวเข้ามาแล้วฉันจะไม่ยุ่งกับใครและจะเป็นของคุณคนเดียวเท่านั้น ข้อตกลงระหว่างเราทำไมฉันจะทำมันไม่ได้แค่ปีเดียวตอนนี้ก็ผ่านมาแรมเดือนแล้ว”
“นี่เธอถึงขั้นนับคืนนับวันรอเลยเหรอ ทำไมอยู่กับฉันไม่มีความสุขขนาดนั้นเชียวฉันก็เต็มที่กับเธอทุกอย่างว่างเมื่อไหร่ฉันก็อยู่กับเธอตลอดคืนไหนๆเธอก็ไม่เคยนอนคนเดียว” ริวกิที่ได้ยินคำพูดที่แทงใจเขาจึงเผลอพูดสิ่งที่ใจเขากำลังคิดอยู่ออกมา เขารู้สึกแย่ที่ลูกชุบนั้นตั้งใจจดจ่อวันที่ต้องลาจาก
“มีค่ะมีมากๆ ด้วยแต่ฉันไม่อยากอยู่กับความสุขที่ไม่ถาวรนี้คุณดีหมดทุกอย่าง แต่จงมั่นใจนะคะว่าตลอดเวลาที่ฉันอยู่กับคุณคุณจะต้องมีความสุข” ใบหน้าสวยหันมายิ้มให้กับยากูซ่าหนุ่มอีกครั้งเธอรู้ตัวดีว่าสักวันก็ต้องจบความสัมพันธ์นี้ลง จึงพยายามหักห้ามใจไม่ให้รักเขาไปมากกว่านี้
“อีกตั้งหลายเดือนเธอไม่ต้องคิดมากให้วุ่นวายใจ ตลอดเวลาที่เธออยู่ที่นี่เธอจะปลอดภัยฉันปกป้องเธอได้นะลูกชุบ” มือหนาจึงจับไปที่มือบางอีกครั้งเขาคว้าเอาเอวบางมานั่งแนบชิดติดลำตัว จากนั้นทั้งคู่จึงจูบกันท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาใน ณ สวนสนุกแห่งนี้ ดั่งโลกทั้งใบกำลังหยุดเคลื่อนไหวลูกชุบจูบเขากลับอย่างดูดดื่ม กลิ่นไอศกรีมที่อยู่ในปากความหวานของมันที่ยังคงอยู่รสจุมพิตที่แสนอบอุ่นเร่าร้อนมันทำให้ซาบซ่านไปถึงหัวใจ