“นายครับวันนี้ไม่ไปดื่มกับลูกค้า VIP หน่อยหรือครับเขาชวนนายมาหลายครั้งแล้ว” ฟูกะถามเจ้านายเพราะลูกค้าที่ทำธุรกิจสีเทาด้วยกันนัดริวกิเพื่อดื่มสังสรรค์หลายรอบแล้ว
“กูอยากกลับบ้านวันหลังได้ไหมว่ะ”
“ที่บ้านมีอะไรดีครับเมื่อก่อนไม่เคยเห็นจะกลับนอนที่คลับนึกว่าเป็นบ้านอีกหลัง”
“มึงหมายความว่าไงไอ้ฟูกะช่วงนี้มึงกวนตีนกูบ่อยนะ” ฟูกะยิ้มเจื่อนๆ เขาเห็นริวกิรีบเก็บของและเดินตรงไปยังรถหรูส่วนตัวรีบร้อนที่จะกลับบ้าน เพื่อไปหาสาวสวยข้างกายที่รออยู่ที่บ้าน
“เหอะ! หลงคุณลูกชุบขนาดนี้ยังจะปากแข็งเดี๋ยวผมจะคอยดูว่าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”
“บ่นอะไรของมึงไอ้ฟูกะรีบออกรถสิว่ะ กูหิวข้าวจะตายห่าแล้วเนี่ย”
“หิวก็แวะทานที่ร้านก่อนก็ได้นะครับทุกทีก็แวะออกจะบ่อยไป”
“ไม่! กูจะกลับไปกินที่บ้านป้าสมรจะเสียใจเอาถ้าไม่กลับไปกิน”
“เหอะ! ป้าสมรเสียใจ….มองตั้งแต่ดวงอังคารลงมาก็รู้ว่าโกหก”
“ปากดีนะมึงฟูกะเดี๋ยวเถอะเร็วๆ เข้าชักช้ารำคาญโว๊ย!”
“ครับนายเหยียบให้มิดเดี๋ยวนี้แหละครับ นั่งให้ดีๆก็แล้วกัน”
“ชิ! ไอ้หมาบ้าฟูกะ”
เมื่อกลับมาถึงบ้านลูกชุบและป้าสมรที่ตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่ วันนี้ลูกชุบโชว์ฝีมือทำอาหารไทยขึ้นโต๊ะเธอถามป้าสมรว่าริวกินั้นชอบกินอาหารอะไรเป็นพิเศษจึงลงมือช่วยป้าสมร หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จเธอจึงนำขนมลูกชุบมาเสิร์ฟที่โต๊ะอาหารเป็นเมนูตบท้าย
“นี่ขนมอะไรเหรอหน้าตาเหมือนของเล่นสีสันสดใสน่าเอาไปเล่นมากกว่าที่จะกินได้นะ”
“นี่คือขนมลูกชุบค่ะ วันนี้ฉันกับป้าสมรช่วยกันทำให้คุณ” ลูกชุบตักขนมไทยที่เธอตั้งใจทำสุดฝีมือใส่จานให้กับยากูซ่าหนุ่มรูปหล่ออย่างใส่ใจ
“ขอบคุณนะ จะกินให้อร่อยครับ” ริวกิจึงตักขนมเข้าปากเขาทำตาโตและเคี้ยวขนมกลืนลงท้องท่าทางเขาดูเอร็ดอร่อยกินไปหลายลูกไม่พูดจาสักคำ ทำให้คนที่ทำขนมยิ้มแก้มปริดีใจที่ริวกินั้นชอบเธอมองดูเขากินอย่างมีความสุข
“ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะคะ รสชาติพอทานได้ไหมตามสัญญานะคะว่าฉันจะทำให้คุณกิน”
“เอ๊ะ! ฉันเคยขอให้เธอทำขนมให้กินด้วยเหรอ?” ดวงตาคมจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยเขาพยายามคิดก็นึกขึ้นมาได้ว่าในวันที่เจอกันเขาได้ถามชื่อเธอ และลูกชุบแนะนำตัวว่าชื่อของตัวเองเป็นขนมไทยชนิดหนึ่งซึ่งริวกิเองก็ตอบไปว่าอยากจะลองชิมดู
“เหอะ! คุณริวคงลืมไปแล้วค่ะ” ใบหน้าสวยซึมลงไปทันทีแต่เธอก็ยังฝืนยิ้มให้เขาเก็บซ่อนอาการน้อยใจ ทว่าริวกิกลับประทับใจที่เธอนั้นปรนนิบัติใส่ใจเขาแบบนี้
“ขนมนี่ทำมาจากถั่วเขียวกะทิและน้ำตาลนำมาปั้นขึ้นรูป…แม่ของเธอชอบกินตอนท้องไม่ใช่เหรอ?” ริวกิที่ยังจดจำได้เพราะลูกชุบเคยเล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อตัวเองในวันนั้น ทำให้คนที่ฟังอยู่ตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีและยิ้มออกมาอย่างมีความสุขใจ
“ใช่แล้วค่ะ คุณริวจำได้ด้วย”
“ฉันแค่แกล้งเธอเล่น จำได้สิทำไมถึงจะจำไม่ได้ล่ะ”
“คุณริวกิน่ารักจังเลยค่ะ ถ้าคุณชอบฉันจะทำให้คุณกินอีกนะคะ”
“น่ารักเธอก็รักฉันสิ….รึว่ารักไปแล้ว หึ!” ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มร้ายที่มุมปากลูกชุบที่กลัวว่าเขาจะรู้ทันจึงเฉไฉเก็บอาการทำเป็นไม่ได้ยิน
“ฉันอิ่มแล้วขนมลูกชุบอร่อยเหมือนที่เธอว่าจริงๆ เดี๋ยวขึ้นไปหาที่ห้องฉันนะมีเรื่องจะคุยด้วย” ร่างสูงจึงเดินออกจากโต๊ะเขาอารมณ์ดีทิ้งให้ลูกชุบนั่งเหวอที่โต๊ะอาหารเพียงลำพัง เธอจึงเดินตามเขาไปและเฝ้าครุ่นคิดว่าริวกินั้นอยากจะคุยอะไรกับเธอ
“อะไรของเค้าฉันทำอะไรผิดไปให้เขาไม่พอใจหรือเปล่านะ” ปากเล็กพูดกับตัวเองรำพึงรำพันอยู่อย่างนั้นเธอไม่รู้ว่าริวกิต้องการจะสั่งให้เธอทำอะไร เพราะช่วงนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้นเธอก็ไม่ได้ออกไปหาเพื่อนสาวอีก
ห้องนอนของริวกิ
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นมือบางค่อยๆแง้มประตูเข้าไปเพราะห้องนอนของริวกินั้นไม่ได้ล็อกเขารอเธออยู่แล้ว จากนั้นร่างสูงได้เดินออกมาจากห้องน้ำมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวสะอาดพันรอบเอวหนาเอาไว้ผมที่เปียกชุ่มเวลาที่มองดูใบหน้าหล่อใสนั้นมีหยดน้ำไหลลงมาตามกรอบหน้า ร่างสูงค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆทำให้ใจสาวนั้นเต้นแรงเธอไม่อาจสั่งให้ตัวเองหันหน้าไปมองทางอื่นได้ กล้ามเนื้อมัดแน่นซิกแพคเป็นลอนหุ่นที่ลีนไร้ไขมันสวยผิวขาวเนียนละเอียดนั้นมีหยดน้ำเกาะติดบนผิวเขาดูเซ็กซี่ที่สุดเกินที่จะหักห้ามใจไม่ให้มอง
“เธอช่วยเป่าผมให้หน่อยสิไดร์อยู่ตรงนั้น” ริวกิมองดูร่างเล็กที่ยืนนิ่ง เขาอมยิ้มเล็กน้อยรู้ตัวว่าเธอกำลังแอบมองดูเรือนร่างสุดแสนเพอร์เฟกต์ของเขาอยู่
“ค่ะ…ด่ะ…ได้ค่ะ!” ใบหน้าสวยที่ราวกับว่าถูกปลุกให้ตื่นจากภวังค์ เมื่อไดยินเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยจึงเลิ่กลั่กรีบไปหยิบไดร์เป่าผมแล้วมาเป่าให้เขาตามคำสั่ง
“เสร็จแล้วค่ะ ถ้าคุณริวไม่มีอะไรแล้วลูกชุบขอตัวนะคะ” ร่างเล็กได้ยืนขึ้นเธอกำลังจะเดินออกไปจากเตียงนิ่มทว่ากลับถูกมือหนาจับไปที่ข้อมือเล็กเอาไว้
“เดี๋ยว! ฉันยังไม่ได้คุยกับเธอเลยจะรีบไปไหนหืม?” คิ้วสูงเลิกขึ้นมองดูใบหน้าสวยสบตากับดวงตากลมโตคู่นั้นทั้งคู่สบสายตากัน
“คุณริวมีอะไรจะคุยกับฉันคะ”
“ฉันมีของขวัญจะให้ในฐานะที่เธอดูแลปรนนิบัติฉันอย่างดี” มือหนาได้หยิบกระเป๋าสตางค์ใบเล็กของตัวเองและหยิบบัตรเครดิตสีดำสนิทเป็นบัตร VVIP ออกมาซึ่งเธอเพิ่งจะเคยเห็นมันจริงๆจังๆ
“บัตรแบล็คการ์ด?” ใบหน้าสวยเอียงคอเล็กน้อยมองดูยากูซ่าหนุ่มด้วยความสงสัย ที่จู่ๆเขายื่นมันให้กับเธอทั้งๆที่ลูกชุบเองก็คิดว่าไม่ได้ทำอะไรให้เขามากมายขนาดนั้น
“ใช่ ไม่จำกัดวงเงินเธอสามารถเอาไปรูดได้ตามสบายฉันยกมันให้เธอลูกชุบ”
“เหอะ! คุณริวทำอย่างกับชุบเป็นอีหนูเด็กเลี้ยงของเสี่ยแบบนั้นแหละ” ใบหน้าสวยก้มลงหลบสายตาคมกริบเธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแม้เขาจะมอบเงินทองมากมายให้เธอใช้ แต่มันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีแต่อย่างไร
“เธอเป็นยิ่งกว่านั้นอีก นวรา ฉันถูกใจเธอแต่ฉันเป็นนักธุรกิจใช้งานเธอคุ้มแน่นอนไม่ต้องห่วง” มือหนาจับไปที่คางมนเชยขึ้นมาเขามองสบสายตาเธออย่างอ่อนโยน ลูกชุบที่ได้ยินคำพูดนี้เธอรู้สึกเขินจนหน้าแดงจากนั้นปากหยักจึงจู่โจมประกบไปที่ปากจิ้มลิ้มของเธออย่างรวดเร็ว จนคนที่ถูกจูบไม่ทันได้ตั้งตัวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
“อื้อ! คุณริวขอฉันพักบ้างสักวันจะได้ไหมคะ?”
“บอกแล้วไงฉันใช้งานเธอคุ้มแน่นอนอย่าคิดว่าจะได้พัก” มือหนาได้ผลักร่างเล็กให้เอนลงบนเตียงนิ่มจากนั้นก็ได้ขึ้นคร่อม และจัดการถอดชุดนอนสีหวานของเธออย่างชำนาญ ร่างสวยนั้นได้เปลือยเปล่าต่อหน้าเขาในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีปากหยักก็ประโคมจูบไปทั่วเรือนร่างอรชรสร้างความเสียวสะท้านให้เธอไม่หยุด
“ซี๊ดส์….คุณริว”
“หื้ม….ขนมลูกชุบอร่อยจังฉันชอบกินนะ” เสียงแหบพร่ากระซิบไปที่ข้างหูของเธอเบาๆ แล้วใช้ปากนั้นขบเม้มเป็นการหยอกล้อ สร้างความสยิวจนลูกชุบต้องขนลุกซู่ทุกอณูทั่วทั้งสรรพางค์กายขึ้นมาเขาช่างร้อนแรงมีเสน่ห์ จนเธอนั้นต้องยินยอมพร้อมใจไปกับท่วงท่าลีลาบวกกับคำพูดหวานๆนั้น
“อย่าปากหวานสิคะฉันยิ่งใจบางอยู่”
“ใจเธอบางได้กับฉันแค่คนเดียวเท่านั้นจำไว้……ยัยขนมหวานของฉัน”
“อื้อ…อย่าค่ะ…อ่ะ!”
ปึก! ปึก! ปึก!
“ซี๊ดส์….ตอดดีขนาดนี้ฉันน่าจะเจอเธอให้เร็วกว่านี้นะ อู้วว!” ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกปากก็ส่งเสียงครางแหบพร่าไม่หยุดเขานั้นพึงพอใจกับรสสัมผัสนี้ เอวหนากระแทกกระทั้นไม่มีทีว่าว่าจะหยุดราวกับว่าเขากำลังระบายความร้อนแรงไฟราคะในตัวตน ร่างบางที่นอนอยู่ใต้ร่างกระเพื่อมไปตามแรงถาโถมทุกการกระทำนั้นทั้งดุดันและวาบหวาม จนคนที่ถูกปรนเปรอนั้นแทบสำลักความสุขจนต้องร้องประท้วง
“อร๊ายยย….เสียวค่ะ…อื้อเบาๆจุกไปหมดคนบ้า”
“เดี๋ยวเธอจะเสียวกว่านี้อีกคอยดูเสียวยิ่งกว่ารถไฟเหาะที่สวนสนุกนั่น…. อ่าส์!”
ปึก! ปึก! ปึก!
“อื้อ! คุณริว….”
เสียงครวญครางแห่งความสุขราวกับว่าทั้งคู่กำลังกินอาหารรสชาติเผ็ดร้อน แผดซ่านไปทั่วดังสลับกับเสียงเนื้อที่กระทบกันลั่นห้องริวกิปรนเปรอความเสน่หาให้กับลูกชุบไม่เว้น เขามีความสุขไม่ต่างจากตัวเธอนับวันทั้งคู่ยิ่งมีเคมีที่ตรงกันรสนิยมที่เหมือนกันเขาเสพติดเรือนร่างงามของเธอ และรสสัมผัสที่วาบหวามนี้ตัวเขานั้นเป็นผู้ที่ได้ครอบครองแต่เพียงผู้เดียวในใจนั้นจึงเกิดความหวงแหนขึ้นมาอย่างประหลาด
เตียงกว้างนั้นไม่ต้องว่างเปล่าอีกต่อไป…การตื่นขึ้นมาในทุกเช้าก็มีคนนอนกอดอยู่ในอ้อมแขนความรู้สึกนี้มันช่างอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยจะเป็น ดวงใจแกร่งดั่งหินผานั้น เริ่มสับสนและหวั่นไหวดั่งคำพูดที่ว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิดนั้นไม่เกินจริงหยดน้ำนั้นสามารถพังทลายหินให้พุกร่อนได้เป็นเรื่องจริง ทว่าเขาเองก็ยังไม่อาจยอมรับ เพราะยังไม่แน่ใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับความรู้สึกในตอนนี้หากเธอไม่ใช่น้องสาวของอดีตศัตรูหัวใจ อาจจะมองเธอเป็นผู้หญิงที่สมควรจะไว้วางใจและมอบความรักให้อย่างไม่มีข้องกังขา