“โอเค งั้นเรารีบไปกันเถอะนะ คลีนเหนื่อยจะแย่แล้วอะ” สาวคลีนส่งกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ให้อีกฝ่ายเอาไปลาก ก่อนจะเดินตัวปลิวนำหน้าเขาไปตรงประตูทางออก โดยไม่สนใจสายตาขุ่นจัดของอีกฝ่ายที่กลายมาเป็นคนที่ต้องอำนวยความสะดวกสบายให้ “รู้หรือไงว่าต้องเดินไปตรงไหน” ชายหนุ่มแขวะให้อย่างอดไม่ได้ เพราะหมั่นไส้ที่นางทำราวกับรู้ว่าตรงไหนเป็นตรงไหน “รู้ว่าออกตรงนี้ไปลานจอดรถ แต่ไม่รู้ว่ารถนัมเบอร์วันจอดอยู่ที่ไหน” หญิงสาวหันมาตอบซื่อๆ แล้วต้องยิ้มกว้างออกมาราวกับนึกอะไรดีๆ ออกมาได้ “อะไรของเธออีก” พัชรพงศ์ชักหงุดหงิด เมื่ออยู่ดีๆ ยัยแหม่มหน้าเด็กแต่อายุปาเข้าไปยี่สิบสี่แล้ว ก็สอดแขนมาคล้องกับแขนเขา ทำราวกับจะเดินควงกันออกงาน “แค่คลีนเดินไปพร้อมๆ กับนัมเบอร์วันแบบนี้ คลีนก็รู้แล้วว่าควรไปตรงไหน” บอกเขาจบ ศีรษะเล็กๆ ก็ซบลงบนไหล่หนา ไม่สนใจสายตาไม่ชอบใจคู่นั้นที่จ้องจิกกัดสักนิด พัชรพงศ์ส่ายหัวให้อย่างเบื่อ