10
อนัญญาใช้ชีวิตตามปกติ เช้านี้มีงานแต่งหน้าเจ้าสาว หล่อนจึงออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่ตีสี่เพื่อไปให้ถึงบ้านเจ้าสาวก่อนเวลานัดหมาย การไปทำงานครั้งนี้หล่อนอยากพาอานัสกับอานีสไปด้วย เพราะเกรงว่าชีคฟาฎิลจะพาหลานชายไปตรวจดีเอ็นเอโดยไม่บอกตน
ความกังวลนี้เองทำให้อนัญญาหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต หล่อนได้ข้อมูลสำคัญว่า ผู้ที่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายมีอำนาจตัดสินใจด้วยตนเอง ส่วนผู้ที่อายุยังไม่ถึงสิบแปดปีบริบูรณ์หรือมีอาการบกพร่องทางจิต ต้องให้ผู้ปกครองหรือผู้ได้รับมอบอำนาจถูกต้องตามกฎหมายตัดสินใจและลงชื่อแสดงความยินยอมแทน ทำให้หล่อนสบายใจได้ว่า การตรวจดีเอ็นเอระหว่างชีคฟาฎิลกับหลานรักทั้งสองไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน หากตนไม่เซ็นยินยอม อนัญญาจึงไปทำงานอย่างสบายใจ
แปดโมงเช้าชีคฟาฎิลมาถึงห้องพักฟื้น พอมาถึงก็เห็นอานัสกับอานีสนั่งกินมื้อเช้าที่เขาโทรศัพท์สั่งโรงพยาบาลให้จัดเตรียมมื้อเช้าแบบชุดใหญ่ มีให้เลือกกินมากกว่าเจ็ดอย่าง อาหารเช้าจึงเต็มโต๊ะ การเดินทางมาโรงพยาบาลครั้งนี้ อิลฮัมไม่ได้มาด้วย เพราะเขาไปจัดการเรื่องหนึ่งให้เรียบร้อยก่อน
“เป็นไงครับ อาหารอร่อยไหม” ฟาฎิลถามสองหนุ่มน้อยที่นั่งกินมื้อเช้า
“อร่อยฮะ คุณลุงมากินกับพวกเราสิฮะ” อานัสตอบและเอ่ยชวน
“แม่ไปไหนครับ ทำไมไม่มากินด้วย” ฟาฎิลถามถึงอนัญญา
“แม่ไปทำงานครับ ไปตั้งแต่เช้ามืด” อานีสตอบ ตักข้าวต้มกุ้งใส่ปาก ฟาฎิลยิ้มพร้อมกับบังเกิดความคิดดีๆ ขึ้นมา
“แล้วแม่จะกลับเมื่อไหร่ครับ” ชีคหนุ่มถามต่อ
“แม่บอกว่ากลับบ่ายๆ ครับ”
“ถ้างั้นลุงพาอานัส อานีสไปเที่ยวดีไหมครับ สวนสนุกเป็นไง อยากไปไหม”
คนพูดหาโอกาสใกล้ชิดเด็กฝาแฝด อานัสกับอานีสสองหน้ากันแล้วยิ้ม ก่อนตอบออกไปพร้อมเพรียงราวกับรู้ใจซึ่งกันและกัน
“ไปฮะ”
“ถ้าอย่างนั้นรีบกินกันดีกว่านะ กินเสร็จแล้วจะได้ไปเที่ยวกัน”
“เราสองคนต้องบอกแม่ก่อนฮะ แม่บอกว่าไม่ให้ไปไหนกับคนอื่น” อานัสบอกฟาฎิล
“แต่ลุงไม่ใช่คนอื่นนะ ลุงเป็นเพื่อนแม่ เป็นเพื่อนป้านิว ไม่งั้นป้านิวจะมานอนรักษาตัวที่นี่ได้เหรอ” ฟาฎิลบอกเด็กชายทั้งสอง “เอาอย่างนี้ก็ได้ อานัสกับอานีสค่อยโทรไปบอกแม่ตอนที่เราถึงสวนสนุกก็ได้นะ โทรบอกให้แม่ตามมาเที่ยวกับเราไง”
“ก็ได้ฮะ” อานัสกับอานีสรับคำพร้อมกัน
“รีบกินกันดีกว่านะจะได้รีบไปเที่ยวกัน”
ฟาฎิลบอกสองหนุ่ม ส่วนตัวเขาก็ลงมือกินมื้อเช้าบนโต๊ะได้อย่างสนิทใจ เพราะทางโรงพยาบาลมีแยกครัวสำหรับแขกที่นับถือศาสนาอิลสามโดยเฉพาะ ไม่รวมกับครัวไทย
หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ ชีคฟาฎิลพาอานัสกับอานีสไปเที่ยวสวนสนุกที่คิดไว้คือ สวนสนุกดรีมเวิร์ล สถานที่ที่สองแฝดอยากไปนานแล้วแต่อนัญญาไม่มีเวลาพาไป ทว่าก่อนไปสวนสนุกดังกล่าว ชีคฟาฎิลให้คนขับรถแวะห้างสรรพสินค้าดังย่านนั้น เพื่อซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่สวมใส่แทนชุดเก่า เขาไม่ได้ซื้อให้สองแฝดเพียงชุดเดียวแต่ซื้อให้มากกว่าสิบชุด ชุดนอนลายการ์ตูนที่อยากได้อีกคนละเจ็ดชุด ไม่พอยังมีหมวกอีกคนละห้าใบ รองเท้าอีกคนละเจ็ดคู่ ชีคหนุ่มสายเปย์ยังสัญญาว่า ขากลับจะแวะซื้อของเล่นให้อีก สองฝาแฝดพากันดีใจยิ้มอย่างมีความสุข ฟาฎิลเห็นรอยยิ้มของทั้งคู่แล้วพลอยสุขใจตามไปด้วย เป็นความสุขที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน
คำรณมีสีหน้าแปลกใจที่เห็นชาวอาหรับแต่งกายดีมาก รูปร่างยังสง่าผ่าเผยดูน่าเกรงขาม แววตาของผู้มาเยือนดูน่ากลัว จ้องมองมายังตนราวกับว่าโกรธแค้นมาเป็นร้อยปี ชายหนุ่มอาหรับมาพร้อมกับชายอาหรับร่างโตคล้ายบอดี้การ์ด และชายไทยรูปร่างสันทัด คำรณสงสัยว่า ทั้งสามมาหาเขาหรือมาผิดบ้าน
แต่เอ...เหมือนเคยเห็นหน้าที่ไหน แต่คำรณนึกไม่ออก
“คุณอิลฮัมต้องการคุยกับคุณ” ยังไม่ทันที่คำรณจะยิงคำถามที่ตนสงสัย ยศวินเอ่ยออกมาเสียก่อน
“เขาเป็นใคร ผมไม่รู้จัก” คำรณยังงงๆ ว่าชายอาหรับคนนี้มาหาตนทำไม
“ผมว่าเราเข้าไปคุยในบ้านดีกว่าครับ คุยตรงนี้ไม่สะดวก” ยศวินบอกเจ้าของบ้าน “พวกผมมาดีครับ ไม่ได้มาร้ายสบายใจได้ แต่ถ้าคุณไม่ให้พวกผมเข้าไปในบ้าน เรื่องที่คุณทำร้ายร่างกายคุณนิวถึงตำรวจแน่”
ประโยคนี้เองที่ทำให้คำรณตกใจ เรื่องเมื่อวานนี้เขาจำได้ว่า ถูกอนัญญาชกหน้าและเตะที่ลำตัวหลายครั้ง ก่อนมีชายร่างสูงใหญ่ราวกับตึกต่อยเข้าที่หน้าหมัดเดียวสลบ พอเขาฟื้นขึ้นมาก็พบว่า จรรยากับอนัญญากลับบ้านไปแล้ว ตั้งใจว่าวันนี้ตอนเย็นจะไปจัดการสองสาวให้หายเจ็บใจ คำรณยังไม่ทันตอบอะไร ร่างเขาก็ถูกอิลฮัมผลักอก ก่อนถูกอิลฮัมลากเข้าไปในบ้าน
“พวกมึงจะทำอะไรกู อย่านะ กูแจ้งตำรวจจับมึงจริงๆ ด้วย”
คำรณทำใจกล้า ปากดีใส่ ทั้งที่ในใจกลัวอิลฮัมมาก เพราะหน้าตาอีกฝ่ายตอนนี้ราวกับยักษ์โกรธแค้น
“อย่าเสียงดัง คุณอิลฮัมมีอะไรจะตกลงกับคุณ” ยศวินทำหน้าที่ล่าม ก่อนแปลสารจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยให้คำรณฟัง “คุณอิลฮัมต้องการให้คุณเลิกกับคุณนิว อย่ามายุ่งกับเธออีก”
“ฮ่าๆๆๆ มันเป็นใครถึงสั่งให้กูเลิกกับอีนิว หรือว่าเป็นชู้ของอีนิว” ยศวินมองหน้าคนพูด แปลภาษาให้อิลฮัมรับรู้