“เข้าใจทุกอย่างแล้วใช่ไหม”
“เข้าใจแล้วค่ะ ศิเรียนรู้งานไวคุณก็น่าจะพอทราบมาบ้าง”
“อืม พ่อเล่นชมเธอตลอดฉันจะไม่รู้ได้ไง” อธิราชเลิกสนใจลักษิกาจากนั้นก็เดินไปนั่งลงที่ตำแหน่งประจำของตน เขานั่งทำงานต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งได้เวลาทานอาหารกลางวัน
“เราจะทานที่นี่หรือจะออกไปทานข้างนอกคะศิจะได้จองร้านให้”
“ไปข้างนอกก็แล้วกันเธอเลือกร้านเลย”
“ค่ะ”
หญิงสาวสืบเรื่องราวของคนตัวโตมาบ้าง เธอจึงรู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง เมื่อมานั่งที่โต๊ะได้ไม่นานก็มีอาหารมาเสริฟ์เพราะเธอสั่งอาหารก่อนที่จะออกจากบริษัทเพราะไม่อยากให้เขารอนาน ชายหนุ่มกวาดสายตาไปทั่วๆก็พบว่ามีแต่เมนูโปรดของเขาทั้งนั้นแสดงว่าลักษิกาทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เมื่อเธอเห็น
คนตรงหน้ารับประทานอย่างเอร็ดอร่อยเธอก็รู้สึกดี หญิงสาวยื่นมือไปเช็ดที่มุมปากของเขาอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่ามันเลอะเทอะ ชายหนุ่มตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ศิขอดูแลคุณอย่างนี้ต่อไปจนกว่าคุณจะต้องการศิจากหัวใจนะคะ”
“ก็ตามใจสิ เป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้วนี่ที่ต้องดูแลสามียกเว้นเรื่องบนเตียง”
“ค่ะ ศิทราบดีว่าคุณไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับศิ” หญิงสาวตอบกลับน้ำเสียงราบเรียบจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารโดยไม่ได้สนใจคนตัวโตอีก
“น้องศศิ!” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียกก็พบว่าคนตรงหน้าคือรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย เขาเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีคนหนึ่ง
“พี่อาร์มสวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้คนตรงหน้าอัตโนมัติ
“ฮ่าๆ ไม่ต้องไหว้ก็ได้ครับพี่ไม่อยากดูแก่ พี่ดีใจจังเลยครับที่ได้เจอน้องศศิที่นี่ พอดีพี่มาดูงานแถวนี้น่ะครับ
น้องศศิยังแต่งตัวเหมือนเดิมเลยนะครับ”
“อ๋อค่ะ สไตล์ศิเป็นแบบนี้ ศิทำงานแถวๆนี้น่ะค่ะ” หญิงสาวตอบกลับยิ้มๆ วันนี้เธอสวมเดรสยาวเลยเข่าสีฟ้าอ่อนพร้อมกับเสื้อคลุมตัวใหญ่
“บังเอิญจังเลยครับ งั้นก็เท่ากับว่าพรุ่งนี้น้องศิออกมาทานข้าวกับพี่ได้น่ะครับเพราะพี่ยังอยู่แถวนี้อีกวันสองวัน”
“ดีสิคะแต่ว่าต้องมีคนเลี้ยงน้า” หญิงสาวตอบกลับเสียงหวาน อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่นั่งทำหน้านิ่งจะรู้สึกอะไรบ้างหรือเปล่า
“ได้เลยครับ ชวนเพื่อนร่วมงานของศิมาด้วยก็ได้นะ” อาร์มหันไปมองอธิราชแวบหนึ่งแล้วก็หันมาชวนลักษิกาคุยต่อ บทสนทนาของทั้งคู่ทำให้อิราชกลายเป็นส่วนเกินไปโดยปริยายจนเขาต้องกระแอมออกมาเบาๆ
“ขอโทษที่เสียมารยาทนะคะ นี่คุณอิราชสามีของศิเองค่ะพี่อาร์ม”
“น้องศิแต่งงานแล้วหรอครับ” อาร์มถามออกไปน้ำเสียงตื่นๆ ไม่คิดเลยว่าคนตรงหน้าจะมีเจ้าของหัวใจแล้ว เขาช้าไปก้าวหนึ่งแล้ว
“ใช่ค่ะ เพิ่งแต่งน่ะค่ะ ศิไม่ได้ชวนใครเลย”
“อ่อครับ พี่ยินดีด้วยนะครับ ส่วนพี่น่ะหรอ ยังโสดสนิทอยู่เลย เสียใจนะครับที่น้องศิมีเจ้าของแล้ว” ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงเศร้าสร้อยจนอธิราชนึกหมั่นไส้
“ได้เวลาแล้วศิ”
“พวกเราคงต้องขอตัวก่อนนะคะพี่อาร์ม เอาไว้ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก”
“ครับ พี่จะรอนะ”
"หน้าระรื่นเชียวนะพอมีผู้ชายมาคุยด้วยหน่อย" อธิราชบอกออกไปน้ำเสียงประชดประชัน
"มันก็ดีกว่าไม่มีคนมาคุยด้วยไม่ใช่หรอคะ" จะแปลกอะไรเมื่อเราได้พบเจอคนรู้จักก็แวะมททักทายกัน
"แต่ว่าเธอแต่งงานแล้วรู้ไว้ซะด้วย เธอควรจะให้เกียรติฉันและครอบครัวของฉัน"
"ศิยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการไม่ให้เกียรตินี่คะ ศิอยากจะบอกว่าศิให้เกียรติครอบครัวของคุณเสมอ คุณเองนั่นแหละที่ต้องให้เกียรติศิเหมือนกัน ศิรู้ว่าคุณอาจจะมีคนที่รักที่ชอบอยู่แล้วแต่ก็พยายามฝืนเพื่อคุณพ่อท่านหน่อยเถอะค่ะ" จบประโยคหญิงสาวก็เดินไปขึ้นรถแล้วไม่ได้สนใจคนตัวโตอีก อธิราชได้แต่ยืนงงเมื่อหญิงสาวพูดคุยกับเขาเป็นประโยคยาวๆครั้งแรก การที่ลักษิกาย้ายมาทำงานเป็นเลขาของเขาทำให้งานของเขาเดินหน้าได้อย่างไม่มีสะดุด อธิราชอดที่จะชื่นชมหญิงสาวไม่ได้ที่เธอเป็นคนเก่งคนหนึ่งจริงๆ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเข้ามาหญิงสาวก็จัดการมันได้หมด
"เรากลับกันเถอะค่ะ คุณพ่อน่าจะรอทานข้าวกับพวกเราแล้ว" ลักษิกายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมารู้เวลาก็พบว่าใกล้ได้เวลาที่พ่อสามีจะรับประทานอาหารเย็นพร้อมกับเธอและลูกชายของท่าน
"อืม ไปสิ"
ระหว่างมื้ออาหารบิดาของชายหนุ่มก็เอ่ยถามลูกสะใภ้เรื่องงาน พอท่านทราบว่าเธอสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วท่านก็ยิ้มพอใจ ท่านบอกว่าสมแล้วที่เธอเป็นทั้งสะใภ้เป็นทั้งเลขาของอธิราช เมื่อมาอยู่ด้วยกันสองต่อสองเธอก็เปิดประเด็นเรื่องการเดินทางไปงานแต่งงานทันที
"คุณอธิปคะ"
"ว่าไง"
"ศิอยากไปงานแต่งเพื่อนค่ะ" หญิงสาวบอกออกไปยิ้มๆ เพื่อนจัดงานแต่งที่ริมชายหาด บรรยากาศในงาน
คงจะโรแมนติกมากๆ
"อยากไปไหนก็ไปสิ ฉันไม่ได้ห้ามไม่ให้ไปไหน"
"ศิอยากให้คุณไปด้วยกันจะได้ไหมคะ" ในใจของเธอกลัวคำตอบของเขาเหลือเกิน
"เธอไปคนเดียวเถอะ ฉันไปก็ไม่รู้จักใครอยู่ดี"
"แต่ว่าคุณ..."
"ไปเถอะ เวลาของฉันเป็นเงินเป็นทองไม่ได้ว่างขนาดนั้นสักหน่อย"
"ค่ะ ศิเข้าใจแล้ว ศิอาจจะต้องไปค้างคืนด้วยนะคะ"
"ไปเถอะ" เขาบอกออกไปอย่างไม่คิดจะใส่ใจ นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกน้อยใจ เธออยากจะเปิดตัวเขากับเพื่อนๆของเธอแต่ดูแล้วเขาคงไม่อยากทำความรู้จักสังคมเล็กๆของเธอหรอก คิดแล้วก็น้อยใจจริงๆ