ลักษิกาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็พบกับความว่างเปล่า แสดงว่าเขาไปนอนที่อื่นทั้งคืนเลยสินะ เธอสะบัดศีรษะไปมาเบาๆขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านและเลยลงมือเก็บเสื้อผ้าของเขาและเธอลงกระเป๋า จากนั้นก็โทรศัพท์หาคนขับรถให้ขึ้นมาช่วยขนกระเป๋าและเตรียมตัวเดินทางไปบ้านใหญ่ เมื่อมาถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี
ที่สำคัญบิดาของชายหนุ่มเอ่ยขอโทษเอครั้งแล้วครั้งเล่า
“คุณพ่ออย่าขอโทษศิอย่างนี้เลยนะคะ มันทำให้ศิรู้สึกไม่ดียิ่งกว่าเดิม ศิไม่โกรธคุณอธิปหรอกนะคะเพราะศิเข้าใจดีว่าก่อนหน้านี้เขามีอิสระมากแค่ไหน คุณอธิปอาจจะแค่ยังปรับตัวไม่ได้ก็เท่านั้น”
“เพราะหนูแสนดีแบบนี้ไงพ่อถึงต้องจัดการไอ้ลูกชายตัวดี”
“มาแล้วคร๊าบบ” น้ำเสียงระรื่นของอธิราชทำให้อนันตวิทย์ยิ่งลมออกหู ก่อเรื่องเอาไว้ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้ได้ยังไง
“แกทำเรื่องอะไรไว้ไม่รู้ตัวหรือยังไง” ด้านอธิราชแม้จะออกจากโรงแรมไปเงียบๆแต่ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของนักข่าวที่จ้องจะทำข่าวเพลย์บอยอย่างเขา เช้าวันต่อมาเขากลายเป็นหัวข้อข่าวหน้าหนึ่งที่คนในสังคมพูดถึง แน่นอนว่าบิดาของเขารับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นและกำลังโกรธมากๆกับการกระทำของเขา
“ผมทำอะไรครับ”
“แกนี่มัน...”
“อย่าค่ะคุณพ่อ คุณอธิปรีบบอกคุณพ่อสิคะว่าคุณไปไหนมา”
“ผมไปค้างที่คอนโดมาครับ”
“โกหก! ข่าวออกอยู่ขนาดนั้นยังกล้าที่จะโกหก”
“ผมไม่ได้โกหก ผมไปนอนที่คอนโดมาจริงๆ ผมก็แค่ยังไม่ชิน ไม่เชื่อพ่อโทรหาลุงยามได้เลย”
“เอาโทรศัพท์ของแกมาเดี๋ยวนี้” อนันตวิทย์โทรไปเช็คแล้วก็ได้คำตอบตรงตามกับที่ลูกชายบอกทุกอย่าง รวมถึงมีการส่งภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ดูว่าเขานั้นเดินเข้าคอนโดไปคนเดียว
“แล้วไป อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกออกไปมั่วผู้หญิงคนไหนอีกไม่อย่างนั้นแกจะถูกตัดออกจากกองมรดก”
“ขู่ผมจังเลยนะครับพ่อ”
“ความเชื่อมั่นของแกไงล่ะที่พ่ออยากจะรักษาเอาไว้ ต่อจากนี้ฝากหนูศิด้วยนะ พ่อล่ะปวดหัวจริงๆ”
“หมายความว่าอย่างไงครับ”
“หนูศิจะย้ายไปเป็นเลขาของแกแทนน่ะสิ”
“แล้วเลขาพ่อละครับ อีกอย่างผมมีเลขาอยู่แล้ว” ถ้าหญิงสาวย้ายมาตำแหน่งของบิดาเขาก็ว่างลงน่ะสิ
“เรื่องนี้แกไม่ต้องเป็นห่วงพ่อหาเลขาเก่งๆมาสำรองแล้ว ได้ข่าวว่าเป็นเพื่อนกับศิด้วยใช่ไหม”
“ใช่ค่ะคุณพ่อ วินเป็นคนที่เก่งมากรับรองว่าคุณพ่อหายห่วงได้ค่ะ”
“วิน? เลขาพ่อเป็นผู้ชายหรอครับ”
“ใช่ ไม่ใช่สาวนมโตแบบที่แกต้องการหรอก”
“ผมคัดเลือกที่ความสามารถครับพ่อ เรื่องนั้นมันเป็นแค่องค์ประกอบเล็กๆเอง”
“หึ เล็กๆแต่ขาดไม่ได้น่ะสิ”
คืนนี้เขาต้องนอนร่วมห้องกับหญิงสาวที่บ้านใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเขาก็มานอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงส่วนคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขากำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก ชุดนอนที่เธอสวมใส่เป็นลายการ์ตูนเด็กน้อยชะมัดเลย
"ยังไม่ง่วงหรอคะ" เธอเอ่ยถามผู้เป็นสามีน้ำเสียงแผ่วเบากวนจะรบกวนเวลาของเขา
"ยัง เธอล่ะ"
"ง่วงแล้วค่ะ ปกติศินอนเร็วนอนไม่เกินสี่ทุ่ม"
"เด็กอนามัย"
"คุณอธิปว่าไงนะคะ" หญิงสาวถามซ้ำอีกครั้ง เพราะเมื่อสักครู่เธอฟังไม่ถนัด
"เปล่าไม่มีอะไร"
"หรือว่าจริงๆแล้วคุณอธิปเป็นคนหลับยากคะ"
"อืม ก็มีส่วนฉันเลยต้องหาอะไรอ่านให้รู้สึกง่วง"
"ศิมีวิธีค่ะ ยื่นมือของคุณมาสิคะ" ชายหนุ่มยังคงงงๆจึงยอมยื่นมือออกไปช้าๆ เธอกดจุดนวดคลึงเบาๆที่ข้อมือของเขาสองถึงสามนาที จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนของการกดจุดไปเรื่อยๆ ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
"เสร็จแล้วค่ะ รู้สึกดีขึ้นไหมคะ" เธอถามเขาออกไปน้ำเสียงห่วงใย
"ก็งั้นๆ เธอน่ะนอนได้แล้ว" เขาหันไปบอกเด็กอนามัยให้นอนเพราะใกล้จะเลยเวลาที่เธอบอกกับเขาแล้ว
"ก็ได้ค่ะ ฝันดีนะคะคุณอธิป"
"อืม นอนเถอะ" หญิงสาวล้มตัวลงนอนสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับคนตัวโต ไม่นานเธอก็นอนหลับปุ๋ย ชายหนุ่มวางหนังสือในมือบ้างจากนั้นก็ล้มตัวลงนอน เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คนตัวเล็กฟาดขามาที่เอวของเขาเต็มแรง
"ซี๊ด! ตัวแค่นี้แรงเยอะเป็นบ้า" ชายหนุ่มร้องออกมาด้วยความเจ็บ
"อื่อ เช้าแล้วหรอเนี่ย" หญิงสาวบอกออกไปทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตา เธอบิดขี้เกียจไปมาเบาๆ อธิราชจึงแกล้งทำเป็นว่ายังไม่ตื่น
"ตายแล้ว! ฉันนอนกอดคุณอธิปทั้งคืนเลยหรอเนี่ย บ้าจริงๆยัยศิเอ้ย" หญิงสาวค่อยๆยกขายกแขนของตนเองออกช้าๆเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะตื่น
"เวลานอนหลับก็น่ารักเหมือนกันนะ ถึงว่ามีแต่สาวๆรายล้อมตลอดเลย คุณน่ะทำให้ศิโดนมองแรงรู้ไหมคะ"
จบประโยคเธอก็ผละไปทำธุระในห้องน้ำทันที ชายหนุ่มรู้สึกแปลกๆกับคำพูดของลักษิกา มันทำให้ใจที่เคยสงบของเขาเต้นระรัว
"บ้าไปแล้ว แค่บอกว่าน่ารักแกต้องเต้นแรงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย" ชายหนุ่มพูดกับหัวใจของตัวเองกระซิบกระซาบเพราะกลัวหญิงสาวจะได้ยิน คงามรู้สึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาเลย