5

1492 Words
“เรียบร้อยแล้วครับ” ตฤณขยับห่างเพื่อมาสตาร์ทรถ ปิ่นแก้วขยับตัว ไปมาเล็กน้อยด้วยท่าทีขัดเขิน “ซี่โครงหมูทอดกระเทียมพริกไทยดำอร่อยไหมครับ” เขาชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบในรถ “อร่อยมากๆ เลยค่ะ ทำยังไงถึงจะได้กินฝีมือพี่สองไปตลอดชีวิตคะ” เธอเอ่ยถามก่อนจะมองหน้าเขายิ้มๆ ตฤณถึงกับไปไม่เป็นเมื่อถูกถามเช่นนั้น คนที่รอฟังคำตอบใจลุ้นระทึกแต่เขาก็ไม่ตอบ เธอเลยใจแป้วไปเล็กน้อย “นอนหลับฝันดีนะครับ” เขาบอกหญิงสาวหลังจากส่งเธอหน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว “พี่สองเข้าไปดื่มน้ำก่อนไหมคะ” “เอาไว้วันหลังนะครับ วันนี้พี่มีงานซ่อมคอมฯ ให้ลูกค้าที่ทำค้างเอาไว้ครับ ต้องส่งงานพรุ่งนี้” “งั้นโชคดีนะคะ” เธอโบกมือให้เขา ขณะยืนส่งเขาหน้าบ้าน “ว่าไงครับน้องพี่ ครอบครัวเขาเป็นยังไงบ้าง” พี่ชายทั้งสามที่นั่งรออยู่เอ่ยถาม “ก็ดีค่ะ พี่สาวของพี่สองใจดีมากเลยค่ะ” “แล้วแฟนเราล่ะใจดีไหม” “แฟนปิ่น พี่สองน่ะเหรอคะ ยังไม่ได้เป็นแฟนกันเลยค่ะ” ปิ่นแก้ว หน้าแดงรีบปฏิเสธลิ้นพันกัน “แล้วเมื่อกี้พูดว่า... แฟนปิ่น พี่สองน่ะเหรอคะ เหมือนยอมรับเลยว่า เป็นแฟนกันแล้ว” พี่ชายเอ่ยแซว “อย่ามาพูดแบบนี้นะคะ เดี๋ยวงอน” ปิ่นแก้วค้อนพี่ชาย “มานั่งตรงนี้มายายน้องเล็ก” เอกตบโซฟาข้างตัว ปิ่นแก้วแทรกตัว เข้าไปนั่งท่ามกลางพี่ชายทั้งสาม “เราโตแล้วนะ ตอนนั้นยังตัวเล็กๆ อยู่เลย” โทพูดขึ้นก่อนจะโยกศีรษะน้องสาวไปมา ปิ่นแก้วนั้นเป็นลูกหลงของพ่อแม่เพราะอายุห่างจากพี่ๆ ค่อนข้างมาก เกิดมาลืมตาดูโลกไม่เท่าไหร่บิดามารดาก็จากไปพวกเขาเลย ต้องเลี้ยงยายน้องเล็กมาตั้งแต่เด็กๆ “แต่ปิ่นรู้สึกว่ายังเป็นเด็กน้อยของพี่เอกพี่โทและพี่ตรีอยู่เลยนะคะ” “พวกพี่แค่เป็นห่วง อยากให้ปิ่นเจอผู้ชายดีๆ พวกพี่จะคอยดูแลอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ปิ่นเรียนจบแล้วต้องมีอิสระและตัดสินใจด้วยตัวเองได้แล้วว่า อยากทำอะไร ชอบอะไร หรือรักใคร อยากมีชีวิตแบบไหน” “ดูสิคะ พวกพี่ๆ ทำเหมือนปิ่นจะแต่งงานออกเรือนพรุ่งนี้แน่ะ” ปิ่นแก้วหัวเราะร่วนเมื่อพี่ชายทั้งสามของเธอดูจริงจังเหลือเกิน “ไหนเล่าให้ฟังหน่อยสิ ไปกินข้าวกับนายสองอะไรนั่นเป็นยังไงบ้าง” เมื่อพี่ชายเอ่ยถาม เธอก็เล่าให้ฟังอย่างละเอียด พี่ๆ ของเธอฟังไปพยักหน้ารับรู้ไปเหมือนอยากรู้ว่าเธอมีความรู้สึกเช่นไรกับตฤณ “เราเพิ่งรู้จักกันน่ะค่ะ ยังมีเวลาอีกเยอะ” ปิ่นแก้วคิดว่าบางสิ่งบางอย่างไม่ควรรีบ โดยเฉพาะเรื่องความรัก “ก็จริงนะ” “ดูอย่างพี่ๆ สิคะ สามสิบกว่ากันทุกคนแล้ว ยังไม่เห็นแต่งงานกันเลย” “ก็รอให้เราเรียนจบก่อนไง” “ตอนนี้น้องเรียนจบแล้ว พี่ๆ ก็ควรที่จะเปิดใจคบใครบ้างนะคะ” “ยังไม่เจอคนที่ถูกใจเลย” “นั่นปะไร ก่อนปิ่นจะออกเรือน พี่ๆ ต้องออกเรือนมีคนดูแลก่อนนะคะ ไม่งั้นปิ่นจะแซงหน้าไปได้ยังไงกัน ปิ่นเป็นน้องนะ” เธอพูดติดตลกเลยโดนโยกศีรษะไปมา “มันไม่สำคัญหรอกว่าใครจะออกเรือนก่อนหลัง ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานอีก” พอเจอประโยคนี้ของน้องสาวเข้า พี่ๆ ของเธอก็ไล่ขึ้นห้องนอนกันเลยทีเดียว ปิ่นแก้วขึ้นห้องก็อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวเข้านอน เธอไลน์ไปถามว่าตฤณถึงบ้านหรือยัง เพราะนึกเป็นห่วง เขาก็ตอบไลน์กลับมาว่าถึงเรียบร้อยแล้ว อาบน้ำเสร็จแล้ว กำลังนั่งซ่อมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กให้ลูกค้าอยู่ ปิ่นแก้วมองโทรศัพท์นิ่ง ก่อนจะกดโทร. ไลน์หาเขา เพราะเขาคงไม่สะดวกพิมพ์ “ครับน้องปิ่น” ตฤณกดรับก่อนจะทักทายกลับไปขณะที่มือยังง่วนกับการซ่อมคอมพิวเตอร์อยู่ “พี่สองสะดวกคุยไหมคะ” “คุยได้ครับ เมื่อกี้พี่พิมพ์ไม่ถนัด โทร. มาคุยแบบนี้ถนัดกว่า” เขาตอบกลับไป เสียงหวานใสทำให้ตฤณรู้สึกมีความสุขไม่น้อย หากได้ยินเสียงของเธอก่อนนอนทุกคืนคงดีเป็นที่สุด “ขยันจังเลยนะคะ กลางวันก็ทำงาน กลางคืนก็ทำงาน” “เก็บเงินไปขอเมียน่ะครับ” เขาหยอดกลับไป แต่พูดจริงๆ ปลายสายถึงกับเงียบไป ปิ่นแก้วเผลอยิ้มแต่ไม่กล้าถามว่าเก็บเงินไปขอใคร ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองมาก กลัวหน้าแตก “น้องปิ่นครับ” “คะ” “เป็นอะไรรึเปล่าครับเห็นเงียบไป” ตฤณเอ่ยถามกลัวพูดอะไรผิดไป “เปล่าค่ะ คือจะบอกว่าวันมะรืนเจ้าดำออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะคะ” “ดีจังเลยครับ เจ้าดำออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่พี่ยังไปหาคนรักษาเจ้าดำได้ไหมครับ” ตฤณถามกลับไป “ไม่รู้สิคะ ถ้าจะมาใครจะห้ามล่ะคะ” เธอตอบกลับไปแล้วยิ้มกับโทรศัพท์ “ได้ยินแบบนี้คืนนี้พี่คงนอนหลับฝันดีนะครับ” ตฤณถึงกับยิ้มกว้าง “พี่สองซ่อมคอมไปเถอะค่ะ ปิ่นไม่กวนแล้ว แค่อยากโทร. มาราตรีสวัสดิ์เท่านั้นเองค่ะ” “ขอบคุณนะครับที่โทร. มา พี่อยากได้ยินเสียงน้องปิ่นก่อนนอนเหมือนกันครับ จะได้นอนหลับฝันดี” “ฝันดีนะคะ” เธอเขินหนักเลยตอบกลับไปแบบนั้นก่อนจะกดวางสาย ตฤณยิ้มกว้างขณะมือสาละวนกับการซ่อมคอมฯ อย่างมีความสุข “น้องชายของพี่ยิ้มปากจะฉีกถึงใบหูแล้วนั่น” เสียงแหย่ของพี่สาวทำให้ตฤณยิ้มหนักกว่าเก่า “ยังไม่นอนเหรอครับพี่หนึ่ง” “กำลังจะนอนจ้ะ เห็นเรายังทำอะไรกึกๆ กักๆ อยู่เลยมาดู” “ซ่อมคอมฯ ครับ เสร็จพอดีเลย ลูกค้ามารับพรุ่งนี้ครับ” “งั้นพี่ไปก่อนนะจ๊ะ” “ครับพี่หนึ่ง ฝันดีครับ” ตฤณหอมแก้มพี่สาวก่อนจะเข้านอนบ้าง รุ่งเช้าเขารีบตื่นมาทำข้าวกล่องแสนอร่อยเพื่อนำไปฝากปิ่นแก้วที่โรงพยาบาลสัตว์ วันนี้เขาทำขนมจีบไปฝากเธอพร้อมกุหลาบสีขาวหนึ่งดอก ปิ่นแก้วมาถึงที่ทำงานก็ได้รับกุหลาบและขนมจีบ พนักงานที่เคาน์เตอร์อมยิ้มเมื่อยื่นของฝากจากตฤณให้คุณหมอสาว -ขนมจีบไส้กุ้งถูกปากไหมครับ- เสียงข้อความไลน์ดังขึ้น ปิ่นแก้วเปิดอ่านแล้วอมยิ้ม -อร่อยมากค่ะ- -พี่ทำขนมจีบไปจีบทุกวันได้ไหมครับ- ตฤณพิมพ์กลับไป เห็นว่าเธออ่านแต่ไม่ตอบ เขาก็ร้อนใจคิดว่าเธออาจจะไม่ชอบ ในขณะที่ปิ่นแก้วเขินหนักจนหน้าแดงซ่านลามไปถึงใบหู ตฤณอดรนทนไม่ไหว เขารีบโทร. ไปหาหญิงสาวเพื่อไถ่ถามแทบจะทันที “น้องปิ่นโกรธพี่เหรอครับ” ประโยคคำถามหลังจากกดรับโทรศัพท์ทำให้ปิ่นแก้วกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะอมยิ้ม “โกรธค่ะ” คำตอบของเธอทำให้ตฤณร้อนใจเป็นอันมาก “พี่ขอโทษครับ” “ปิ่นจะโกรธพี่สอง ถ้าพรุ่งนี้ไม่ทำขนมจีบมาให้กินอีกนะคะ” เธอตอบกลับไป ดึงของตรงหน้าบนโต๊ะทำงานไปมาด้วยท่าทีขัดเขิน ตฤณกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเผยยิ้มกว้าง “ยอมให้พี่จีบแล้วเหรอครับ” “ไม่รู้สิคะ” “เย็นนี้ว่างไหมครับ” “ทำไมคะ” “พี่อยากซ้อมทำกับข้าวให้ปิ่นกินน่ะครับ” “ถ้ามีคนมารับก็ว่างค่ะ” เธอตอบแล้วอมยิ้ม เปิดทางให้เขาอย่างเต็มที่ “ขนมจีบพี่เป็นยังไงบ้างครับ” “อร่อยค่ะ” “พรุ่งนี้พี่จะทำขนมจีบปูให้รับประทานนะครับ” “ค่ะ” คนตอบมีท่าทีขัดเขินแม้ตฤณจะไม่ได้อยู่ตรงหน้าก็ตามที “เย็นนี้พี่ไปรับนะครับ” “ค่ะ” “พี่ไม่กวนแล้วครับ” “พี่สองคะ” เธอเรียกเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะกดวางสาย “ครับ” “ขอบคุณสำหรับขนมจีบนะคะ ตั้งใจทำงานนะคะ” “ครับ” ตฤณรับคำก่อนจะกดวางสายแล้วยิ้มอย่างมีความสุข “เดี๋ยวนี้น้องชายพี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าจะอาการหนัก มีคนสั่งดอกไม้มาน่ะจ้ะ ไปส่งให้หน่อย” “ครับพี่หนึ่ง” ตฤณรับช่อดอกไม้และที่อยู่ของลูกค้ามาจากมือของพี่สาวก่อนจะสตาร์ทรถขับออกไปอย่างแข็งขัน มื้อกลางวันตฤณไม่ลืมนำข้าวกล่องไปส่งให้ปิ่นแก้วที่โรงพยาบาลสัตว์ เธอกำลังยุ่งกับการฉีดวัคซีนให้สุนัขและแมว เขาจึงนั่งรออยู่ที่เก้าอี้เพราะไม่อยากรบกวนเวลางานของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD