6

1706 Words
“อ้าวพี่สองมาเมื่อไหร่แล้วคะ ไม่เห็นมีใครบอกปิ่นเลย” “พี่เห็นปิ่นยุ่งอยู่น่ะครับเลยบอกพนักงานว่าไม่ให้บอก ไม่อยากรบกวนสมาธิการทำงานน่ะครับ” “พี่สองมาเยี่ยมเจ้าดำเหรอคะ” “เยี่ยมแล้วครับ มันร่าเริงขึ้นมากเลย” เขาพูดแล้วหยิบกล่องข้าวยื่นส่งไปให้เธอ “พี่สองทำข้าวกล่องมาให้ปิ่นเหรอคะ” “ครับ” เขายิ้มหวานให้เธอ “ขอบคุณค่ะ น่ากินจัง” กลิ่นอาหารลอยออกมาจากกล่องบ่งบอกถึงรสชาติของความอร่อย สองพี่น้องทำกับข้าวอร่อยมากๆ เพราะเธอเคยได้ชิมแล้ว “อาหารสูตรใหม่ของพี่ครับ ข้าวอบสมุนไพร ไก่ทอดสมุนไพร ยำผลไม้แล้วก็...” “แล้วก็อะไรคะ” เธอเอ่ยถาม “หัวใจของพี่ครับ” ประโยคของเขาทำให้เธอก้มมองไข่ดาวรูปหัวใจกับตัวอักษรว่า LOVE จากผักที่เรียงกันอยู่บนข้าว ปิ่นแก้วยิ้มอย่างขัดเขินเมื่อได้ยินแบบนั้น ก่อนที่ดอกกุหลาบสีขาวจะถูกยื่นมาตรงหน้า “พี่ต้องไปทำงานแล้วครับ วันพรุ่งนี้พี่จะมารับเจ้าดำนะครับ” “ค่ะ” เธอยื่นมือออกไปรับดอกกุหลาบก่อนจะตามร่างสูงออกไปแล้วอมยิ้ม ตอนเย็นตฤณมารับปิ่นแก้วที่โรงพยาบาลสัตว์ เขาขับรถพาเธอมารับประทานอาหารเย็นที่บ้าน แต่ต้องเบรกรถกะทันหันเมื่อเจอเข้ากับสุนัขตัวหนึ่งที่วิ่งตัดหน้ารถ เอี๊ยด!!! เสียงล้อรถเบียดไปกับถนน ตฤณและปิ่นแก้วลงไปอุ้มเจ้าสุนัขตัวนั้นขึ้นมาแนบอกเพราะมันกลัวจนตัวสั่น “ท่าทางมันจะหลงทางมานะคะพี่สอง เอาไงดีคะ” “พี่มีเพจตามหาเจ้าของสุนัขอยู่ครับ เดี๋ยวโพสต์ลงเพจแล้วกันบอกสถานที่ไป” เขาจัดการถ่ายรูปและระบุพิกัดสถานที่ที่เจอมันโพสต์ลงหน้าเพจ ไม่นานก็มีคนทักแชทเข้ามาหาบอกว่าเป็นเจ้าของ “มีคนทักแชทบอกว่าเป็นเจ้าของแล้วครับ อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เราพามันไปส่งกันครับ” “เราจะแน่ใจได้ยังไงกันคะว่าเขาเป็นเจ้าของจริงๆ” “ให้เขาพิสูจน์ครับ” ตฤณตอบหญิงสาวก่อนจะขับรถพาเจ้าสุนัขตัวน้อยไปส่ง พอไปถึงบ้านเจ้าของบ้านก็แทบร้องไห้ดีใจที่ได้เจอ อีกฝ่ายนำเอกสารออกมาพิสูจน์และกอดรัดอย่างดีใจ “มันหายไปพี่เดินหาแทบแย่ ไม่คิดเลยว่าจะหายไปไกลขนาดนั้น ดีที่รถไม่ชนเข้า ขอบใจน้องทั้งสองมากเลยนะคะ” “ไม่เป็นไรครับ” “เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งไป” เจ้าของสุนัขที่ยังอุ้มลูกสุนัขตัวน้อยอยู่วิ่งไปเอาขนมจากในบ้านออกมา “พี่ทำขนมไทยส่งขาย น้องทั้งสองลองชิมดูนะคะ ถ้าถูกใจรอบหน้า แวะมากินฟรีได้เลย พี่ไม่คิดเงิน ถือว่าเป็นน้ำใจตอบแทนที่ช่วยเหลือเจ้าปุกปุยเอาไว้นะคะ” “ขอบคุณมากครับ/ขอบคุณมากค่ะ” ทั้งสองกล่าวขอบคุณก่อนจะยกมือไหว้และรับขนมเอาไว้ ตฤณได้ยินเสียงสุนัขหลายตัวเห่าอยู่ด้านไปพอชะโงก ไปดูก็เห็นว่ามีหลายตัวขังอยู่ในกรง “พี่เลี้ยงสุนัขหลายตัวเลยนะครับ” “ใช่จ้ะ เป็นสุนัขจรจัด พี่สงสารเลยเก็บมาเลี้ยง” “ดีใจจังเลยครับ พวกมันโชคดีที่เจอพี่นะครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือโทร.หาผมได้เลยนะครับ เราเป็นคนรักสัตว์เหมือนกัน” ตฤณยื่นเบอร์โทรศัพท์ให้ คนตรงหน้า “ดีใจจังเลยค่ะที่ได้เจอคนรักสัตว์เหมือนกัน พี่ชื่อพี่นกนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักน้องทั้งสองค่ะ” “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ ขอบใจน้องทั้งสองอีกครั้งที่พาเจ้าปุกปุยมาส่งค่ะ” รัชนกยิ้มให้คนทั้งสอง ตฤณกับปิ่นแก้วจึงเดินไปขึ้นรถ “ดีจังเลยนะคะพี่สองมีเพจตามหาหมาแมวให้เจ้าของด้วย พวกมันน่าสงสาร พลัดหลงกับเจ้าของดีจริงๆ ที่เจ้าปุกปุยไม่โดนรถชน มันยังตัวเล็กอยู่เลย” “พี่นกทำขนมน่ากินเชียวครับ กลิ่นหอมเชียว” “ใช่ค่ะ” “ปิ่นหิวหรือยังครับ” ตฤณเอ่ยถามหญิงสาวข้างกายด้วยความเป็นห่วง “นิดหน่อยค่ะ” “ขอโทษด้วยนะครับพามาลำบาก” “ขอโทษทำไมคะ เราไปช่วยชีวิตชีวิตหนึ่งเอาไว้นะคะ สนุกและตื่นเต้น ดีค่ะ” “นอกจากน่ารักแล้วน้องปิ่นยังจิตใจดีด้วยครับ” “พี่สองไม่ต้องกลัวปิ่นลำบากหรอกค่ะ ดีเสียอีกได้ช่วยชีวิตหมาแมว พวกนั้น ปิ่นไม่เคยคิดว่ามันเป็นการลำบากหรือเป็นภาระอะไร” “ขอบคุณนะครับที่อยู่ตรงนี้ข้างๆ พี่” ขณะรถติดไฟแดง ตฤณก็ยื่นมือไปสัมผัสแก้มสาวเบาๆ เสียงแตรรถที่บีบไล่หลังมาทำให้ตฤณต้องผละมือออกจากแก้มสาว แล้วรีบขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของตัวเองในทันที “ป่านนี้พี่หนึ่งคงรอแล้วนะคะ” “พี่หนึ่งไม่อยู่ครับ ออกไปงานวันเกิดเพื่อนสนิทของแก” “อ้อ... เหรอคะ” เธอรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงที่จะได้อยู่กับเขาสองต่อสอง พอเปิดประตูรถลงไปยืนอยู่หน้าบ้าน เธอก็เห็นว่าไฟในบ้านมืดสนิท เลยหยุดชะงัก “ไฟดับเหรอคะพี่สอง” “เดี๋ยวพี่ดูก่อนนะครับ” ตฤณเดินไปเปิดประตูบ้านก่อนจะเอ่ยชวน หญิงสาวเข้ามาในบ้าน “เข้ามาก่อนสิครับ สงสัยไฟจะดับ” ได้ยินดังนั้นปิ่นแก้วก็เดินตามเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นโต๊ะรับประทานอาหารตรงหน้า มีแสงเทียนสว่างไสวอีกทั้งอาหารเต็มโต๊ะ บรรยากาศโรแมนติกจนเธอต้องยิ้มกว้างแทบจะทันที “โรแมนติกจังเลยค่ะ” ด้านในมีแสงเทียนและกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยทำให้บรรยากาศสดชื่นเป็นอันมาก “น้องปิ่นล้างไม้ล้างมือล้างหน้าล้างตาก่อนนะครับ จะได้มารับประทานอาหารด้วยกัน” “ถ้าได้อาบน้ำด้วยคงจะดีนะคะ” เธอเผลอหลุดปากออกมา ก้มมองตัวเองที่มอมแมมเพราะไล่จับเจ้าสุนัขตัวน้อยเหงื่อและร่างกายรู้สึกเหนียวเหนอะไปหมด “งั้นอาบน้ำที่ห้องของพี่ก็ได้นะครับ เดี๋ยวพี่เอาชุดของพี่หนึ่งให้ปิ่นเปลี่ยนก่อน” “เกรงใจจังเลยค่ะ ไม่อยากรบกวนพี่สองน่ะค่ะ” “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ จะได้นั่งกินข้าวสบายๆ ไง พี่เองก็อยากอาบน้ำเหมือนกัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆ จับมือเธอเบาๆ “ไปที่ห้องพี่กันครับ” ประโยคของเขาทำเอาเธอหัวใจเต้นแรง “ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่ไม่ทำอะไรให้ปิ่นเสียหายหรอกครับ” เขาบอกเธออีกครั้งเมื่อสัมผัสได้ว่ามือของเธอชื้นเหงื่อพอสมควร เป็นครั้งแรกที่เธอได้เหยียบเข้ามาในห้องนอนของเขา ห้องนอนของตฤณนั้นโล่งโปร่งสบาย เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เครื่องนอนเป็นสีน้ำตาลเข้ม โทนสีห้องของเขาก็เป็นสีน้ำตาลเข้ม มันให้ความอบอุ่นยามได้มองและอาศัยอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมกว้างขวางแห่งนี้ “ปิ่นรอพี่เดี๋ยวนะครับ” เขาบอกเช่นนั้นก่อนจะหายออกจากห้องไปและไปหยิบเสื้อผ้าของพี่สาวมายื่นส่งให้เธอ “ปิ่นใส่ได้ใช่ไหม” “ได้ค่ะ” “งั้นพี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ ปิ่นตามสบายเลยครับคิดว่าเป็นห้องของตัวเอง” “พี่สองจะไปอาบน้ำที่ไหนคะ” เธอเอ่ยถามอย่างเกรงใจ “ห้องพี่หนึ่งครับ ปิ่นอาบที่ห้องพี่นะครับ” เขาบอกเธอก่อนจะเดินออกจากห้องไป ปิ่นแก้วค่อยๆ เดินสำรวจห้องกว้างของตฤณ ห้องของเขาสะอาดสะอ้านและมีกลิ่นหอมจางๆ ดูเหมือนจะเป็นกลิ่นกายหอมกรุ่นของเขาผสมกับกลิ่นโคโลญที่เธอได้สูดดมเสมอเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ เขา เธอผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยถอดชุดพับเอาไว้บนเก้าอี้มุมห้อง ก่อนจะนุ่งผ้าขนหนูเข้าไปอาบน้ำและนำเสื้อผ้าของติยากรเข้าไปเปลี่ยนด้านในด้วย ห้องน้ำของตฤณสะอาดสะอ้านกว้างขวาง เธอแอบสำรวจยี่ห้อน้ำยาโกนหนวดของเขา ดูเหมือนว่ากลิ่นกายของเขาจะลอยอบอวลอยู่ทั่วห้องมันหอมสะอาดจนต้องเผลอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เธอนึกถึงใบหน้า    หล่อเหลาที่มักยิ้มกว้างอยู่เสมอแล้วเผลอยิ้มตาม รอยยิ้มของตฤณอบอุ่นอ่อนโยน เขาพูดจาไพเราะและมักยิ้มอยู่เป็นนิจ เขาเป็นผู้ชายใจดี เธอไม่เคยเห็นเขาทำหน้าบูดบึ้งหรือโมโหใครเลย มีแต่กระตือรือร้นทำงานและช่วยเหลือคนอื่น โดยเฉพาะหมาแมวจรจัดข้างถนน หญิงสาวจัดการอาบน้ำอาบท่าและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า พอออกมาข้างนอกก็เจอกับตฤณที่ยืนรอเธออยู่ก่อนแล้ว เขาอาบน้ำเรียบร้อยแล้วกลิ่นสบู่และกลิ่นกายหอมสะอาดของเขาลอยมาปะทะจมูกของเธอจางๆ “เสื้อผ้าของปิ่นล่ะคะ” เธอเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นเสื้อผ้าของตัวเอง “พี่เอาไปซักและปั่นแห้งให้แล้วครับ เรารับประทานอาหารเสร็จเสื้อผ้าของปิ่นก็คงแห้งพอดี” เขาบอกเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “เกรงใจจังเลยค่ะ ความจริงปิ่นเอากลับไปซักที่บ้านก็ได้นะคะ อาจจะขอยืมชุดพี่หนึ่งใส่กลับบ้านไปก่อน” เธอบอกอย่างเกรงใจระคนเขินอาย ก็มันมีชุดชั้นในของเธออยู่ด้วยนี่นาที่เขาเอาไปซัก “น้องปิ่นเป็นอะไรหรือเปล่าครับ พี่เห็นหน้าแดงๆ” “เอ่อ... เปล่าค่ะ” เธอตอบเสียงสั่นเล็กน้อยเมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้ วางหลังมือกับหน้าผากนูนเกลี้ยงของเธอเบาๆ เหมือนสัมผัสอุณหภูมิของร่างกาย “ทำไมถึงหน้าแดงครับ ไม่สบายหรือเปล่า” เขาขยับหน้าเข้ามาถามอย่างสงสัย เธอรวบเสื้อเอาไว้อย่างขัดเขิน ตฤณมองครุ่นคิดก่อนที่เขาจะหน้าแดงเสียเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD