ตอนที่ 8 วันที่ลาจาก

1076 Words
รมิตาสาวเท้าไปยังห้องวีไอพี ประตูเปิดออก คนในห้องหันมาสบตา หญิงสาวชะงักดวงตาเบิกกว้าง เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน “พี่ปรัช!” ชายหนุ่มกวาดตามองตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า ชุดที่เธอใส่ ใบหน้างดงามถูกแต่งแต้มให้ดูเย้ายวนบุรุษเพศ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนรักทำงานแบบนี้ ที่ติดต่อไม่ได้คงเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม “พี่ไม่คิดเลยว่าจะเจอตรีที่นี่ ในสภาพแบบนี้!” เขาเอ่ยเสียงรอดไรฟัน ริมฝีปากบางเม้มสนิท ทั้งสีหน้า แววตา มองเธอราวกับต้องการเปลื้องผ้า พี่ปรัชก็คงเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่ไม่เคยมองเธอเป็นผู้หญิงที่ต้องลำบากหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว มองเป็นแค่วัตถุระบายความต้องการทางเพศเท่านั้น “ตรีขอตัวก่อนนะคะ ตรีไม่ขอรับงานนั่งกับพี่ค่ะ!” เธอตัดบทแล้วเดินหนี ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ ร่างบางถูกกระชากลากมาหา แล้วเหวี่ยงลงบนโซฟาด้านในห้อง ตุบ! “พี่จะทำอะไร!” หญิงสาวร้องถามเสียงสั่น “ที่กับคนอื่นยอม ทำไมกับพี่ถึงไม่ยอม!” “อย่ามาพูดจาทุเรศๆ แบบนี้นะพี่ปรัช!” คนสวยชักสีหน้าไม่พอใจ “ฉันเป็นลูกค้าเธอไม่คิดบริการหน่อยหรือไง ทีกับลูกค้าคนอื่นเธอยังบริการได้” หญิงสาวลุกยืน สีหน้าเครียด “เพราะตรีไม่อยากบริการพี่ไงคะ!” เขาหัวเราะลั่น แล้วสบตาอีกฝ่ายแววตาเยือกเย็น ก่อนผลักดันร่างบางให้ล้มลงบนโซฟา รมิตายกมือตนเองดันแผงอกอีกฝ่ายไว้ “ปล่อยนะพี่ปรัช พี่จะทำบ้าอะไร!” คนใต้ร่างเริ่มร้องโวยวาย เขาไม่ตอบ แต่กลับโน้มใบหน้าเข้าหาฉกชิมริมฝีปากอย่างรวดเร็ว มือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างภายใต้ชุดเดรสสีสด แล้วกอบกุมอกอวบไว้บีบเคล้นอย่างเมามัน “อื้อ!” คนถูกกระทำครางประท้วง พร้อมดิ้นรน ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปาก ควานหาความหวาน จนคนโดนกระทำสับสนมึนงงไปหมด มือหนาเลื่อนไล้ไปตามสะโพกมน แทรกผ่านชายกระโปรงเข้ามาแล้วลูบผ่านเนินเนื้อที่มีเพียงซับในบางเบากั้นเอาไว้ เธอดิ้นรนสุดชีวิต เขายอมปล่อยริมฝีปากเป็นอิสระ “อย่านะ ปล่อยฉัน!” รมิตาร้องลั่น แต่คนตัวใหญ่ไม่ได้สนใจเสียง มือจับขอบชุดเกาะอกด้านบน แล้วดึงรั้งลงมาอย่างรวดเร็ว จนเผยให้เห็นทรวงอกที่ถูกหอหุ้มด้วยบราเซียเกาะอกลูกไม้สีดำ เขาหายใจหนัก ก่อนสอดมือเข้าด้านหลังปลดตะขออย่างรวดเร็ว “กรี๊ด!” รมิตากรีดร้อง ทรวงอกคู่งามยอดบัวสีชมพูระเรื่อเผยต่อสายตา ปวรปรัชญ์หอบหายใจหนัก ก้มลงฉกชิม อีกข้างกอบกุมมันไว้แล้วบีบเคล้น “อ๊ะ!” หญิงสาวร้องคราง ชายหนุ่มนึกกระหยิ่มเมื่อได้ยินเสียงหวาน ลิ้นร้อนตวัดหยอกเย้ายอดบัว สลับข้างไปมา จนหญิงสาวเริ่มบิดเร่าด้วยความรัญจวน มือหนาเริ่มแตะแผ่วผ่านเนื้อผ้าบางๆ ทว่ามันกลับทำให้เจ้าของสะดุ้งผวา แล้วใช้เท้ายันกายเพื่อหนี “หยุดนะพี่ปรัช อย่าทำแบบนี้กับตรี!” รมิตาร้องห้ามอีกครั้งเมื่อได้สติ พยายามเบี่ยงกายหนี “หยุดห้าม หยุดพูด ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันให้เกียรติเธอมาตลอด ไม่เคยทำอะไรเกินเลย เพื่อรอให้เธอเรียนจบ แต่เธอกลับทำร้ายหัวใจฉันจบยับเยิน ทั้งที่ทำงานแบบนี้ แต่กลับทำเหมือนผู้หญิงไม่เคยมือชาย อย่าโกหกหน่อยเลย!” รมิตาดึงชุดตนเองเพื่อปกปิด มือยกปัดป้องด้วยความกลัว พี่ปรัชไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เธอกลับหนีไม่พ้นเงื้อมมือ เมื่อเขาเอาแต่ใจสอดแทรกนิ้วร้ายไปยังกลีบดอกไม้ หญิงสาวสะดุ้งเฮือกสีหน้าตื่นตระหนก ดวงตาเบิกกว้าง “ไม่นะ! กรี๊ด! ตรีกลัวแล้วพี่ปรัช อย่าทำตรีเลย!” ปัง! ปัง! เสียงทุบประตูดังลั่น ปวรปรัชญ์ชะงัก เห็นเพื่อนชายกำลังยืนอยู่ด้านนอก เขายอมผละห่าง รมิตารีบดึงชุดมาปกปิดร่างกายตนเอง ชายหนุ่มเหลือบมองเพื่อรอให้เธอจัดการตัวเองให้เสร็จ จากนั้นเดินไปเปิดประตูห้องให้เพื่อน ภูมิมองหญิงสาวที่กำลังสะอื้นอยู่บนโซฟา “นี่แกทำอะไรไอ้ปรัช!” ภูมิถามเสียงเครียด “ไม่ถามผู้หญิงคนนี้เองเลยล่ะ” เขาย้อน แววตาปวดร้าว ภูมิจ้องมองใบหน้า คิ้วเข้มขมวด แล้วระบายลมหายใจ รมิตากัดริมฝีปากจิกเล็บลงบนหลังมือจนเลือดซึม ก่อนลุกยืนแล้วจ้องมองเขาอีกครั้ง พร้อมวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ภูมิเท้าเอวสีหน้าไม่พอใจ “แกทำอะไรลงไปปรัช!” ปวรปรัชญ์ทิ้งกายลงบนโซฟา ยกมือลูบใบหน้าน้ำตารื้น ต่อให้เขาทำอะไรลงไป มันก็คงไม่สำคัญแล้ว เพราะยังไงตรีก็คงเกลียดเขาอยู่ดี ภูมิเห็นท่าทางเพื่อนแล้วอดเห็นใจไม่ได้ “ถึงตรีจะทำให้แกเจ็บ แกก็ไม่ควรไปทำกับเธอแบบนั้น!” “ฉันจะกลับล่ะ!” เขาตัดบทเพื่อน ภูมิถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอาใจไม่ถูกเลย “ก็ได้ กลับก็กลับ” ร่างสูงใหญู่ถูกพนักงานช่วยกันพยุงมายังรถ รมิตาแอบมองอยู่ด้านหลัง ริมฝีปากบางเม้มสนิท ก่อนสตาร์ทรถตนเองออกไป น้ำตาไหลอาบแก้มเนียน พี่ปรัชเปลี่ยนไปแล้ว ต่อจากนี้ไปเขาคงเกลียดและไม่มีวันอภัยให้เธอ ภูมิมองเพื่อนที่กำลังหลับใหลไปทั้งน้ำตาด้วยความสงสาร กระนั้นก็ไม่อาจช่วยอะไรได้เลย หกเดือนต่อมา.... รมิตายืนมองคนป่วยบนเตียง มือบางกำแน่นด้วยความเจ็บปวด อาการน้องเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ต้องลุ้นกันวันต่อวัน น้องอดทนได้มาถึงตอนนี้ก็นับว่าดีมากแล้ว บางครั้งเธอแทบแบกรับไม่ไหว เห็นน้องทรมานแบบนี้แล้ว หัวใจมันเจ็บไปด้วย เมื่อไหร่คนที่เธอเฝ้ารอ จะมาช่วยเหลือชัยให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ไปได้ “แม่ไม่อยากเห็นชัยทรมานแล้ว” คนเป็นแม่เปรยเสียงแผ่ว รมิตาชะงัก รีบทรุดกายลงกุมมือแม่ไว้ “แม่คะอย่าพูดแบบนี้ ชัยยังสู้อยู่เลย น้องอดทนมาได้ตั้งหลายเดือน ไม่แน่นะคะอีกไม่กี่วันเราอาจได้เจอผู้บริจาคก็ได้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD