“ว่าอย่างไรล่ะ อวี้หวงกุ้ยเฟย มีสิ่งใดก็พูดมาเถิด” อี้เหม่ยหรงมีท่าทางผ่อนคลาย ผิดกับอวี้ไป๋หลานที่ดูร้อนรน “เหล่าซิ่วหนี่ว์ที่มาคัดเลือกพระสนมในวันนี้นั้นคงมีแต่ผู้ที่งดงามเฉิดฉายดั่งโบตั๋นสินะเพคะ” อี้เหม่ยหรงมองสตรีผู้งดงามดั่งจันทราตรงหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย “ต่อให้งดงามสักเพียงใดก็มิอาจต้านกาลเวลาได้” คำพูดนี้ดั่งมีดแหลมคมที่เชือดเฉือนหัวใจของอวี้ไป๋หลาน นี่อี้ฮองเฮาตั้งใจหมายถึงเหล่าซิ่วหนี่ว์ หรือตัวนางกันแน่ “ฮองเฮาจะทรงใส่พระทัยอันใด ในเมื่อฮองเฮาจะอยู่ที่นี่แค่หนึ่งปีเท่านั้น หากจะกล่าวว่าฝ่าบาทและฮองเฮาเป็นสามีภรรยาร่วมผูกผมก็คงไม่ถูกต้องนัก” อวี้หวงกุ้ยเฟยหาได้รู้ตัวไม่ว่าเผลอกระแทกเสียงใส่ผู้ที่เป็นประมุขแห่งวังหลัง แต่อี้เหม่ยหรงหาได้ใส่ใจ “โบราณว่าไว้ คนงามหาง่าย ผู้รู้ใจหายาก ในวังหลังแห่งนี้มีโฉมสะคราญมากมาย และเพิ่มขึ้นทุกๆสามปี พวกนางอาจจะงดงามไม่สู้หวงกุ้ยเฟย แต่แน