สำรวจบ้าน

1353 Words
วราไขประตูรั้วบ้านเข้ามา บ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น สไตล์คลาสสิค ที่สภาพก็ดูคลาสสิคเหมือนสไตล์ เขาวางสัมภาระที่มีน้อยนิดเกินกว่าจะมีคำว่าภาระพ่วงท้าย ตัวเขายังดูเป็นภาระมากกว่าอีก บ้านหลังนี้มีรั้วรอบขอบชิด มีพื้นที่เป็นสวนไว้นั่งชิลระหว่างตัวบ้านกับกำแพงทั้ง 4 ด้าน จะปลูกต้นไม้หรือขุดบ่อเลี้ยงปลาก็ยังได้ " โอ๊ะ รสนิยมได้ว่ะ " วราพูดขึ้น พร้อมกับเดินสำรวจรอบบ้านก่อนที่จะเข้าไปสำรวจภายใน " บ้านอะไรวะ ใหญ่ชิบหาย " เขาพูดขึ้นในขณะที่เดินอยู่ข้าง ๆ บ้าน ซึ่งเขาก็ได้พบบางสิ่งที่แปลก ๆ นั่นก็คือ ที่ชั้น 1 นั้นไม่มีหน้าต่างสักบาน เขาจึงคิดว่าจะอ้อมไปดูอีกฝั่งด้วย เมื่อเขาเดินมาถึงหลังบ้าน ก็พบกับประตูรั้วอีกอันที่เหมือนกับหน้าบ้าน เขามองออกไป ก็ดูเป็นพื้นที่ร้างธรรมดา มีหมาเดินไปเดินมา แต่ดูแล้วเหมือนเป็นทางเดินผ่านของชาวบ้าน ประมาณทางลัดหรืออะไรอย่างนั้น วราเปิดประตูรั้วแล้วเดินออกไป หันไปทางขวาก็เจอถนนใหญ่ มีห้างสรรพสินค้า หันไปทางซ้ายก็เป็นบ้านคน " ที่โล่งจนเตะบอลได้เลยมั้ง " วราพูดจบก็เดินกลับเข้ามา และปิดประตูรั้ว ตรงกันกับประตูรั้วก็มีประตูหลังบ้านบานใหญ่ เป็นไม้แบบ 2 บาน แต่เขาเลือกเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อดูว่ามีหน้าต่างไหม แต่ก็พบว่าไม่มีเลย " แปลกชมัด " เขาพึมพัมกับตัวเองและเดินมาหน้าบ้าน หยิบกระเป๋าและสัมภาระขึ้น และไขประตูหน้าบ้านเข้าไป แต่เมื่อเปิดเข้ามาก็ตกใจขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาเจอเข้ากับ " กำแพง ? " วราคิด ใครหนอเขาช่างออกแบบบ้าน เปิดประตูหน้าบ้านเข้ามา ก็จะเจอเข้ากับห้อง ๆ หนึ่ง ทางซ้ายเป็นประตูบานหนึ่ง ทางขวาเป็นลิฟท์ " ลิฟท์ ? " เมื่อเจอลิฟท์เขาจึงเลือกที่จะสำรวจชั้นบนก่อน แต่เขาเอะใจขึ้นว่า ลิฟท์มันจะใช้ไฟจากไหน เขาจึงลองมองหาสวิทซ์ไฟ และเจอเข้ากับสวิทซ์ไฟทางซ้ายมือของเขา แป้ก ๆ !! เสียงกดสวิทซ์ไฟดังขึ้น " ไม่ติดจริงด้วย " วราพูดขึ้น จึงเปิดประตูทางซ้ายมือ เพื่อที่จะหาคัทเอาท์ แอ๊ดดด !!! " มืดตึ๊บ " เมื่อเห็นว่าหลังประตูมืดขนาดไหน เขาก็ขี้เกียจงมหาเองแล้ว จึงควักโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรออก ตรู้ด ตรู้ด " ฮัลโหล ว่าไง " มีเสียงตอบกลับจากปลายสาย " ปู่ ผมหาคัทเอาท์ไม่เจอ " วรายิงตรงเข้าประเด็นทันที " ผมไขประตูเข้ามาก็เจอลิฟท์กับประตูทางซ้าย " " เอ็งเปิดประตูทางซ้าย แล้วมันจะอยู่ทางขวามือเลย " ปู่เขาตอบกลับ " สวิทซ์ไฟก็อยู่ตรงใกล้ ๆ กันนั่นแหละ " วราจึงเปิดประตูบานเดิมอีกครั้ง และเอามือคลำไปทางด้านขวามือ ก็พบกับคัทเอาท์ แป๊ก !! เขาสับคัทเอาท์ขึ้น " เจอแล้วปู่ " กึง !! เสียงระบบของลิฟท์ทำงานขึ้น วรากดสวิทซ์หน้าประตูอีกครั้ง ไฟบนหัวก็ติดขึ้น " ติดหมดแล้วครับ งั้นแค่นี้นะครับ ผมขอสำรวจบ้านก่อน " วราบอกผู้เฒ่าที่อยู่ปลายสาย " เอ้อ สำรวจเสร็จก็โทรกลับมาอีกรอบแล้วกัน " ปลายสายสั่งพร้อมกดวางไป วราเดินขึ้นลิฟท์ เมื่อกดปุ่มระบบลิฟท์ก็รันตัวเองใหม่อีกครั้ง และประตูลิฟท์ก็เปิดออก " สงสัยระบบประหยัดพลังงาน " เขากดปิดลิฟท์แล้วเริ่มสำรวจที่ละชั้น ปรากฏว่าแต่ละชั้น เมื่อประตูลิฟท์เปิดก็จะเจอโถงโล่ง และมีห้องนอนใหญ่ 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว อยู่ทางขวา เป็นเช่นนี้ทั้ง 2 ชั้น แถมทั้ง 2 ชั้นก็ยังดูไม่สกปรก วราลงมาที่ชั้น 1 และเปิดประตูอีกบานเพื่อสำรวจ แป๊ก แป๊ก แป๊ก !!! พรึ่บ ๆ ๆ ๆ ๆ !!! ไฟค่อย ๆ เปิดขึ้นจนสว่างไสวไปทั่ว " โว้วว " วราอุทานเมื่อได้เห็นโฉมหน้าของบ้านชั้น 1 มันเป็นห้องโล่ง ๆ พื้นไม้มันวับ กำแพงและเพดานก็เป็นไม้เหมือนกับว่าเป็นไม้ปะหน้า ไฟแสงนวลตาส่องสว่างไปทั่ว บรรยากาศดูเป็นแนวโกธิค ๆ เก่า ๆ " สวยดีแต่โล่งจัด " เขาพูดพร้อมกับยกหูโทรศัพท์โทรหาปู่ " ปู่บ้านใหญ่จัดเลย ผมอยู่คนเดียวนะ " วราพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงรับสาย " ผมทำความสะอาดไม่ไหวหรอก " " ก็หาเมียดิ จะได้ไม่เหงา " ปู่สวนกลับ " ส่วนเรื่องทำความสะอาด จะมีบริษัทรับทำความสะอาดไปหาทุกอาทิตย์ " " ก่อนมีเมีย มีแฟนก่อนเถอะปู่ " วราตอบกลับ " แต่บ้านสวยดีนะปู่ ทำไมไม่มีคนอยากมาอยู่ " เขาเปลี่ยนเรื่อง " เอ็งอ่านจดหมายที่ปู่ให้ยัง " ปู่ถามขึ้น " ยังเลยปู่ " วราตอบกลับ " งั้นไม่ต้องละ ปู่เขียนไว้เผื่อเอ็งไม่โทรมา " ปู่บอก " ที่ไม่มีคนมาอยู่เป็นเพราะว่า พวกเขาจะได้ยินเสียงเหมือนคนเคาะหรือเขย่าประตูรั้วหลังบ้านประจำ ตอนแรกปู่ก็คิดว่าสิ่งลี้ลับ แต่พวกคนเช่าบอก จะได้ยินตั้งแต่เที่ยง ๆ ไปจนตี 1 ตี 2 ปู่เลยคิดว่าพวกนี้มันคิดไปเอง ผีบ้าผีบออะไร ขยันหลอกตั้งแต่เที่ยง ๆ แต่ก็อยู่กันได้ไม่กี่วันก็ขอย้ายออก " " พอเริ่มมีผู้เช่าขอย้ายออกเยอะ ๆ เข้า ปู่เลยไปหาทั้งพระทั้งร่างทรงดัง ๆ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ พวกลุงกับป้าแกก็ยุให้ทุบทิ้ง หรือขายทิ้งไปเลย แต่ทวดของแกสั่งไว้ว่าห้ามขายหรือทุบทิ้ง ปรับปรุง ซ่อมแซมได้ แต่ห้ามขายหรือทุบทิ้ง เลยทำให้ไม่มีใครอยากได้บ้านหลังนี้ ปู่ก็เลยบูรณะมันมาตลอด เอาลิฟท์ติดแทนบันได ต่อเติมไฟ อ๊ะ พูดถึงเรื่องไฟ ไม่ต้องห่วงนะ ปู่ติดแผงโซล่าเซลล์ไว้ให้แล้ว พร้อมติดกล้องวงจรปิด แต่ถ้ากลัวไม่ปลอดภัย ประตูก็เปลี่ยนเป็นแบบคีย์การ์ดก็ได้นะ " ปู่เขาร่ายยาว " แต่แกกลัวผีไหมเนี่ย " " ไม่หรอกครับ ไม่ใช่ไม่เชื่อนะครับ แต่คิดว่าเขาคงไม่มาอาฆาตเราโดยไร้เหตุผลหรอกนะครับ " วราตอบ " ฮ่า ฮ่า คนจิตใจดี ใจบุญสุนทานแบบแก ผีจะมาขอส่วนบุญบ่อย ๆ นะ " ปู่เขาเริ่มอำ " พวกเขาก็คงตอบแทนผม ด้วยการให้หวยมั้งครับ " วราหยอกกลับ " เออ ที่ปู่ตัดสินใจยกให้แก เพราะเห็นว่าชั้น 1 มันออกจะกว้าง ตอนเด็ก ๆ เห็นแกชอบทำอาหารนี่ ก็เรียกช่างมาปรับปรุง ทำส้วมเพิ่ม สั่งเฟอนิเจอร์อุปกรณ์ที่จำเป็น แล้วก็เปิดร้านอาหารที่ชั้น 1 มันซะเลยซิ " ปู่พูดขึ้น ปู่ยังคงจำได้ว่าเขาชอบทำอาหาร หรือเป็นเพราะว่าปู่เคยต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะกินอาหารของเขาตอนเด็ก ๆ เข้าไปนะเลยจำได้ " ฝึกก่อนแล้วค่อยทำให้คนกิน " นั่นคือคำที่ปู่พูดขึ้นในตอนนั้น " ครับ ไหน ๆ ก็มีเงินแล้ว ลองมันซะหน่อย " วราตอบกลับปู่ของเขา " ใช่ ลองทำดูเลย มีโอกาสแล้ว อย่าปล่อยผ่านไป " ปู่พูดขึ้น " แล้วก็ฝึกเยอะ ๆ ก่อนทำให้คนอื่นกินล่ะ " เสียงปลายสายพูดออกมา วรายกยิ้มมุมปากขึ้นมา ถึงแม้ปู่จะไม่รู้ว่าเขาทำอาหรเป็นแล้วก็เถอะ แต่ความอบอุ่นที่มี ไม่ว่าจะตอนนี้ หรือตอนไหน ปู่ก็ยังมีให้เขาเสมอ ๆ " ครับปู่ " วราตอบพร้อมรอยยิ้ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD