ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“นายหัวคะ คุณอชิรญามาแล้วค่ะ” สีหราชวางปากกาแล้วมองหน้าตวงจิต
“ให้เข้ามา”
“ค่ะ” ตวงจิตเดินออกไป เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ประตูบานไม้ถูกเปิดเข้ามาในห้องเจ้าของโรงเลื่อยไม้บุรินทรช้า ๆ ใจเธอเต้นตึกตัก ๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้เจอเจ้าของโรงเลื่อยไม้ที่โคตรรวยและมีอิทธิพลในย่านนี้
เท้าเล็กชะงักกึกเมื่อมองเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายที่มองมาทางเธออยู่แล้ว หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นว่าเป็นเขาคนนั้น
“คุณ…” สายตาเหลือบมองเห็นป้ายชื่อหน้าโต๊ะทำงานของเขา ‘สีหราช บุรินทร’ อชิรญาตัวชาวาบ หลายวันที่ผ่านมาเธอแอบคิดถึงเขาแต่ไม่คิดว่าจะได้มาเจอเขาที่นี่
“สีหราช หรือจะเรียกผมว่าสิงห์ก็ได้” บอกเธอเสียงเรียบเรื่อยเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรที่ได้เจอหน้าเธอ ทั้งที่ในระยะเวลากว่าสามเดือนที่ไม่ได้เจอกันเขาเฝ้าแต่ถามตัวเองว่าเขาเฝ้ารอผู้หญิงคนนี้ทำไม
“…”
“เชิญนั่ง” จากที่เอนหลังบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ เขากลับหยัดกายขึ้นนั่งตัวตรง อวดอกผายไหล่ผึ่งที่เธอจำได้ไม่เคยลืมว่าภายใต้เสื้อเชิ้ตสีเข้มนั้น อกข้างซ้ายของเขามันมีเจ้าสิงโตหน้าหน้าดุอยู่ด้วย แถมยังมีรอยแผลเป็นที่น่ากลัวนั่นอีก
“ฉันเอ่อ…ฉันขอสละสิทธิ์ค่ะ” คนตัวเล็กหันหลังให้และเตรียมจะก้าวขาออกจากห้อง
“คุณอยากทำงานไม่ใช่เหรอ” ถ้าคนที่ไม่อยากทำงานกับบุรินทรจริง ๆ ไม่มีใครยื่นใบสมัครงานทั้งที่รู้ว่าคุณสมบัติไม่ครบหรอก ร่างเล็กค่อย ๆ หมุนกายกลับมาสบตากับสายตาคมกริบคู่งามอีกครั้ง
“ค่ะ ฉันอยากทำงานที่นี่แต่ว่า…” เธอขี้ขลาดเกินกว่าจะทำงานร่วมกับเขาได้
“สามหมื่นห้ากับตำแหน่งนี้” เขาพูดเสียงเข้มขึ้น
“ทำไมมันเยอะจังล่ะคะ” ปกติพวกที่เรียนจบมาใหม่ กับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการเขาให้แค่สองหมื่นห้าพันบาทเท่านั้น
“ผมจะไม่ไปยุ่งกับงานของคุณ”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ผมตกลงรับคุณเข้าทำงานแล้วน่ะสิ หรือคุณอยากได้มากกว่านั้น” มือเรียวยาวหมุนปากกาเล่นไปพลาง ๆ
“มะ ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คุณจะไม่สัมภาษณ์ฉันหน่อยเหรอคะ” ที่ได้ยินมาสีหราชเป็นคนเรื่องมากกับการคัดเลือกพนักงาน แล้วไยสิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้ถึงได้ขัดกับเสียงนินทาเหล่านั้นนัก
“ผมดูจากประวัติคุณแล้ว ก็น่าจะไหวอยู่นะ อีกอย่างรู้ทั้งรู้ว่าโรงเลื่อยไม้บุรินทรไม่เคยรับหัวหน้าที่เป็นผู้หญิงเข้าทำงานแต่คุณก็ยังสมัคร ก็แสดงว่าคุณเป็นคนชอบเสี่ยง และชอบความท้าทายอยู่ไม่น้อย” ที่สำคัญเขารับรู้ได้จากที่เขาทำกิจกรรมร่วมกันกับเธอในค่ำคืนนั้น ทุกท่วงท่าที่เขานำพาเธอไป อชิรญาไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยปากขึ้นมาขัดใจเขาให้ขุ่นเคืองเลยสักครั้ง เธอเพลิดเพลินไปกับเขาและตามใจเขามาก
“…”
“…ผมชอบคนแบบคุณ และผมก็คิดว่าคุณน่าจะทำได้” สีหราชให้เหตุผลซึ่งก็ไม่รู้ว่าตรงกับใจตัวเองหรือเปล่า แต่สาวเจ้ากลับหน้าร้อนผ่าวขึ้นมากับคำว่า ‘ชอบ’ ของเขาเอาดื้อ ๆ
“ฉะ ฉันขอกลับไปคิดดูก่อนนะคะ” คนตัวเล็กพูดเสียงอ่อนลง งานก็อยากทำแต่ก็ต้องทนทำงานที่เดียวกันกับเขา แต่ก็คงจริงอย่างที่เขาบอกเธอว่า เขาคงไม่ค่อยมีเวลามาที่โรงเลื่อยไม้นักหรอก งานเขามีตั้งมากมาย ไหนจะต้องออกตรวจสวนยางพารา ไหนจะต้องออกพบลูกค้าเพื่อซื้อไม้ หรืองานอย่างอื่นอีกจิปาถะ เขาคงไม่ว่างพอที่จะมาตอแยพนักงานตัวเล็ก ๆ อย่างเธอนักหรอก
“อย่าคิดนานล่ะ ผมเป็นคนใจร้อน วันศุกร์ผมจะโทรไปถามว่าคุณพร้อมเริ่มงานวันไหน ถ้าคุณไม่ทำผมจะรับคนอื่นเข้ามาทำแทน” อย่างไรเสียสาวน้อยตรงหน้าก็ต้องพ่ายแพ้ลุงสิงห์จอมเจ้าเล่ห์อย่างเขา
“อย่าเพิ่งรับคนใหม่ได้ไหมคะ วันศุกร์ให้แผนกบุคคลโทรหาฉันอีกครั้งนะคะ” คนตัวเล็กยังสับสนไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี
“ครับ” ภายใต้แววตานิ่งเฉย ในใจสีหราชก็อดขำท่าทางตื่นตระหนกของสาวน้อยคนนี้ไม่ได้ ตอนนี้เธอดูไม่ต่างจากครั้งแรกที่โดนเขาแตะต้องไปทุกส่วนสัดในคืนนั้น มันช่างดูน่าขย้ำเสียนี่ แค่คิดน้องชายของเขามันก็ระรี้ระริกขยายตัวใหญ่ขึ้นจนเกินหน้านิ่ง ๆ ของพี่ชายมันจะแย่
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“เชิญครับ”
อชิรญาเดินออกไปสวนทางกับอาชว์ที่เดินเข้ามาพอดี เธอยิ้มแห้งให้เขาแล้วก็เดินตรงไปยังรถของเพื่อนที่จอดรออยู่
อาชว์อยากจะถามเจ้านายว่าผู้หญิงคนนี้มาทำอะไรที่นี่แต่ก็ต้องพูดเรื่องสำคัญก่อน
“นายหัวครับสวนยางพาราของเราถูกไฟไหม้ครับ” อาชว์กล่าวรายงานเมื่อพวกคนงานกรีดยางมาบอกว่าสวนยางพาราเสียหายเป็นจำนวนมาก
“เท่าไหร่?”
“ห้าร้อยกว่าไร่ครับ”
“รู้ตัวคนทำหรือเปล่า” แววตาคนถามมืดดำลงอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่รู้ครับ”
“…”
“หรือว่าจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ลอบทำร้ายนายหัวเมื่อเจ็ดปีก่อน” อาชว์สังหรณ์ใจชอบกลว่าจะเป็นพวกเดียวกันกับที่เคยลงมือฆ่านายหัวของเขา
“ก็อาจจะเป็นไปได้ มันคงย่ามใจที่เจ็ดปีก่อนเราจับมันไม่ได้ แถมยังปล่อยให้มันลอยนวล หรือไม่ก็คงมีคนเดียวที่ทำ เพราะเราไปกว้านซื้อยางพาราตัดหน้ามันจนหมด” ไม่ต้องเดาสีหราชก็พอจะรู้ว่าเป็นฝีมือใครที่คอยเลื่อยแข้งเลื่อยขาของเขาไม่เคยจบสิ้น มันคงคิดว่าเขาไม่กล้าทำอะไรคนอย่างมัน
“นายหัวคงไม่คิดว่าเป็นฝีมือของ…”
“ไอ้หิรัญ” แววตาสีหราชดำมืดลงกว่าเดิมเมื่อเอ่ยถึงชื่ออดีตเพื่อนรัก
“แล้วเราจะทำอย่างไรกันดีครับ”
“เดี๋ยวผมปรึกษาไอ้เสือก่อน” สีหราชหมายถึงน้องชายที่คลานตามกันมา ถึงเขาจะเป็นคนเด็ดขาด แต่จะทำการใหญ่ทั้งทีสองพี่น้องนี้ก็จะช่วยเหลือกันตลอด
“ครับนายหัว”
“…”
“แล้วยางพาราที่โดนไฟไหม้ให้ผมจัดการยังไงดีครับ” ก่อนหน้านี้สวนยางพาราของสีหราชเคยโดนไฟไหม้ แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะเสียหายมากเท่าครั้งนี้
“ที่ทำพาเลทไม่ได้แล้วก็เอามาเผาถ่าน” บอกลูกน้องเสียงราบเรียบเหมือนไม่ได้เครียดมากนัก แต่แววตาคนหน้าดุแฝงไว้ด้วยความแค้นอยู่ในนั้น เขาเคยใจดีมามากแล้วแต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรดีขึ้น ครั้งนี้เขาคงปล่อยผ่านไม่ได้
“ครับนายหัว”
“แล้ว…เด็กคนนั้นมาทำอะไรที่นี่หรือครับ” อาชว์อดไม่ได้ที่จะถามถึงผู้หญิงที่เคยร่วมเตียงกับเขา
“สัมภาษณ์งาน”
“สัมภาษณ์งาน?”
“ครับ”
“นายหัวคงไม่คิดที่จะ…”
“ผมคิด”
“นายหัวไม่กลัวเรื่องมันจะยุ่งยากเหมือนเมื่อคราวเจ็ดปีก่อนโน้นหรือครับ” ประกายตาคนถูกถามไหววูบเล็กน้อย คนถามก็รู้สึกเป็นห่วงเจ้านายหนุ่มเช่นเดียวกัน นานแค่ไหนแล้วที่สีหราชไม่เคยแม้แต่จะมองผู้หญิงคนไหนเลยตั้งแต่ผิดหวังกับคู่หมั้นคนก่อน
แต่กับเด็กผู้หญิงที่ชื่ออชิรญานี้ทั้งให้สืบประวัติทั้งรับเข้าทำงาน ถึงนายหัวจะไปบอกกับใครว่าไม่ได้สนใจเด็กคนนี้ก็คงไม่มีใครเชื่อ
สีหราชเก่งทุกเรื่อง เขาไม่เคยอ่อนโยนกับใครและสามารถยิงทิ้งได้หมดถ้าใครกล้ามากระตุกหนวดสิงโตอย่างเขา ยกเว้นกับผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเขารัก เขายอมให้ได้ทุกอย่างแม้แต่เรื่องที่ไม่ควรจะยอม
หรือว่าอชิรญาจะทำให้นายหัวของเขาติดใจเสียแล้ว แต่คนอย่างสีหราชผ่านอะไรมาตั้งมากมายไม่น่าจะมาติดใจเด็กแค่เรื่องเซ็กซ์