เขาขับรถวนอยู่สักพักจนหาร้านอินเทอร์เน็ตที่ถูกใจได้ ทั้งที่หัตถามีทุกอย่างแต่อชิรญาก็ยังไม่อยากรบกวนเขา
“อุ้ม…เราว่าเข้าร้านนี้ดีกว่านะ”
“เอาดิ”
ทั้งสองเดินเข้าร้านอินเทอร์เน็ตแล้วเลือกเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ข้างกันพอดี
“กี่เครื่องคะ”
“สองเครื่องค่ะ”
ทางเจ้าหน้าในร้านจึงเปิดคอมพิวเตอร์ให้ อชิรญาเริ่มกรอกประวัติในเว็บไซต์หางานต่าง ๆ หัตถาเองมีงานที่ต้องทำกับครอบครัวอยู่แล้วเพียงแต่เขาออกมาหางานช่วยเพื่อนเท่านั้น
“อุ้มลองสมัครงานของโรงเลื่อยไม้บุรินทรดีไหมหัต” คนถูกถามแววตากระตุกวูบเมื่อเพื่อนรักพูดถึงโรงเรื่อยไม้บุรินทร ที่แต่ไหนแต่ไรมาก็ยังเป็นคู่แข่งกับโรงเลื่อยไม้อนันต์มาโดยตลอด
“แต่เราไปอ่านมาเขารับแต่คนที่มีประสบการณ์นะอุ้ม และก็รับเฉพาะผู้ชายด้วย” หัตถาแย้งขึ้นทั้งที่เขาเคยแนะนำให้เธอสมัครงานโรงเลื่อยไม้อนันต์ของพี่ชายแต่เธอก็ปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเธอเอาความสนิทสนมเข้าทำงานกับเพื่อน
“แต่เราว่าสมัครไปก็ไม่เสียหายนะหัต”
“งั้นก็ลองดู” หัตถาไม่อยากขัดใจเพื่อนถึงอย่างไรโรงเรื่อยไม้บุรินทรก็ไม่นิยมรับผู้หญิงไปเป็นหัวหน้างานอยู่แล้ว อีกทั้งอชิรญาเป็นเด็กจบใหม่ด้วย ไม่มีทางที่เธอจะได้เข้าไปทำงานที่นั่นได้ง่าย ๆ
อชิรญาสมัครไปหลายบริษัท แต่ก็รู้สึกไม่มั่นใจเลยสักที่ ถึงเกรดเฉลี่ยจะสูงแต่ด้วยตำแหน่งงานที่เธอสมัครส่วนมากรับแต่ผู้ชายทั้งนั้น แถมรูปร่างของเธอยังบอบบางอีก แต่จะทำอย่างไรได้ก็ในเมื่อเธอชอบศึกษาด้านป่าไม้ คงมีสักที่แหละที่ถูกชะตากับเธอ
บ่ายคล้อยทั้งสองเพิ่งเดินออกมาจากร้านอินเทอร์เน็ต เพราะมัวแต่นั่งหางานจนลืมดูเวลา
“หิวข้าวว่ะอุ้ม” หัตถาบอกเธอใบหน้าบิดนิ่ว มือใหญ่ลูบคลำท้องตัวเองเบา ๆ เหมือนตอนนี้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารมันออกมารออาหารอยู่นานแล้ว
“งั้นเราไปหาข้าวกินกันก่อนค่อยกลับบ้าน โอเคปะ”
“ดีมากเลยล่ะ ตอนนี้เราหิวมาก ๆ”
“ร้านข้าวต้มตรงร้านเจ๊ตุ๊กดีไหม” ร้านข้าวต้มที่อยู่ก่อนจะถึงไฟแดงที่จะไปมหาวิทยาลัย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านอินเทอร์เน็ตมากนัก
“ก็ดีเหมือนกันเจ๊เขาทำกับข้าวอร่อยดี”
ว่าจบทั้งสองก็เดินตามกันมาจนถึงร้าน และสั่งอาหารมาสามสี่อย่างเพราะความหิว แล้วลงมือกินอย่างหิวโหย
รถกระบะสี่ประตูสีดำกำลังแล่นมาตามถนนชะลอความเร็วลงเมื่อคันข้างหน้าหยุดเพราะสัญญาณไฟแดงด้านหน้า สายตาคมกริบปราดมองไปเห็นสาวสวยหน้าหวานคนหนึ่งที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ริมทาง หนุ่มใหญ่ร่างโตก็จำเธอได้ทันที ผู้หญิงที่ทำให้เขานอนหมดแรงจนมาตื่นเอาเกือบเที่ยงของอีกวัน
ดวงตาสีนิลไหววูบเมื่อมองเลยไปยังผู้ชายผิวขาวหน้าหล่อที่นั่งอยู่ตรงข้ามหล่อน เขารู้สึกคุ้นหน้า แต่คิดไม่ออกว่าเคยเจอหนุ่มน้อยแต่ตัวโตคนนี้ที่ไหน
“เรื่องที่ผมให้คุณอาชว์ไปทำถึงไหนแล้วครับ” เอ่ยถามคนข้าง ๆ เสียงเรียบ แต่สายตายังไม่ละจากหนุ่มสาวที่นั่งกินข้าวคู่กันอยู่ริมถนน
“คนของเราเพิ่งแจ้งผมมาว่าใกล้ได้ข้อมูลครบแล้วครับ” อาชว์เองก็อยากรู้จักเธอคนนั้นเหมือนกัน เหตุใดสีหราชถึงได้ให้เขาตามสืบเรื่องผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วยเมื่อหลายเดือนก่อน
“เร็วหน่อยก็ดี” ปรายตาคมกล้ามองเธออีกครั้งก่อนที่อาชว์จะเคลื่อนรถออกจากตรงนั้นเมื่อสัญญาณไฟจราจรสลับจากสีเหลืองเป็นสีเขียว
“ดูนายหัวจะสนใจเธอเป็นพิเศษนะครับ”
“เปล่า แค่อยากรู้ว่าเธอเป็นใครถึงได้กล้ามาหลอกคนอย่างผม” น้ำเสียงไม่ได้แสดงว่าไม่พอใจที่โดนเธอหลอกเลยสักนิด ที่อาชญ์รับรู้ได้ในน้ำเสียงนั้นแทบจะเป็นความยินดีด้วยซ้ำที่โดนเด็กสาวคนนั้นหลอก
“เธอหลอกอะไรนายหัวเหรอครับ” หนุ่มมากวัยกว่ากลั้วขำในลำคอ ใครกันบังอาจมาหลอกนายหัวสีหราชผู้ทรงอิทธิพลในภาคใต้อย่างเขาได้ ถึงเด็กคนนั้นจะสวยสะดุดตาจนหาที่ติไม่ได้แต่สีหราชก็ไม่ใช่คนที่จะหลงเสน่ห์ใครง่าย ๆ
“เปล่า คุณอาชว์อย่ารู้เลย แค่ทำตามที่ผมบอกก็พอ” สีหราชไม่ใช่คนที่จะกินในที่ลับแล้วนำมาไขในที่แจ้ง อย่างน้อยเขาก็ให้เกียรติผู้หญิงทุกคนที่เขานอนด้วย ยิ่งผู้หญิงที่ผิวบอบบางอย่างเธอ แตะต้องไปส่วนไหนแรง ๆ ก็เกิดเป็นรอยแดงไปหมดด้วยแล้วเขายิ่งไม่อยากให้ใครรู้ในเรื่องที่เขารู้เพียงคนเดียวด้วยซ้ำ สิ่งเดียวที่เขาอยากรู้คือ เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใครและทำไมเธอถึงรับงานนี้
“ครับ” อาชว์ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก ทำงานกับสีหราชมานานนับสิบปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน มีหรือจะไม่รู้ว่านายหัวของเขาสนใจผู้หญิงที่ชื่ออชิรญามากกว่าคนอื่นที่เขาพามาในวันนั้น คนอย่างสีหราชไม่เคยอยากจะรู้แม้แต่ชื่อของผู้หญิงที่ตนนอนด้วย แถมผู้หญิงคนนั้นก็ทำให้เจ้านายหนุ่มผู้แข็งแรงของเขาคนนี้ต้องกินไข่ลวกไปตั้งหลายวัน
เย็นวันหนึ่งอธิปกำลังเดินเข้าบ้านหลังจากกลับจากกรีดยางด้วยความเหน็ดเหนื่อย
“พี่อธิป เงินค่าจ้างที่ได้มาพี่เอาไปไว้ไหน” ผกาขึ้นเสียงกับสามี อธิปจึงชักสีหน้า คนกลับมาจากทำงานเหนื่อย ๆ แทนที่จะหาน้ำหาท่ามาให้กลับถามถึงแต่เรื่องเงิน
“ฉันก็ขอเอาติดตัวไว้บ้าง เงินที่ฉันหามาได้ฉันก็ให้เอ็งหมดทุกบาท”
“ทุกวันนี้พี่แอบซ่อนเงินฉันเหรอ” วันนี้เป็นวันหวยออกเธอต้องจดหวยส่งเจ้ามือจึงไม่ได้ไปกรีดยางกับสามีด้วย
“ไม่ได้ซ่อน ก็บอกแล้วไงว่าขอไว้ติดตัวบ้าง เงินไม่ถึงห้าร้อยแล้วเอ็งจะอะไรนักหนาวะ”
“อย่าให้ฉันรู้ว่าพี่แอบเก็บเงินไปให้ยายอุ้มก็แล้วกัน ถ้าฉันรู้ฉันเอาพี่ตายแน่”
“เอ็งจะอคติกับอุ้มอะไรมันนักหนาวะ ที่เรามีบ้านอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เพราะเงินอุ้มหรอกเหรอ แกไม่คิดจะหาเงินช่วยลูกมันใช้หนี้บ้างเลยหรือไง หนี้สินที่อุ้มชดใช้ให้ก็เพราะแกกับยายอรก่อขึ้นมาทั้งนั้น” อธิปเริ่มโมโหกับความเอาแต่ได้ของภรรยา เงินหามาให้เท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ แถมเป็นหนี้คนอื่นอีกต่างหาก
“ก็สมควรแล้วที่มันจะช่วย จะได้ไม่ต้องเลี้ยงให้เสียข้าวสุก” คนอย่างผกาไม่เคยสำนึกรู้บุญคุณใคร ชีวิตนี้เธอกับลูกสาวคนเล็กถูกและดีเสมอ
“หุบปากของแกเดี้ยวนี้เลยนะผกา” ดรุณีพูดขึ้นมาด้วยความโมโหที่ลูกสะใภ้กล่าวถึงหลานรักแบบนั้น
“คุณแม่!” สองผัวเมียเอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจที่เห็นดรุณียืนอยู่ตรงนั้น
“อย่าได้ปากดีมาว่าให้หลานฉันอีก” แววตาของคนมากวัยแข็งกระด้างจนดูน่ากลัว
“คุณแม่ก็เข้าข้างหลานรักตลอด ไม่เคยเลยที่คุณแม่จะรักยายอรเหมือนกับยายอุ้ม”
“ฉันรักหลานของฉันเท่ากัน มีแต่ยายอรที่มันไม่รักฉันเอง บอกสอนอะไรก็ไม่เคยได้ เพราะมีแม่อย่างแกคอยให้ท้ายตลอด”
“ก็คุณแม่เป็นแบบนี้แล้วจะให้หลานมันรักลงเหรอคะ”
“ผกา!” อธิปปรามภายาเสียงดุ
“อ๊าย!” กรีดร้องออกมาด้วยความไม่พอใจแล้วสะบัดผมเดินออกไปนอกบ้าน
ดรุณีได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา ลูกสะใภ้คนนี้เกินจะเยียวยาจริง ๆ
“เมียแกยิ่งนับวันยิ่งเป็นเอามากนะอธิป”
“ผมก็ไม่รู้จะบอกยังไงแล้วครับคุณแม่” อธิปบอกแม่ด้วยท่าทางเหนื่อยใจ
ผกาเดินสวนทางกับอชิรญาที่เพิ่งกลับจากหางานเข้ามาพอดี
“คุณแม่จะไปไหนเหรอคะ”
“ไม่ต้องมาถาม”
อชิรญาได้แต่เดินทำหน้าเหวอเข้าไปในบ้าน เธอชินแล้วล่ะกับคำพูดของผู้เป็นแม่ ที่ถึงแม้เธอจะพยายามคุยดีด้วยแค่ไหนแต่เธอก็ตอบกลับมาแบบห้วน ๆ และใส่อารมณ์ทุกครั้งไป
“มีเรื่องอะไรกันเหรอคะคุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ถึงได้เดินหน้างอออกไปแบบนั้นคะ”
“เปล่าหรอก อารมณ์เสียที่พ่อไม่ให้ค่าแรงน่ะ” ทั้งสามเดินไปนั่งที่โซฟาไม้ตัวยาว
“แล้วไปหางานเป็นยังไงบ้าง มีที่ไหนน่าสนใจสักที่ไหม” อธิปถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง ถ้าเธอมีงานมีการทำ เขาก็คงเหนื่อยน้อยลง ที่สำคัญเขาจะได้ไม่ต้องห่วงเธอมากเหมือนก่อนหน้านี้ อย่างน้อยเธอก็พึ่งพาตัวเองได้
“สนใจหลายที่เลยค่ะพ่อ แต่ว่าเขาจะเรียกสัมภาษณ์หรือเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ” อชิรญาสมัครงานไปเป็นสิบที่ แต่ไม่รู้ว่าประวัติของเธอจะมีบริษัทไหนสนใจหรือไม่