บทที่3

1441 Words
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ควรทำให้น้องน้อยโกรธ เพราะความโกรธของเธอนั้นน่ากลัวพอๆ กับพายุก็ว่าได้ มันทำให้เขารู้สึกใจเสียไม่น้อย “อ้าย! เดี๋ยวก่อน!” สุดท้ายจึงตัดสินใจรั้งคนที่ตั้งท่าจะเดินลงจากรถไว้ ไม่อยากปล่อยเธอไปแบบนี้ ไม่อยากให้โกรธกันข้ามวันเพราะหากเขาปล่อยเธอไปตั้งแต่ตรงนี้ คงยากที่จะเข้าหาเมื่อถึงบ้าน “ยังโกรธพี่เรื่องเมื่อตอนบ่ายอยู่อีกเหรอครับ พี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกถ้าอ้ายไม่ชอบ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงง้องอนเต็มกำลัง จนปัญญาแล้วจริงๆเพราะไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นชอบหรือไม่ชอบอะไร ส่วนเขานั้นชอบทุกสิ่งที่เป็นเธอ “นะครับอ้าย อ้ายอย่าโกรธพี่เลยนะ พี่คงรู้สึกผิดไปจนตายถ้าอ้ายไม่ยอมให้อภัยพี่” มธุรสไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเหมือนเดิม เพราะเธอไม่รู้จริงๆ ว่าที่เขาพยายามทำทั้งหมดนี้เพื่ออะไรกัน ทำไปทำไม! “คุณหนึ่งไม่จำเป็นต้องมาขอโทษอ้ายหรอกค่ะ อ้ายก็แค่ลูกคนใช้ในบ้านคุณ ไม่ได้มีค่ามากพอขนาดที่คนอย่างคุณต้องลดตัวลงมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเลย” หากจะขอคงเป็นเรื่องเดียวเท่านั้นตอนนี้ คือขอร้องให้เขาเลิกยุ่งกับชีวิตเธอเสียที! เธอไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะยิ่งคิด มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าพอกับคนที่อยู่สูงกว่าอย่างเขา “อย่าดูถูกตัวเองอย่างนี้สิอ้าย สำหรับพี่อ้ายมีค่ามากกว่านั้น ไม่อย่างนั้นวันนี้พี่คงไม่หึงอ้ายจนเลือดขึ้นหน้าแบบนี้” คำว่า ‘หึง’ ของเขาส่งผลตรงต่อหัวใจทันทีที่ได้ยิน และดูเหมือนเขาจะยังทำให้ระบบการเต้นของหัวใจเธอสั่นไหวยังไม่พอ ถึงได้เอื้อมมากุมมือกันไว้ “มองตาพี่สิอ้าย แล้วช่วยบอกพี่ทีว่าอ้ายไม่รู้จริงๆ เหรอ ว่าทั้งหมดที่พี่ทำลงไป เพราะพี่คิดยังไงกับอ้าย…” คำถามนั้นทำให้มธุรสตัดสินใจเงยหน้าขึ้นตามคำขอ และสิ่งแรกที่ได้เห็นคือสายตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจแบบเปิดเผยอย่างที่ไม่เคยมีใครใช้มันมองเธอ “พี่ชอบอ้าย! ไม่รู้ว่าชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกทีพี่ก็ละสายตาจากอ้ายไม่ได้แล้ว โกรธทุกครั้งเวลาเห็นอ้ายไปส่งยิ้มให้คนอื่น อย่าว่าแต่รอยยิ้มเลย…แค่สายตาคู่นี้พี่ยังไม่อยากให้อ้ายไปมองใคร” “คุณหนึ่ง!” “พี่ชอบอ้ายจริงๆ นะครับ ไม่สนด้วยว่าสถานะของเราสองคนมันจะเป็นยังไง พี่ขอแค่อ้ายไม่เกลียดพี่ ให้โอกาสให้พี่ได้พิสูจน์ตัวบ้าง ได้ไหมครับ” คำขอของเขานั้นมันยากเกินกว่าที่เธอจะอนุญาตได้ ใช่เพราะรังเกียจ แต่เพราะความไม่เหมาะสมกันเลยต่างหาก เขาเหมือนเทวดาอยู่บนฟ้าขณะที่เธอมีค่าแค่ดอกหญ้าบนดิน ความไม่เท่าเทียมกันจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาไม่รู้จบ คนอื่นๆ อาจมองว่าเธออยากรวยทางลัดจึงเลือกที่จะจับหลานชายผู้มีพระคุณ ซึ่งหากเรื่องมันเลยเถิดไปไกลถึงขั้นนั้นเธอคงรู้สึกแย่มากๆ “อ้ายยังไม่ต้องตอบพี่ตอนนี้ก็ได้นะ พี่จะรอ…รอวันที่อ้ายพร้อม ถึงวันนั้นเมื่อไหร่พี่จะมาทวงคำตอบจากอ้ายอีกที” วัชระเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อคิดได้ว่าบางทีเขาอาจจะรุกอีกฝ่ายมากเกินไปหน่อย เรื่องแบบนี้คงต้องปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ของมันไปอีกสักหน่อย ระหว่างนี้จะเป็นหน้าที่ของเขาแล้ว ว่าจะทำให้อีกคนใจอ่อนแค่ไหน หวังลึกๆ ว่าสุดท้ายใจเธอจะคิดตรงกัน! คำสารภาพรักของวัชระเมื่อวาน ทำเธอนอนไม่หลับมาทั้งคืน ถึงแม้ว่าเขาจะให้เวลาได้คิดได้ตัดสินใจ แต่อย่างไรมันก็อดใจเต้นไม่ได้ทุกครั้งที่ได้สบตากัน เขาทำให้เธอไม่เป็นผู้เป็นคนเท่าไหร่ในเช้าวันนี้ มันเป็นมาตั้งแต่ที่เขาให้ของขวัญเป็นการขอโทษนั่นแล้ว ‘พี่อยากขอโทษอ้ายสำหรับเรื่องเมื่อวาน สวมติดตัวไว้นะครับ อ้ายจะได้คิดถึงพี่ทุกครั้งที่มองมัน’ คำพูดที่มาพร้อมสร้อยคอเส้นเล็กๆ ที่มีจี้เป็นรูปดาวคู่ทำให้เธอใจสั่นจนเกือบจับไข้ ไม่รู้ต้องโทษเขาที่ชอบเข้ามาทำให้ใจสั่นหรือโทษตัวเองที่ใจง่ายยอมนั่งนิ่งๆ ให้เขาสวมมันให้อย่างไม่ขัดขืนกันแน่ หญิงสาวคิดก่อนจะเผลอยิ้มให้กับตัวเองอย่างลืมตัว “น้องอ้ายครับ” จนเมื่อเสียงเรียกเบาๆ จากใครบางคนดังขึ้นเธอถึงรู้สึกตัว และก็พบว่ามีใครบางคนกำลังส่งบางอย่างมาให้กันอยู่ “พี่ชัย” เจ้าของร่างสูงในชุดทำงานเรียบร้อยที่กำลังยืนส่งดอกไม้ช่อเล็กมาให้กันนั้นคือคนๆ เดียวกับที่พี่ดาย้ำนักย้ำหนาว่าทางที่ดีไม่ควรเข้าใกล้ ซึ่งหากอีกฝ่ายไม่บอกเธอก็คิดจะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะสายตาของคนๆ นี้เวลาจ้องมองกันมันทำให้เธอกลัว “พี่ให้น้องอ้ายครับ” พิชัยเอ่ยขึ้นเมื่ออีกคนยังคงยืนนิ่งไม่ยอมเอื้อมมือมารับดอกช่อจากเขาเสียที ว่ากันว่าเด็กฝึกงานใหม่คืออะไรที่หอมหวานที่สุดในบริษัท มันทำให้เขาอยากลิ้มรสกลิ่นสาวแรกแย้มอยู่ทุกครั้งที่ได้เห็น และก็เป็นแบบนี้มาหลายปีจนกระทั่งปีนี้ที่ ‘เหยื่อ’ ดูเหมือนจะน่ากินมากกว่าปีไหนๆ มันทำให้เขาอดใจแทบไม่อยู่ อยากให้ถึงวันนั้นไวๆ วันที่ผู้หญิงตรงหน้าจะได้ร้องครวญครางไม่เป็นภาษาอยู่ใต้ร่างอันใหญ่โตของตน เหมือนกับเด็กฝึกงานคนอื่นๆ ในปีที่ผ่านมา “คะ…คืออ้าย…” ท่าทีคุกคามของอีกคนทำให้มธุรสเริ่มมองหาตัวช่วย แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสักคนกล้าพอที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเธอเลยสักคน อาจเพราะคนตรงหน้ามีตำแหน่งที่สูงกว่า ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่ใครๆ จะไม่กล้ายุ่ง เพราะกลัวผลกระทบในหน้าที่งานการ “น้องอ้ายรังเกียจพี่เหรอครับ” “มะ…ไม่ใช่นะคะ อ้ายไม่ได้รังเกียจพี่ชัยนะคะ” “ถ้างั้นก็พิสูจน์สิครับ แค่รับดอกไม้จากพี่ไป” ทำแค่นั้นมันจะพิสูจน์ได้จริงหรือ ว่าเธอไม่ได้นึกรังเกียจเขาอย่างที่เขากำลังเข้าใจผิดหญิงสาวคิดก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบดอกไม้ตรงหน้าเพื่อทำให้มันจบๆ ไป แต่ยังไม่ทันที่มือเธอจะได้สัมผัสกลับมีมือขอใครอีกคนคว้ามันตัดหน้าไปซะก่อน ใครบางคนที่เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่เริ่มต้นแต่ก็จำใจต้องข่มความโกรธเอาไว้เพราะอยากเห็นว่าอีกคนจะจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าด้วยตัวเองได้แค่ไหน แต่ว่าเขาคงจะหวังสูงเกินไป “กฎของที่นี่คือห้ามพนักงานมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันเด็ดขาด! ผมว่าผมแจ้งชัดเจนไปแล้วตั้งแต่ตอนเรียกประชุมครั้งก่อน หรือว่าวันนั้นคุณตื่นสายจนมาเข้าประชุมไม่ทันครับคุณพิชัย…” คำถามเรียบง่าย ทว่าสายตาที่จ้องมองอีกฝ่ายนั้นแทบจะเผาให้เป็นจุล มันทำให้คนที่อยู่ต่ำกว่าหลายขั้นรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาชอบกล “ปะ…เปล่าครับ คือผมเห็นว่าดอกไม้มันสวยดี น่าจะเหมาะกับน้องเขาก็เลยซื้อมาฝาก” แม้จะกลัวก็ยังหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองได้อยู่ แม้จะเป็นคำแก้ตัวที่ฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้นเลยก็ตาม! “ก็ถ้ามันสวยมากขนาดนั้นทำไมคุณไม่เก็บไว้ดูเองเสียล่ะครับ จะเอามายัดเหยียดให้กับคนที่เขาไม่เต็มใจที่จะรับทำไม!” คำพูดนั้นทำให้เกิดเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนรอบข้างได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่บ่อยนัก ที่จะได้เห็นท่าทีหงอยๆ ของผู้จัดการฝ่ายขายจอมกระล่อน “ผมไม่ได้…”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD