บทที่4

2310 Words
“เอาเป็นว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในบริษัทของผมอีก เพราะผมไม่ชอบคนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…คุณ!” วัชระคาดโทษคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างบอบบาง ที่ได้แต่ยืนแน่นิ่งไม่กล้าขยับไปไหนเพราะยังคงตกใจอยู่ “ไม่เป็นไรนะ” มธุรสส่ายหน้าแทนคำตอบก่อนจะชิงเดินเลี่ยงไปอีกทาง มุ่งหน้าสู่ที่ทำงานของตัวเองท่ามกลางสายตาของใครต่อใคร ที่ได้แต่มองภาพเมื่อครู่ด้วยความสงสัย แต่ใครเล่าจะกล้าถาม แต่ที่รู้แน่ชัดตอนนี้ คือเด็กฝึกงานที่ชื่อมธุรสคงไม่ธรรมดาแน่ๆ มธุรสตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ดาริกาฟังทันทีที่มาถึงก่อนที่อีกฝ่ายจะตัดสินใจเล่าเรื่องเกี่ยวกับนักศึกษาคนก่อนๆให้ฟัง “ที่จริงพี่ก็ไม่คิดจะเล่าเรื่องนี้ให้น้องอ้ายฟังหรอกนะจ๊ะ แต่พอเห็นว่าเราถูกไอ้ชัยมันหมายหัวไว้พี่ก็อดห่วงไม่ได้ ทุกปีจะมีนักศึกษาแบบน้องอ้ายนี่แหละจ๊ะมาฝึกงานที่นี่ และก็ทุกปีที่จะมีหนึ่งในนั้นไม่จบฝึกงาน…” อีกฝ่ายเล่ามาถึงตรงนี้ก็เงียบไป ก่อนจะเล่าต่อเมื่อตัดสินใจแล้วว่าอย่างไรซะก็คงต้องเล่า เพื่อให้อีกคนได้รู้จะได้ระวังตัวไว้ ทางที่ดีอย่าได้เข้าไปใกล้หมอนั่นเลยจะดีที่สุด “ส่วนหนึ่งก็ตั้งท้อง อีกส่วนก็ฆ่าตัวตาย…“ ความจริงที่ได้รู้ทำให้มธุรสตกใจจนแทบสิ้นสติ ก่อนที่จะเอ่ยถามถึงสิ่งที่สงสัยออกมา “ทั้งหมดเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นเหรอคะ” “ใช่จ๊ะ หมอนั่นน่ะปากหวาน ช่างเอาใจ ผู้หญิงกี่รายๆ ก็เสร็จเขาหมด ถ้าติดใจหน่อยก็หลอกฟันไปจนกว่าจะฝึกงานจบ แต่ถ้าเบื่อก็เฉดหัวทิ้ง บางคนมาประกาศหาความรับผิดชอบก็บอกปัด เห็นว่ามีญาติเป็นทนายดังก็เลยหลุดมาได้ตลอด นี่ถ้าไม่ติดว่ามีผลงานดีบริษัทก็คงไม่เอาไว้มาจนถึงวันนี้หรอกจ๊ะ” ความจริงที่ได้รู้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงผู้ชายคนนั้นมากขึ้นเป็นเท่าตัว อีกใจก็กลัวเขาจะเข้ามาทำร้าย เพราะดูจากสายตาของเขาที่มองตามกันมาเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าเขาคงไม่ถอยไปง่ายๆ แน่ “ไม่ต้องกลัวไปหรอก…ตราบใดที่ผมยังอยู่ จะไม่มีใครหน้าไหนมาทำอันตรายคุณได้ทั้งนั้น” ทว่าเสียงเข้มที่ดังขึ้นจากด้านหลังนั้นกลับทำให้ความกลัวของเธอค่อยๆ สลายหายไป ก่อนที่มันจะเปลี่ยนมาเป็นความสุขล้นเล็กๆ ที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ภายในใจแทน “ใช่จ๊ะ พี่เองก็อยู่ทั้งคน ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะดูแลอ้ายเอง” ดาริกาเองก็กำชับหนักแน่นสมทบผู้เป็นนาย เชื่อว่าลองเจ้านายออกปากเองแบบนี้ คงไม่มีใครทำอะไรน้องอ้ายของเธอได้อย่างแน่นอน ดาริกาคนนี้ขอฟันธง! เป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้วที่มธุรสรู้สึกถึงความปลอดภัยที่ได้รับมาจากดาริกากับวัชระที่ผลัดเปลี่ยนกันมาคอยอยู่ใกล้ๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเวลาที่ต้องเดินไปไหนมาไหนภายในบริษัท ต่างจากอีกคนที่ยิ่งนับวันก็ยิ่งคับแค้นใจ เพราะหาโอกาสที่จะเข้าไปหว่านล้อมแม่เด็กฝึกงานที่แสนพิเศษคนนั้นไม่ได้เลย แต่นั่นกลับไม่ได้ทำให้เขาคิดเปลี่ยนใจเลยแม้แต่น้อย ยิ่งได้ยากก็ยิ่งท้าทายคนอย่างไอ้ชัย คอยดูเถอะมึง ถึงเวลาเมื่อไหร่กูจะเอาให้ครางเหลืองเลยทีเดียว! และดูเหมือนโอกาสที่ว่านั้นจะมาถึงเร็วเกินคาดเพราะงานประจำปีของบริษัทถูกเลื่อนให้จัดเร็วขึ้นเพราะปีนี้หลายแผนกทำกำไรให้แก่บริษัทมากกว่าปีก่อนๆ รอให้ถึงคืนงานเลี้ยงนั่นก่อนเถอะ เขาจะเป็นคนแรก…ที่ได้ลิ้มลองแม่เดือนอ้ายแสนสวยคนนั้น! งานเลี้ยงขอบคุณพนักงานของบริษัทสร้างความตื่นเต้นแก่มธุรสไม่น้อย เพราะเธอไม่เคยมีโอกาสได้ออกมาเปิดหูเปิดตาในยามค่ำคืนเช่นนี้มาก่อน แสงสีรอบๆ กายนั้นจึงเป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาของหญิงสาวไปได้ในทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในงานเลี้ยงซึ่งถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูในตัวเมือง พร้อมกับเจ้านายที่วันนี้ดูหล่อมากกว่าวันไหนๆ “อย่าอยู่ห่างจากพี่เด็ดขาดนะอ้าย แล้วก็ห้ามดื่มเครื่องดื่มมึนเมาด้วย” วัชระกำชับสั่งถึงสิ่งที่เขาย้ำบอกสาวน้อยข้างกายมาตลอดการเดินทาง สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะเขาไม่ไว้ใจใคร อีกอย่างเดือนอ้ายของเขาวันนี้นั้นช่างดูอ่อนหวานน่ารักจนเขานึกโทษตัวเองที่ไม่น่าหาชุดสวยๆ นี่มาบีบบังคับให้เธอใส่ กว่าจะรู้ว่าตัวเองทำพลาดก็สายเกินแก้ สุดท้ายก็ทำได้แค่กำชับให้อีกฝ่ายอยู่ข้างๆ ห้ามไปไหน “ค่ะ คุณหนึ่ง” มธุรสรับปากเบาๆ เธอเริ่มชินแล้วกับสายตาของใครต่อใคร ที่มองมาทุกครั้งเวลาที่เห็นเธอไปไหนมาไหนกับเขา “คุณหนึ่งสวัสดีค่ะ น้องอ้าย! วันนี้แต่งตัวน่ารักจังเลยค่ะ” เป็นเสียงของดาริกาเองที่ดังขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะผละจากกลุ่มเพื่อนเดินตรงเข้ามาทักทายผู้เป็นเจ้านายกับน้องน้อยในปกครอง “พี่ดาเองก็สวยค่ะ สวยจนอ้ายเกือบจำไม่ได้แน่ะ” เด็กช่างพูดตอบรับก่อนจะขออนุญาตวัชระไปหาอะไรทานกับรุ่นพี่ที่เธอไว้ใจที่สุดซึ่งอีกฝ่ายก็อนุญาตก่อนที่เขาจะเดินเลี่ยงไปยังกลุ่มผู้บริหารบ้าง แต่กระนั้นสายตาก็ยังไม่วายคอยแอบมองคนตัวเล็กอยู่บ่อยๆ “คุณหนึ่งดูท่าจะหวงน้องอ้ายมากเลยนะคะ ขนาดยืนอยู่กันคนละฟากของงานแบบนี้ก็ยังคอยเอาแต่มองหาน้องอ้ายไม่ยอมหยุด” ภาพนั้นทำให้ดาริกาอดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่สรุปแล้วเป็นไปในทางทิศไหนกันแน่ แต่เธอมั่นใจว่าสำหรับเจ้านายแล้วมธุรสคงมีความสำคัญไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคงไม่ตามติดทุกฝีก้าวแบบนี้ แถมยังคอยกำชับสั่งให้เธอดูแลให้ดี อย่าเปิดโอกาสให้ใครหรืออะไรมาทำร้ายให้อีกฝ่ายได้ “พี่ถามได้ไหมคะ ว่าน้องอ้ายรู้สึกยังไงกับคุณหนึ่ง” จะเหลือแต่ก็ความรู้สึกของสาวเจ้านี่แหละ ที่เธอยังดูไม่ออกถึงต้องเอ่ยถาม “อ้ายไม่กล้าคิดอะไรกับคุณหนึ่งหรอกค่ะพี่ดา อ้ายกับเขาเราต่างกันเกินไปค่ะ” มธุรสเลือกที่จะตอบตรงๆ แม้คำตอบนั้นมันจะสวนทางกับหัวใจของเธอก็ตาม แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อมันคือความจริง วัชระดีเกินกว่าจะมีอยู่จริงในชีวิตของผู้หญิงธรรมดาอย่างเธอ “โถน้องอ้าย ความรักเป็นเรื่องสวยงามนะคะ ส่วนเรื่องของความต่างพี่ว่ามันแล้วแต่คนจะมองมากกว่า บางคนพยายามตามหาคนที่เพียบพร้อมสำหรับตัวเองทั้งชีวิตยังไม่มีโอกาสได้เจอเลย” ดาริกาให้ข้อคิดก่อนจะส่งยิ้มเป็นกำลังใจไปให้คนที่เอาแต่มองตัวเองเป็นสิ่งด้อยค่า หากแต่เธอไม่คิดเช่นนั้น และคิดว่าเจ้านายก็คงเช่นกัน คนทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเองกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครจะเลือกมองแบบไหน และสำหรับเธอผู้หญิงคนนี้ดีพอที่จะเคียงคู่เจ้านาย มธุรสใช้เวลาอยู่กับดาริกาตลอดทั้งงานจนกระทั่งเธอเริ่มชินกับบรรยากาศรอบๆ จึงขอตัวอีกฝ่ายเพื่อมาเข้าห้องน้ำ คราแรกดาริกายืนยันหนักแน่นที่จะมาเป็นเพื่อน แต่เพราะอีกฝ่ายถูกเรียกตัวกะทันหัน เธอจึงบอกปัดแล้วเดินมาคนเดียวเพราะไม่คิดว่าจะมีใครหรืออะไรมาทำร้ายเธอได้ ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายเช่นนี้ แต่เธอกลับคิดผิด… เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วพบเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนเข้า คนที่หายหน้าหายตาไปนานจนกระทั่งเขามายืนอยู่ตรงนี้ “พี่ชัย…” “กว่าจะมีโอกาสได้อยู่กับน้องอ้ายตามลำพังนี่ยากเหลือเกินนะครับ หรือต้องเป็นระดับผู้บริหารเท่านั้นน้องอ้ายจึงจะเปิดใจต้อนรับ” คำถามของเขาทำให้เธอชะงัก ไหนจะท่าทีคุกคามที่เขาแสดงออกตรงๆ นั่นอีก มันทำให้เธอตัดสินใจเบี่ยงตัวหลบแต่ก็ไม่พ้นเมื่อเขาขยับตามมาขวางทางไว้ ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสงามๆ หลุดมือ “จะรีบไปไหนล่ะครับ พี่อุตส่าห์มาดักรอตั้งนาน ใจคอน้องอ้ายไม่คิดจะอยู่คุยกับพี่หน่อยรึไง” เธอจะคุยหากที่นี่เป็นที่สาธารณะที่มีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่ใช่หน้าห้องน้ำที่ลับตาคนเช่นนี้ “อ้ายต้องรีบกลับไปในงาน พี่ชัยช่วยหลีกทางให้อ้ายได้ไหมคะ” แน่นอนว่าคำตอบของเขาคือ ‘ไม่!’ ไม่มีวันปล่อยให้หลุดไปไหนจนกว่าเขาจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ และจะต้องได้เดี๋ยวนี้ตอนนี้ด้วย! “ในงานน่าเบื่อจะตาย พี่ว่าเราสองคนไปหาอะไรสนุกๆ ทำกันดีกว่า พี่เปิดห้องเอาไว้แล้ว” คำพูดนั้นดูเหมือนจะเป็นคำบอกเล่ามากกว่าขอความเห็น เพราะทันทีที่พูดจบมือหนาก็เอื้อมมือกระชากต้นแขนเรียวเข้าหาตัวอย่างแรง ก่อนจะจัดการลากอีกคนให้เดินตาม “ไม่! พี่ชัยปล่อยอ้ายนะคะ อ้ายไม่ไป ปล่อย! ช่วย… อ๊ะ!!” เมื่อเห็นชัดถึงภัยคุกคามมธุรสจึงส่งเสียงร้องขึ้น แต่เสียงนั้นกลับดังไปไม่ถึงไหนกำปั้นหนักๆ ของอีกคนก็ซัดเข้ามาที่ท้องน้อยของเธออย่างแรง มันเกือบทำเธอทรุดไปกองอยู่กับพื้นหากไม่มีเขาพยุงเอาไว้ “เกิดอะไรขึ้นคะ! แล้วคุณผู้หญิง…” ทว่าแผนการกลับดูไม่ง่ายนักเมื่อจู่ๆ ก็มีพนักงานผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านมาแล้วเอ่ยถามขึ้น “ไม่มีอะไรครับ พอดีว่าแฟนของผมเธอเมานิดหน่อย นี่ก็ว่าจะพากลับบ้านไปพักผ่อน” แต่คนที่สามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์อย่างพิชัยมีหรือจะยอมปล่อยให้ใครมาทำลายแผนการของเขาได้ เขาบอกอีกฝ่ายด้วยท่าทีเป็นธรรมชาติในขณะที่อีกคนนั้นเจ็บจนไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรง ที่จะเปล่งเสียงออกไปขอความช่วยเหลือ “อ้อค่ะ ถ้าอย่างนั้นตามสบายนะคะ” เพราะไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำเรื่องร้ายแรงในโรงแรมของตน พนักงานสาวจึงเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง โดยไม่รู้เลยว่าการจากไปของเธอนั้นทำให้อีกคนน้ำตาตก ต่างจากพิชัยที่ยิ้มความมีความสุขเมื่อทุกอย่างมันเข้าทางเข้าไปหมด “ถ้าน้องอ้ายไม่ดื้อคงไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้ พี่ขอโทษนะครับ” เขากระซิบบอกคนในอ้อมแขนเสียงหวานก่อนจะค่อยๆ ประคองหล่อนไปที่ลิฟต์อย่างรีบเร่งระวังทุกฝีก้าวไม่ให้ใครสังเกตเห็น ขณะที่มธุรสกำลังตกที่นั่งลำบากอยู่นั้น ภายในงานเลี้ยงก็กำลังลุกเป็นไฟเมื่อจู่ๆ ผู้บริหารหนุ่มก็สั่งหยุดทุกอย่างพร้อมสั่งให้ทุกคนพากันออกตามหาคนที่จู่ๆ ก็หายตัวไป ไม่มีใครพบวี่แววเลยสักคน “ผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่คนเดียวจะหายไปโดยไม่มีใครรู้ใครเห็นได้ยังไง!” เสียงเข้มตวาดลั่นอย่างไม่คิดไว้หน้าใครหน้าไหนทั้งนั้น หัวใจของเขาร้อนรนเป็นอย่างมากเมื่อเผลอคิดว่าอาจเกิดเรื่องร้ายกับคนที่ห่างสายตาแค่ไม่กี่นาทีเธอก็มาหายตัวไป มันไม่ใช่เรื่องปกติเลย “พี่ชัยก็หายไปค่ะ บางทีพวกเขาสองคนอาจจะ…” ไม่นานเสียงจากพนักงานสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าไม่เพียงแต่แม่คนโปรดของเจ้านายเท่านั้นที่หายไป ยังมีคนที่หมายปองหล่อนอย่างพิชัยเองก็หายไปด้วยเช่นกัน นั่นทำให้อดคิดไม่ได้ว่าบางทีพวกเขาอาจจะไปด้วยกัน และถ้ามันเป็นเช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรเลย “นุชว่าพวกเขาอาจพากันไปต่อ…” “หุบปาก!” ทว่าเสียงเข้มของผู้ดำรงตำแหน่งท่านประธานที่ตวาดกันมานั้นทำให้เจ้าของเสียงอย่านุชรีตกใจจนหน้าถอดสี ไม่คิดว่าแค่คำพูดไม่กี่คำของตัวเอง มันจะทำให้เขาแสดงท่าทีโกรธจัดให้ได้เห็นขนาดนี้ “ได้เรื่องแล้วค่ะคุณหนึ่ง มีพนักงานเสริฟเห็นคนที่มีลักษณะเหมือนน้องอ้ายถูกผู้ชายอีกคนประคองขึ้นลิฟต์ไปค่ะ เธอบอกว่าผู้ชายคนนั้นอ้างว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนเมาหนักมาก แถมตัวผู้หญิงก็ยังไม่มีท่าทีขัดขืนก็เลยไม่ได้สงสัยอะไร…” เพียงพอแล้วสำหรับสิ่งที่รอคอยอยู่ วัชระสั่งให้ค้นหาเบอร์ห้องทันทีและก็ค้นพบโดยง่ายในเวลาเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ ต้องขอบใจอำนาจเงินที่ทำให้เขาทำได้ทุกอย่าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD