“ผมไม่สนว่าอ้ายจะเกิดหรือเติบโตมาแบบไหน ผมรักลูกสาวคุณน้า ได้โปรดเข้าใจเราสองคนด้วยเถอะนะครับ” วัชระยังคงไม่ยอมแพ้ ใช่ว่าจะไม่เคยเตรียมรับมือกับเสียงค้านของใครต่อใครมาก่อน แต่ไม่ว่าใครจะพูดยังไง เขายืนยันเหมือนเดิมว่าคนที่เขารักคือมธุรส
“ไม่ได้! เธอสองคนจะรักกันไม่ได้!” ทว่าเสียงของใครบางคนนั้นกลับดังขึ้นกลบทุกเสียงเข้าเสียก่อน เป็นคุณแสงฉายเองที่เดินเข้ามาใกล้ สายตาจ้องมองคนทั้งสามด้วยสีหน้าที่บอกให้รู้ว่าท่านกำลังโกรธจัด นึกไม่ถึงเลยว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังหวาดหวั่นนั้นจะเกิดขึ้นจริงๆ
“คุณย่า / คุณท่าน!”
“แกจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ย่าเห็นว่าเหมาะสมกับแกเท่านั้นตาหนึ่ง ส่วนเธอ…คงรู้ใช่ไหมว่าต้องสั่งสอนลูกสาวตัวเองยังไงให้สำนึกข้าวแดงแกงร้อนที่ฉันแบ่งปันให้!”ท่านกล่าวตัดบทโดยไม่รอให้มีใครได้พูดอะไรออกมาอีก เห็นชัดว่านี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องบ้าๆ นี้ ไม่ว่าอย่างไรเสียหลานชายของท่านต้องได้แต่งงานกับผู้หญิงที่คู่ควรที่สุด ซึ่งโชคร้ายที่คนที่ว่านั้นไม่ใช่เด็กมธุรส
“คุณย่า…”
“ไม่ต้องมีใครพูดอะไรทั้งนั้น ต่อไปนี้ฉันหวังว่าเธอสองคนจะไม่เข้าใกล้กันอีก ส่วนแกตาหนึ่ง…ถ้าไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้สองแม่ลูกนี่ถูกเฉดหัวออกไปจากบ้าน ก็ห้ามมาเหยียบที่เรือนเล็กนี่อีก!” คำสั่งนั้นถือว่าเด็ดขาดที่สุดเกินกว่าใครจะกล้าเอ่ยคัดค้านอะไรได้อีก
เพี๊ยะ!
สิ่งแรกที่มารดากระทำต่อกันคือฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของเธอเต็มแรงแม้ว่ามันจะเจ็บแต่มธุรสกลับไม่นึกโกรธมารดาแม้แต่น้อย
“ฉันขอสั่งห้ามไม่ให้แกเข้าใกล้คุณหนึ่งเด็ดขาด! ถ้ายังไม่เชื่อฟังก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่อีก!” ดวงมณียื่นคำขาด ไม่ว่ายังไงเธอจะต้องกันลูกสาวตัวเองให้ออกห่างจากหลานชายผู้มีพระคุณให้จงได้
“แม่!”
“ฉันเลี้ยงแกมาเป็นอย่างดี พร่ำสอนเสมอว่าให้รู้สำนึกถึงหัวนอนปลายตีนของตัวเองแล้วทำไมห๊ะอ้าย! ทำไมแกยังกล้าทำ!” ไม่คิดเลยว่าบุตรสาวที่เลี้ยงดูมาอย่างดีจะลืมตนแอบคบหากับคนที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่มีอะไรเหมาะสมกันเลยสักอย่าง นางรับไม่ได้ และจะไม่มีวันยอมปล่อยให้เรื่องบ้าๆ นั่นเกิดขึ้น
“ฮึก แม่อ้ายขอโทษ! แม่จ๋าแม่อย่าโกรธอ้ายเลยนะแม่” มธุรสได้แต่ทรุดนั่งกับพื้นทั้งน้ำตา สองมือพนมกราบแทบเท้าหวังจะให้มารดาให้อภัยกัน แต่ท่านกลับทำให้สิ่งที่ทำให้เธอสะอื้นหนักนั่นคือการสะบัดเท้าหนี ไม่ยอมรับคำขอโทษจนกว่าเธอจะทำตามคำสั่งกัน
คำสั่งที่มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังตายทั้งเป็น!
หลังจากนอนร้องไห้คิดทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆ มาตลอดทั้งคืนมธุรสก็ตัดสินใจได้แล้วว่าเธอจะขอหยุดความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับวัชระไว้แต่เพียงเท่านี้ ตามที่มารดากับใครหลายๆ คนนั้นต้องการ
คิดเช่นนั้นหญิงสาวจึงโทรนัดให้เขาออกมาพบกันข้างนอก ซึ่งเรื่องนี้มารดาของเธอเองก็รับรู้และไม่ได้ห้ามอะไรยามที่เธอบอกกับท่านว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะเจอกับเขา จากนี้ต่อไปเธอจะกลับไปเป็นลูกคนใช้เหมือนเดิม ส่วนเขาก็จะเป็นหนึ่งในเจ้านาย
‘รีบไปรีบกลับ ประเดี๋ยวแม่จะออกไปหาซื้อยามาไว้ทาให้’ คำพูดของแม่นั้นคือแรงใจให้เธอกล้าที่จะเผชิญหน้ากับคนที่จอดรถรออยู่ที่บริเวณปากซอย ก่อนจะพาตัวเองขึ้นรถมากับเขา ซึ่งจุดหมายปลายทางที่เขาจะพาไปนั้น ไม่อาจรู้เลยว่ามันจะไปจบลง ณ ที่แห่งใด
จนกระทั่งรถคันหรูค่อยๆ จอดที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง คนที่เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอดทางถึงได้เอ่ยขึ้น…
“พี่อยากอยู่กับอ้ายแค่สองคนเลยพาอ้ายมาคุยกันที่นี่ อ้ายไว้ใจพี่ไหม” หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยให้หน้าที่เดินเข้าไปจองห้องพักเป็นของเขาไป ไม่นานทุกอย่างก็เสร็จเธอจึงเดินตามแรงจูงของเขามาจนถึงห้องๆ หนึ่ง
“แก้มไปโดนอะไรมาอ้าย!” เสียงของคนที่ได้แต่กักเก็บความโกรธเอาไว้มาตลอดทางถามขึ้นทันที ที่มีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง
“น้ามณีเป็นคนทำใช่ไหม!” ความเงียบคือคำตอบที่ดังที่สุดเห็นจะจริงก็วันนี้ นั่นทำให้วัชระหมดสิ้นความอดทน ผละตัวออกห่างเตรียมจะกลับบ้านไปเอาเรื่อง คนที่ทำให้คนรักของเขาต้องเจ็บตัว
“พี่หนึ่งจะไปไหนคะ! อย่าไปนะคะ!” แต่ก็เป็นเธอที่รั้งเขาเอาไว้ เพราะไม่อยากให้เขากลับไปเอาเรื่องมารดา แค่นี้เรื่องมันก็วุ่นวายมากพอแล้ว เธอไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นอะไรร้ายๆ ขึ้นมาอีก
“มาห้ามพี่ทำไมล่ะอ้าย! เขาไม่สมควรทำกับอ้ายแบบนี้นะ!”
“อ้ายสมควรโดนค่ะ อย่าไปโทษแม่เลยนะคะ…” มธุรสเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา แม้เธอจะเจ็บแต่ความเจ็บปวดนี้คงไม่ถึงครึ่งของผู้เป็นแม่
“พี่ขอโทษที่ปกป้องอ้ายไม่ได้เลย พี่นี่มัน…”
“อย่าโทษตัวเองแบบนี้สิคะ อ้ายไม่เจ็บหรอกค่ะ จริงๆ นะคะ” แม้อีกคนจะยืนยันมาแบบนั้น แต่เขารู้ดีว่าเธอเจ็บ ใจเขาเองก็เจ็บ!
“พี่สัญญานะอ้ายว่าจะทำทุกอย่างให้คุณย่ายอมรับเรื่องของเราให้ได้” เขาย้ำก่อนจะคว้าคนรักเข้ามากอดไว้ เชื่อว่าสักวันทุกคนจะมองเห็นความรักที่เขากับมธุรสมีต่อกัน แม้ตอนนี้จะยังคิดหาวิธีทำให้ทุกคนได้เห็นมันไม่ออก แต่จะให้เลิกยุ่งกับเธอเขาไม่มีวันทำได้แน่
“อย่าเลยค่ะ” ทว่าคำตอบที่ดังกลับมานั้นมันทำให้เขาชาไปทั้งตัวเมื่อได้ยิน ไหนจะสายตาที่ว่างเปล่าของเธอ มันทำให้เขากลัว
“ทำไมล่ะอ้าย”
“อ้ายว่า…ให้เรื่องของเรามันจบลงแค่นี้เถอะนะคะ” มธุรสเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา แม้จะรู้ว่าทางออกนี้จะยิ่งทำให้เธอกับเขาเจ็บแต่แล้วยังไง เธอไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว ทุกอย่างมันไม่ควรเกิดขึ้นมาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ แต่เป็นเธอเองที่ดึงดั้นที่จะรักเขา ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าตัวเองไม่เหมาะสม และไม่มีวันจะเป็นที่ยอมรับของใครต่อใครได้
“ไม่นะอ้าย! พี่ไม่ยอมให้เรื่องของเรามันจบแบบนี้ ถึงอ้ายจะยอมแต่พี่ไม่ยอม! พี่รักอ้าย อ้ายได้ยินไหมว่าพี่รักอ้าย!” เพราะกลัวความสูญเสียที่อาจจะมาถึงเมื่อไหร่ก็ได้ทำให้วัชระกระชากอีกคนเข้ามากอดเอาไว้แน่น เขาไม่มีวันยอมรับเรื่องบ้าๆ นี่ ต่อให้นั่นมันจะเป็นความต้องการของเธอก็ช่าง
“พี่หนึ่ง…อื้อ! อย่าค่ะ! อย่าทำอ้าย!” รสสัมผัสที่รุนแรงกว่าทุกครั้งทำให้มธุรสเริ่มใจเสีย แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยปากห้ามริมฝีปากของเธอ กลับถูกครอบครองด้วยฝีมือคนรักอย่างรุนแรงเร้าร้อน
“อย่าห้ามพี่! เพราะพี่จะไม่หยุดจนกว่าอ้ายจะสัญญาว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้เราสองคนจะไม่มีวันปล่อยมือกัน!” หญิงสาวทำได้เพียงส่ายหน้าไปมาเท่านั้น เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไรสักคำก็ก้มลงมาปิดเสียงกันดื้อๆ กระทั่งเมื่อแผ่นหลังของเธอสัมผัสเข้ากับที่นอน สติที่เลอะเลือนไปไกลถึงค่อยๆ กลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง
“พี่หนึ่งอย่าทำแบบนี้!”