อลิซเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของท่านดยุคคริสเตียน เขากล่าวคำที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยินด้วยซ้ำ มันเหนือการคาดการณ์เอาไว้เล็กน้อย
ทั้งที่คิดเอาไว้ว่าเขาจะช่วยเธอแท้ๆ
ราเอลกล่าวจบเขาก็เดินขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจสายตาของเธอเลย
เป็นอย่างที่เจสันกล่าวเอาไว้สินะ...
เซออนปล่อยมือที่กำข้อมือของอลิซ มันมีรอยแดงช้ำเพราะการออกแรงที่มากกว่าปกติของเขา ในตอนนั้นเขากลัวมากจริงๆ กลัวว่าเธอจะตกบันได เขาจึงจำเป็นต้องออกแรงจับข้อมือของเธอเอาไว้
เธอมองสบตากับเซออน
นี่จะต้อง...กล่าวขอบคุณเขารึเปล่านะ
ถึงจะรู้สึกเจ็บที่ข้อมือแต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความอยากจะช่วยเหลือเธอออกมาจากใจของเขา
แต่ที่เธอเกือบจะตกบันไดก็เพราะเข้านะเฮ้ย!!
ดยุคแอรอนยกยิ้ม เพราะเขาเห็นสายตาที่ลูกชายและนักบุญหญิงมองสบตากัน มันทำให้เขารู้สึกเอ็นดูอย่างประหลาด
"อ๊า!! ข้าไม่ไหวแล้วค่ะ"
เสียงเดียวที่ปลุกอลิซให้ตื่นมาจากความคิดก็คือเสียงร้องครางจากสตรีผู้นั้นที่กำลังร่วมรักกับชายหนุ่มสองคนนั้นอย่างร้อนแรง
อลิซมองหน้าเซออนอีกครั้งก่อนที่เธอจะรีบวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว โดยมิได้กล่าวคำใดออกไป
พอเธอเข้าไปในห้องก็ไม่เจอท่านดยุคแล้ว.... นั่นมันดีมากๆ เลยเพราะว่าเธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจ
จริงอย่างที่เจสันว่าเอาไว้ ห้ามปล่อยตัวปล่อยใจไปกับคนไร้หัวใจอย่างเขาเด็ดขาด!!
วันแรกของการอยู่ที่นอห์ร่าก็ทำเอาเหนื่อยมากซะแล้ว
อลิซยกผ้าขนหนูขึ้นมาซับน้ำบนใบหน้า เธอรีบอาบน้ำอย่างไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
หนึ่งเพราะว่าอากาศที่หนาวเย็นและสองคือเธอกลัวว่าจะมีใครเข้ามา เธอสำรวจความเรียบร้อยในกระจกอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
ได้แต่หวังว่าจะซ่อมแซมโบสถ์ให้เสร็จในเร็ววัน เธอจะได้ไม่ต้องมาที่คฤหาสน์นี้อีก
"ข้อมือเป็นยังไงบ้าง?"
อลิซสะดุ้งกับคำกล่าวทักทายของเซออน เพราะเธอกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่
"หวาดกลัวข้าขนาดนั้นเลย?"
เธอถอนหายใจ
"มิได้เป็นเช่นนั้น ท่านกล่าวขึ้นมาเงียบๆ ข้าไม่ตกใจจนก้าวขาพลาดตกบันไดไปก็ดีเท่าไหร่แล้ว!!"
เซออนเดินเข้ามาหาเธอ เขาหยิบตลับยาขึ้นมาแล้วทามันลงที่ข้อมือของเธอเบาๆ
"เหตุใดถึงไม่คิดกล่าวขอบคุณกับคนที่ช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้"
อลิซขมวดคิ้ว พร้อมกับจ้องตาของเซออนอย่างไม่พอใจ
"ก็เป็นเพราะท่านไม่ใช่รึไง ท่านเป็นคนทำให้ข้าเกือบจะตกลงไป"
"ใช่ที่ไหนกัน เป็นเจ้าที่คิดจะทิ้งตัวลงไปเองต่างหาก"
เธออ้าปากขึ้นมาเพื่อจะเถียง แต่พอเห็นรอยยิ้มที่กำลังสนุกของเขาก็ทำให้เธอหุบปากลงพร้อมกับถอนหายใจ
"เถียงต่อสิ ข้าชอบนะ..."
เพราะมิเคยมีสตรีใดที่กล้าขึ้นเสียงกับเขาเลย มิเคยมีสตรีใดกล้าขัดขืนผู้สืบทอดตระกลูแอรอนผู้นี้ เป็นครั้งแรกที่เขามิอาจโอบกอดสตรีที่ต้องตาต้องใจได้อย่างที่ใจคิด
"ก็เพราะข้ารู้ว่าท่านชอบไง ถึงไม่เถียงแล้ว"
เซออนหัวเราะเบาๆ
เขาและเธอเดินเคียงข้างกันบนทางเดินที่ทอดยาวเพื่อจะไปทานอาหารเย็นที่ห้องโถง ที่นี่จะมีธรรมเนียม ทหารทุกคนจะต้องมาร่วมรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน อาจจะมีเหล้ารัมและไวน์นิดหน่อย
พวกทหารมีงบมหาศาลที่ถูกสนับสนุนโดยพระราชวัง แต่การมาอยู่ที่นอห์ร่ามิใช่เรื่องง่ายเพราะสภาพอากาศที่เลวร้าย ไหนยังจะมีปีศาจและข้าศึกที่พร้อมจะบุกเข้ามาตลอดเวลา
ทำให้ถึงจะมีเงินเดือนให้พวกทหารมากแค่ไหน ก็ไม่มีใครอยากจะมาประจำการที่นี่
ยกเว้นท่านพ่อของเขา....
ระหว่างท่านพ่อและท่านแม่มีเส้นบางๆ กั้นอยู่ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเส้นบางๆ นั่นมาจากไหน และไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีความสัมพันธ์ของท่านพ่อและท่านแม่ก็แย่เข้าขั้นสุด
ท่านพ่อเอ็นดูสตรีทุกคนบนโลกยกเว้นท่านแม่ ส่วนท่านแม่ก็ไม่พูดกับท่านพ่อมานาน นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ท่านพ่อมาขอประจำการที่นี่ยาวนานถึงหกปี และเขาก็ขอตามมาด้วยเพื่อมาหาประสบการณ์
เราเดินมาไม่นานก็ถึงห้องโถง เขาจับมือของอลิซอย่างถือวิสาสะเพื่อดึงให้เธอไปนั่งทานอาหารข้างๆ เขา
"ท่านควรจะปล่อยมือค่ะ ข้าจะไปนั่งทานกับเพื่อนของข้า!"
"ไม่เคยมีใครมานั่งที่โต๊ะนี้แล้วจะลุกหนีไปได้"
"อ่า เช่นนั้นข้าคงจะเป็นคนแรก"
อลิซกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปหาเซดี้และเจสัน
"ชอบรึไง?"
ดยุคแอรอนเอ่ยถามลูกชาย
"ครับ โดนใจอย่างจังเลย"
"พ่อคิดว่ากับสตรีผู้นี้เจ้าอาจจะต้องพยายามมากหน่อย ดูสายตาของนางสิ ไม่มองมาที่เจ้าแม้แต่น้อย"
"ท่านพ่อก็รู้ว่าลูกเป็นคนที่อยากได้สิ่งใด ก็ต้องเอามันมาให้ได้!!"
ดยุคแอรอนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มพร้อมกับหัวเราะ
"พ่อเอาใจช่วยลูกอยู่แล้วเซออน นางน่ารักดีนะ คนนี้พ่อให้ผ่าน"
"ดูสายตาที่ร้อนแรงที่กำลังมองมาทางเจ้าสิอลิซ ให้ตายเถอะเหตุใดถึงได้เดินมาพร้อมกับบุตรชายของดยุคแอรอนได้!!"
เซดี้กล่าวถามพร้อมกับส่งแก้วเหล้ารัมให้อลิซ
"เรื่องมันยาว เอาไว้ข้าจะเล่าให้ฟัง ว่าแต่เจสันไปไหน"
เซดี้ส่งยิ้มให้อลิซ พร้อมทั้งหัวเราะเบาๆ
"เขาถูกน้องสาวของเซอร์กาเบลสารภาพรักน่ะ"
อลิซยกมือขึ้นมาปิดปากพร้อมทั้งมองที่เวดี้
"ให้ตายเถอะ อยากไปแอบดูชะมัดเลย!!"
เซดี้ตีอลิซเบาๆ
"ได้ที่ไหนกัน นั่นไง เขามานู้นแล้ว!!"
เจสันเดินเข้ามาพร้อมกับมีเสียงแซวจากอัศวันและทหาร เขาถือช่อดอกกุหลาบเดินเข้ามาด้านใน ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามอลิซ
"ให้ตายเถอะเจสัน คิดไม่ถึงว่าท่านจะเสน่ห์แรงเช่นนี้ ตกลงคบกันรึยัง?"
"ข้ามิได้รักนาง ก็เลยปฏิเสธไป"
เจสันวางดอกไม้ลงข้างเซดี้ พร้อมกับยกแก้วเหล้ารัมขึ้นมาดื่ม
พวกทหารมีความเชื่อว่าหากดื่มเหล้าแล้วจะทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
"ความรักนี่ก็น่าปวดหัวเหมือนกันนะ ต้องใจตรงกันสินะถึงจะสามารถตกลงคบกันได้"
เซดี้หยิบดอกไม้พวกนั้นขึ้นมาดู
อลิซยกมือขึ้นมาเท้าคางมองไปที่โต๊ะกินข้าวด้านหน้าสุด ท่านดยุคคริสเตียนนั่งกินข้าวอยู่ เขาพูดคุยกับเคาน์เอเดนเล็กน้อย
"จะมีวันที่หัวใจของข้าตรงกับคนอื่นบ้างรึเปล่านะ ความรักหน้าตาเป็นยังไงกัน"
เซดี้และเจสันมองอลิซเป็นตาเดียว ก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะหัวเราะออกมา
"ดูสิเจสัน นางร่ำร้องหาความรักด้วยใบหน้าเช่นนั้นได้อย่างไรกัน ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ"
เจสันยกแก้วเหล้าไปชนกับแก้วของอลิซ
"เมื่อถึงเวลา ความรักที่ดีจะเดินทางมาหาเจ้าแน่นอน"
"แล้วข้าเดินทางไปหาความรักดีๆเองไม่ได้รึไง เหตุใดต้องรอให้มันเดินทางมาหาข้าด้วย!"
เซดี้ยกมือขึ้นมากอดคออลิซหลวมๆ
"วิ่งไปเลยอลิซ หากรู้ตัวว่าชอบใครก็วิ่งเข้าไปหาได้เลย หากว่าสมหวังข้ากับเจสันจะเป็นคนเลี้ยงฉลองให้เจ้าเอง"
"แล้วหากว่าผิดหวังล่ะ?"
เจสันเทเหล้ารัมใส่แก้วของอลิซ
"แน่นอนว่าพวกเราจะดื่มเหล้าปลอบใจเจ้าเช่นกัน"
อลิซยกแก้วเหล้ารัมขึ้นมาดื่มพร้อมกับหัวเราะร่า
"อ่า ดีจังแฮะ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยข้าก็ยังจะได้ดื่มเหล้ากับพวกเจ้า..."
เป็นเวลาดึกมากแล้ว พวกเราเมาจนแทบจะลุกไม่ไหว ทหารคนอื่นก็เช่นกัน บางคนถึงกับนอนอยู่ในห้องโถงอย่างไม่กลัวว่าจะแข็งตาย
ท่านเคาน์เอเดนมาพาเซดี้กลับไปนอนที่ห้อง
อลิซคิดว่าเธอกำลังเมาอย่างมาก แต่เธอก็ยังมองเห็นยามที่เซดี้และท่านเคาน์เอเดนสบตากัน แววตาของทั้งสองคนมันไปไกลกว่าแววตาของคนที่พึ่งรู้จัก
และเธอก็ว่าเธอเห็นแววตาที่กำลังเสียใจของเจสันด้วย
อ่า ความรักมันช่างซับซ้อนมากจริงๆ ด้วยสินะ
ในคราแรกเจสันจะส่งเธอกลับห้องแต่เธอรีบปฏิเสธ เพราะเธอเห็นดวงตาที่แดงก่ำราวกับกำลังจะร้องไห้ของเขา อลิซคิดว่าตอนนี้เจสันน่าจะอยากจัดการกับตัวเองมากกว่า
เธอพาตัวเองเดินมาเรื่อยๆ จนถึงทางเข้าคฤหาสน์ วันนี้พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงสว่างไปทั่งบริเวณ อลิซเดินเลยทางเข้าคฤหาสน์ไปหน่อย เธอนั่งลงบนทางเดินที่ปูด้วยหิน
สายตาของอลิซจับจ้องไปที่ทุ่งดอกคอสมอส ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
เธอจัดการฝากจดหมายไปให้ดัชเชสแอรอนเรียบร้อย และก็ไม่ลืมที่จะฝากจดหมายไปให้ไดน่าด้วย หลังจากสอบถามความเป็นอยู่ของไดน่ากับนีมและเคน พวกเขาทั้งสองคนบอกว่านางสบายดี ดัชเชสฝากเงินมาให้เธอด้วย หลายร้อยเหรียญทองเลยล่ะ
เป็นเงินจำนวนมากกว่าที่เธอไปหลอกต้มตุ๋นคนอื่นมาซะอีก
อย่างน้อยชีวิตในตอนนี้ของเธอก็ดีขึ้นนิดหน่อย ไม่ต้องคอยหลบหนีเหมือนเมื่อก่อน
เธอหลับตาลงก่อนจะทิ้งตัวนอนลงกับพื้น หิมะหยุดตกแล้วแต่อากาศก็ยังคงมีความหนาวเย็นอยู่ ที่พื้นนั้นยังคงปกคลุมไปด้วยหิมะ เธอมิได้เมาจนควบคุมสติไม่อยู่ เธอเพียงจะขอพักสายตาเพียงชั่วพักชั่วครู่เท่านั้นเอง
ร่างของเธอถูกยกขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยอ้อมกอดที่แข็งแกร่ง ที่มุมปากของอลิซยกยิ้มขึ้นมาจางๆ
เธอมิได้ลืมตาขึ้นมาแต่ก็สามารถรับรู้ถึงเจ้าของอ้อมกอดนี้
เพราะว่าเธอได้กลิ่นหอมเย็นๆ ของต้นสน