?พลอยร้อยเหลี่ยมเล่ห์?
?ผ้ายับที่พับไว้: เขียน
-------บทที่ 6
“อ่ะอีพลอยนี่กระเป๋ามึง” อีหลิวที่เพิ่งจะเดินมาพร้อมกับข้าวของพะรุงพะรัง วางถุงกระดาษในมือที่ตีตราแบรนด์ดังลงข้างๆ ฉัน นี่ก็คงจะเป็นกระเป๋าที่คุณอาชาสั่งมาให้ฉันล่ะสิ
“ขอบใจมึง” ฉันมองซ้ายมองขวาก่อนจะหันกลับมามองที่กระเป๋า ถึงอาชีพขายตัวจะถูกยอมรับจากคนบางกลุ่มแต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับมันนี่ จริงไหม ถึงยังไงฉันก็ยังไม่อยากให้ใครมารู้ว่าฉันขายตัว
“ทำไมมึงเอารุ่นเก่าจังวะ เป็นกูนะมึง จะฟาดรุ่นใหม่ๆ ให้เละเลย” อีหลิวพูดก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกับฉัน
“กูอยากได้อันนี้มาตั้งนานแล้วอะมึง ไม่คิดด้วยซ้ำว่าชีวิตนี้จะได้ใช้” ฉันว่าไปพลางหยิบเอากระเป๋าออกมาดู ของจริงสวยกว่าในแค็ทตาล็อกเยอะเลย รวมๆ ก็ถือว่าไม่แย่ถึงจะตกรุ่นไปแล้วแต่ถือก็ไม่กระดากมือเหมือนบางคนที่ใช้ของปลอม
“โอ๊ยอีโง่ รุ่นนี้มันเอาท์ไปตั้งนานแล้วค่ะ ทำไมไม่ถามกูก่อนวะ” กูไม่ได้โง่ค่ะอีหลิว แต่มืออาชีพเค้าไม่เผยเคล็ดลับให้ใคร ไม่ว่าใครทั้งนั้น ฉันตั้งใจเอารุ่นเก่าเพราะมันถูก ฉันว่าขายความโง่ ความใส ความซื่อให้กับคนอย่างคุณอาชาน่าจะช่วยประคองตัวเองให้เดินอยู่ในทางของเขาได้นาน คนฉลาดๆ แบบนั้นคงไม่อยากเสียเงินโดยใช่เหตุกับพวกเด็กขายตัว ผลาญเขามากๆ เสี่ยงโดนเขี่ยทิ้ง เอาแค่พอดีอย่าให้มันเกินตัวไปกว่าที่เคยมีก็พอแล้ว
“แล้วเป็นไงครั้งแรก ซี้ดป้ะ” อีหลิวยื่นหน้าเข้ามากระซิบถาม
“เจ็บเกือบตายสิวะ” ฉันละมือจากกระเป๋าก่อนจะหันไปตอบ
“ธรรมดาคุณอาชาน่ะไซส์ม้าของแท้ แด้ดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อของจริง กูยังเสียดายเลย เปย์ก็เปย์เซ็กส์ก็แซ่บ แต่เขาเด็ดขาดมากอะมึง ไม่เอาคือไม่เอาอย่าได้ไปตื้อเชียว กว่ากูจะติดต่อกับเขานี่นานอยู่เป็นปีๆ แต่ก็คุ้มนะเพราะกุก็ได้จากเค้ามาไม่ใช่น้อยๆ” อีหลิวมันเคยเป็นเด็กเขามาก่อน ฉันก็พยายามเก็บเรื่องที่มันเล่าเอามาประยุกต์ใช้เป็นแนวทาง
“เออมึง ถ้ากูจะไปหาหออยู่แถวมึงนี่ราคามันเท่าไหร่วะ” ฉันนึกอะไรขึ้นมาได้ก็เลยหันไปถามมันดู
“ก็แพงอยู่นะ แต่กูใช้เงินผัว มึงถามทำไม” อีดอกกูถามราคา ใช่เวลามาอวดผัวป้ะ
“กูอยากย้ายออกจากบ้านป้าแล้วว่ะ เบื่อ ทำงานไม่สะดวกด้วย” ก็อย่างที่รู้ฉันจะไปไหนมาไหนมันมันสะดวก ต้องมาคอยติดภารกิจก้นครัว
“โห อีพลอยเป็นเด็กเลี้ยงคุณอาชาแล้วมึงยังไปล้างผักอยู่อีกเหรอ”
“กูเลิกทำได้ที่ไหนล่ะ ขนาดกูบอกแล้วว่ากลับมืด ป้ากูยังดักตบเลย”
“โหดจังวะ” น้อยไปสิถ้ามึงรู้ว่ามันทำกับกูขนาดไหนแล้วจะหนาว ทำกับกูเหมือนว่ากูไม่ใช่คน
“เออไง” พูดแล้วก็โมโห อยากจะเผาให้มันวอดไปทั้งหลัง อยากจะฆ่ามันให้ตายๆ ไปเลย
“เอางี้มั้ย มึงก็ลองขอค่าเช่าบ้านจากคุณอาชาเค้าดู ไม่แน่เค้าอาจจะซื้อบ้านให้มึงก็ได้นะ” ไอ้คิดก็คิดอยู่หรอกนะ แต่ฉันเพิ่งจะเป็นมือใหม่ คุณเค้าคงไม่หลงฉันขนาดนั้น อีกอย่างถึงเค้าให้ฉันได้จริงๆ แต่ฉันจะตัดขาดจากป้ายังไง ป้าต้องตามราวีฉันไม่เลิกแน่ ยิ่งถ้ารู้ว่ามีเงินยิ่งต้องไม่ยอมจบ มีหวังได้มาไถเงินจากฉันอีกสิ
“เอาไว้คิดอีกที ขอบใจมากมึง” ฉันหันไปยิ้มขอบคุณอีหลิว มือก็ยังลูบคลำอยู่ที่กระเป๋าเสียดายจะสะพายไปไหนประเจิดประเจ้อไม่ได้กลัวคนรู้จักมาเห็นเข้า ยิ่งถ้าเป็นคนรู้เรื่องประเป๋าจะยิ่งแย่ เพราะเดี๋ยวก็คาบข่าวไปฟ้องป้าฉันอีก แล้วอีป้านี่ก็ยิ่งรอหาเรื่องฉันอยู่แล้วด้วย
Rrrrrr
-Daddy-
“แปบนะมึง คุณเค้าโทรมาว่ะ” ฉันหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องที่รับจากคุณอาชาขึ้นมา
“แหม เห็นมั้ยล่ะมีแต่ได้กับได้ เออๆ กูไปละเจอกันมึง”
“เคๆ” ฉันก้มดูที่หน้าจออีกครั้งก่อนจะกดรับสาย
“ค่ะ”
“ได้ของหรือยัง ฉันสั่งให้หลิวเอาไปให้แล้ว”
“ได้แล้วค่ะ สวยมากเลย ขอบคุณนะคะ” ฉันแกล้งทำน้ำเสียงตื่นเต้นเหมือนเด็กได้ของเล่น แต่จริงๆ คือก็ไม่ได้ขนาดนั้นป้ะ แค่กระเป๋าตกรุ่น
“อืม ชอบก็ดีแล้ว แล้ววันนี้ว่างหรือเปล่า” ฉันนิ่งเพื่อคิดแผนก่อนที่ไอเดียดีดีมันจะผุดขึ้นมาอย่างได้จังหวะ
“เอ่อ...ต้องดุก่อนนะคะ พอดีพลอยต้องกลับไปล้างผัก ล้างจานที่ร้าน ถ้าขอป้าได้ก็จะไป”
“อะไรกัน เงินที่ฉันให้เธอมันไม่พอหรือไง ทำไมยังต้อทำงานที่ร้านอีก” เขาคำรามลั่นทันที
“คือพลอยทิ้งงานตรงนี้ไม่ได้จริงๆ คุณเข้าใจพลอยนะคะ ครั้งที่แล้วพลอยกลับบ้านไม่ตรงเวลาโดนป้าซ้อมช้ำไปทั้งตัว”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง ฉันไม่ได้ให้เธอมีสิทธิปฏิเสธนะถ้าฉันต้องการเธอ”
“พลอยไม่ได้อยากปฏิเสธคุณเลยนะคะ พลอยดีใจมากที่ได้เงิน ได้ของจากคุณ พลอยก็อยากทำงานตอบแทนให้สมค่าแรง แต่กับป้าพลอยก็อาศัยบ้านเค้าอยู่ ถ้าพลอยไม่ทำงานเค้าก็จะไม่ให้พลอยอยู่ แล้วพลอยก็ไม่มีที่ไปที่ไหนอีกแล้ว พ่อแม่ก็ตายหมด ญาติคนเดียวที่เหลือก็มีแต่ป้านี่แหละค่ะ” คุณอาชานิ่งไปพักหนึ่งจนฉันเองก็เริ่มกลัวว่าจะเล่นใหญ่มากไป
“ถ้าฉันหาหอให้เธออยู่ เธอจะแยกออกมาจากป้าเธอได้หรือเปล่า” ก็แย่กว่าที่คิดไปนิดหน่อย นึกว่าเขาจะซื้อคอนโดให้ซะอีก แต่ก็เอาเถอะแค่ได้ออกไปจากบ้านเฮงซวยนั่นก็พอแล้ว
“ขอบพระคุณมากนะคะ ถ้ายังไงวันนี้พลอยจะหาโอกาสไปหาคุณให้ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไร ถ้าเธอไม่ว่างฉันก็ไม่ว่าอะไรก็แล้วกัน แต่ครั้งหน้าเธอจะเบี้ยวไม่ได้แล้วนะ ฉันเลี้ยงเธอไว้เพื่อสนองความต้องการของฉัน ไม่ได้เลี้ยงไว้ดูเล่น ฉันเสียเงินฉันก็หวังจะได้การบริการที่ดี ตรงนี้เข้าใจใช่ไหม?”
“เข้าใจค่ะ”
“แล้วอีกเรื่อง ถ้าสนใจจะฝึกงานบริษัทในเครือของฉัน ก็จัดการทำเรซูเม่ภาษาไทยและภาษาอังกฤษยื่นตรงไปที่ฝ่ายบุคคลได้เลย เดี่ยวฉันส่งเมลล์ให้” เอาวะได้ที่ฝึกงานเป็นบริษัทเค้าก็ไม่ธรรมดาแล้ว
“แล้วแบบนี้พลอยจะได้ฝึกแน่ไหมคะ”
“มันก็อยู่ที่ความสามารถเธอด้วย ฉันไม่ชอบคนที่ไม่มีความพยายาม ฉันทำได้แค่ยื่นโอกาสให้เธอเท่านั้น ส่วนเธอจะคว้ามันไว้ได้หรือเปล่า ตรงนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็เป็นพระคุณมากแล้ว”
“และถ้าเธอทำงานดี โอกาสที่จะเข้าเป็นพนักงานมันก็ไม่ยากแล้ว” อนาคตของฉันกำลังส่องแสงเปล่งประกายเข้ามาแล้ว หึ พอกันทีกับชีวิตเฮงซวย ต่อไปนี้อีพลอยก้นครัวจะไม่มีอีกต่อไป