10

1020 Words
หลังจากเซ็นสัญญา คนที่พร้อมบริจาคเลือดก็เดินตามพยาบาลไปในทันที รุ้งรมิดาแทบทรุด เธอทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง ทั้งห่วงใยลูกน้อยสุดหัวใจ ทั้งตกใจที่เจอกฤตินที่นี่ เธอหนีเขามาหลายปี ไม่คิดว่าพอจะเจอกันก็ง่ายขนาดนี้ ลูกน้องของกฤตินยืนคุมเชิงเอาไว้ นั่นทำให้เธอรู้สึกกดดันเล็กน้อย เธอจึงเปลี่ยนจากการนั่งเป็นเดินวนไปเวียนมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน “ลูกชายของคุณพ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ” ประโยคของคุณหมอสร้างความดีใจให้แก่รุ้งรมิดาเป็นอันมาก แต่สิ่งที่เธอต้องเผชิญหน้าหลังจากนั้นน่ะสิ “ฉันจะย้ายลูกของเราไปที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุดของหาดใหญ่” เขาหมายถึงอำเภอที่เจริญที่สุดของสงขลา ไม่ไกลจากเบตงมากนัก “และเราจะต้องคุยกันยาว” รุ้งรมิดากลืนน้ำลายลงคอ เธอตื้อไปหมดจนพูดอะไรไม่ออก ในเวลานี้เขาจะทำอะไร เธอไม่มีสิทธิ์จะขัดขืน การย้ายลูกชายอย่างรพัฒน์ไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของหาดใหญ่ ทำให้ลูกชายของเธอมีหมอและพยาบาลที่ดีคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง “คุณตินจะให้ฉันตอบแทนคุณอย่างไรคะ อุ๊ย!” เมื่ออยู่กันสองคน ประโยคคำถามจากปากของรุ้งรมิดาก็เอ่ยขึ้นในทันที แต่เขาก็กระชากเธอเข้าไปหาด้วยสายตาดุดัน ท่าทีดูโกรธ ๆ ของเขาทำให้เธอหัวใจเต้นรัว “หนีมาทำไม” “คุณตินแต่งงานแล้ว จะให้รุ้งอยู่ในฐานะอะไรคะ” เธอพูดกับเขาอย่างอัดอั้นตันใจ “ใครบอกเธอว่าฉันแต่งงาน” “รุ้งไม่ได้ตาบอดหรือหูหนวกนะคะถึงจะไม่รู้ไม่เห็น” “แล้วก็ไม่ถาม” เขาไม่ได้บอกเธอเพราะแต่งแล้วก็ต้องเลิกกัน เขาคิดว่าเธอไม่รู้ แต่เธอรู้ ยอมรับว่าตัวเองผิดที่ไม่บอก แต่ไม่อยากให้คิดมากถึงไม่บอก เขาก็มีเหตุผลของเขา พวกผู้หญิงชอบคิดมาก โวยวาย ถ้าไม่มีผลอะไรกับชีวิต ไม่รู้จะดีกว่า เขาตัดปัญหาไม่บอก คิดแค่นั้นจริงๆ ในตอนนั้น “จะให้ถามอะไรคะ จะให้รุ้งเรียกร้องอะไร ก็รุ้งเป็นแค่เมียเก็บ” “แสดงว่าอยู่ด้วยกันไม่รักกันเลยใช่ไหม” เขาถามเสียงเข้ม ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก “ถ้ารุ้งรักคุณตินแล้วมีความหมายอะไรคะ” เธอเอ่ยถามเขาทั้งน้ำตา “มีสิ เพราะถ้าเธอรักฉันสักนิด เธอจะไม่หนีหายไปจากฉันไง” “แล้วจะให้รุ้งทนได้เหรอคะ คุณกำลังจะแต่งงาน” “ฉันยอมรับว่าจะแต่งงาน แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด” “ไม่ใช่แล้วยังไงคะ” เธอเอ่ยถามเขาอย่างอัดอั้นตันใจ ห้าปีที่ต้องเก็บกักความทรมานเอาไว้ ความคิดถึงที่มีให้แก่เขาก็มากล้น แต่ก็ต้องเก็บเอาไว้ต่อไป เธอไม่สามารถอยู่เคียงข้างเขาได้ “ฉันกับเขาไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เราเลิกกันในภายหลัง” “ก็แม่ของคุณบอกว่าคุณกับเธอรักกันมาก แถมเธอก็ยังท้องกับคุณอีก” เธอยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อหลุดประโยคนี้ออกมา เธอไม่อยากเอ่ยถึงมารดาของเขาให้ต้องรู้สึกไม่ดีกันอีก “คุณแม่อย่างนั้นเหรอ” กฤตินเอ่ยถาม เขากลับมาจากงานแต่งก็ไม่เจอเธอ พบแต่จดหมายขอบคุณและขอไปตามทางของตัวเอง เขาทั้งตกใจทั้งเสียใจที่เธอหนีเขาไป จึงให้ลูกน้องควานหาตัวเธอจนทั่ว แต่ก็ไร้วี่แวว หลายปีมานี้เขาต้องทนทุกข์ใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ที่หญิงสาวที่รักจากลา ในขณะที่เธอไม่เคยส่งข่าวหรือแสดงตัวให้เขาได้หาตัวเจอเลย มันทรมานเหลือเกินกับความรู้สึกนี้ สายตาของเขาที่มีแต่ความทรมานทำให้เธอรู้สึกตกใจ เขาจะทรมานไปทำไมกัน ก็ในเมื่อเขาแต่งงาน “คุณกับเธอไปกันไม่รอดเหรอคะ” เธอหลุดประโยคคำถามออกมา หลายปีที่ห่างกัน เธอกับเขาจากกันโดยไม่ได้ร่ำลาไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย “ความจริงนรีกานต์เขามีคนรักอยู่แล้ว แต่ครอบครัวพวกเราอยากให้แต่งงานกัน เราก็เลยจำต้องแต่งงานกันเพราะธุรกิจ พอแต่งงานก็หย่ากันในภายหลัง เขาก็ไปอยู่กับผู้ชายที่เขารัก ส่วนฉันก็โดนเมียทิ้ง” “คะ” เธอหลุดอุทานออกมา ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนั้น “ฉันไม่ได้บอกเพราะไม่อยากให้คิดมาก คิดว่าทุกอย่างเรียบร้อยจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง และนรีกานต์ก็ไม่ได้ท้องกับฉันด้วย” “ไม่เห็นคุณบอกรุ้ง” รุ้งรมิดาครางออกมา “ก็แล้วทำไมไม่ถาม อยู่เหมือนไม่รู้อะไร ก็เลยปล่อยให้ไม่รู้ไปก่อน กลัวคิดมาก” เรื่องแค่นี้ทำให้เธอกับเขาต้องห่างกันถึงห้าปี “แต่แม่ของคุณ” เธอกล้าเอ่ยถึงมารดาของเขา เพราะท่านไม่ชอบเธอ “แม่ของฉันทำไม” มารดาของเขาเสียแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้เอ่ยออกมา “แม่ของคุณบอกว่าคุณรักคุณนรีกานต์ พวกคุณเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน แต่คุณไม่กล้าบอกรุ้งตรง ๆ ท่านเลยมาบอกแทนคุณ ที่คุณหายไปเพราะอยากให้รุ้งสงสัย ตามสืบและรู้เอง ว่าคุณไปแต่งงาน จะได้ตัดใจจากคุณซะ” “แม่มาหาเธอเหรอ” เขาถามตรงประเด็น “ใช่ค่ะ แต่ท่านไม่ได้ด่าว่าทุบตี ทำร้ายอะไรรุ้งหรอกนะคะ แถมยังให้เงินรุ้งมาอีก รุ้งบอกคุณตรงๆ ว่ารับเงินจากแม่ของคุณมา” เธอบอกเขาตามตรง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD