9

1005 Words
“ไม่ได้บอกใช่ไหมล่ะ” พอเห็นว่าหญิงสาวที่นั่งนิ่งเป็นใบ้กินอยู่ไม่ตอบก็รู้ว่าไม่ได้บอก ทำให้คุณนายกชกานต์รีบขยี้ปมในใจของรุ้งรมิดาในทันที “ฉันก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่งไปใช้ชีวิตใหม่จะได้ไม่ลำบากมากนัก อย่างน้อยเธอก็คอยดูแลลูกชายของฉันมาหลายปี แต่ถึงเธอจะอยู่กับลูกชายฉันต่อไป เขาก็ไม่มีทางยกย่องเธอขึ้นมาเหนือหญิงอื่นแน่นอน ถ้าเขาจะยกย่องเขาก็คงทำไปแล้ว ไม่รอมาจนถึงตอนนี้ ฉันพูดแบบนี้เธอคงเข้าใจใช่ไหม” “ค่ะ” รุ้งรมิดารับคำ “ก็ดีที่เธอเข้าใจอะไรง่าย ๆ แบบนี้” “หนูขอเวลาอยู่ดูแลคุณตินก่อนที่คุณตินจะแต่งงานได้ไหมคะ” “เธอรับปากว่าจะไป” กชกานต์เอ่ยย้ำ “แน่นอนค่ะ ถ้าคุณตินไม่ต้องการหนูแล้ว หนูก็คงต้องไป อีกอย่างคุณตินก็กำลังจะแต่งงาน กำลังจะมีลูก จะมีครอบครัวที่ดี มีผู้หญิงที่คู่ควรอยู่เคียงข้าง หนูก็ควรที่จะดีใจกับคุณตินด้วยอย่างที่คุณนายบอก” “ดี ฉันจะให้เวลาเธอตามที่ขอ ตินแต่งงานเมื่อไหร่เธอก็ไปจากเขาซะ นี่เช็คเงินสดหนึ่งล้านบาท ฉันคิดว่าคงพอจะทำให้เธออยู่ได้อย่างสบาย” ให้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น เธอไม่เรียกร้องเพราะรู้ตัวเองดีว่าไม่ได้มีค่าขนาดนั้น หลังจากที่คุณนายกชกานต์กลับไปแล้ว รุ้งรมิดาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา หากกฤตินต้องการแต่งงาน แสดงว่าเขารักผู้หญิงอีกคน เธอไม่ใช่คนที่มีนิสัยอ่อนแอ ร้องไห้คร่ำครวญเรียกร้องความสนใจอะไรจากใคร ดังนั้นเธอจะไปจากเขาเงียบ ๆ และดูแลเขาให้ดีตลอดระยะเวลาก่อนที่เขาจะแต่งงาน เพราะเจียมเนื้อเจียมตัวดีว่าตนนั้นเป็นใคร มีค่าแค่ไหนในสายตาเขา เป็นครั้งแรกที่เธอร้องไห้เพราะความรัก อาจเพราะเธอรักเขาข้างเดียว ทำดีทุกอย่างเขายังไม่เคยเอ่ยปากบอกรัก ก็แสดงว่าไม่มีใจ แล้วเธอจะทนบากหน้าเป็นเมียลับของเขาอยู่อีกทำไม หากเมียแต่งของเขารู้ก็คงช้ำใจ เธอเห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกัน รุ้งรมิดาดูแลกฤตินอย่างดี ปรนนิบัติเขาให้ดีที่สุด แต่ช่วงนี้เขาไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับเธอ บอกแค่ว่ามีธุระต้องไปจัดการ แท้ที่จริงแล้วเขาออกไปหาอีกคน รุ้งรมิดาปิดปากเงียบ เพราะรับปากกับมารดาของเขาเอาไว้แล้ว เธอเป็นคนรักษาสัญญา และจะไม่ผิดคำพูดอย่างแน่นอน คนใจช้ำมองพิธีวิวาห์หวานชื่นของผู้ชายที่รักกับผู้หญิงอีกคนทั้งน้ำตา เธอแอบมาดูพิธีแต่งงานของเขากับนรีกานต์ พิธีแต่งงานที่เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิด มามองเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากลา ค่ำคืนนี้ไปกฤตินคือสามีของผู้หญิงที่ใส่ชุดเจ้าสาวยืนเคียงข้างเขา ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาถือเป็นอันสิ้นสุดลงนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ห้าปีต่อมา... “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ช่วยลูกชายของฉันด้วยค่ะคุณหมอ” รุ้งรมิดารีบอุ้มลูกน้อยเข้ามาในโรงพยาบาลเพราะลูกโดนรถชน เสียงเอะอะโวยวายของหล่อนเป็นที่สนใจของคนในโรงพยาบาล หญิงสาวมองตามร่างที่ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินด้วยน้ำตานองหน้า “ลูกแม่อย่าเป็นอะไรไปนะ” “ทางเราไม่มีเลือดสำรองเลยครับ คุณแม่กรุ๊ปเลือดเดียวกับลูกชายไหมครับ” เพราะเป็นโรงพยาบาลเล็ก ๆ ในต่างจังหวัด จึงไม่มีเลือดสำรอง ต้องขอเบิกจากโรงพยาบาลในตัวจังหวัด “ดิฉันกรุ๊ปเลือดโอค่ะ แต่ลูกของฉันกรุ๊ปเลือดเอ ใครมีเลือดกรุ๊ปเอบ้างคะ ช่วยลูกของฉันหน่อย” รุ้งรมิดาเอ่ยถามคนแถวนั้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ฉันมี” น้ำเสียงทรงอำนาจของใครคนหนึ่งดังขึ้น รุ้งรมิดาหันไปมอง เธออ้าปากค้างตาโต หัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม “คุณติน” เป็นเขาได้ไง เขามาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะได้เจอเขาอีกครั้ง เธออุตส่าห์หนีมาอยู่ในจังหวัดที่ห่างไกลความเจริญเช่นนี้ เธอมาอยู่ไกลถึงยะลา ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน เพราะเพื่อนที่รู้จักเป็นคนเบตง เลยชวนเธอมาอยู่มาด้วยกันที่นี่ เมื่อรู้ว่าเธอไม่มีที่ไป เธอมาช่วยเพื่อนขายข้าวมันไก่เบตง ซึ่งสืบทอดมาจากรุ่นบรรพบุรุษ มีที่อยู่ที่กิน พาลูกมาเลี้ยงได้ด้วย เพราะว่าเพื่อนมีพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นครอบครัวใหญ่ เขาเอ็นดูเด็กผู้ชายเพราะเป็นคนจีน จึงช่วยกันเลี้ยง ในขณะที่เธอทำงานช่วยเพื่อนอย่างแข็งขัน “ฉันจะบริจาคเลือดให้ลูกของเธอ ถ้าเธอบอกความจริงกับฉันว่าเด็กนั่นเป็นลูกของฉันหรือเปล่า” “คุณติน” รุ้งรมิดาตกใจปากคอสั่น ใจของเธอหวาดกลัวว่าเขาจะมาพรากลูกไปจากเธอ “ลูกเธอต้องการเลือดด่วนไม่ใช่เหรอ ทุกวินาทีมีค่านะรุ้งรมิดา” “เขาเป็นลูกของคุณค่ะ โปรดช่วยเขาด้วยฉันขอร้อง” เธอคุกเข่าลงอ้อนวอนเขา “ได้ ฉันจะช่วยเขาเอง เซ็นเอกสารนี่ซะ” “เอกสารอะไรฉันเซ็นทุกอย่าง เอามาเลยค่ะ ขอแค่คุณช่วยลูก ขอแค่ช่วยเขาเท่านั้น” รุ้งรมิดาสติหลุด เธอเซ็นเอกสารด้วยมืออันสั่นเทา ตอนนี้แม้แต่ชีวิตของเธอก็ยอมตายเพื่อลูกได้ จะต้องไปขึ้นเขาลงห้วยอย่างไรเธอก็ไม่สน เพราะไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD