“ขอโทษนะจ๊ะที่ขวัญช่วยเหลืออะไรครอบครัวของเราไม่ได้เลย” ของขวัญเอ่ยหลังจากที่ทุกอย่างสงบลง กว่าจะสงบได้ก็ปาไปสองชั่วโมง แม่สุขสมนั่งร้องไห้ พ่อทองดีแกล้งนอนหลับหนีความผิด
“พูดอะไรขวัญ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของลูก คนที่ผิดคือพ่อเอ็ง” แม่สุขสมหันไปฟาดไม้บรรทัดที่ถืออยู่ในมือใส่ไหล่พ่อทองดี พ่อทองดีเจ็บ แต่แกขอแกล้งหลับดีกว่า ขี้เกียจจะเริ่มก่อประเด็น คนผิดพูดอะไรก็ผิด
“ระหว่างรอเรียกสัมภาษณ์ขวัญจะหางานทำเพิ่มนะแม่ จะได้ช่วยแม่ใช้หนี้”
“พอเลย ทุกวันนี้เอ็งก็แทบไม่มีเวลาจะนอนอยู่แล้ว”
“แต่...”
“ที่จริงวันนี้แม่ก็เพิ่งไปเลื่อนนัดคุณนายสมพิศมา แกไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก แม่ก็เข้าใจนะเพราะว่าเราติดหนี้เขา เขาย่อมอยากได้เงินของเขาคืน”
“ขวัญช่วยอะไรแม่ไม่ได้เลย”
“วันนี้คุณนายสมพิศพูดกับแม่ว่าจะยกหนี้ให้ อีกทั้งจะให้เงินมาก้อนหนึ่ง”
“จริงเหรอจ๊ะแม่ ทำไมคุณนายใจดีแบบนั้น”
“ของขวัญรู้ไหมลูกว่าบนโลกใบนี้ไม่มีใครใจดีโดยไม่มีสิ่งตอบแทน คุณนายเขาจะยกหนี้ที่เรายืมให้พร้อมกับให้เงินก้อน แต่ต้องแลกกับลูกสาวของแม่”
“ให้ขวัญไปทำงานบ้านคุณนายเหรอจ๊ะ ได้นะจ๊ะแม่ ขวัญไม่เกี่ยง ขวัญพร้อมจะช่วยแม่ งานอะไรขวัญก็ทำได้”
“ใช่แบบนั้นที่ไหนกัน คุณนายอยากสู่ขอขวัญให้หลานชายเขา”
“...”
“แม่ก็ตอบตกลงไปแล้ว ดูฤกษ์มาแล้วด้วย”
“นี่เอ็งจะขายลูกกินเหรอสุขสม” พ่อทองดีดีดตัวลุกขึ้นนั่ง
“ข้าอยากทำแบบนั้นที่ไหนกัน แต่ถ้าไม่ยอมที่ดินเราก็จะโดนยึด เอ็งมัวแต่เมาแล้วก็แอบข้าไปเล่นพนัน ก่อหนี้เพิ่มเป็นดอกเห็ด ข้าผัดดอกเบี้ยแล้วดอกเบี้ยเล่าจนไม่มีปัญญาแล้ว นี่คุณนายเขายื่นทางออกมาให้ อยากให้ของขวัญเป็นหลานสะใภ้ คุณนายพร้อมตบแต่งอย่างดี หรือว่าเอ็งอยากให้ที่นาที่บ้านถูกยึด ทุกวันนี้เรายังลำบากไม่พอหรือไง”
“คุณนายจะให้แต่งกับหลานคนไหน คนเล็กใช่ไหม”
“เปล่า...แต่งกับหลานคนโต คุณหนึ่ง”
“เอ็งบ้าไปแล้วเหรอ คุณหนึ่งนั่นมีลูกแล้ว เอ็งจะให้ลูกเราไปเลี้ยงลูกคนอื่นงั้นเหรอแล้วไหนจะแก่กว่าลูกเราเป็นสิบปี”
“ก็คุณนายเขาว่ามาแบบนั้น คนอย่างเรามีสิทธิ์เลือกเหรอ แล้วฉันเองก็รับปากไปแล้ว ได้เป็นหลานสะใภ้ของคุณนายไม่ใช่เรื่องง่าย ถูกคุณนายเลือกน่ะถือเป็นโชคดีแล้ว แล้วก็นะ ดวงลูกสาวเราสมพงษ์กับคุณหนึ่ง อยู่ด้วยกันยิ่งส่งเสริมกัน”
“เอ็งนี่มันยังไง ตกลงอะไรไม่ถามลูกสักคำ ชีวิตลูกเป็นของเอ็งหรือไง”
“ฉันรู้ฉันตัดสินใจเอาเอง แต่ณวินาทีนั้นเรามีโอกาสปลดหนี้ ฉัน ฉัน...”
“ไม่เป็นไรจ้ะแม่ ในเมื่อเป็นเรื่องที่ขวัญช่วยแม่ได้ขวัญก็พร้อมจะช่วย”
“จริงเหรอลูก” แม่สุขสมผลิยิ้ม หมดหนี้แล้ว ความรู้สึกเหมือนยกภูเขาหนัก ๆ ที่แบกไว้หลายปีทิ้ง
“ขวัญเอ็งคิดให้ดี นั่นมันชีวิตเอ็ง พ่อรู้ว่าพ่อเป็นพ่อที่ไม่ดี แต่พ่อก็อยากให้เอ็งใช้ชีวิตให้มีความสุขนะลูก”
“ความสุขของขวัญคือการเห็นพ่อแม่มีความสุขจ้ะ ถ้าช่วยพ่อแม่ได้ขวัญยินดีแต่งงาน”
“ขอบใจนะลูก ขอบใจจริง ๆ พรุ่งนี้เราไปหาคุณนายกันนะ คุณนายอยากเจอขวัญ”
“จ้ะแม่” การได้เห็นแม่กับพ่อยิ้มให้กัน ไม่ทะเลาะกันลูกสาวคนนี้ก็มีความสุขแล้ว “ขวัญไปทำกับข้าวนะจ๊ะ เสร็จแล้วจะได้ไปทำงาน”
“จ้ะลูก” แม่สุขสมยิ้ม
ทำกับข้าวไว้ให้พ่อแม่เรียบร้อยของขวัญก็แต่งตัวไปทำงาน เธอเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ทำตรงนี้ระหว่างรองานหลักที่สมัครไป ซึ่งก็ไม่รู้เลยว่าจะผ่านหรือไม่ ให้นั่งรองานอยู่ที่บ้านเฉย ๆ เธอทำไม่ได้ เธอต้องหาเงินมาช่วยแม่ สำหรับของขวัญแล้วสิ่งที่ต้องการมากที่สุดก็คืออยากให้แม่ของเธอมีความสุขและทำงานให้น้อยลง
“หน้าดูเครียด ๆ ที่บ้านเกิดเรื่องอีกแล้วเหรอ” โอมเพื่อนที่ทำงานด้วยกันเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงของขวัญ เขาเป็นเพื่อนสนิทของเธอที่เคยเรียนมาด้วยกันตั้งแต่อนุบาล เธอมาทำงานที่นี่ก็เพราะเขาเป็นคนชักชวน
“นิดหน่อยน่ะ”
“โอเคหรือเปล่า ยืมกูก่อนได้นะ”
“ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องนั้น”
“ถ้าอยากระบายก็บอกได้ตลอดเลยนะ พร้อมจะรับฟังเสมอรู้ใช่ไหม”
“อืม ขอบคุณนะ”
ขวัญก็อยากเล่า แต่ว่าตอนนี้เรื่องยังไม่ชัดเจน เป็นเพียงการบอกเล่าจากปากแม่ ถ้าเกิดเธอพูดออกไปก็อาจจะกลายเป็นเรื่องตลกอีก เพราะนั่นคือตระกูลธนบดินทร์ ตระกูลที่ต่างกับบ้านเธอราวฟ้ากับเหว รอให้เรื่องทุกย่างตกลงกันเรียบร้อยเล่าให้เพื่อนฟังก็ไม่สาย
ตริ๊ง ข้อความจากแม่ของเธอ
(แม่: พรุ่งนี้เลิกงานแล้วแวะไปที่บ้านคุณนายสมพิศนะ คุณนายอยากเจอ เดี๋ยวแม่จะไปรอหน้าปากซอยบ้านคุณนาย)
(ของขวัญ: จ้ะแม่)
คงจะจริงจังจริง ๆ สินะ เธอน่ะแต่งได้ขอแค่มันช่วยให้แม่ปลดหนี้ได้ แม่จะได้ไม่มีหนี้อีก ส่วนชีวิตของขวัญจะเป็นยังไงมันไม่สำคัญอยู่แล้ว ขอแค่ให้ครอบครัวสบายก็พอ
ของขวัญหันมองโอมที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ส่วนคนที่รัก...เธอกับเขาคงหมดสิทธิ์พัฒนาความสัมพันธ์กันแล้ว เรื่องที่ไม่กล้าล้ำเส้นก็ปล่อยให้มันอยู่อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน ให้เธอและเขาเป็นเพียงเพื่อนกันตลอดไป
เก็บไว้เป็นความรู้สึกที่ดี