INTRO
นี่ถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของเราเลยก็ว่าได้เมื่อเขื่อนขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างได้พังทลายลงทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายจำนวนมากทั้งนี้นักข่าวของเรากำลังเร่งติดต่อหาท่าน ส.ส นพดล ที่ดูแลในเขตพื้นที่นี้อยู่แต่ยังไม่สามารถติดต่อดะ..ติ๊ด!
มือบางกดปิดไอแพดลงอย่างรวดเร็ว เปลือกตาคู่สวยปิดลงช้าๆ ใบหน้าน่ารักน่าทะนุถนอมดูเคร่งเครียดผิดปกติจนคนขับรถมองผ่านกระจกและเอ่ยปลอบใจคุณหนูของเขา
“คุณหนูเครียดเรื่องของท่านหรอครับ”
“ใช่ค่ะลุงแย้ม…ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณพ่อจะเป็นยังไงบ้างหนูเหมือนคนเห็นแก่ตัวที่ทิ้งคุณพ่อมาเลย” ร่างบางเอ่ยออกมาแผ่วเบาจิตใจกระวนกระวายเป็นห่วงบิดาที่ตอนนี้กำลังโดนประชาชนและสื่อเล่นงานอย่างหนัก
ขอแนะนำตัวก่อนแล้วกันฉันมีชื่อว่า เดียน่า ณปภัส วัชระรุ่งเรืองอายุ 21 ปี เรียนคณะบริหารที่มหาวิทยาลัยรัฐที่มีชื่อเสียงในภาคอีสานและใช่บ้านเกิดของฉันอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมาหรือที่เรียกกันว่าโคราชฉันอาศัยอยู่กับพ่อในบ้านหลังใหญ่ที่มีทั้งแม่บ้านและบอดี้การ์ดคอยดูแล
ตระกูลของเราเป็นนักการมองตั้งแต่รุ่นสู่รุ่นจะเรียกว่าอำนาจเดิมเลยก็ว่าได้หลังจากคุณปู่เกษียณอายุพ่อของฉันก็ลงสมัครเป็น ส.ส เพื่อรักษาอำนาจเดิมในมือไว้และสามารถชนะการเลือกตั้งได้ถึง 2 สมัยทำให้บ้านของเรามีความมั่นคงเหมือนเดิม
“คุณหนูไม่ต้องคิดมากนะครับท่านทำแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณหนูเองด้วย”
ฉันพยักหน้ารับคำลุงแย้มคนขับรถคนเก่าคนแก่ของที่บ้านเรื่องที่ทำให้ฉันกลัดกลุ้มอยู่ตอนนี้คือพ่อฉันที่เป็นนักการเมืองโดนเอี่ยวกับเหตุการณ์เขื่อนพังนำไปสู่ความสูญเสียเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งที่พยายามจะทำใจให้สงบแต่มันก็ไม่สามารถทำได้ทั้งชีวิตของฉันมีแค่คุณพ่อเท่านั้นถ้าท่านเป็นอะไรไปฉันคงอยู่ต่อไปไม่ได้
ครืนน เปรี้ยง!
เสียงดังกัมปนาททั่วทั้งท้องฟ้าทำให้ฉันสะดุ้งตกใจถึงแม้ระหว่างทางจะมีเสียงฟ้าร้องแต่ก็ไม่ได้ดังน่าหวาดกลัวแบบนี้ฉันกำมือเข้าหากันแน่นเมื่อคิดไปถึงคุณพ่อไม่รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์จะดีขึ้นรึยังนะ
“แล้วนี่คุณพ่อจะให้คนมาอยู่เป็นเพื่อนหนูด้วยไหมคะ”
“เอ่อ..ท่านนพดลยังไม่ได้บอกอะไรครับ”
“โอเคค่ะ”
ท่าทางอึกอักลำบากใจของลุงแย้มทำให้ฉันหยุดถามต่อทันทีเพราะคิดว่าลุงแย้มอาจจะไม่รู้จริงๆ หรือไม่ก็เพราะคุณพ่อไม่ได้แจ้งอะไร
“ฝนเริ่มตกแล้วเดี๋ยวลุงเร่งความเร็วนะครับคุณหนูไม่อย่างนั้นคงไปถึงที่พักช้าแน่ๆ” ลุงแย้มบอกฉันผ่านกระจกก่อนจะหันไปจดจ้องที่ถนนหนทางต่อ
ปกติที่บ้านมีบอดี้การ์ดเยอะนะลุงแย้มก็อายุมากแล้วไม่รู้ทำไมคุณพ่อถึงให้ลุงแย้มขับรถมาส่งฉันเพราะจากโคราชมากรุ่งเทพก็สองร้อยกิโลอยู่นะแล้วช่วงนี้ยังเป็นช่วงหน้าฝนอีก
เอ๊ะ!
“ลุงแย้มจอดก่อนค่ะ”
“เอ๋..ครับๆ”
ก่อนที่ร่างบางจะปิดเปลือกตาลงหางตาดันเหลือบไปเห็นรถยนต์คนหนึ่งจอดแน่นิ่งอยู่ข้างทางทำให้เธอเอะใจว่าอาจจะมีคนประสบอุบัติเหตุไหม
“มีรถจอดอยู่ข้างค่ะ..ไม่รู้ว่าอุบัติเหตุไหม”
“เดี๋ยวลุงไปดูให้ครับ”
“ขอบคุณนะคะ”
เดียน่ามองลุงแย้มเดินไปที่รถหรูคันนั้นสักพักเพราะเธอก็รู้สึกเป็นห่วงลุงแย้มเหมือนกันเมื่อเห็นลุงเดินลึกลงไปแถวพงหญ้ามือบางจึงเอื้อมไปปลดล็อกประตูแต่ลุงแย้มรีบวิ่งหน้าตื่นมาที่รถก่อน
“มีคนเจ็บครับ” อ่าคงจะอุบัติเหตุอย่างที่คิดไว้
“ช่วยเขา”
“ครับ”
ลุงแย้มวิ่งกลับไปแถวรถคันนั้นแต่เธอพึ่งฉุกคิดได้ว่าถ้าเจอคนบาดเจ็บไม่ควรเคลื่อนย้ายร่างกายของผู้ป่วยไม่อย่างนั้นอาจเกิดการเสียหายหรือถ้ากระดูกหักก็อาจจะทำให้กระดูกเคลื่อนได้
แกร็ก!
ร่างบอบบางรีบวิ่งฝ่าฝนเม็ดเล็กที่เริ่มโปรยปรายลงมาไปยังบริเวณที่คนขับรถเจอร่างผู้บาดเจ็บแต่พอไปถึงคนขับรถของเธอก็ได้พยุงคนเจ็บขึ้นมาแล้ว
“คุณหนูลงมาทำไมครับมันอันตราย”
“ขอโทษนะคะหนูลืมบอกว่าอย่าพึ่งแตะตัวคนเจ็บเผื่อเขาจะเป็นหนัก” ร่างบางพูดไปพลางสำรวจร่างกายของคนเจ็บไปด้วย
“ลุงว่าเขาไม่ได้อุบัติเหตุนะครับดูจากบาดแผลแล้วเหมือนโดนทำร้ายมากกว่าลุงว่าเราไปกันเถอะที่นี่ไม่ปลอดภัย”
“โอเคค่ะ มาหนูช่วย”
เดียน่ารีบพุ่งเข้าไปประคองคนเจ็บช่วยลุงแย้มและพาไปนั่งบนรถเพราะเธอคิดเหมือนอย่างที่ลุงแย้มบอกถ้าเกิดเขาโดนทำร้ายมาและพวกที่ทำร้ายย้อนกลับมาคนที่จะซวยก็คือฉันและลุงแย้ม
ฟุบ!
“ออกรถเลยค่ะ”
ร่างบางหันมามองสำรวจคนเจ็บที่นอนอยู่เบาะหลังข้างเธอเขาตัวสูงมากผิวซีดผมสีดำปิดใบหน้าทำให้เธอมองใบหน้าของเขาไม่ชัดและรอยช้ำตามร่างกายดูน่ากลัวมากเธอถอนหายใจหวังว่าเขาจะทนต่อพิษบาดแผลได้นะเพราะดูจากเลือดที่ไหลออกมาจากหัวแล้วไม่รู้จะยังรอดไหม
โรงพยาบาล N
ฉันนั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินหลังจากส่งตัวเขาให้กับบุรุษพยาบาลส่วนลุงแย้มแยกไปจัดการประวัติของเขาซึ่งฉันมั่นใจว่าลุงแย้มจะทำได้เพราะลุงแย้มเคยทำงานเป็นมือขวาของคุณปู่ก่อนที่ท่านจะเกษียณ
“คุณหนูครับ”
“ลุงแย้มได้เรื่องไหมคะ”
ฉันถามอย่างมีความหวังเพราะนอกจากจะช่วยชีวิตเขาแล้วฉันก็อยากจะช่วยให้ถึงที่สุดโดยการตามหาตัวคนที่ทำร้ายเขาด้วย
“ตอนนี้ไม่สามารถหาข้อมูลได้เลยครับเพราะเหมือนว่าจะโดนทำลายหลักฐาน”
“ทำลายหลักฐาน!”
“ใช่ครับ”
ริมฝีปากบางเม้มแน่นอย่างไม่เข้าใจว่าคนที่ทำเป็นใครกันแน่ถึงขนาดทำลายหลักฐานได้
“แล้วประวัติของคนเจ็บ..”
“ได้มาครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
มือบางยื่นออกไปรับซองเอกสารสีน้ำตาลก่อนจะเดินไปนั่งหน้าห้องฉุกเฉินเหมือนเดิมและแกะเอกสารออกมาอ่าน
วาโย สราสกุล
เอ๊ะ! นามสกุลคุ้นจังแล้วประวัติมีแค่ชื่อหรอแปลกจังเลย
คิดยังไงก็คิดไม่ออกแต่ช่างเถอะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันจะคิดไม่ออกก็ไม่แปลกฉันวางเอกสารลงก่อนจะบอกให้ลุงแย้มติดต่อครอบครัวของผู้ชายคนนี้
“ลุงแย้มช่วยติดต่อครอบครัวเขาได้ไหม”
“ลุงลองติดต่อแล้วแต่ไม่มีคนรับครับ”
“อ่า แย่จังแล้วแบบนี้เราจะทำยังไงดี”
“คุณหนูกลับก่อนก็ได้นะครับจะได้พักผ่อนเดินทางมาเหนื่อยๆ ส่วนคนเจ็บยังไงทางโรงพยาบาลคงหาทางติดต่อญาติเอง”แย้มแทรกขึ้นมาเพราะเขายังต้องกลับไปรายงานความเรียบร้อยให้ท่านนพดลทราบเลยต้องรีบพาคุณหนูเข้าที่พักอย่างปลอดภัย
“อ่า เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
ร่างบางพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำออกไปไม่วายหันกลับไปมองที่ห้องฉุกเฉินอีกครั้งอย่างเป็นห่วงยิ่งติดต่อญาติไม่ได้แบบนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง
“คุณหนูมีอะไรรึเปล่าครับ” คนขับรถเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อเห็นคุณหนูหยุดเดินและหันกลับมาอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ..ลุงแย้มไปรอที่รถก่อนได้ไหมคะหนูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“คุณหนูรอไปเข้าที่บ้าน..”
“หนูไม่ไหวแล้วค่ะ ลุงไปรอที่รถก่อนเดี๋ยวหนูตามไปนะคะ..ไปแล้วนะคะปวดมาก”
“เอ่อ..ครับๆ”
ไม่รอให้ลุงแย้มเอ่ยขัดอะไรอีกร่างบางของเดียน่าก็รีบวิ่งไปทางป้ายไฟที่มีรูปสัญลักษณ์ผู้หญิงทันทีก่อนจะเลี้ยวหลบที่มุมเสาต้นใหญ่ดวงตาคู่สวยเห็นคนขับรถเดินออกไปแล้วเธอถึงออกจากมุมเสาและเดินไปหาพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์
“ขอโทษนะคะ”
“ค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”พี่พยาบาลตอบอย่างใจดี
“พอดีว่าหนูติดธุระค่ะและผู้ชายที่กำลังรักษาตัวอยู่ห้องฉุกเฉินไม่สามารถติดต่อญาติได้เลยยังไงถ้าฟื้นแล้วรบกวนโทรกลับเบอร์นี้หน่อยนะคะส่วนค่ารักษาก็โทรมาเบอร์นี้ได้เลยค่ะ” เดียน่ารีบพูดรัวเร็ว
“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวยังไงถ้าคนไข้ออกจากห้องผ่าตัดแล้วจะโทรแจ้งอาการนะคะ”
“โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ยินดีค่ะ”
เดียน่าฉีกยิ้มหวานอย่างน่ารักให้พยาบาลสาวก่อนจะรีบวิ่งไปที่ลานจอดรถเธอถอนหายใจอย่างโล่งอกที่สามารถแก้ปัญหาที่รบกวนจิตใจได้ยังไงก็ได้ช่วยเขาแล้วจะช่วยให้สุดไปเลยก็คงจะไม่เป็นไร
“หวังว่านายจะไม่เป็นอะไรมากนะ”