"กลับไปทำงานของเธอซะ" เขาบอกแม่พริกขี้หนูด้วยน้ำเสียงเบาแต่เข้มดุเอาเรื่อง
พริมาก็เดินลนลานออกไปด้วยสีหน้าปั้นยาก อยากจะยีหัวตัวเองให้ยุ่งให้สาสมกับความปากไม่ดีของตนเองที่พูดแสดงความรู้สึกมากไปหน่อย... นอกจากจะขายหน้าแล้วอาจจะทำให้หน้าที่การงานของหล่อนไม่เจริญก้าวหน้าเอาได้ง่ายๆ ดูสายตาเอาเรื่องของเจ้านายและการที่ได้ยินข่าวในแง่ร้ายๆ ของเขาทำให้หล่อนรู้อนาคตตัวเองเลยว่า หล่อนต้องรีบหางานใหม่ทำเสียแล้วกระมัง...
ถ้าน้องชายกับว่าที่น้องสะใภ้เขาไม่ขอร้องว่าอย่าทำอะไรผู้หญิงปากดีที่อยู่ข้างหน้าเขาตรงนี้แน่นอนว่าอัครวินธ์จะไม่แคร์หน้าที่ของการเป็นเจ้านายที่ดี เพราะเขาจะเฉดหัวหล่อนออกจากที่ทำงานให้สาสมกับความไม่พอใจที่อยู่ในใจเขาให้ได้... ถึงแม้ว่าเรื่องที่หล่อนพูดมันจะเป็นความจริงแต่ความถือดีของหล่อนมันก็ทำให้เขาโกรธแทบกระอักเพราะถึงแม้หล่อนจะไม่รู้ตัวว่าเขาฟังออกยามพูดแต่หล่อนก็ดูฝังใจว่าเขามันห่วยอย่างที่หล่อนบอกเสียเหลือเกิน...
แล้วดูเอาสิ ขนาดว่าเขาแยกจากน้องชายกับแฟนสาวแล้วเรียกหล่อนเข้ามาหาเขาเป็นการส่วนตัวเพื่ออบรมหล่อน ดวงตาหล่อนก็ยังมีแววถือดีและต่อต้านเขาอย่างเห็นได้ชัด
ถึงหล่อนจะเป็นพนักงานระดับล่างที่เขาไม่เคยคิดจะกวาดสายตาผ่านมามองด้วยความสนใจเป็นพิเศษ แต่อัครวินธ์ก็ไม่ได้เป็นเทพบุตรขนาดที่จะทนยิ้มหากโดนด่าซึ่งๆ หน้า เขาเลวพอที่จะชี้นิ้วไล่หล่อนออกได้ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ นับว่าเป็นโชคดีของหล่อนมากมายที่มีคนขอร้องเขาไว้ คนที่เขาไม่อยากขัดใจเสียด้วย
“เธอคงจะรู้ตัวนะว่าไม่ควรพูดแบบนั้นอีก ไม่ว่ากับเรื่องของฉันหรือเรื่องของคนอื่น... ทำงานที่ไหนก็ควรหุบปากให้สนิท โดยเฉพาะเรื่องการนินทาเจ้านาย มันไม่ได้ทำให้เธอเจริญในหน้าที่การงานดีเท่าไหร่นักหรอกนะ...” เจ้าพ่อกาสิโนหนุ่มผู้ทรงอำนาจยืนค้ำหัวพริมาอยู่ และตำหนิหล่อนด้วยภาษาไทย ที่ไม่ค่อยดังนัก แม้ว่าเขากับหล่อนจะอยู่ห่างจากคนอื่นอยู่พอควร...
“ค่ะ” พริมารับปาก สายตายังจ้องอยู่ที่เจ้านายผู้หล่อเหลาราวเทพบุตร แต่หล่อนรู้ดีว่านี่น่ะคือซาตานถึงได้ไม่ค่อยชอบเขา โอเค หล่อนรู้ว่าเมื่อครู่หล่อนผิดที่เจอพี่สาวคนสนิทแล้วปากพล่อยพูดออกไป แต่หล่อนก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะฟังรู้เรื่องแล้วเรื่องที่หล่อนพูดมันก็เรื่องจริง ไม่รู้ว่าเขาจะต้องโกรธทำไม...
“ฉันไม่รู้นะว่าทำไมเธอถึงไม่รู้สึกผิด และไม่ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น... เพราะว่าเธอตั้งใจทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากฉันอยู่หรือเปล่า”
“ไม่ใช่นะ” หล่อนรีบบอกแก้ตัวอย่างเร็วรี่... จนมันดูเหมือนว่าหล่อนตกใจที่เขารู้ทัน แต่อันที่จริงหล่อนรีบปฏิเสธเพราะทนกับความหลงตัวเองของเขาไม่ไหวต่างหาก
อัครวินธ์หรี่ตามองหล่อน... แววตาของเขามันโอหังและหลงตัวเองสุดๆ สำหรับพริมา... สาบานได้ว่าตอนนี้เขาต้องคิดว่าพนักงานระดับล่างอย่างหล่อนกำลังสนใจและอยากเสนอตัวให้เขาด้วยวิธีที่แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ถ้าหากไม่คิดว่าเขาเป็นเจ้านายและหล่อนอยากทำงานที่นี่ให้นานๆ หล่อนจะด่าเข้าให้ ช่างหลงตัวเองเหลือเกินนะพ่อคุณ ผู้หญิงไม่ได้หลงรูปคนหล่อทั้งโลกหรอกน่า... ช่วยเว้นหล่อนไว้เสียคนหนึ่งเถอะ
“มันยากที่จะดึงเธอเข้ามาในสายตาแล้วมองให้เป็นมากกว่าการเป็นพนักงานของฉัน.... เพราะฉันมีมาตรฐานสูงกว่าเธอหลายเท่า... อย่าฝันถึงวันที่เธอจะได้อยู่ในสายตาฉัน อย่าทำลายหน้าที่การงานของเธอด้วยการเรียกร้องความสนใจฉันด้วยวิธีที่งี่เง่า... เพราะหากมีครั้งที่สองที่เธอถือดีกับฉันอีก ไม่ว่าสิบรุ่งอรุณฉันก็จะไม่เกรงใจ... ไปทำงานของเธอได้แล้ว... ต่อไปฉันกับเธอคงไม่ได้ข้องแวะกันอีกและหวังว่าเธอคงจะปรับปรุงนิสัยแย่ๆ ด้วยนะ”
ร่างสูงในสูทสุดเนี้ยบเดินจากไป พริมาได้แต่มองตาด้วยสายตาที่ลุกไหม้ด้วยเพลิงโทสะราวกับจะเผาแผ่นหลังเขาให้ไหม้เป็นจุณ
“คนที่หวังว่าจะไม่ได้ข้องแวะกับคุณและขอให้คุณปรับปรุงนิสัยหลงตัวเองแย่ๆ อย่างคุณน่าจะเป็นฉันมากกว่านะ...” พริมาเข่นเขี้ยวพูดตามหลังเขาไป...
จากที่เขาบอกนั้นรุ่งอรุณน่าจะขอร้องไม่ให้ดุด่าว่าหล่อนหรือว่าไล่หล่อนออก พริมาจึงค่อยโล่งใจเพราะไม่อยากพลาดงานที่รายได้งามไป อีกทั้งพี่ชายของหล่อนยังย้ายมาทำงานที่นี่ มันคงดูไม่จืดนักหากหล่อนจะถูกไล่ออกหลังจากที่พี่ชายย้ายมาทำงานด้วยที่โรงแรมเดียวกัน...
แม้จะซวยที่โดนคนหลงตัวเองหาว่าเรียกร้องความสนใจแต่หล่อนก็นับว่าตัวเองโชคดีที่ไม่ถูกไล่ออกจากงาน